ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

บทความ(ในใจ) ของฤทธิพร อินสว่าง

เริ่มโดย โสรยา..., 14:55 น. 11 มิ.ย 54

โสรยา...

           
บทความ(ในใจ) ของฤทธิพร อินสว่าง       
การถูกละเมิดลิขสิทธิ์เพลงเป็นเรื่องเลวร้ายที่ผมต้องรับมือมาตั้งแต่อายุยังน้อย เพียงออกผลงานเพลงชุดแรกก็ถูกลักลอบทำซ้ำแบบเถื่อนและวางขายกันอย่างกลาดเกลื่อนทั่วประเทศแล้ว ไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่าจนถึงวันนี้ที่ผ่านมากว่าครึ่งชีวิตในวงการเพลง ผมยังต้องรับมือกับการถูกละเมิดลิขสิทธิ์หลายรูปแบบ ทั้งละเมิดด้วยการผลิตเป็น CD และ MP 3 เถื่อน, นำเพลงที่ผมประพันธ์ไปบันทึกเสียงแบบเถื่อน หรือแม้แต่บุคคลและองค์กรที่มีภาพลักษณ์สวยงามในสังคมบางรายก็ยังนำเพลงของผมไปใช้แบบเถื่อนด้วยเช่นกันผมไม่อาจยอมรับการกระทำที่ไม่ถูกต้องนี้ แต่พยายามทำใจว่ามัน "เป็นเช่นนั้นเอง" และยังมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลงานเพลงต่อไป

   เมื่อหลายปีก่อนมีคนมาเล่าให้ฟังว่าเพลง "ใบไผ่" ของผมถูกนำไปใช้ในละครโทรทัศน์ ตอนที่ได้ฟังก็รู้สึกงงเล็กน้อยเพราะไม่เคยมีผู้ผลิตละครโทรทัศน์รายใดติดต่อขออนุญาตใช้เพลงนี้ ผมยังไม่เชื่อในคำบอกเล่าจนกระทั่งได้พบหลักฐานการละเมิดลิขสิทธิ์ที่ชัดเจนจริงๆ ตั้งแต่นั้นมาจึงรู้ว่าการละเมิดลิขสิทธิ์ไม่ได้เกิดจากน้ำมือของพวกนอกกฎหมายที่แอบกระทำอยู่ในมุมมืดของสังคมเท่านั้น

แม้แต่คนในวงการโทรทัศน์ที่น่าจะยืนอยู่ข้างความถูกต้องดีงามก็มีการกระทำอันไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน    
ในเวลาต่อมามีผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ ทั้งรายการบันเทิง รายการข่าว และรายการพิเศษที่จัดขึ้นในโอกาสสำคัญต่างๆ นำเพลง "กำลังใจ" ที่ขึ้นต้นเนื้อร้องว่า "ในยามที่ท้อแท้ ขอเพียงแค่คนหนึ่ง จะคิดถึงและคอยห่วงใย..." ที่ผมเป็นผู้ประพันธ์เนื้อร้อง ทำนองและเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ไปเผยแพร่ออกอากาศกันเป็นจำนวนมากโดยไม่มีการขออนุญาต บอกกล่าวและให้เครดิตในฐานะผู้ประพันธ์เพลงแต่อย่างใด

   การกระทำดังกล่าวนี้บั่นทอนความรู้สึกของผม อนาถใจที่เห็นว่ามีการละเมิดลิขสิทธิ์เพลงมากขึ้นในแวดวงผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ที่มีอิทธิพลต่อความคิดความเชื่อของผู้คนทั่วประเทศ

   ผมคิดว่าเรื่องนี้น่าเป็นห่วงไม่น้อยกว่าความเสื่อมถอยทางปัญญาอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมไทย การละเมิดลิขสิทธิ์เพลงไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงให้กับวงการเพลงและ ผู้สร้างสรรค์ผลงานจำนวนมากเท่านั้น แต่ยังได้สร้างความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย เมื่อถูกจัดให้อยู่ในอันดับต้นๆ ของโลกที่มีปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ พูดแบบเข้าใจง่ายๆ คือคนไทยกำลังถูกต่างชาติมองว่าเป็น "หัวขโมย" ที่ถนัดเรื่องฉกฉวยทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่นนั่นเอง แต่ถึงกระนั้น ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์จำนวนไม่น้อยที่ควรมีบทบาทสำคัญในการสร้างค่านิยมแห่งการเคารพสิทธิของผู้อื่นกลับเป็นฝ่ายละเมิดลิขสิทธิ์เสียเอง ซึ่งแทบไม่ต่างอะไรกับที่บรรดาผู้ผลิต CD และ MP 3 เถื่อนกระทำอยู่ 

   ในฐานะเพื่อนมนุษย์คนหนึ่ง ผมมีความยินดีอย่างยิ่งที่เพลงของผมถูกนำไปเผยแพร่    เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมในลักษณะ "ให้กำลังใจ" โดยเฉพาะการให้กำลังใจผู้ที่ประสบกับความทุกข์อย่างสาหัสจากภัยพิบัติทางธรรมชาติมากมาย แต่การ "หยิบยื่น" กำลังใจให้กับเพื่อนมนุษย์ด้วยการ "หยิบฉวย" โดยไม่มีการขออนุญาตหรือบอกกล่าวให้ผู้ประพันธ์เพลงและเจ้าของลิขสิทธิ์ได้รับทราบ อีกทั้งไม่มีการให้เครดิตผู้ประพันธ์แต่อย่างใด ย่อมเป็นการกระทำที่น่าผิดหวังและถือเป็น "ภัยพิบัติทางจริยธรรม"      อันเกิดจากความมักง่ายและเห็นแก่ตัวของผู้ผลิตรายการโทรทัศน์จำนวนไม่น้อยด้วยเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้ผมจึงเขียนบทความ(ในใจ)นี้...
ด้านหนึ่งเพื่อสะท้อนความรู้สึกลึกๆ ในช่วงเวลาที่ยาวนานเพื่อให้ท่านสื่อมวลชน เพื่อนพ้องน้องพี่ในวงวรรณกรรม และนักคิดนักเขียนทั่วประเทศได้รับทราบ เผื่อว่าบางทีเรื่องราวของผมอาจนำไปใช้ต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ได้ ยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากมีท่านใดช่วยกระตุ้นจิตสำนึกผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ให้ตระหนักถึงความสำคัญในการเคารพสิทธิของผู้อื่นและข้ามพ้นการทำงานแบบ "ขอไปที" เหมือนที่ผ่านๆ มา ก็ถือว่าได้ทำกิจอันเป็นกุศลไม่น้อยทีเดียว

อีกด้านหนึ่งที่สำคัญคือผมได้ส่งงานเขียนนี้ไปถึงผู้ผลิตรายการโทรทัศน์หลายรายที่ได้กระทำสิ่งที่น่าละอายไปแล้ว แต่จะช่วยให้ "ได้คิด" มากน้อยแค่ไหนนั้นผมคงไม่อยากคาดหวังอะไร 

ไม่ใช่ผมคนเดียวเท่านั้นที่ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ควรให้ค่าในฐานะผู้สร้างสรรค์ผลงาน และเคารพในความเป็นเจ้าขอลิขสิทธิ์เพลงโดยชอบด้วยกฎหมาย ต่อให้เป็นนักแต่งเพลงที่    ไม่มีใครในประเทศนี้รู้จักก็ควร "ค้อมหัวใจ" ให้เช่นกัน ถ้าหากว่าต้องการนำเพลงของเขาไปใช้ ให้เกิดประโยชน์จริงๆ

การทำหนังสือขออนุญาตหรือบอกกล่าวด้วยวาจาและให้เครดิตผู้ประพันธ์เพลงนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แล้วเหตุใดผู้ผลิตรายการโทรทัศน์หลายรายการจึงไม่เลือกใช้วิธีที่ถูกต้องนี้

เพลง "ใบไผ่"
ประพันธ์เนื้อร้อง ทำนอง เจ้าของลิขสิทธิ์: ฤทธิพร อินสว่าง
บันทึกเสียง เผยแพร่และจำหน่ายครั้งแรกในผลงานของฤทธิพร อินสว่าง
*ศิลปินที่ขับร้องบันทึกเสียงเพลง "ใบไผ่" ในผลงานที่เผยแพร่และจำหน่ายโดยมีการขออนุญาตอย่างถูกต้องในเวลาต่อมาคือ อี๊ด วงฟลาย, ไท ธนาวุฒิ, สุนารี ราชสีมา, วงสตาร์คอรัส, พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ (ในนามศิลปิน "สหาย"), แฟ็บ เครือวัลย์ และ ผู้ขับร้องที่ไม่ระบุชื่อในผลงานของค่ายเพลง EVS                             

เพลง "กำลังใจ"
ประพันธ์เนื้อร้อง ทำนอง เจ้าของลิขสิทธิ์: ฤทธิพร อินสว่าง
โฮป เป็นศิลปินวงแรกที่ขออนุญาตนำเพลง "กำลังใจ" ไปขับร้องบันทึกเสียงในผลงานที่เผยแพร่และจำหน่าย 
*ศิลปินที่ขับร้องบันทึกเสียงเพลง "กำลังใจ" ในผลงานที่เผยแพร่และจำหน่ายโดยมีการขออนุญาตอย่างถูกต้องในเวลาต่อมาคือ อี๊ด วงฟลาย, เสาวลักษณ์ ลีละบุตร, อรวี สัจจานนท์, อรวรรณ เย็นพูนสุข, โดม มาร์ติน, สุนารี ราชสีมา หนุ่มสกล, ศุ บุญเลี้ยง (ในนามศิลปิน "สหาย"), วงคู่รัก, คณะนักร้องประสานเสียงสวนพลู, โฮป แฟมิลี และผู้ขับร้องที่ ไม่ระบุชื่อในผลงานของค่ายเพลง EVS 

*นอกจากนี้ยังมีการขออนุญาตนำเพลง "กำลังใจ" ไปใช้ในการแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินที่มีชื่อเสียง, ประกอบภาพยนตร์สารคดี ภาพยนตร์ขนาดสั้น และภาพยนตร์โฆษณาอีกเป็นจำนวนมาก 

www.ritthiporn.com
อาสาเสิร์ฟข่าวบันเทิง เรื่องผู้หญิง และเรื่องเบาสมอง