นิสสัน เทียน่า ใหม่ หรูหรา-ไฮเทคกว่าเดิม

[ทีมงานประชาสัมพันธ์]

updated: 30 ต.ค. 2556 เวลา 11:00:41 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

"เทียน่า" (Teana) เก๋งใหญ่จากค่ายนิสสัน เปิดตัวมาหลายเจเนอเรชั่น ในเมืองไทยถือว่าประสบความสำเร็จระดับที่ น่าพอใจ โดยเฉพาะการออกแบบอย่างหรูหรา สะดวกสบาย และเป็นรถที่ถือว่าคุ้มเกินราคา เมื่อเทียบกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่ให้มาแน่นคัน

จนเมืองไทยเป็นตลาด 1 ใน 5 ของโลกที่มียอดขายรถรุ่นนี้สูงที่สุด

เมื่อมีโฉมใหม่ออกมา นิสสันจึงเลือกเมืองไทยเป็นแหล่งผลิตและส่งออกด้วย

เทียน่ารุ่นใหม่ล่าสุด ดูสเป๊กที่ให้มาถือว่าเป็นรถที่เทียบชั้นซีดานระดับหรูจากค่ายยุโรปได้สบายๆ

ออกแบบภายใต้แนวคิด "Suggestive Aura" ดีไซน์ปราดเปรียวล้ำสมัย โค้งมนตั้งแต่ด้านหน้าจรดท้ายตามหลักอากาศพลศาสตร์

ตัวถังลู่ลมช่วยลดแรงต้านของอากาศ พร้อมเสา A ด้านหน้าและกระจกมองข้างดีไซน์ใหม่ที่ช่วยลดเสียงลมปะทะไม่ให้เข้าสู่ห้องโดยสาร

ตกแต่งโครเมียมภายนอกรอบคัน ทั้งกระจังหน้า มือเปิดประตู ขอบกระจกประตู จรดฝากระโปรงท้าย

ไฟหน้าแบบโปรเจ็กเตอร์เลนส์ซีนอนปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ พร้อมระบบทำความสะอาดไฟหน้า กระจกมองข้างดีไซน์ใหม่ พร้อมไฟเลี้ยว LED และไฟท้ายแบบ LED

หลังคาซันรูฟกระจกนิรภัยกรองแสงแดดและรังสีอัลตราไวโอเลต (UV Cut) พร้อมสวิตช์ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าแบบวันทัช และระบบป้องกันการหนีบ (Anti-Jam)


[attach=2]

ล้ออัลลอย 17 นิ้วดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ ยางหน้ากว้างเกาะถนนที่ดีเยี่ยม

ทีเด็ดคือเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่มีกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Around View Monitor: AVM) เปิดมุมมองเสมือนจริงจากมุมสูงทุกองศา เพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นวัตถุรอบตัวรถขณะเข้าจอด

ภายในห้องโดยสาร มีให้เลือก 2 โทนสี คือ สีดำสปอร์ตหรูตกแต่งด้วยเมทัลลิก และสีเบจเพิ่มความหรูหราด้วยลายไม้ พื้นที่ใช้สอยกว้างขวางสะดวกสบาย

แผงหน้าปัดติดตั้งหน้าจอแบบ 3 มิติ พร้อมระบบควบคุมหน้าจอ เครื่องเสียง บลูทูธ และปุ่ม Cruise Control บนพวงมาลัย

เบาะหนังคุณภาพเยี่ยมให้สัมผัสนุ่มนวล ออกแบบเป็นพิเศษตามหลักสรีรศาสตร์เพื่อกระจายแรงกดทับและรองรับกระดูกสันหลัง (Spinal Support Seat) ช่วยลดแรงสะเทือนและอาการเมื่อยล้าขณะเดินทาง

เบาะนั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า ปรับถอย-เดินหน้าอัตโนมัติ 40 มิลลิเมตร สะดวกขณะขึ้น-ลง และระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ 2 หน่วยความจำ เชื่อมต่อกับกุญแจอัจฉริยะ Intelligent Key แต่ละดอก ซึ่งปรับตำแหน่งเบาะนั่งและกระจกมองข้างตามความต้องการ ที่แตกต่างของผู้ขับขี่แต่ละคนโดยอัตโนมัติ


เบาะด้านหลังพับแยกแบบ 60:40 พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถกว้างขวางเปิดทะลุถึงห้องโดยสารได้

เครื่องเสียงคัดเลือกยี่ห้อ "BOSE" แบรนด์ ไฮเอนด์ระดับโลก ออกแบบเป็นพิเศษ ให้เหมาะสมกับสภาพอะคูสติกในห้องโดยสาร ประกอบด้วยแอมป์ระบบดิจิตอล พร้อมระบบ Digital Signal Processing (DSP) และลำโพง 9 ตัว


ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone ควบคุมอุณหภูมิอิสระซ้าย-ขวา

ขุมพลัง 2 เครื่องยนต์ ทั้งขนาด 2.0 ลิตร DOHC เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว CVTC กำลังสูงสุด 136 แรงม้า และเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร DOHC เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว Twin CVTC กำลังสูงสุด 173 แรงม้า

ทำงานพร้อมระบบเกียร์แปรผันอัจฉริยะ XTRONIC CVT รุ่นใหม่ล่าสุด เลือกโหมดการขับขี่ให้ตรงตามความต้องการได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ Eco Mode ขับขี่แบบประหยัด D-Mode ขับขี่แบบอัตโนมัติ และ Ds-Mode ให้อารมณ์การขับขี่แบบสปอร์ต

ไฮไลต์เด่นด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ล้ำสมัย เป็นระบบแจ้งเตือนให้ผู้ขับขี่รับทราบข้อมูล 360 องศารอบคันรถ เพิ่มความมั่นใจในการควบคุมการขับขี่ แสดงข้อมูลผ่านระบบแสดงข้อมูลอัจฉริยะหน้าจอ 3 มิติ

การทำงานของระบบเตือนให้รักษาตำแหน่งรถในช่องทาง (Lane Departure Warning : LDW) ซึ่งจะแจ้งเตือนเมื่อรถเคลื่อนไหวในทิศทางที่ออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ และระบบเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning : BSW) ซึ่งจะแจ้งเตือนให้ทราบว่ามีวัตถุอยู่ในจุดอับสายตาทั้งด้านซ้ายและขวาของผู้ขับขี่เมื่อต้องการเปลี่ยนช่องทาง

นอกจากนี้ มีระบบช่วยควบคุมทิศทางขณะเลี้ยว (Active Trace Control : ATC) ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ (Vehicle Dynamics Control : VDC) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System: TCS) ระบบช่วยการออกตัวบนทาง ลาดชัน (Hill Start Assist : HSA) ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ถุงลม 6 จุด ทั้งคู่หน้า ข้าง และม่านนิรภัย

รุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ส่วน 2.5 ลิตร มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย เปิดตัวที่ราคา 1,270,000-1,620,000 บาท

ถือเป็นเก๋งซีดานขนาดใหญ่ ที่ครบเครื่องเกินราคาทีเดียว