อีก 12 ปีเราจะยิ่งใหญ่ ไม่เชื่อคอยดู

[ล ลิง]

1 ในวาระเร่งด่วนรัฐบาลปูแดง

"พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล" เขมรดี๊ด๊า เชื่อว่า"พวกเขาสามารถจัดการพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลได้สำเร็จ" วิกิลีกส์รายงาน

เพื่อไทยชนะการเลือกตั้งทำให้เขมรเชื่อมั่นว่าข้อพิพาทบนพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทยที่มีน้ำมันมากมายนั้นจะตกลงกันได้ด้วยดี เนื่องจากมันเกือบจะตกลงกันได้อยู่แล้วก่อนที่ทักษิณจะถูกโค่นลงด้วยการปฏิวัติในปี 2006 ผลที่ได้อาจจะเป็นผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาลสำหรับประเทศกัมพูชา (หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์อ้างจากเคเบิ้ลลับสถนาทูตที่วิกิลีกส์รายงาน)
พนมเปญ: วิกิลีกส์รายงานเคเบิ้ลสถานทูตอเมริกันจากรุงพนมเปญที่ออกสัปดาห์สุดท้ายแสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่กัมพูชาเชื่อว่าอีกเพียงเดือนเดียว (ถ้าหากทักษิณไม่โดนโค่นด้วยการปฏิวัติปี 2006)พวกเขาสามารถจัดการเรื่องพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทยสำเร็จ(แน่นอน)..

ดวงตาเห็นธรรมเช่นนี้เกิดขึ้นเมื่อพรรคเพื่อไทยที่มีทักษิณหนุนหลังได้รับชัยชนะเมื่อวันที่ 3 กรกฏาคม ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลใหม่อาจจะมีความตั้งใจที่จะแก้ปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่ทับซ้อน 27,00 ตารางกิโลเมตรที่มีมานานนี้ และเชื่อว่าจะมีน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติสำรองอยู่

กัมพูชาและไทยได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจในปี 2001 เกี่ยวกับการพัฒนาร่วมกันในส่วนทางตอนใต้ของพื้นที่ขัดแย้ง กับส่วนเหนือที่จะถูกแบ่งตามแนวชายแดนทางทะเลที่กำหนดไว้

ไทยได้ยกเลิกข้อตกลงนี้ในปี 2009 เพื่อการประท้วงการแต่งตั้งนายของทักษิณเป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจให้กับรัฐบาลกัมพูชา

ความเห็นของบริษัท CLC แห่งเอเชีย ที่ทำการสำรวจคาดว่าพื้นที่ทับซ้อนมีก๊าซธรรมชาติมากถึง 11 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุตและมีน้ำมันที่ไม่ทราบจำนวน

"รายได้จากพื้นที่อาจจะ 'ปฏิวัติ'ความยากจนของประชาชนชาวกัมพูชา" นาย Gerry Flaherty ผู้จัดการทั่วไปของบริษัทเชฟรอนที่ทำการสำรวจพูดไว้ในกุมภาพันธ์ 2008 เคเบิ้ลจากสถานทูตสหรัฐในกรุงพนมเปญกล่าว

นอกจากนี้ประเทศไทยจะได้รับผลประโยชน์ทางการเงิน ที่สำคัญนอกเหนือจากนั้นยังลดการพึ่งพาพม่าในเรื่องก๊าซธรรมชาติและการนำเข้าน้ำมัน ทำให้สามารถลดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปได้อีกด้วย

ทั้งสองฝ่ายได้รับสิทธิการสำรวจไปยังพื้นที่ที่ทับซ้อนกันในปีที่ผ่านมาให้กับบริษัท ConocoPhillips, BHP Billiton, Chevron และ Idemitsu ของญี่ปุ่น

เริ่มต้นพัฒนาการลงนามในบันทึกความเข้าใจในปี 2001 ได้ถูกบล็อกโดยการจลาจลต่อต้านไทยในกรุงพนมเปญในปี 2003 ที่เห็นสถานทูตไทยถูกเผาลงและความสัมพันธ์ทางการทูตไม่ลงรอยกัน

ในปีต่อมาการพูดคุยกันถึงทางตัน มากกว่าแผนการที่แตกต่างกันสำหรับการแบ่งปันรายได้ กัมพูชาเรียกร้องให้แบ่งพื้นที่ทับซ้อนออกในแบบของตารางหมากรุก สร้างบล็อก 14 บล๊อก และแบ่งความรับผิดชอบในการจัดการพื้นที่ที่ใช้ร่วมกันอย่างเท่าเทียมกัน
ประเทศไทยได้คัดค้าน โดยชี้ให้เห็นว่าพื้นที่ทับซ้อนควรแบ่งออกเป็นสามด้วยกัน โดยมีได้จากส่วนที่สามทางตะวันตก 80-20 ประเทศไทย 80 เขมร 20 ส่วนกลางแบ่ง 50-50 ส่วนภาคตะวันออกแบ่ง 80-20 เขมร 80 ไทย 20

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ลงความเห็นว่าแผนที่แตกต่างกันมีแรงจูงใจจากความจริงที่ว่า ในส่วนตะวันตกของพื้นที่ทับซ้อนที่ยื่นออกไปสู่ก้นกะทะของจังหวัดปัตตานี (ไทย)คิดว่าเป็นอันตรายและง่ายต่อการโจรกรรมหรือการก่อการร้ายได้

"การพัฒนาพื้นที่ที่ได้รับความล่าช้า เนื่องจากอยู่ระหว่างรอมติที่ไม่เห็นด้วยนี้ มาตั้งแต่ปี 2007"เคเบิลจากสถานทูตสหรัฐในกรุงพนมเปญกล่าว และชี้ให้เห็นว่า "ข้อตกลงนั้นสามารถเข้าถึงจุดหนึ่งที่จะเป็นไปได้--'an accord was at one point reachable'--" เขาเล่าการประชุมระหว่างเจ้าหน้าที่สถานทูตกัมพูชาเข้าเยี่ยมชมสถานที่พร้อมตัวแทนของ ConocoPhillips ซึ่งเคเบิลอ้างคำพูดของ เลขานุการทูตกัมพูชาประจำสหรัฐ นาย Kao Kim Hourn ที่รายงานว่าทั้งสองฝ่ายที่มีมาอย่างใกล้ชิด "และเกือบจะมาถึงการตกลงในข้อพิพาท"


[พื้นที่ที่ทับซ้อนกันเรียกร้อง]ก่อนที่จะล่มสลายของรัฐบาลทักษิณในประเทศไทย"

นาย Kao Kim Hourn รายงานว่าสูตรที่ตกลงกันไว้สำหรับการแบ่งรายได้เป็นไปตามเส้นของสิ่งที่ประเทศไทยได้เสนอ : การแยก 50-50 ในบล็อกกลางและ 80-20 ในบล็อกตะวันออกและตะวันตกนั้น "อีกหกเดือนของการเจรจาจะมีการตกลงกันได้"เคเบิลกล่าว

"แต่ในความระส่ำระสายของประเทศไทยในปัจจุบัน..เขากล่าวว่า..อาจจะมีความเป็นไปได้ว่า(ต้องรอ)จนกว่าการเลือกตั้งของไทยจะมีรัฐบาลใหม่" ทั้งนี้เป็นความคิดเห็นของคนอื่นๆเช่นนาย Cham Prasidh รัฐมนตรีพานิชย์ และนาย Keat Chhon รัฐมนตรีกระทรวงการคลังอีกด้วย

เป็นที่ยอมรับว่า ระยะสั้นๆของรัฐบาลทักษิณ ที่มีนายสมัครสุนทรเวชและสมชายวงศ์สวัสดิ์ เป็นพวกทำให้มีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อยในการแก้ไขปัญหา เนื่องจากมีความตึงเครียดทางด้านอำนาจอธิปไตย(เหนือชายแดน)ระหว่างทั้งสองฝ่ายที่ก่อตัวขึ้นในปี 2008ในเรื่องของการจดทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นแหล่งมรดกโลก(แต่เพียงผู้เดียว)ของประเทศกัมพูชา

"ในเดือนพฤษภาคม 2008" เคเบิ้ลเล่า "การประชุมกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชานายฮุนเซนกล่าวว่า(เขา)ต้องการที่จะพิจารณาข้อพิพาทในพื้นที่ทับซ้อน แยกต่างหากจากการโต้เถียงเรื่องปราสาทพระวิหาร แต่เขาก็ยังสนับสนุนข้อเสนอเก่าในแผนแบ่งแบบตาหมากรุกสำหรับการแบ่งปันรายได้ มากกว่าข้อเสนอที่ไทยได้รับการสนับสนุนที่นาย Kao Kim Hourn ได้ระบุไว้"

"มันดูเหมือนว่า--คำพูดของไทยและกัมพูชาขัดแย้งกัน --การขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารจะเชื่อมโยงกับการแก้ปัญหาข้อพิพาททางทะเล อย่างน้อยก็ในใจของผู้บริหารระดับสูงของไทยและผู้นำรัฐบาลกัมพูชา"เคเบิ้ลสรุป(และ) "ทั้งสองฝ่ายกำลังมองปัญหาจากมุมมอง ทางการเมือง วัฒนธรรมและเศรษฐกิจ"

ในขณะที่ชายแดนข้อพิพาทใกล้ปราสาทเขาพระวิหารยังคงเป็นคำถามที่รบกวนใจของทั้งสองฝ่าย และมันเป็นผลประโยชน์กับทั้งสองประเทศหากสามารถแก้ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนทางทะเลได้สำเร็จ ทั้งนี้นาย Gerry Flaherty แห่ง Chevron ได้กล่าวว่า "พื้นที่ทับซ้อน(ในอ่าวไทย)เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการสำรวจ"ตาม รายงานในเคเบิล ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2008


เมื่อเพื่อไทยกลับมามีอำนาจอีกครั้ง ด้านกัมพูชาอย่างน้อยดูเหมือนจะกระตือรือร้นที่จะกลับไปที่โต๊ะเจรจา รัฐสภากัมพูชา โดยนาย Phay Siphan โฆษกรัฐบาลบอกกับบางกอกโพสต์ว่า "พนมเปญต้องการที่จะทำงานร่วมกันกับรัฐบาลใหม่ในเรื่องของข้อพิพาทในพื้นที่ทับซ้อน"

และกล่าวเสริมว่า "เรายังคงพิจารณาว่าความร่วมมือในทางเศรษฐกิจหรือภาคการค้าซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดที่ทั้งสองประเทศจำเป็นต้องมีร่วมกัน ..เราต้องการที่จะเห็น(ข้อตกลงในเรื่อง)พื้นทีทับซ้อนทางทะเลดังนั้นเราจะได้คำนวนดูว่าเราจะแชร์เรื่องผลประโยชน์กันอย่างไร"

[ล ลิง]

สมัยที่ 3 นายกหญิงของเราเริ่มเบื่อหน่ายจึงได้ทาบทามพี่ชายให้กลับมาปกครองประเทศ
       - ประชาชนดีใจอย่างสุดซึ้งที่ได้ผู้นำคนที่เราทั้งประเทศรอคอยคือ
           "สมเด็จพระเจ้ามูลเมืองเดโชโวทักษิณ ชินวัตรโคตระโกง" โดยท่านได้เสียสละเวลาละงานจากกิจการเหมืองเพชร มาปกครองประเทศเรา โดยไม่รับปากว่าจะบริหารได้ครบวาระหรือไม่ (ยุ่งมาก)
      - ชาวเสื้อแดงประกาศชัยชนะพร้อม ๆ กับฉลองครบรอบ 10 ปี หมู่บ้านเสื้อแดงหลังจากเพิ่ง
เปิดหมู่บ้านเสื้อแดงครบหมู่บ้านที่ 77,000
        - กรรมกรเรียกร้องเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำจาก 1,000 เป็น 1,500บาทต่อวัน รัฐบาลตอบรับข้อเสนอ
           โดยขอเวลาพิจารณาในรายละเอียดว่าจะขึ้นให้เป็น 2,000ต่อวันได้หรือไม่
       - ชาวนาฝากให้รัฐบาลทบทวนนโยบายจำนำ เนื่องจากราคาตกต่ำขายได้เพียง 45,000บาทต่อตัน       
       - และเหนือสิ่งอื่นใดปีนี้เป็นปีแห่งความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ และเพื่อมิตรภาพอันแสนดีต่อกัน
            เราจึงได้ประเคนแหล่งแก๊สธรรมชาติที่แสนจะโชติช่วงให้แก่มหามิตรของเราทางทิศอิสานใต้
           และประกาศให้ทั่วทั้งโลกล้าได้รับรู้โดยทั่วกันว่า ไทยและเขมร เป็นเมืองแฝดเมืองมหามิตร
           ที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกร "เราจะเดินไปพร้อมกัน...ต่อไป"   

         อาเมน 555555+
     

แม้จะยังห่างไกลจากเป้าหมายยิ่งนัก แต่เราก็ยังมุ่งมั่นเต็มทีครับ  555+

'สุชาติ ธาดาธำรงเวช'โผล่เป็นปธ.เปิดหมู่บ้านเสื้อแดงอุดรฯ

ประกาศหมู่บ้านไหนเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงก่อนจะได้เงินกองทุนหมู่บ้าน กองทุน SME ก่อน ลั่นต้องนำ"ทักษิณ"กลับบ้าน
อุดรธานี (21 สค.2554) ประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทยชูธงแดงนำสมาชิกเดินหน้าเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งใหม่ ลำดับที่ 291 ของอุดรธานี  และ เป็นหมู่บ้านแรกที่เปิดหลังจากมีการเลือกตั้ง  ประกาศต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยอีกครั้ง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 สิงหาคม 2554 นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย เดินทางเป็นประธานเปิด "หมู่บ้านเสื้อแดง เพื่อประชาธิปไตย" ที่บ้านนามั่ง ต.บ้านยวด อ.สร้างคอม ซึ่งเป็นหมู่บ้านเสื้อแดง 6 หมู่บ้าน ยกระดับเป็นตำบลเสื้อแดง ลำดับที่ 291 ของอุดรธานี  และ เป็นหมู่บ้านแรกที่เปิดหลังจากมีการเลือกตั้ง โดยมีนายเพชรศักดิ์ กิตติดุษฎีกุล ประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย นายอานนท์ แสนน่าน เลขานุการหมู่บ้านเสื้อแดงอุดรธานี นำชาวบ้านกว่า 1,000 คนมาร่วมงาน

นายเพชรศักดิ์ กิตติดุษฎีกุล ประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หมู่บ้านเสื้อแดงคือหัวใจสำคัญ ในการขับเคลื่อนเรียกร้องประชาธิปไตยกลับคืนสู่ประชาชน เพราะการกระทำของรัฐบาลที่ผ่านมา บริหารงานแบบ 2 มาตรฐาน  คนเสื้อแดงอุดรธานีไม่มีวันตาย หรือแตกดับ จะก้าวเดินต่อไปในฐานะผู้ริเริ่ม ที่จะทำให้หมู่บ้านเสื้อแดงเกิดจากหลักสิบ เป็นหลักร้อย หลักพัน และหลักแสน บ่งบอกถึงสัญลักษณ์ป้าย " พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" ที่ทุกหมู่บ้านจะเป็นสีแดง

"การผนึกกำลังแสดงพลัง ด้วยสัญญาลักษณ์เชิงต่อสู้ มีธงแดงติดไว้หน้าบ้านทุกหลังคาเรือน รวมคนเสื้อแดงตามหมู่บ้าน ตำบล จังหวัด ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย และต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยอีกครั้ง ถึงแม้การต่อสู่ครั้งนี้จะเป็นการต่อสู้เชิงสัญลักษณ์ ที่ทุกคนต้องต่อสู้ด้วยมือเปล่า แต่เราจะต้องใช้สติปัญญาที่จะก้าวต่อไป"

ในขณะที่ นายสุชาติ กล่าวในพิธีเปิดช่วงหนึ่งว่า ในการเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตย  ต่อไปจะมีการมอบเงินกองทุนให้หมู่บ้านเสื้อแดงฯ หมู่บ้านละ 1 ล้านบาท เพื่อเป็นกองทุน รวมถึงกองทุน SME ให้กับหมู่บ้านเสื้อแดงอีก หมู่บ้านละ 5 แสนบาท โดยหมู่บ้านไหนเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงก่อนจะได้เงินก่อน


โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 21 สิงหาคม 2554 20:50

[คนหน้าวัด13]

              ควรจะไปพักผ่อน ให้หายเครียดซะมั่งนะ  คิดในสิ่งดีๆ บ้าง สุขภาพจิตจะได้ดีขึ้น
                    คิดแต่ในแง่ลบ ดีที่เป็นคนธรรมดา ถ้าเป็นคนบริหารบ้านเมือง นั่นแหละ บ้านเมือง
                       จะจมอยู่ในโคลนตม  ไปไหนไม่รอด เหมือนพายเรือวนอยู่ในอ่างนั่นแหละ

              ส.บายใจและอย่าเป็นเครื่องมือของนักการเมือง