ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เมื่อแบงก์กรุงไทยไม่กล้าปล่อยกู้โปะจำนำข้าว ปู ก็จบกัน !!

เริ่มโดย itplaza, 11:32 น. 05 ก.พ 57

itplaza


ในที่สุดความหวังสุดท้ายของ รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่จะขอกู้เงินจำนวน 1.3 แสนล้านบาท โดยแบ่งกู้สัปดาห์ละ 2 หมื่นล้านบาทจากธนาคารกรุงไทย สถาบันการเงินรัฐวิสาหกิจที่กระทรวงการคลังถือหุ้นอยู่ มีอันต้อง"พังทลาย"ลงแล้ว หลังจากกรรมการผู้จัดการใหญ่ วรภัค ธันยาวงษ์ ได้ออกมาแถลงปฏิเสธการให้รัฐบาลกู้เงินดังกล่าว โดยสรุปก็คือ"กลัวธนาคารเจ๊ง" เนื่องจาก "มีความเสี่ยง"ทั้งตัวโครงการเอง และคนที่ขอกู้คือ รัฐบาลรักษาการของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่มีความชัดเจนทางกฎหมายว่าทำได้หรือเปล่า อีกทั้งยังกลัวว่าเมื่อธนาคารปล่อยกู้ไปแล้วจะทำให้ลูกค้าเกิดความไม่มั่นใจแห่กันมาถอนเงิน ทำให้ธนาคารเกิดอาการซวนเซได้ ซึ่งอย่างหลังเขาไม่ได้พูดตรงๆ แต่ความหมายก็ออกมาแนวนั้นแหละ
       
       พร้อมกันนี้ยังยกหลัก"ธรรมาภิบาล"มาเป็นเกราะกำบังอีกชั้นหนึ่ง เพื่อสะกิดต่อม "ละอาย"ของ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง ในฐานะที่เคยบริหารตลาดหลักทรัพย์มาก่อน
       
       อย่างไรก็ดีการแถลงปฏิเสธการปล่อยกู้ดังกล่าวของกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทยไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ หากพิจารณาจากท่าทีก่อนหน้านี้ที่เขาออกมาปฏิเสธข่าวที่ส่งต่อกันในโลกโซเชียลฯว่าธนาคารกรุงไทยแอบปล่อยกู้ให้กับรัฐบาลไปแล้วจำนวน 1.6 แสนล้านบาท โดยคราวนั้นเขายอมรับว่าข่าวดังกล่าวทำให้ธนาคารได้รับผลกระทบด้านความเชื่อมั่น เนื่องจากมีลูกค้าสอบถามจำนวนมาก
       
       ถ้ามองกันแบบผิวเผินเหมือนกับว่าพวกสถาบันการเงิน ธนาคารต่างๆเหล่านี้"ใจดำ"ไม่เห็นใจชาวนา เริ่มตั้งแต่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.)ไม่ยอมปล่อยกู้ให้รัฐบาล จากนั้นถัดมาเป็นธนาคารออมสิน และล่าสุดก็เป็น กรุงไทยนี่แหละ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วหากพิจารณาจากกรณีของ ธกส.เป็นตัวอย่าง ที่ก่อนหน้านี้ได้รับ"หน้าเสื่อ"สำรองจ่ายไปให้รัฐบาลจนเกินโควตาแล้ว ซึ่งถ้ารัฐบาลขายข้าวในสต็อกออกไปได้ตามปกติก็สามารถนำเงินมาทยอยจ่ายให้กับชาวนาตามโครงการรับจำนำข้าวได้ตามปกติ แต่เป็นเพราะทุจริตกันอย่างมโหฬาร ไม่มีการขายข้าวออกไปจริง "เงินจึงขาดมือ"หมุนไม่ทัน เราจึงได้เห็นรัฐบาลกลายเป็น"ลูกหนี้"ของชาวนาเป็นครั้งแรก และค้างจ่ายมานานกว่า 5-6 เดือนแล้ว ลองคิดดูเอาเองว่าชาวนาเขาจะเดือดร้อนกันขนาดไหน
       
       ความพยายามของรัฐบาลโดย รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง ได้มีความพยายามขอกู้เงินมาโปะโดยตลอด ตอนแรกจะไปขอกู้กับธกส.โดยขอให้นำ"เงินฝาก"มาให้กู้จำนวน 5.5 หมื่นล้านบาท แต่ปรากฏว่าได่รับการต่อต้านจากบรรดาพนักงานโดยเฉพาะสหภาพแรงงานคัดค้านกันอย่างเต็มที่เพราะเกรงว่าหากขืนทำแบบนี้จะทำให้ธนาคารล้มได้ จึงยุติไปหันไปหาธนาคารออมสิน แต่ก็ถูกต่อต้านในลักษณะเดียวกัน จนมาถึงธนาคารกรุงไทย ที่เป็นความหวังสุดท้าย เนื่องจากเป็นธนาคารรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงการคลัง สามารถทำได้ อีกทั้งตัวประธานบอร์ดธนาคารคือ พยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ก็มาจากการผลักดันของ รัฐมนตรีว่าการกรทรวงการคลังสามารถล็อบบี้กันได้ แต่ในที่สุดก็ไม่สามารถฝ่าด่านคัดค้านของพนักงาน และผู้บริหารธนาคารไปได้ เพราะถ้าขืนปล่อยกู้ก็มีสิทธิ์เจ๊งสูง
       
       นอกจากนี้ยังมีข่าวร้ายตามมาสมทบแบบประดังเข้ามาอีกนั่นคือ ทางรัฐวิสาหิจของจีนที่ถูกอ้างว่ามีการเจรจาซื้อข้าวกับฝ่ายไทย ก็ได้แถลงยกเลิกการเจรจาซื้อข้าวแล้ว ทำให้หนทางในการหาเงินมาจ่ายหนี้ชาวนาก็ต้องดับวูบลงไปอีก
       
       ดังนั้นเหลือวิธีการเดียวที่บีบให้รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องทำก็คือนำข้าวในสต็อกที่เก็บไว้ในโกดังออกมาประมูลขาย แต่ด้วยการเก็บรักษาข้าว"ค้างสต็อก"มานานทำให้ข้าวเสื่อมคุณภาพ อีกทั้งการรีบประมูลในลักษณะแบบนี้ยิ่งถูกกดราคา ทำให้ขาย"ขาดทุน"มากมาย เหมือนอย่างในตอนนี้ที่กระทรวงพาณิชย์ได้นำข้าวจำนวน 4 แสนตันออกมาขายให้เอกชน แต่ก็มีรายงานว่าต้องขาย"ต่ำกว่าราคาตลาด"ถึงตันละ 13000 บาท มันก็ยิ่งทำให้รัฐขาดทุนเข้าเนื้อมหาศาลเข้าไปอีก แต่ถึงอย่างไรวิธีนี้ก็ยังไม่ทันการณ์กับความเดือดร้อนของชาวนาที่รอเงินอีกนับแสนๆราย ซึ่งนาทีนี้เมื่อธนาคารกรุงไทยซึ่งเป็นความหวังสุดท้ายไม่ให้กู้ รัฐบาลก็หมดหนทางหาเงินมาจ่ายหนี้ชาวนา และ ยิ่งลักษณ์ ก็จบกัน !!

ขอบคุณเนื้อหา  manager.co.th
ที่มา http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=1&news_id=33086&page=1