อสังหาฯรอฟื้นปลายปี จับตาแข่งเดือดหวังกู้ยอดขาย

[ทีมงานบ้านเรา]

โดย...สุกัญญา สินถิรศักดิ์

          ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในครึ่งแรกของปี 2557 เจอมรสุมการเมืองถล่มยอดขายจนแทบไม่เหลือหรอ โดยเฉพาะตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้รับผลกระทบมากที่สุด ยอดขายของผู้ประกอบการส่วนใหญ่ลดลงไม่ต่ำกว่า 30-40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

          จากปัจจัยดังกล่าวทำให้ช่วงไตรมาส 2 ผู้ประกอบการหลายค่ายเริ่มขยับ อัดโปรโมชั่นแรงๆ เพื่อเร่งระบายสต๊อกบ้าน-คอนโดที่มีอยู่ในมือกันเป็นการใหญ่ เช่น ให้จองในราคา 999 บาท เสนอดอกเบี้ย 0% นาน 1 ปี หรือจองทำสัญญาในราคา 0 บาท รวมไปถึงการเสนอส่วนลดเป็นหลักล้านบาท เป็นต้น สะท้อนสภาพตลาดที่กำลังซื้อชะลอตัวลงอย่างชัดเจน

          ด้านการเปิดตัวที่อยู่อาศัยใหม่ เพราะความวุ่นวายทางการเมืองตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่กล้าเข็นโครงการใหม่ๆ ออกมาเปิดตัว เพราะต้องการดูสถานการณ์การเมือง ทำให้ตัวเลขที่อยู่อาศัยใหม่ชะลอตัวลงมาก

          จากข้อมูลของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์พบว่า การเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 พ.ค.2557 มี 163 โครงการ รวมจำนวนทั้งหมด 4.12 หมื่นหน่วย ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 20%

          ในจำนวนดังกล่าว แบ่งเป็น บ้านจัดสรรเปิดตัวใหม่ 106 โครงการ รวมจำนวน 1.72 หมื่นหน่วย ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนคอนโดเปิดตัวใหม่ 57 โครงการ รวมจำนวน 2.4 หมื่นหน่วย ชะลอตัวประมาณ 30%

          สัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า การรัฐประหารทำให้บรรยากาศทางการเมืองดูคลี่คลาย จึงประเมินว่าตลาดที่อยู่อาศัยในครึ่งปีหลังจะคึกคักมากกว่าครึ่งปีแรกในทั้งเชิงการเปิดตัวโครงการใหม่ และการแข่งขันจะรุนแรงมาก เพื่อกู้ยอดขายที่ชะลอตัวไปในช่วงครึ่งปีแรก แต่ภาพรวมตลาดทั้งปีนี้ก็ยังชะลอตัวจากปีที่ผ่านมา

          ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าการเปิดตัวโครงการที่มีอยู่อาศัยใหม่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลทั้งปี 2557 นี้ จะอยู่ที่ประมาณ 1.05 แสนหน่วย แบ่งเป็น บ้านจัดสรร 4 หมื่นหน่วย ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว และคอนโด 6.5 หมื่นหน่วย ลดลงจากปีที่แล้วที่มีจำนวน 8.5 หมื่นหน่วย

          ขณะที่ ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า ตลาดในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. เรียกได้ว่า ทุกคนชะลอดูเหตุการณ์ เพราะการเมืองยังร้อนแรงมากจนเดือน มี.ค.-เม.ย. เหมือนเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น ทำให้เดือน พ.ค. หลายค่ายเริ่มมั่นใจที่จะเปิดตัวโครงการใหม่ๆ

          แต่ภาวะการเมืองที่ผันผวนรอบใหม่จากการรัฐประหาร แม้จะทำให้บรรยากาศการเมืองดูผ่อนคลายมากขึ้น แต่ก็ยังเป็นปัจจัยที่ผู้ประกอบการต้องจับตามอง โดยเฉพาะนโยบายการกระตุ้นภาคเศรษฐกิจของผู้บริหารประเทศชุดใหม่ว่าจะสามารถฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคได้หรือไม่

          "หากมีสัญญาณว่าผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นแล้ว จากการที่เริ่มกลับมาจับจ่ายใช้สอยอย่างปกติ ผู้ประกอบการก็พร้อมที่จะเปิดตัวโครงการใหม่ๆ เพราะเวลานี้ที่ยังไม่กล้า ไม่ใช่แค่เรื่องการเมืองยังไม่นิ่ง แต่เป็นเพราะกำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่กลับมา" ประเสริฐ กล่าว

          สำหรับการประเมินสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑล คาดว่าจะฟื้นตัวได้ประมาณไตรมาส 4 เพราะกว่าทีมบริหารประเทศชุดใหม่จะเริ่มทำงาน กว่างบประมาณต่างๆ จะถูกผลักดันเข้าสู่ระบบต้องใช้เวลาไม่น้อยเลย

          ความคิดเห็นดังกล่าวสอดคล้องกับ อิสระ บุญยัง นายกิตติมศักดิ์ และที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ตลาดยังไม่สามรถฟื้นตัวได้ในเวลาอันรวดเร็ว อาจจะต้องรอลุ้นการฟื้นตัวในไตรมาส 4 หลังจากที่งบประมาณต่างๆ ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐเริ่มเห็นผลเป็นรูปธรรม

          ไม่เพียงแต่ตลาดกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ได้รับผลกระทบ แต่ตลาดที่อยู่อาศัยต่างจังหวัดก็ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ และการเมืองด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะภาคอีสาน ซึ่งเคยเป็นภูมิภาคที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ร้อนแรงมากก็ชะลอตัวอย่างหนัก เพราะการเบิกจ่ายเงินในโครงการรับจำนำข้าวที่มีปัญหาในช่วงก่อนรัฐประหาร ทำให้เศรษฐกิจท้องถิ่นในภาคอีสานทรุดตัว

          อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการตลาดภาคอีสาน เช่น จ.ขอนแก่น นครราชสีมา ต่างหวังว่าโครงการต่างๆ ของภาครัฐที่ต้องดำเนินการอยู่แล้ว เช่น โครงการมอเตอร์เวย์ รวมถึงโครงการค้าปลีกขนาดใหญ่ของภาคเอกชนจะยังเป็นแรงขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจท้องถิ่นเดินหน้าไปได้

          นอกจากนี้ การที่ปัญหารับจำนำข้าวเริ่มได้รับการแก้ไข ภาคเอกชน ต่างเชื่อว่าเงินที่กลับคืนสู่ภาคประชาชนในต่างจังหวัดจะทำให้วงล้อเศรษฐกิจในท้องถิ่นกลับมาหมุนอีกครั้ง และนั่นย่อมส่งผลบวกต่อตลาดที่อยู่อาศัยในภูมิภาคให้เริ่มฟื้นตัวด้วย

          หลังม่านการเมืองที่เริ่มคลี่คลาย เอกชนภาคอสังหาริมทรัพย์ไม่ได้หวังมาตรการกระตุ้นตลาดที่อยู่อาศัย แต่ต่างหวังให้เสถียรภาพทางการเมืองที่แข็งแรง เป็นตัวฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้บริโภคให้กลับมาโดยเร็ว เพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศขับเคลื่อนต่อไปได้

ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์