คนร้ายยิง ส.อบต.พนางตุงดับก่อนซิ่งหนีลอยนวล

[ทีมงานบ้านเรา]

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    15 ธันวาคม 2553 13:05 น.
      
พัทลุง - คนร้ายกระหน่ำยิงสมาชิกเทศบาลตำบลพนางตุงดับขณะกำลังวิ่งออกกำลังกายบนถนน ก่อนซิ่งรถจักรยานยนต์หลบหนีลอยนวล เจ้าหน้าที่คาดความขัดแย้งส่วนตัว และเรื่องชู้สาว
       
       วันนี้ (15 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ เดชสุภากูล สารวัตรใหญ่ สภ.ทะเลน้อย จังหวัดพัทลุง รับแจ้งคนร้ายสองคนขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน ตามประกบยิงสมาชิกสภาเทศบาลตำบล (อบต.) พนางตุง อ.ควนขนุน เสียชีวิต โดยเหตุเกิด บนถนนในท้องที่ หมู่ 3 ต.พนางตุง หลังรับแจ้งจึงเดินทางรุดสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธวัชชัย จงหวัง ผกก.สืบสวน ภจ.ว.พัทลุง ในที่เกิดแหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพนายอดุลย์ มุสิกรัตน์ อายุ 43 ปี สมาชิกสภาเทศบาลตำบลพะนางตุง อยู่บ้านเลขที่ 179 ม.3 ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 มม. เข้าที่บริเวณแขนขวา 2 นัด แผ่นหลัง 1 นัด และบริเวณหน้าอกด้านขวากระสุนทะลุด้านหน้า 2 นัด รวม 5 นัด และใกล้กันทางเจ้าหน้าที่พบโทรศัพท์มือถือของผู้ตายตกอยู่ในที่เกิดเหตุ 1 เครื่อง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
       
       จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ผู้ตายกำลังวิ่งออก กำลังกายบนถนนได้มีคนร้าย 2 คน ขับขี่จักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อ ทะเบียน จากนั้นคนร้ายที่นั่งซ้อนท้าย ได้ใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงจนล้มลงก่อนที่จะขับรถหลบหนีไปอย่างลอยนวล
       
       ทางด้าน พ.ต.อ.ธวัชชัย จงหวัง ผกก.สส.ภ.จว.พัทลุง กล่าวว่า ในเบื้องต้นประเด็นการสังหารตำรวจตำรวจมุ่งไปในประเด็นชู้สาว เนื่องจากผู้ตายเป็นคนเจ้าชู้ ประเด็นความขัดแย้งเรื่องการเมืองท้องถิ่น และประเด็นความขัดแย้งเรื่องส่วนตัว โดยเฉพาะความขัดแย้งเรื่องส่วนตัวนั้น เมื่อเร็วๆนี้ผู้ตายได้มีปากเสียงกับกลุ่มวัยรุ่นค้ายาเสพติดกลุ่มหนึ่งใน พื้นที่ อ.ควนขนุน ที่เข้ามาชักจูงให้บุตรชายผู้ตายเข้าไปร่วมแก๊งค้ายาเสพติด จนเกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง
       
       ส่วนหนึ่งกลุ่มคนร้ายนั้นน่าจะเป็นคนในพื้นที่เพราะรู้ความเคลื่อน ไหวของผู้ตายเป็นอย่างดีโดยก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้าย 1 คน ขี่จักรยานยนต์ออกมาติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ตายอยู่บนถนนสายดังกล่าว เมื่อผู้ตายวิ่งออกกำลังกายห่างจากบ้านพักประมาณ 30 เมตร ก็ถูกกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิต ขณะนี้ตำรวจพอทราบเบาะแสของกลุ่มคนร้ายบ้างแล้ว ซึ่งจะได้เร่งขยายผลการสืบสวนสอบสวนหาตัวกลุ่มคนร้ายมาดำเนินการตามกฎหมาย ต่อไป