เยาวชน"แพลงกิ้ง"ป้องปากบาราจากเงื้อมมือท่าเรือ-อุตสาหกรรม

[ทีมงานบ้านเรา]

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    17 สิงหาคม 2554 22:32 น.    

[attach=1]

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – กลุ่มเยาวชนและประชาชนคนรุ่นใหม่ร่วมปกป้องหาดปากบาราให้พ้นจากโครงการถม ทะเลสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบา โดยการนอนคว่ำแพลงกิ้งบนผืนทรายที่เป็นแหล่งอุดมสมบูรณ์ และเป็นที่อาศัยของปูทหารพระราชา พร้อมแจกจ่ายหนังสือ"สงขลา-สตูล กำลังจะก้าวไปสู่จังหวัดอุตสาหกรรมขนาดหนัก.. ข้อมูลที่ยังไม่เคยเปิดเผยอย่างเป็นระบบ" รณงค์ปฏิบัติการเพชรเกษม 41 ระหว่าง 21-22 ส.ค.ที่ จ.ชุมพร
       
       เครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล นำประชาชนและกลุ่มเยาวชนใน ต.ปากบารา อ.ละงู จ.สตูล ร่วมทำแพลงกิ้งนอนคว่ำหน้าบนผืนทรายในอ่าวปากบาราในขณะที่น้ำทะเลลงจนกลาง เห็นหาดทรายยาวนับกิโลเมตรของช่วงเย็นของวันที่ 17 สิงหาคม เพื่อสื่อสัญลักษณ์ในระดับสากลถึงการปกป้องทรัพยากรทางทะเล ที่เป็นแหล่งพักผ่อน ทำกินชาวบ้าน ซึ่งชาวต่างชาติทั้งที่เป็นนักวิชาการและนักท่องเที่ยวเริ่มให้ความสนใจ ติดตามข้อมูล หลังจากที่มีโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบาราเดินหน้าจนผ่านรายงานผลกระทบด้าน สิ่งแวดล้อม และอยู่ระหว่างการขออนุญาตเพิกถอนแนวเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา เพื่อถมทะเลในบริเวณอ่าวปากบาราก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบารา ภายในโครงการแลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล
       
       โดยอ่าวปากรารานั้นมีความสมบูรณ์ของธรรมชาติและระบบนิเวศน์ ล่าสุดมีการค้นพบว่าเป็นแหล่งอาศัยของ"ปูทหารยักษ์ปากบารา" ชนิดใหม่ของโลก และอยู่ระหว่างเตรียมเสนอขอพระบรมราชานุญาติพระราชทานชื่อจากพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ว่า "ปูทหารแห่งพระราชา" เพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบ 84 พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
       
       นอกจากนี้ ทางเครือข่ายฯ ยังได้นำป้ายรณรงค์กิจกรรมปฏิบัติการเพชรเกษม 41 มาร่วมในการแพลงกิ้งครั้งนี้ ก่อนที่จะมีการเคลื่อนพลคนใต้ทั้ง 14 จังหวัดหยุดแผนพัฒนาชายฝั่งทะเลภาคใต้ระหว่างวันที่ 21-22 สิงหาคม ที่วนอุทยานเขาพาง อ.เมือง จ.ชุมพร ก่อนที่รัฐบาลชุดใหม่จะเริ่มงานอย่างเป็นทางการ ขณะเดียวกันยังได้มีการแจกหนังสือ "สงขลา-สตูล กำลังจะก้าวไปสู่จังหวัดอุตสาหกรรมขนาดหนัก.. ข้อมูลที่ยังไม่เคยเปิดเผยอย่างเป็นระบบ" แก่ประชาชนทั้งใน อ.เมืองและละงู นับพันเล่ม ซึ่งจัดทำโดยคณะทำงานหยุดการพัฒนาสงขลา-สตูล สู่การเป็นอุตสาหกรรมหนัก เพื่อให้รัฐบาลตระหนักถึงเสียงของประชาชนที่ต้องหารให้พื้นที่มีการพัฒนาที่ ยั่งยืนเกิดขึ้นนั่นเอง

[Tonzaza]

ทำไมไม่นั่งพับเพียบไทยแลนด์หละ

[ซัมเบ้ Note 7 Jr.]

แพลงกิ้งสนุกๆ อย่าทำจนลืมตัวละกันครับ

[2PM]

ส่วนตัว มีข้อดี ทั้ง ข้อเสีย แต่ข้อดีมีมากกว่าข้อเสีย ข้อดีไทยได้เงินเข้าเงินสะพัดเข้าประเทศมากขึ้น ขนส่งไม่ต้องอ้อมไกล ช่องมะละกา ระบบขนส่งจะได้สะดวกมากขึ้น ข้อเสีย ทำเสียธรรมชาติ บางส่วน

[ซุปเปอร์ฮีโร่]

 

[ชาวประมง]

น่าจะมีข้อเสียเยอะเพราะท่าเรือในสงขลาทำให้น้ำใหลเปลี่ยนทิศทางกัดเซาะชายฝั่ง และปิกกั้นปากน้ำที่จะใหลขึ้นลงของทะเลสาบสงขลา

[ผู้เฒ่าเต่า]

เยาวชนสร้างสรรค์

[ภัทราภรณ์]

ไอเดียดี อินกระแสค่ะ

[แบบตัวอักษร]

คนส่วนใหญ่เป็นห่วงฝั่งทะเลสตูลเพราะทะเลสวยมาก เกาะสวยๆเยอะ  แต่คิดว่าถ้ารัฐมะละกา กับปีนั่ง เขาสามรถบริหารจัดการให้ท่าเรือ การขนส่ง อุตสาหกรรม การท่องเที่ยว พื้นที่ป่าสงวน  อยู่ร่วมกันได้  จนถึงขั้น เมืองกลายเป็นมรดกโลกไปได้  น่าจะลองไปดูงานนะ

ปีนัง กับมะละกา นอกจากจะเป็นเมืองท่าที่สำคัญ มีการพานิชย์ มีท่าเรือ การขนส่ง อุตสาหกรรม แถมเป็นเมืองการท่องเที่ยวที่สตูลเทียบไม่ติดเลย โดยเฉพาะในเชิงตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยว  แถมเป็นมรดกโลกอีก  ไม่รู้เขาทำได้ไง

[น่าเบื่อ]

ปัญญาอ่อนตั่งแต่ท่ามันแล้ว

[มองต่างมุม]

ปัญญาอ่อนตั่งแต่ท่ามันแล้ว

''แค่คำว่า "ตั้งแต่" เขียนผิด ''ตั่งแต่ " ฉลาดมาก  !!!

อย่างน้อยก็ได้ทำตามสิทธิของคนไทย ดีกว่าคนที่อยู่แล้วไม่ทำอะไร ยิ่งอยู่ยิ่งทำให้ผืนแผ่นดินบ้านเกิด ต่ำลง