ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

มรภ.สงขลา ระดมกึ๋นนักวิชาการ-สื่อมวลชน เสวนาเปิดหลักสูตร “วิทยาศาสตร์นิเทศ”

เริ่มโดย ทีมงานประชาสัมพันธ์, 10:28 น. 25 ก.ย 57

ทีมงานประชาสัมพันธ์

ศูนย์ข่าวบ้านเรา-.มหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา เทียบเชิญนักวิชาการชั้นแนวหน้า สื่อมวลชนทุกแขนง ร่วมเสวนาเปิดหลักสูตรวิทยาศาสตร์นิเทศ หวังผลิตนักข่าวที่มีความรู้ทางวิทยาศาสตร์

[attach=1]

รศ.ดร.สุนทร โสตถิพันธุ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา (มรภ.สงขลา) เปิดเผยถึงโครงการเสวนาเรื่อง การเปิดหลักสูตรวิทยาศาสตร์นิเทศ (Science Communication) มหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา วิทยาเขตสตูล จัดขึ้นในวันที่ 20 กันยายน 2557 ณ ห้องประชุมชั้น 7 สำนักงานอธิการบดี มรภ.สงขลา ว่ามีวัตถุประสงค์เพื่อรับฟังแนวทางการพัฒนาหลักสูตรวิทยาศาสตร์นิเทศ (Science Communication) จากผู้ทรงคุณวุฒิในภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งเพื่อผลิตนักสื่อสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีป้อนเข้าสู่สังคม ตรงตามความต้องการของภาครัฐและภาคเอกชน และสื่อมวลชน กรรมการบริหารมหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา กรรมการบริหารมหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา วิทยาเขตสตูล อาจารย์ประจำโปแกรมวิชานิเทศศาสตร์ จำนวน 70 คน

[attach=2]

[attach=3]
ดร.ไพบูลย์ นวลนิล

ด้านดร.ไพบูลย์ นวลนิล รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มรภ.สงขลา กล่าวถึงแนวคิดในการเปิดหลักสูตรวิทยาศาสตร์นิเทศ ว่า สืบเนื่องมาจากการสื่อสารทางวิทยาศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์สุขภาพ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ มีความจำเป็นต้องใช้ความรู้ทางด้านนิเทศศาสตร์ในการอธิบาย สร้างความเข้าใจ จุดประกาย หรือทำให้เกิดแนวคิดต่างๆ จากนักวิชาการสู่ประชาชน เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายมีความเข้าใจเรื่องราวทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในทุกสาขา ว่ามีประโยชน์และโทษอย่างไร แต่ปัจจุบันนักนิเทศศาสตร์ส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความเข้าใจในวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทำให้การถ่ายทอดองค์ความรู้ผ่านทางสื่อชนิดต่างๆยังมีข้อจำกัด

หากมองย้อนกลับไปถึงความเข้าใจด้านวิทยาศาสตร์ของคนไทยในช่วงที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ถึงความอ่อนแอของระบบการเรียนการสอนและการสื่อสารด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศเป็นอย่างมาก  ดังจะเห็นได้จากตัวอย่างที่พบบนหน้าหนังสือพิมพ์ในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นการบูชาวัตถุประหลาดที่หล่นมาจากบนท้องฟ้า การรายงานข่าวเตือนภัยธรรมชาติต่างๆ ที่มีผลการประเมินจากเครื่องมือวัดผลทางวิทยาศาสตร์ เช่น สึนามิ แผ่นดินไหว น้ำท่วม ภัยแล้ง ที่สามารถสร้างความตื่นตระหนกและโกลาหลให้ผู้คนมีความหวาดกลัวถึงอันตรายจากภัยธรรมชาติจะเห็นได้ว่าข่าวสารทางวิทยาศาสตร์ มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของประชาชนในประเทศ จึงจำเป็นจะต้องมีการสนับสนุนพัฒนาการและใช่ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในทุกระดับ

โดยเน้นการเผยแพร่ความรูทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ภาคการศึกษา ภาคประชาชน และประชาคมท้องถิ่นได้อย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง ประกอบกับการเร่งพัฒนาคนให้สนใจและเข้าใจวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรทุกประเภทมีอยู่ สื่อมวลชนจึงเป็นทรัพยากรหลักด้านหนึ่งที่จะช่วยสร้าง กระตุ้น ความรู้ความเข้าใจ เชื่อมโยงความรู้ทางวิทยาศาสตร์ไปสู่สังคมด้วยคุณสมบัติอันโดดเด่นของสื่อมวลชน คือ สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจำนวนมากได้อย่างกว้างไกล แต่ในปัจจุบันพื้นที่การนำเสนอข่าวสารด้านวิทยาศาสตร์มีส่วนที่น้อย ทำให้ไม่สามารถใช้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์นำสังคมได้ หากการสื่อสารวิทยาศาสตร์ยังไม่ได้รับความสำคัญทั้งในแง่ปริมาณ คุณภาพความต่อเนื่อง

[attach=7]

ทั้งนี้ บทบาทของสื่อมวลชนมีศักยภาพสูงในการถ่ายทอดความรู้ทางวิทยาศาสตร์ไปสู่สังคม แต่ในขณะเดียวกันการจัดการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์นิเทศ ยังไม่ค่อยแพร่หลาย แม้ในต่างประเทศ ยกเว้นประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีการเรียนการสอนด้านนี้ตั้งแต่ปริญญาตรีถึงปริญญาเอก ส่วนในประเทศไทยยังอยู่ในระยะเวลาเริ่มต้นและมีแห่งเดียวในประเทศไทย คือสาขาวิทยาศาสตร์การสื่อสาร Science Communication ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ในขณะที่หลักสูตรด้านนิเทศศาสตร์ในปัจจุบัน มีวิชาที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีน้อยมาก ประกอบกับการผลิตนักวิทยาศาสตร์นิเทศ หรือนักการสื่อสารวิทยาศาสตร์ ต้องเริ่มต้นตั้งแต่ระดับปริญญาตรีเพราะบัณฑิตเหล่านี้ต้องไปทำงานระดับปฎิบัติการเป็นส่วนใหญ่ จึงมีความจำเป็นในการผลิตบัณฑิตสาขาดังกล่าว

ดังนั้น มรภ.สงขลาจึงมีแนวคิดที่จะพัฒนาหลักสูตรสาขาวิทยาศาสตร์นิเทศในระดับปริญญาตรี โดยการจัดเสวนาในครั้งนี้ขึ้นเพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาของ มรภ.สงขลา ได้รับฟังความคิดเห็นที่เป็นมุมมองจากผู้ทรงคุณวุฒิในภาครัฐและภาคเอกชน ที่มีต่อการจัดการศึกษาหลักสูตรวิทยาศาสตร์นิเทศ

อย่างไรก็ตาม การพัฒนาหลักสูตรดังกล่าว มหาวิทยาลัยคาดว่าจะสามารถผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ความสามารถในการพัฒนาและใช้ระบบสื่อสารเพื่อสร้างความตระหนักและความเข้าใจด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างแพร่หลายในสังคมไทย และเป็นสื่อกลางถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจ หรือสร้างระบบคิดเชิงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีโดยมีเป้าหมายเพื่อลดช่องว่างแห่งความเข้าใจของประชาชนเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกที่จะเรียนรู้ ทำความเข้าใจกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีโดยมีเป้าหมายเพื่อลดช่องว่างแห่งความเข้าใจของประชาชนเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีซึ่งถือเป็นหน้าที่สำคัญของนักการสื่อสารวิทยาศาสตร์ต่อไป

บานไม่รู้โรย

เปิดไปเพื่ออะไร.......นี่คือคำถามที่ต้องถามดังๆ
หลักสูตรที่มีแล้ว ยังทำให้ดีไม่ได้เลย......หมดปัญญา
คุณภาพอาจารย์เกรด C ทั้งนั้น จบจาก ม.เอกชน ศิษย์เก่า ว.ค.ราชภัฎทั้งนั้น
ดูจากวิธีการคิด กระบวนการสอน......และหนังสือก็ไม่อ่าน
สภาพไม่ต่างจากครูมัธยมปลายแถว

เอาแค่ให้ท่านมาทำให้ราชภัฎสงขลา ยกระดับขึ้นกว่าเดิม ยังทำไม่ได้เลย
เสียดายที่ฝากความหวังไว้มาก....

ว.ค.แห่งนี้ จึงไม่ต่างจากโรงเรียนมัธยมขนาดใหญ่
ที่รับเด็กซึ่งสอบอะไรแล้วมาเรียน อาจารย์เองก็ไม่มีคุณภาพ