‘บิ๊กตู่’ฉะสื่อไทม์จวกตร.ไทยห่วย

[itplaza]

คดีฆ่า2ฝรั่งยังไม่คืบลุ้นผลDNAอีก100คน

"ประยุทธ์" โต้นิตยสารไทม์ที่โจมตีการทำงานของตำรวจไทยในคดีฆ่า 2 นักท่องเที่ยวชาวเมืองผู้ดี ถ้ามีข้อมูลอะไร ให้ส่งมาอย่างเป็นทางการ วอนคนไทยอย่าดูถูกคนไทยด้วยกัน ตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ ส่วนในพื้นที่ยังระดมเก็บดีเอ็นเอต่างด้าวหาตัวผู้ต้องสงสัย ขณะที่ "กอบกาญจน์" เผยเพื่อนผู้ตายยังมีความรู้สึกที่ดีกับคนไทย แต่ขอให้จับฆาตกรได้เท่านั้น

ชุดสืบสวนสางปมฆ่าโหด 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษคือนายเดวิด วิลเลียม มิลเลอร์กับ น.ส.ฮานน่าห์ วิคตอเรีย วิทเธอริดจ์ ที่ริมหาดทรายรี ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ยังคงเดินหน้าคลี่คลายคดีตามแกะรอยล่าตัวฆาตกรอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าที่ผ่านมาผลตรวจดีเอ็นเอของผู้ต้องสงสัยหลายร้อยรายไม่ตรงกับหลักฐานที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุ ทั้งแรงงานต่างด้าว ผู้ต้องสงสัยในพื้นที่แม้กระทั่งนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ

ต่อมาเมื่อสายวันที่ 25 ก.ย. ที่ห้องประชุม ศปก.ภ.8 ส่วนหน้า สภ.ย่อยเกาะเต่า ชุดสืบสวนคลี่คลายคดีฆ่า 2 นักท่องเที่ยวได้นำแรงงานต่างด้าวชาวพม่าบนเกาะเต่าจำนวน 7 รายมาทำประวัติและเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับตัวอย่างดีเอ็นเอที่พบจากศพของ น.ส.ฮานน่าห์ 1 ในเหยื่อฆาตกรรม ขณะที่ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รรท.ผบก.สส.บช.น. หัวหน้าชุดสืบสวนคดีนี้เปิดเผยว่า หลังได้รับมอบหมายให้คุมการสืบสวนพบว่า ภาพรวมการทำงานเป็นที่พอใจ มั่นใจว่าตำรวจกำลังทำงานเต็มที่ในการเก็บหลักฐานเพื่อคลี่คลายคดี ขณะนี้จัดเก็บดีเอ็นเอจากนักท่องเที่ยว กลุ่มผู้ใช้แรงงานชาวพม่าและคนไทยที่อยู่บนเกาะไปแล้วกว่า 200 คน แต่ผลการตรวจไม่ตรงกับดีเอ็นเอของผู้ก่อเหตุยังมีอีกกว่า 100 คน ที่ยังอยู่ระหว่างรอผลตรวจ

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่ประชุมร่วมกับทุกฝ่ายสืบสวนสอบสวน ขอเวลาให้ตำรวจทำงาน ส่วนข้อมูลที่สับสนเป็นเรื่องของข่าวได้มอบหมาย ให้ พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.8 เป็นผู้ให้ข่าวส่วนของคดีเพื่อให้ไปในทิศทางเดียวกัน ขณะนี้ทุกฝ่ายเร่งทำงานมีการตีกรอบช่วงเวลา 02.00 น.

จนถึงช่วงที่รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ซึ่งมีการบันทึกภาพนักท่องเที่ยวอังกฤษก่อนเสียชีวิตเพื่อแสวงหาข้อมูลมีใครที่อยู่ในที่เกิดเหตุในรัศมีที่ใกล้เคียงเพื่อนำมาสอบสวน เนื่องจากมีประจักษ์พยานได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือจากผู้ที่เสียชีวิต น่าเชื่อว่าต้องมีคนเห็นเหตุการณ์ช่วงที่เกิดเหตุจะต้องใช้การสืบสวนสอบสวนควบคู่งานนิติวิทยาศาสตร์และพิสูจน์หลักฐาน เพราะเป็นคดีสำคัญที่รัฐบาลและ สตช.ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะมีผลกระทบต่อภาพรวมการท่องเที่ยวไทย

ด้านนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในวันที่ 28 ก.ย.นี้จะเดินทางลงพื้นที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อหารือกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวและชุมชนเพื่อพูดคุยถึงการดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวเพราะถือว่าเรื่องเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษเป็นปัญหาหนัก แม้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาไม่ได้มีหน้าที่โดยตรงในการจับผู้ร้าย แต่ก็ต้องประสานให้เกิดการเฝ้าระวัง โดยเฉพาะการขอให้ผู้ประกอบการ ช่วยเตือนนักท่องเที่ยวให้มีความระวังมากขึ้นว่าช่วงใด เวลาใดพื้นที่ไหนมีอันตรายอย่าเข้าไป ขณะเดียวกันจะพยายามประสานพูดคุยกับตำรวจว่าแหล่งท่องเที่ยวขนาดใหญ่ อย่างเช่น เกาะเต่า เกาะพีพี มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก แต่บนเกาะไม่มีสถานีตำรวจเลย จำเป็นต้องมีสถานีตำรวจขึ้น เพราะถ้าไม่มี พอเกิดเหตุแล้วการให้ความช่วยเหลือจะได้แค่ระดับหนึ่งและการเฝ้าระวังก็ไม่ดี 100% ส่วนที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามีตำรวจท่องเที่ยวเพียง 800 อัตราเท่านั้นก็ได้พยายามสร้างอาสาสมัครเข้ามาช่วยเสริมด้วย

รมว.การท่องเที่ยวและกีฬากล่าวด้วยว่า ได้พูดคุยกับเพื่อนของนักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษที่ถูกฆ่าตาย โดยได้ไปส่งก่อนที่จะเดินทางกลับอังกฤษ เขาบอกว่าชอบคนไทย คนไทยดีกับเขามาก ขออย่างเดียวให้จับคนร้ายให้ได้ พวกเขามาอยู่เมืองไทย 10 กว่าวัน ไปภาคเหนือ ไป จ.กาญจนบุรี ได้รับประสบการณ์ที่ดีจากคนไทยหลายๆคน เขาเล่าไปก็ร้องไห้ไป เพราะเป็นเพื่อนกันอายุ 23 ปี อยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน เรียนวิชาเดียวกัน เช่นเดียวกับพ่อแม่ของผู้เสียชีวิตก็ได้เขียนจดหมายขอบคุณ และขอให้จับคนร้ายให้ได้ ซึ่งเรื่องทั้งหมดนี้ตนมองว่าเป็นสิ่งแย่มากที่เกิดขึ้น ซึ่งเขาก็รู้ว่าเราไม่อยากให้เกิด และเอามาเป็นบทเรียนไม่ให้เกิดขึ้นอีก ทราบดีว่าทุกที่มีจุดดำและขาว อยากพยายามกลบจุดดำให้หมด การให้ไม่มีการเกิดอาชญากรรมเลยเป็นสิ่งคาดหวัง แม้ว่าอาจจะยาก ก็จะพยายามให้มีผลเร็ว ที่สุด โดยร่วมกับตำรวจพื้นที่ ตำรวจท่องเที่ยวและติดกล้องซีซีทีวีในสถานที่ท่องเที่ยวมากขึ้น

ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าจับกุมฆาตกรสังหารนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่าว่า ความจริงแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมหมดแล้ว แต่มีการให้ข่าวสับสนกรณีผู้มีอิทธิพลมากมายซึ่งไม่จริง ทุกฝ่ายเร่งรัดดำเนินการตลอดโดยเฉพาะ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รายงานความคืบหน้าโดยตรงกับตนตลอด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร.ลงพื้นที่ด้วยตัวเองไปดูว่าจะทำอย่างไรให้จับตัวคนร้ายให้ได้รวดเร็วที่สุด เวลานี้ได้พยายามจำกัดทั้งพื้นที่และจำกัดคน เราไม่ได้ทำไปเรื่อยอย่างที่พูดกัน

พล.อ.ประวิตรกล่าวด้วยว่า วันเกิดเหตุเป็นพื้นที่ที่มืดมาก กล้องวงจรปิด ซีซีทีวี (CCTV) ตรงนั้นจับภาพไม่ถึง ดังนั้นได้สั่งการไปทั่วประเทศแล้วว่า ต้องให้มีแสงสว่างเพียงพอ โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯและเมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆ ต้องมีแสงสว่างให้เพียงพอ ต้องมีกล้องวงจรปิดให้หมดทั่วประเทศ โดยกระทรวงมหาดไทย กทม. เจ้าหน้าที่ตำรวจรับไปดำเนินการและมั่นใจว่าภายใน 2 เดือนจะชัดเจน

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวถึงกรณี นิตยสารไทม์ของอังกฤษโจมตีการทำงานของตำรวจไทยในการคลี่คลายคดีฆาตกรรมสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานีว่า เราอย่าไปช่วยเขาโจมตี เรารู้อยู่ว่าเรื่องนี้ไม่ง่าย เนื่องจากพื้นที่เป็นเกาะมีการใช้เรือมีคนสัญจรเป็นพันคน เจ้าหน้าที่ติดตามหมดทุกคน เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ต้องรู้ แต่ถ้าเร่งรัดมากอาจจะผิดตัว วันนี้พยายามใช้นิติวิทยาศาสตร์เข้าช่วยจะไม่มีการจับแพะ ถ้าตรวจดีเอ็นเอแล้วไม่ใช่ คือไม่ใช่ เมื่อถามว่าปัญหามาจากอะไรที่ทำให้ยังจับคนร้ายไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ปัญหาคือมีคนไปทำความผิดฆ่าคนตาย การแก้ปัญหาคือแก้ปัญหา แต่อย่ามาบอกว่าผิดเพราะมีผู้มีอิทธิพล มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีความสามารถ พูดอย่างนี้ไม่ได้อะไรขึ้นมา ทุกเช้าต้องรายงานทุกวัน

เมื่อถามย้ำว่า แต่สื่อต่างประเทศชี้ให้เราไปให้ถูกทาง พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ให้ไทม์ส่งคนมาชี้ ชอบไปรับอำนาจคนอื่นเขามาเรื่อย "ผมไม่เข้าใจ ไปเอามา ถ้ามีข้อมูลอะไรไปหามาแล้วส่งมาเป็นทางการ" เมื่อถามว่าคิดว่าเจ้าหน้าที่ของเรามีฝีมือหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบอย่างมีอารมณ์ว่า ไม่มีมั้ง ตำรวจทั้งประเทศมี 8 แสนกว่าคน บอกว่าตำรวจไม่ได้เรื่อง ตนถามว่าจะมีกำลังใจทำงานหรือไม่ แล้วคดีอื่นๆอีกเท่าไหร่ เฉพาะคดีนี้คดีเดียวตำรวจเสียหายทั้งกรมเลยหรือไม่ มันไม่ใช่ ฉะนั้นพูดอะไรระมัดระวังให้เกียรติคนที่ทำงาน คนทำงานดีก็มี คนไม่ดีก็มี ถ้าเราไปทำให้องค์กรเสียหายต่อไปเขาจะทำงานหรือไม่ เรากำลังจะปฏิรูปตำรวจก็บอกว่าไม่สำเร็จอีก ดูถูกกันตั้งแต่วันแรก คนไทยด้วยกันดูถูกคนไทยด้วยกันแล้วมันจะทำอะไรสำเร็จ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวทิ้งท้าย

ขอบคุณเนื้อหา thairath
ที่มา http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=1&news_id=39794&page=1