ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เตือนภัยธุรกิจอสังหาฯ ปี 2558 หนี้ครัวเรือน ส่งออก-ท่องเที่ยวทรุด

เริ่มโดย หาดใหญ่ใหม่, 13:45 น. 08 ต.ค 57

หาดใหญ่ใหม่

AREA แถลง ฉบับที่ 154/2557: วันพุธที่ 7 ตุลาคม 2557
เตือนภัยธุรกิจอสังหาฯ ปี 2558: หนี้ครัวเรือน ส่งออก-ท่องเที่ยวทรุด แบงค์ให้กู้ไม่ยั้ง

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส

[attach=1]

ถึงแม้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2557 มากกว่าช่วงครึ่งปีแรกที่มีความอึมครึมทางการเมือง แต่ก็มีสัญญาณเตือนภัยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2558 เกิดขึ้น  ผู้เกี่ยวข้องกับการจัดทำนโยบายและแผน สถาบันการเงิน ผู้ประกอบการ นักลงทุนและผู้ซื้อบ้าน พึงสังวร

         ในตัวเลขช่วง 8 เดือนแรกของปี 2557 (มกราคม - สิงหาคม 2557) ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ได้ประมาณการตัวเลขเปิดใหม่ของโครงการอสังหาริมทรัพย์ตลอดทั้งปี 2557 ไว้ว่า น่าจะมีหน่วยขายเปิดใหม่ 101,901 หน่วย รวมมูลค่า 308,566 ล้านบาท หรือหน่วยละ 3.028 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับปี 2556 ที่มีหน่วยเปิดใหม่ 131,645 หน่วย ที่มูลค่า 385,447 ล้านบาท จะพบว่าในปี 2557 ทั้งปีนี้ จะมีหน่วยขายเปิดลดลงประมาณ 23% และมูลค่าการพัฒนาลดลงประมาณ 20%

         ตามหลักแล้วปี 2558 น่าจะดีกว่าปี 2557 เพราะความวุ่นวายทางการเมืองคงไม่เกิดขึ้น เนื่องจากรัฐบาลและ คสช. ยังประกาศกฎอัยการศึกอยู่ ทำให้การเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับการเมืองไม่อาจเกิดขึ้นได้  และจากประสบการณ์หลังการตกต่ำเพราะน้ำท่วมปี 2554 ก็พบว่า การเปิดตัวโครงการใหม่ของปีถัดไปคือปี 2555 และ 2556 เติบโตเป็นอย่างมาก  ดังนั้น ดร.โสภณ จึงคาดการณ์เบื้องต้นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2558 น่าจะดีกว่า

         อย่างไรก็ตาม ก็มีสัญญาณเตือนภัยเกิดขึ้นชัดเจน ดังนี้

         1. เนื่องจากการประกาศกฎอัยการศึก จึงทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเข้ามาประเทศไทยน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด โดยผู้ประกอบการการท่องเที่ยวพัทยาเริ่มสะท้อนภาพการทรุดหนักของการท่องเที่ยวแล้ว  แม้รัฐบาลจะพยายามชี้แจงว่ากฎอัยการศึกของไทย อาจแตกต่างจากกฎอัยการศึกของสากลที่เขาใช้กันในภาวะสงครามระหว่างประเทศหรือสงครามภายในประเทศ แต่กฎอัยการศึกของไทยไว้ควบคุมการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ไม่ได้อยู่ในระดับสงครามแต่อย่างใด  จากข้อมูล 8 เดือนแรกของปี 2557 นักท่องเที่ยวลดลงถึง 16% หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป จำนวนนักท่องเที่ยวคงหายไป 4 ล้านคน และในความเป็นจริงควรเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2 ล้านคน ดังนั้นก็เท่ากับนักท่องเที่ยวหายไป 6 ล้านคน ทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวหดตัวเป็นอย่างหนัก

         2. หนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้นมาก ทำให้โอกาสการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์จะลดลง กำลังซื้อที่คาดว่าจะมีก็อาจ "เหือดหาย" ไปในปี 2558 ก็ได้  บริษัทพัฒนาที่ดินขนาดใหญ่ที่คาดการณ์ว่าจะเปิดตัวโครงการมากมายในปี 2558 อาจ "ผิดแผน" และต้องปรับตัวใหม่ก็ได้

         3. การส่งออกคงไม่เจริญเติบโต ทำให้เศรษฐกิจไม่มีเงินหมุนเวียนจากต่างประเทศ การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจก็จะยิ่งหดตัวลง  ประเทศจะเจริญได้ต้องอาศัยการส่งออก ไม่ใช่อาศัยนโยบาย "อัฐยายซื้อขนมยาย" อย่างเด็ดขาด  การส่งเสริมการใช้จ่ายภายในประเทศเป็นเพียงนโยบายชั่วคราวแบบ "ไฟไหม้ฟาง"

         4. การอำนวยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ซึ่งในปัจจุบันแข่งขันกันปล่อยกู้กันอย่างมาก  สถาบันการเงินหลายแห่งให้กู้สูงถึง 100% หรือ 110% ของมูลค่าตลาด ซึ่งหากเกิดวิกฤติเงินฝืดขึ้นมา ก็อาจทำให้สถาบันการเงินล้มลงเช่นในยุคก่อนได้

         หากรัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างได้ผลชะงัด นอกเหนือจากการโปรยเงินให้กับภาคเกษตรต่าง ๆ เช่น ชาวนา ชาวสวนยาง และต่อไปคงมีชาวไร่มันสำปะหลัง ชาวไร่อ้อย ชาวสวนผัก ชาวปศุสัตว์ ฯลฯ คงต้องหาวิธีการแก้ปัญหาด้วยการพัฒนาสาธารณูปโภคด้วยการลงทุนจากต่างประเทศบนพื้นฐานสัญญาที่เป็นธรรม โดยไม่กลายเป็นเช่น "ค่าโง่ทางด่วน" ในอดีตที่ผ่านมา

ภาพประกอบจาก http://tcijthai.com/
หาดใหญ่ใหม่ www.facebook.com/hatyaimai
เมืองหลวงภาคใต้ หลากหลายเรื่องราว บอกเล่าแบ่งปัน