ความในใจนักเรียนตาบอดหวังเรียนรัฐศาสตร์ เปลี่ยนกฎหมายให้สังคมน่าอยู่

[ทีมงานบ้านเรา]

ศูนย์ข่าวบ้านเรา - ช่วงนี้เข้าสู่เส้นทางก้าวสู่รั้วมหาวิทยาลัยของนักเรียนมัธยมปลาย  กิจกรรมการติวจึงคึกคักเป็นพิเศษ  โครงการล่าสุดที่เด็กๆกำลังเข้าร่วมขณะนี้คือ  " ทบทวนความรู้สู่มหาวิทยาลัยกับสหพัฒน์"  ครั้งที่  17  ซึ่งเด็กจากหลายโรงเรียนแต่ละจังหวัดของภาคใต้พร้อมใจกันตบเท้าเข้ามาหนาแน่น ในมุมหนึ่งของห้องประชุมขนาดใหญ่  มีเด็กผู้พิการทางสายตารวมอยู่ในนั้นด้วย

[attach=1]

ผู้สื่อข่าวเวปไซต์กิมหยงได้มีโอกาส สอบถามอาจารย์ วรฤทัย  นุริตมนต์  ครูโรงเรียนสอนคนตาบอดภาคใต้  จังหวัดสุราษฎร์ธานี และครูเสริมวิชาการโรงเรียนสุราษฎร์พิทยา ซึ่งมีนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการมองเห็นเรียนร่วมอยู่ในโรงเรียนสุราษฎร์พิทยา โดยนำนักเรียนทั้ง  5  คนที่อาจารย์ต้องรับผิดชอบดูแลเข้าร่วมติวทุกวัน  ตั้งแต่วันที่  6 – 12  ตุลาคม  2557  ณ  ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

อาจารย์วรฤทัย  เล่าว่า  โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมาก เปิดโอกาสให้เด็กทุกคนเติมเต็มความรู้  แนะแนวและเคล็ดลับข้อสอบต่างๆของการสอบเข้ามหาวิทยาลัย จึงทำให้ได้รับความสนใจและความนิยมจากนักเรียน  สำหรับครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3  ที่อาจารย์นำนักเรียนที่บกพร่องทางสายตามาร่วม หลังจากทางผู้จัดโครงการเปิดโอกาส

อาจารย์แนะนำอีกว่า  สำหรับนักเรียนที่ไม่ได้บกพร่องทางด้านร่างกาย  อยากให้สนใจและใส่ใจกับโอกาสดีๆที่มีผู้หยิบยื่นให้  หลายคนปล่อยโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย ไม่สนใจเรียน บางคนนั่งเล่นนั่งคุยนอก บางคนมัวแต่สนใจโทรศัพท์มือถือ  อย่างไรก็ตามอยากให้ทุกคนกอบโดยโอกาสไว้ทุกวินาที  และจะได้รับประโยชน์สูงสุด  อย่างน้อยอยากให้หันมองเพื่อนที่พิการ  ที่มีโอกาสน้อยกว่ามากแต่ก็คว้าโอกาสต่างๆไว้เท่าที่จะทำให้อย่างดีที่สุด 

"อาจารย์ต้องมานั่งเรียน และจดข้อมูลกับนักเรียนด้วย หลังจากกลับไปยังโรงเรียน  จะพิมพ์เป็นอักษรเบล  และทบทวนให้เด็กฟังอีกครั้ง  แม้จะลำบากกว่าปกติก็ต้องทำเพื่ออนาคตของนักเรียน  จะได้สอบเข้าคณะและมหาวิทยาลัยต้องการได้"อาจารย์วรฤทัย  เล่าถึงกระบวนการถ่ายทอดให้นักเรียนผู้บกพร่องทางการมองเห็น

[attach=2]

ด้าน น้องกิ๊บ – น.ส. กนกวรรณ  ศรีช่วง  นักเรียนชั้น  ม.6 ผู้บกพร่องทางการมองเห็น  โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา  กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้มีโอกาสเช่นเดียวกับเพื่อนนักเรียนปกติว่า  ขอบคุณ และดีใจที่ได้รับความรู้  โอกาสดีๆ  เหมือนเด็กทั่วไป จากตรงนี้ทำให้มีความรู้เพิ่มขึ้น  ขอบคุณผู้อำนวยการของโรงเรียนและคุณครูที่ช่วยสนับสนุนงบประมาณในครั้งนี้

น้องกิ๊บ  บอกว่า  ถ้ามีโอกาสต้องการเรียนต่อด้านรัฐศาสตร์การปกครอง  เพื่อศึกษากฎหมาย  สังคม  และวัฒนธรรม  เพราะตนเองมีความต้องการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย  กฎหมายยังมีช่องโหว่ให้ผู้กระทำผิดไม่เกรงกลัวต่อบทลงโทษ

"ปัจจุบันสังคมเสื่อม  คุณธรรมต่ำลง  เนื่องจากบทลงโทษอ่อนเกินไป  ผู้กระทำผิดจึงไม่เกรงกลัว  กระทำผิดอย่างง่ายดาย  ถ้ามีโอกาสหนูอยากเป็น  ส.ว. จะได้มีโอกาสทำในสิ่งที่ต้องการ"  สาวน้อยกล่าวถึงความมุ่งมั่นในหัวใจ  พร้อมทั้งขอร้องให้เพื่อนๆที่มีโอกาสมากกว่าตนเองตั้งใจเรียน  เป็นคนดี  มีโอกาสแล้วควรรีบคว้า  อย่าปล่อยโอกาสดีต่างๆที่เข้ามาในชีวิตหลุดลอยไป  คนพิการ  เพราะผู้พิการทุกคนต้องใช้ความพยายามมากกว่า 2 – 3 เท่า  เพื่อให้มีโอกาสเหมือนคนทั่วไปแม้โอกาสทางการศึกษา  และการทำงานจะมีทางเลือกน้อยและปิดกั้นอยู่ก็ตาม

[บ้านไม้]

ขอเอาใจช่วยให้ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจครับ

[ตาแก่]

ได้อ่านพบข้อความข้างบนแล้วอยากให้เด็กไทย มีแผนการศึกษาเพื่ออนาคต เพื่อโอกาสทางการอาชีพที่สอดคล้องกับตนเอง และอย่างเป็นไปได้ ไม่อยากให้ติดอยู่กับความคิดแบบโลกสวย

[แมวคราว]

นับถือคุณครู
แต่ที่น้องบอกว่า "ปัจจุบันสังคมเสื่อม  คุณธรรมต่ำลง  เนื่องจากบทลงโทษอ่อนเกินไป" ความจริงคือผู้รักษากฏหมาย (ตำรวจไทย) ไม่บังคับใช้กฏหมาย และถ้าจำไม่ผิดสว. ไม่ใช่คนร่างกฏหมาย แต่เป็นสส. นะ สว. ทำหน้าที่กลั่นกรองเฉยๆ จ้า