เขียนถึงทีมรัก วัวชนแดนใต้ สงขลา....

[หาดใหญ่ใหม่]

ขอเขียนตามความรู้สึกนะครับหากท่านใดรู้สึกขัดใจก็ขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วย

นับตั้งแต่สงขลามีทีมบอลระดับจังหวัดในนามสงขลาเอฟซี หรือย้อนกลับยาวไปตั้งแต่ยุคโปรลีก สงขลาถือว่าเป็นทีมที่ไม่ธรรมดาและมีเกียรติประวัติยาวนานที่สุดทีมหนึ่งของประเทศไทยก็ว่าได้

จากทีมคนดูหลักสิบร้อยพันจนถึงหมื่นในยุคสงขลาเอฟซี เวลาอ่านเกียรติประวัติและเส้นทางของทีมแล้วรู้สึกตื่นเต้นและภูมิใจกับทีมนี้มากๆ วันที่สงขลาเลือกก้าวทางลัดด้วยการซื้อสิทธิ์จากบุรีรัมย์ ผมก็ยังสนับสนุนและเห็นด้วยเพราะในเมื่อบอลไทยก้าวสู่ธุรกิจเต็มตัวการซื้อสิทธิ์ก็ไม่เสียหายอะไร

แต่เมื่อไม่ได้ดั่งหวัง บุรีรัมย์เปลี่ยนเป็นสงขลาเอฟซีไม่ได้เราจึงมีวัวชนยูไนเต็ด และสงขลายูไนเต็ดในปัจจุบัน เวลาอ่านประวัติทีมมันช่างสั้นนักบอกแค่ว่าเราซื้อสิทธิ์จากทีมบุรีรัมย์มาเป็นวัวชนเป็นสงขลา ผมไม่แน่ใจว่าผู้บริหารท่านมีแนวทางในการทำทีมสงขลาเอฟซีในลีกภูมิภาคหรือไม่

ทั้ง 2 ทีมคือบริษัท สโมสรฟุตบอลสงขลา จำกัด เจ้าของเดียวกันจะเป็นไปได้ไหมว่าเรากลับมาเลือกทำทีมเดียวทำให้ยิ่งใหญ่ นำเกียรติประวัติที่ยาวนานของฟุตบอลสงขลามาใส่ในทีมปัจจุบัน เปลี่ยนชื่อทีมเป็สงขลา เอฟซี เช่นเดิมหรือจะใช้สงขลายูก็ไม่แปลกแต่เวลาเขียนเกียรติประวัติทีมควรเริ่มตั้งแต่ยุคบุกเบิกของทีมฟุตบอลสงขลาเลยไม่ใช่มาบอกแค่ยุคซื้อทีมอื่นมาสวมสิทธิ์

การกลับมาสู่ลีกวันคือการคืนมาเป็นสงขลาเอฟซียุครุ่งเรือง ภาพของปี 2010-11 อาจกลับมาอีกครั้งหากทีมสงขลาลงสนามพร้อมรูปเกมส์ที่สนุก เป็นทีมหัวตารางและพร้อมที่ก้าวสู่ทีมระดับหัวแถวของประเทศต่อไป ในนามทีมวัวชนแดนใต้ สงขลา.....

ขอบคุณครับ
ต้อม รัตภูมิ วัวชนควนดินแดง

[psk2544]

ชัดเจน เหมือนเนี่ยวไก่เลย จัดเลยท่าน

[หาดใหญ่ใหม่]

[attach=1]

ประวัติสโมสรสงขลา เอฟซี

สโมสรสงขลาถือกำเนิดในปี พ.ศ. 2542 ในปีแรกของการก่อตั้งฟุตบอลโปรวินเชียลลีก จากนั้นก็เล่นวนเวียนอยู่ในโปรลีกเป็นส่วนใหญ่ จนได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็น สงขลา เลเกอร์ส (โดยการแต่งตั้งโดย กกท.) ซึ่งนักเตะยุคแรกที่มีชื่อเสียงได้แก่ สุเมทย์ อัครพงศ์, ธงชัย อัครพงศ์, เกชา สุวรรณรัตน์ จนกระทั่ง ปี 2550 ทีมสงขลา เลเกอร์ ได้กลับมาสู่ลีกระดับชาติได้อีกครั้ง

พ.ศ. 2547 ในปีแรกของการแข่งขันโดยใช้ชื่อทีมเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลซอลเกอร์ลีกภาคใต้ ในนามทีมสมาคมกีฬาจังหวัดสงขลา โดยนายนวพล บุญญามณี เป็นนายกสมาคมกีฬาจังหวัดสงขลาและผู้จัดการทีม

พ.ศ. 2548 การกีฬาแห่งประเทศไทยได้จัดการแข่งขันฟุตบอลอาชีพขึ้นเป็นครั้งแรกและจัดการแข่งขันออกเป็นระดับภาค ทีมสมาคมกีฬาจังหวัดสงขลาโดยนายนวพล บุญญามณี นายกสมาคมกีฬาจังหวัดสงขลาและผู้จัดการทีม ได้ส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันโปรวิเชียลลีก ระดับภาคใต้ ซึ่งทีมสมาคมกีฬาจังหวัดสงขลาไม่ผ่านรอบคัดเลือกระดับภาคใต้

พ.ศ. 2549 ทีมสมาคมกีฬาจังหวัดสงขลา โดยนายนวพล บุญญามณี นายกสมาคมกีฬาจังหวัดสงขลาและผู้จัดการทีม ได้ส่งทีมเข้าแข่งขันโปรวิเชียลลีกระดับภาคใต้ และสามารถเป็นตัวแทนระดับภาคใต้เข้าร่วมการแข่งขันระดับประเทศ แต่ไม่สามารถผ่านรอบคัดเลือกระดับประเทศ

พ.ศ. 2550 ทีมสมาคมกีฬาจังหวัดสงขลา โดยนายนวพล บุญญามณี นายกสมาคมกีฬาจังหวัดสงขลาและผู้จัดการทีม ได้ส่งทีมเข้าแข่งขันโปรวิเชียลลีกระดับภาคใต้ และสามารถเป็นตัวแทนระดับภาคใต้เข้าร่วมการแข่งขันระดับประเทศ สามารถผ่านรอบคัดเลือกระดับประเทศ ขึ้นไปเล่นดิวิชั่น 2 ในฤดูการต่อไป

พ.ศ. 2551 ทีมสมาคมกีฬาจังหวัดสงขลา โดยนายนวพล บุญญามณี นายกสมาคมกีฬาจังหวัดสงขลาและผู้จัดการทีม ได้ขึ้นมาเล่นในไทยลีกดิวิชั่น 2 เป็นปีแรก และสามารถเลื่อนชั้นขึ้นสู่ไทยลีก ดิวิชั่น 1 ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก หลังจากเสมอเทศบาลเมืองสมุทรปราการ 2-2 ส่งผลให้ทีมสงขลาเป็นอันดับที่ 2 ของกลุ่ม A รองจากเทศบาลเมืองปราจีนบุรี

ในปี 2552 ผลงานในช่วงแรกของเหล่า "วัวชนแดนใต้" สงขลา เอฟซี กับการแข่งในระดับดิวิชั่น 1 นั้นไม่ได้เป็นรองทีมอื่นๆ แต่อย่างใด กับฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นด้วยความแกร่งของเกมในบ้านที่มักจะหวังผลเก็บแต้มได้อย่างต่อเนื่องไม่ 1 ก็ 3 แต้มต้องมีแน่กับการเปิดบ้านรับมือคู่แข่งบวกกับแรงเชียร์ของผู้เล่นคนที่ 12 กลุ่มวัวชนบางกอก ที่ส่วนใหญ่จะเป็นชาวสงขลา แต่มาอาศัยอยู่ในเมืองกรุง ต่างก็เข้ามาให้กำลังใจทีมรักเมื่อยามต้องยกพลบุกมาเยือนคู่แข่งที่กรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงซึ่งก็ดูเหมือนอะไรๆ จะเป็นใจให้พวกเขาได้สมหวังกับการสร้างฝันในลีกอาชีพปีแรกกับตำแหน่งที่พวกเขาต้องการนั้นคือจะต้องติดตัวตารางให้ได้ แต่ทว่าการขาดประสบการณ์ของนักเตะส่วนใหญ่ภายในทีมรวมถึงการเจอโปรแกรมอันหฤโหดด้วยการเดินทางบุกไปเป็นทีมเยือนถึง 5 แมตช์ติด ซึ่งก็จะต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเดินทางอันเป็นสาเหตุให้เกิดอาการล้า และทำให้ผลงานของพวกเขาเป็นอันต้องรูดลงอย่างน่าใจหาย แต่สงขลา เอฟซี ก็กลับมากอบกู้สถานการณ์ด้วยการเข้าป้ายจบอันดับที่ 7 โกยแต้มไปได้ถึง 42 คะแนน

พ.ศ. 2553 ทีมสมาคมกีฬาจังหวัดสงขลา โดยนายนวพล บุญญามณี นายกสมาคมกีฬาจังหวัดสงขลาและผู้จัดการทีม ได้เล่นไทยลีกดิวิชั่น 1 เป็นปีที่ 2 และสามารถจบฤดูกาลด้วยอันดับ 4 และทีมสมาคมกีฬาจังหวัดสงขลา ได้จนทะเบียนตั้งแต่เดือนกันยาน 2553 เป็นบริษัท สโมสรฟุตบอลสงขลา จำกัด โดยมีนายนวพล บุญญามณี เป็นผู้มีอำนาจลงนาม

พ.ศ. 2554 8 สิงหาคม สโมสรสงขลา เอฟซีได้ทำลายสถิติมีผู้ชมเข้าชมมากที่สุด ถึง 36500 คน โดยทำลายประวัติศาสตร์ที่ตั้งแต่มีการแข่งขันฟุตบอลอาชีพแห่งประเทศไทย นัดนั้น สงขลา เอฟซี ได้พบกับสโมสร บุรีรัมย์ เอฟซีผล 1-1 ซึ่งปัจจุบันบุรีรัมย์ เอฟซีได้รวมทีมกับสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

พ.ศ. 2555 นิพนธ์ บุญญามณี ได้รับโควตาจากการที่บุรีรัมย์ เอฟซีรวมทีมกับบุรีรัมย์ พีอีเอ เป็นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และนิพนธ์ บุญญามณี ได้จัดตั้งสโมสร วัวชน ยูไนเต็ดขึ้นแทนบุรีรัมย์ เอฟซีที่ยุบทีมไป

[หาดใหญ่ใหม่]

[attach=1]

ประวัติสโมสรสงขลา ยูไนเต็ด

สโมสรก่อตั้งในปี พ.ศ. 2552 ในชื่อ "สโมสรบุรีรัมย์ เอฟซี" โดยมีนางกรุณา ชิดชอบ เป็นประธานสโมสร มีการนำระบบบริหารจัดการสโมสรฟุตบอลอาชีพเข้ามาใช้ การนำวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งของร่างกายนักกีฬา และการจัดระบบกองเชียร์ทั้งทีมเหย้าและทีมเยือน

ฤดูกาล 2553
ในฤดูกาลที่สอง ลีกภูมิภาค ดิวิชัน 2 ฤดูกาล 2553 จบฤดูกาลที่อันดับ 2 ของโซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำสถิติลงแข่ง 30 นัด ชนะ 20 เสมอ 5 แพ้ 5 ยิงประตูได้ 73 ลูก และเสียประตู 28 ลูก พร้อมกับได้สิทธิ์เข้าไปเล่นในรอบแชมเปี้ยนส์ลีก เพื่อหา 4 สโมสรที่จะได้เลื่อนชั้นสู่ดิวิชั่น 1 ในฤดูกาล 2554

บุรีรัมย์ เอฟซี ถูกจัดให้อยู่ในสาย A ร่วมกับเชียงใหม่ เอฟซี, สระบุรี เอฟซี, ม.รังสิต, พิจิตร เอฟซี และตรัง เอฟซี สโมสรชนะแชมป์เปี้ยนส์ลีก สายเอ จากผลงานลงสนาม 10 นัด ชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 1 ยิงได้ 19 ประตู เสียไปเพียง 7 ประตู ได้สิทธิ์เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นในศึกฟุตบอลดิวิชัน 1 ฤดูกาล 2553

ฤดูกาล 2554
ในฤดูกาลที่สาม ไทยลีกดิวิชัน 1 2554 สิ้นสุดฤดูกาลที่อันดับ 1 ทั้งที่ยังไม่จบฤดูกาล ทำสถิติลงแข่ง 31 นัด ชนะ 23 เสมอ 7 แพ้ 1 ยิงประตูได้ 76 ลูก เสียประตู 16 ลูก (24 ธันวาคม 2554) ได้รับสิทธิ์เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2555

ฤดูกาล 2555
ในฤดูกาลที่สี่ เดิมสโมสรบุรีรัมย์ เอฟซี จะควบรวมกับสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ พีอีเอ เปลี่ยนชื่อเป็นสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพเพียงสโมสรเดียวของจังหวัดบุรีรัมย์

ต่อมาในเมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2555 นายเนวินได้เปิดแถลงข่าวว่า ได้ตกลงซื้อสิทธิ์ของบุริรัมย์พีอีเอจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอย่างเด็ดขาดแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องบริหารทีมบุรีรัมย์ เอฟซีต่อไป จึงทำการขายบุรีรัมย์ เอฟซีทั้งหมด 100% ให้กับ สงขลา เอฟซี ของนายนิพนธ์ บุญญามณี โดยให้เหตุผลว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมฟุตบอลในภูมิภาค เนื่องจากภาคใต้เป็นภูมิภาคเดียวที่ยังไม่มีสโมสรฟุตบอลเล่นอยู่ในพรีเมียร์ลีก

หลังจากนายเนวินได้ขายหุ้นของทีม พร้อมกับสิทธิในการเล่นให้กับบริษัท สโมสรฟุตบอลสงขลา จำกัด ทั้งนี้นายนิพนธ์ได้ทำเรื่องเปลี่ยนชื่อสโมสร พร้อมกับยื่นขอย้ายไปอยู่ที่จังหวัดสงขลา ต่อสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย แต่สมาคมไม่อนุมัติโดยให้เหตุผลว่าเป็นทีมจากลีกภูมิภาค จึงไม่สามารถย้ายถิ่นฐานได้ ทางสโมสรได้ขอยื่นอุทธรณ์ ซึ่งหากไม่เป็นผลก็จะทำการบริหารไปสองทีมพร้อมๆ กัน ทั้งในพรีเมียร์ลีก และ ดิวิชั่น 1  และประกาศเปลี่ยนชื่อเป็น สโมสรฟุตบอลวัวชน ยูไนเต็ด และย้ายสนามเหย้าไปที่สนามติณสูลานนท์ จังหวัดสงขลา

ฤดูกาล 2556
จากการที่จังหวัดสงขลา มีสโมสรแข่งขันในลีกหลายทีม ทำให้เกิดปัญหาจำนวนผู้ชมในสนามน้อยและยังแบกรับค่าใช้จ่าย 2ทีมไม่ไหว ทางประธานสโมสรจึงยุบทีม สงขลา เอฟซี ซึ่งตกชั้นไปเล่นดิวิชั่น 2 ปีหน้า ไม่ทำการส่งแข่ง และทำเรื่องขอเปลี่ยนชื่อสโมสรใหม่ กับสมาคมฟุตบอลและบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก เป็น "สงขลา ยูไนเต็ด" ลงทำการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก ปี 2556 ต่อไป[ต้องการอ้างอิง]

[หาดใหญ่ใหม่]

คุณเนวินขายทีมเพื่อต้องการทำทีมเดียวให้เด่นและดีเป็นหน้าตาของจังหวัด คุณนิพนธ์ ก็ไม่จำเป็นต้องทำ 2 ทีมครับทำ 1 ทีมให้ดีโดยในการแนะนำสโมสรควรเขียนมาตั้งแต่ยุคบุกเบิกสงขลา เอฟซี ก่อนจะมาเป็นสงขลา ยูไนเต็ด สิ่งที่นำเสนอคือการอยากเห็นการนำเกียรติประวัติอันยาวนานของทัพวัวชนมาจึกรึกไว้ในทีมที่ดีที่สุดของสงขลา ซึ่งไม่ว่าจะสงขลาเอฟ สงขลายู ก็คือสงขลาทีมบอลของคนสงขลาทุกคนนั่นเองครับ