ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เส้นทาง‘พงศ์พัฒน์’ตำรวจรับใช้ชุมชน

เริ่มโดย หาดใหญ่ใหม่, 16:39 น. 14 พ.ย 57

หาดใหญ่ใหม่

โดย คมชัดลึก www.komchadluek.net
เส้นทาง'พงศ์พัฒน์'ตำรวจรับใช้ชุมชน : โต๊ะข่าวอาชญากรรมรายงาน
             
จากที่คำสั่ง ตร.ที่ 610/2557 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการ โดยให้ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) และ พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ รอง ผบช.ก. ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) โดยขาดจากตำแหน่งเดิม ลงนามโดย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. เมื่อกลางดึกวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ทำให้กลายเป็นประเด็นฮิตติดชาร์ตในสื่อโลกออนไลน์ มีทั้งตั้งปมสงสัยว่าเกิดจากสาเหตุใดและบางส่วนก็ออกทำนองท้วงติงการย้ายครั้งนี้

              พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่า พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ เคยมีผลงานที่เป็นรูปธรรมในการปราบปรามผู้มีอิทธิพล กรณีการจับกุม นายสมชาย คุณปลื้ม หรือ กำนันเป๊าะ ผู้กว้างขวางแห่งภาคตะวันออกมาแล้ว !

              ขณะที่ในแวดวงตำรวจสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ต่างก็จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์และมีจำนวนไม่น้อยที่สงสัยเรื่องการย้าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ และให้น้ำหนักไปในประเด็นการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางที่จะมีขึ้นในเร็วๆ นี้ โดยก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่ามีความเคลื่อนไหวของคนบางกลุ่มที่ต้องการแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายภายในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แต่ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ไม่ยินยอม

              เมื่อพิจารณาถึงเส้นทางของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ในช่วงดำรงตำแหน่ง ผบช.ก. ถือเป็นช่วงที่การทำงานของตำรวจภายในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มีการปฏิรูปภายในองค์กรหลายอย่าง โดยมีนโยบายมุ่งเน้นให้ตำรวจในสังกัดทำงานที่ต้องการแก้ภาพลักษณ์ให้แก่ตำรวจ มีการนำหลักทฤษฎีการทำงานตำรวจสมัยใหม่ และทฤษฎีตำรวจผู้รับใช้ชุมชน มาเป็นแนวทางในการทำงานเพื่อลดความหวาดระแวงของประชาชนที่มีต่อตำรวจ

              อีกทั้งผลการปฏิงานตามหลักทฤษฎีตำรวจผู้รับใช้ชุมชน ได้รับการยอมรับจากประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก จนสามารถขยายพื้นที่ปฏิบัติงานได้เฉพาะในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางกว่า 200 ชุมชน ขณะที่มีการขยายแนวปฏิบัติงานตามทฤษฎีตำรวจผู้รับใช้ชุมชนไปยังพื้นที่ของกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 3 และ 4 ได้รวมกันอีกกว่า 300 ชุมชน ซึ่งพื้นที่ปฏิบัติงานเหล่านี้ทำให้ตำรวจได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากขึ้น ขณะที่ปริมาณการเกิดอาชญากรรมในชุมชนปฏิบัติงานก็เห็นผลลดลงอย่างรวดเร็ว

              ส่วนงานด้านปราบปรามในยุค พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ตำรวจสังกัดกองบัญชาการสอบสวนกลาง มีผลงานการจับกุมคดีสำคัญได้อย่างต่อเนื่อง โดยคดีที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือการจับกุมกำนันเป๊าะ ผู้กว้างขวางแห่งภาคตะวันออก และคดีระดับโลกอย่างการจับกุม นายวิคเตอร์ บูท มาเฟียรัสเซีย พ่อค้าอาวุธระดับโลก นอกจากนี้ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ยังมีบทบาทสำคัญในเรื่องการดูแลสวัสดิการของตำรวจ โดยผลักดันให้จัดสร้างอาคารที่พักอาศัยให้แก่ตำรวจในกองบัญชาการสอบสวนกลางที่ช่วงหนึ่งเกิดสะดุด
[attach=1]

              พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ เกิดเมื่อ 22 เมษายน 2499 ที่ ต.บ้านบ่อ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เข้าโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อปี 2515 เป็นรุ่น ตท.15 จบปริญญาตรี รัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต จากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.31) จากนั้นจบปริญญาโท รัฐศาสตรมหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมทั้งผ่านอบรมหลักสูตรต่างๆ อาทิ การบริหารงานตำรวจ จากวิทยาลัยตำรวจแคนาดา จบการสืบสวนจากวิทยาลัยหน่วยสืบราชการลับ สหรัฐอเมริกา เคยเป็นสารวัตรใหญ่ สน.ท่าพระ สารวัตรใหญ่ สน.ยานนาวา รอง ผกก.สน.บางขุนนนท์ ผู้กำกับการ 1 กองปราบปราม และเติบโตขึ้นจนก้าวมานั่งเก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
หาดใหญ่ใหม่ www.facebook.com/hatyaimai
เมืองหลวงภาคใต้ หลากหลายเรื่องราว บอกเล่าแบ่งปัน

สุภณัฏฐ์

ผมก็มองว่ามันแปลกๆอยู่นะครับ
เด้งระดับนายพลน้ำดีรอบเดียวกัน 3 คน ทั้ง 3 คน เป็นเพื่อนร่วมรุ่นพล.ต.อ.สมยศทั้งหมด
แต่น่าจะเป็นคนละสายการเมือง สายนายหัวกัน
พล.ต.อ.สมยศ ผบ.ตร. มีอายุราชการเหลือ 1 ปี
ไม่มีอะไรโดดเด่นในชีวิตราชการตำรวจ แต่แหวกม่านมาเป็นได้ น่าคิดนะท่านครับ