ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

พระจัดงานศพให้นกเขาใหญ่ เผยความผูกพันที่มีมายาวนานกว่า 15 ปี

เริ่มโดย JaY_SoniC, 17:28 น. 06 ก.ย 54

JaY_SoniC

เรื่องราวความผูกพันระหว่างพระกับนกเขาใหญ่ที่เลี้ยงไว้มานานกว่า 15 ปี จนตายลง และมีการจัดงานศพ และทำพิธีฌาปนกิจเหมือนศพของคนปกติถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 54 ที่วัดป่าขาด ม.2 ต.ป่าขาด อ.สิงหนคร จ.สงขลา

โดย พระวินัย ธัมมวิโร อายุ24 ปี พระลูกวัดป่าขาด ได้นำศพนกเขาใหญ่เพศผู้ชื่อ คุณนกเขา นามสกุล ขันคู ที่เลี้ยงไว้มานานกว่า 15 ปี และเสียชีวิตลงมาประกอบพิธีศพและตั้งบำเพ็ญกุศลไว้ที่ศาลาการเปรียญภายในวัดป่าขาดเป็นเวลา12 วัน และมีการสวดอภิธรรมศพทุกคืนเหมือนกับพิธีศพของคนปกติ โดยได้สร้างมณฑปและหีบศพของนกเขาขึ้นมาอย่างสวยงามเพื่อเป็นเกียรติแก่นกเขาใหญ่ตัวนี้รวมทั้งมีภาพหน้าศพซึ่งเป็นภาพที่วาดขึ้นเขียนข้อความระบุวันที่นกเขามรณะ 23 ส.ค.54 ก่อนที่จะมีพิธีฌาปนกิจศพในช่วงเที่ยงคืนขอวันที่ 5 ก.ย. 54 ที่ผ่านมา โดยมีชาวบ้านมาร่วมพิธีจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเรื่องราวจากพระวินัย ถึงความผูกพันและสาเหตุที่ต้องจัดพิธีศพให้กับนกเขาใหญ่ตัวนี้ โดยพระวินัย เผยว่า รักและผูกพันกับเจ้านกเขา ขันคู ตัวนี้มากเนื่องจากจากเลี้ยงมานานกว่า15 ปีภายในกรง แต่เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 54 ที่ผ่านมา เจ้านกเขาขันคูได้ตายลง เพราะ ความชรา ทีแรกก็ใจหาย เพราะ อยู่กันมาน แต่เมื่อมองร่างนกเขาและย้อนเวลากลับไปเกี่ยวกับชีวิตของมันตนจึงเกิดสำนึกผิดที่กักขังมันมายาวนานให้อยู่แต่ภายในกรง

"แม้ว่าจะเลี้ยงดูอย่างดีแต่มันไม่มีอิสรภาพ ทั้งๆที่มันไม่มีความผิดอะไรจนกระทั่งมันต้องตายคากรงขัง  ถ้าเป็นคนเรียกว่าติดคุกตลอดชีวิต แต่เมื่อมันตายลงความรู้สึกสำนึกผิดชอบชั่วดีและบาปกรรมจึงเกิดขึ้นในใจ จึงได้นำศพของมันมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเหมือนกับคนเวลา12 วัน เพื่อต้องการไถ่บาปและอุทิศส่วนกุศลให้กับมันและเลิกจองเวรจองกรรมต่อกันขอให้จบกันในชาตินี้ และขอให้นกเขาตัวนี้อโหสิกรรมให้กับตน"

พระวินัย กล่าวว่า ในระหว่างการจัดพิธีศพในทุกๆคืนจะมีการสวดอภิธรรมให้กับนกเขาตัวนี้มีชาวบ้านในละแวกวัดรวมทั้งพระเณรมาร่วมพิธีซึ่งขั้นตอนการประกอบพิธีเหมือนกับการจัดงานศพคนทุกอย่าง ก่อนที่จะมีพิธีฌาปนกิจศพเมื่อกลางดึกของคืนวันที่5 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ตั้งจิตภาวนาจะไม่นำนกหรือสัตว์เลี้ยงทุกชนิดมากักขังหรือเลี้ยงดูอีกแล้ว เพราะการตายของเจ้านกเขาขันคูตัวนี้ทำให้ตนคิดได้ว่าสัตว์โลกทุกชนิดก็ต้องการอิสระเหมือนกับคน ถ้าเราโดนกักขังตลอดชีวิตเหมือนกับนกเขาตัวนี้แม้จะมีการอาหารกิน และได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีเราจะรู้สึกอย่างไร และขอให้วิญญาณของเจ้านกเขาขันคูไปสู่สุคติและหมดเวรหมดกันต่อกันชาติหน้ามีจริงก็ขอให้เกิดเป็นคนและอย่างได้เบียดเบียดกันอีกเลย
/////

บ่าวเคว็จ

นั้น ท่านไม่ถ่ายรูปตอนชักผ้าบังสกุลมาให้แลมั่ง

สายไปแล้ว

.


.....เพิ่งมาสำนึก เมื่อนกตายไปแล้ว


ไม่พ้นบาปดอก................... ส.โกรธอย่างแรง ส.โกรธอย่างแรง ส-โห ส-โห ส-โห

พี่หลวงคล่อง

สมัยผมเรียนประถมที่นราธิวาส บ้านอยู่หน้าวัดโรงเรียนอยู่ในวัด เสาร์-อาทิตย์วิ่งเล่นกินอยู่ในวัดเสร็จสรรพ เลยได้เป็นเด็กวัดกลายๆเพราะได้ช่วยพระวิ่งหาซื้อปัจจัยจำเป็น แต่ได้เห็นสิ่งดีๆมากมายเช่นเรื่องการบวช สมัยนั้นใครคิดจะบวชไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อันดับแรกต้องมีศรัทธาที่จะบวช แล้วจึงค่อยหาเวลามากินนอนในวัดเพื่อฝึกท่องมนต์ทีีใช้สำหรับการบวชและฝึกบทสวดมนต์สำหรับกิจวัตรประจำวันของพระ พูดรวมๆก็คือมาฝึก"นิสัยพระ"ให้ชินชาเสียก่อน เมื่อเป็นพระภิกษุสงฆ์แล้วจะได้ไม่ติดขัด บางคนมาอยู่มากินมานอนในวัดหลายเดือนกว่าจะพร้อมที่จะ"เป็นพระ" ฉะนั้นพระสมัยก่อนจะเคร่งในวินัยของสงฆ์ ไม่ค่อยออกมาเดินเพ่ินพ่าน วันๆจะปฏิบัติตามกิจแต่ในกรอบของสงฆ์ ญาติโยมกราบไหว้ได้ไม่เคอะเขิน ไม่ค่อยเป็นข่าวฉาวโฉ่เรื่องแหกกฏระเบียบให้ศาสนาเสื่อมเสีย แม้แต่ธนบัตรยังไม่กล้าจับต้องเลย
ผิดกับสมัยนี้ที่นึกจะบวชพรุ่งนี้มะรืนนี้...เข้าวัดโกนหัวห่มเหลืองเดี๋ยวก็เป็นพระแล้ว สวดไม่เป็นมีคนสวดนำให้ อยูในวัดนอนไม่สบายญาติๆหาแอร์มาติดให้ มีเครื่องเสียงมีคอมพิวเตอร์พร้อม ตกค่ำ..เผลอๆญาติแอบซื้อก๋วยเตี๋ยวราดหน้ามาให้อีกต่างหาก ที่หนักหนาสาหัสคือสมัยนี้มีแต่เรื่องคนทำให้วงการสงฆ์ไทยเสื่อมเสียไม่เว้นแต่ละวัน เมือ่เจอคนหัวโล้นห่มจีวรสีเหลือง ไม่รู้จะเรียกว่า"พระ"หรือ"โล้นห่มเหลือง"กันแล้ว
ถ้าจะสรุปง่ายๆ ไม่เคยมียุคไหนสมัยไหนที่วงการสงฆ์ไทยจะเสื่อมเสียเท่ายุคนี้อีกแล้ว เพราะเราปล่อยปละละเลยมานานเสียจนคนพวกนี้ได้ใจ เห็นวัดเป็นแหล่งทำมาหากินไปแล้ว ที่น่าเป็นห่วงคือเยาวชนรุ่นหลังจะเอาเยี่ยงอย่างจนลืมคำสอนที่เป็นแก่นแท้ของศาสนาพุทธ จนในที่สุด"จะกลายเป็นอีกอาชีพหนึ่งของสังคมไทย"

tayphone

อ้างจาก: พี่หลวงคล่อง เมื่อ 23:05 น.  06 ก.ย 54
สมัยผมเรียนประถมที่นราธิวาส บ้านอยู่หน้าวัดโรงเรียนอยู่ในวัด เสาร์-อาทิตย์วิ่งเล่นกินอยู่ในวัดเสร็จสรรพ เลยได้เป็นเด็กวัดกลายๆเพราะได้ช่วยพระวิ่งหาซื้อปัจจัยจำเป็น แต่ได้เห็นสิ่งดีๆมากมายเช่นเรื่องการบวช สมัยนั้นใครคิดจะบวชไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อันดับแรกต้องมีศรัทธาที่จะบวช แล้วจึงค่อยหาเวลามากินนอนในวัดเพื่อฝึกท่องมนต์ทีีใช้สำหรับการบวชและฝึกบทสวดมนต์สำหรับกิจวัตรประจำวันของพระ พูดรวมๆก็คือมาฝึก"นิสัยพระ"ให้ชินชาเสียก่อน เมื่อเป็นพระภิกษุสงฆ์แล้วจะได้ไม่ติดขัด บางคนมาอยู่มากินมานอนในวัดหลายเดือนกว่าจะพร้อมที่จะ"เป็นพระ" ฉะนั้นพระสมัยก่อนจะเคร่งในวินัยของสงฆ์ ไม่ค่อยออกมาเดินเพ่ินพ่าน วันๆจะปฏิบัติตามกิจแต่ในกรอบของสงฆ์ ญาติโยมกราบไหว้ได้ไม่เคอะเขิน ไม่ค่อยเป็นข่าวฉาวโฉ่เรื่องแหกกฏระเบียบให้ศาสนาเสื่อมเสีย แม้แต่ธนบัตรยังไม่กล้าจับต้องเลย
ผิดกับสมัยนี้ที่นึกจะบวชพรุ่งนี้มะรืนนี้...เข้าวัดโกนหัวห่มเหลืองเดี๋ยวก็เป็นพระแล้ว สวดไม่เป็นมีคนสวดนำให้ อยูในวัดนอนไม่สบายญาติๆหาแอร์มาติดให้ มีเครื่องเสียงมีคอมพิวเตอร์พร้อม ตกค่ำ..เผลอๆญาติแอบซื้อก๋วยเตี๋ยวราดหน้ามาให้อีกต่างหาก ที่หนักหนาสาหัสคือสมัยนี้มีแต่เรื่องคนทำให้วงการสงฆ์ไทยเสื่อมเสียไม่เว้นแต่ละวัน เมือ่เจอคนหัวโล้นห่มจีวรสีเหลือง ไม่รู้จะเรียกว่า"พระ"หรือ"โล้นห่มเหลือง"กันแล้ว
ถ้าจะสรุปง่ายๆ ไม่เคยมียุคไหนสมัยไหนที่วงการสงฆ์ไทยจะเสื่อมเสียเท่ายุคนี้อีกแล้ว เพราะเราปล่อยปละละเลยมานานเสียจนคนพวกนี้ได้ใจ เห็นวัดเป็นแหล่งทำมาหากินไปแล้ว ที่น่าเป็นห่วงคือเยาวชนรุ่นหลังจะเอาเยี่ยงอย่างจนลืมคำสอนที่เป็นแก่นแท้ของศาสนาพุทธ จนในที่สุด"จะกลายเป็นอีกอาชีพหนึ่งของสังคมไทย"

+1  ส.ยกน้ิวให้

ซุปเปอร์ฮีโร่


ทำดีแล้ว

สาธุ พระท่านทำความดี ท่านทำแล้วใจสบายถือว่าได้บุญ ผิดกับนักการเมืองชั่วๆมันจะสร้างแต่กรรมชั่วตลอดชีวิต แม้คนอื่นไม่เห็นแต่ตัวมันเองเห็น พวกมันจะรู้สึกเมื่อมันใกล้จะตายถาม.....ดูได้ ฮา  จงเป็นสุขเป็นสุขเถิดอย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย

ปัจเจกพุทธ


อาจไม่ใช่ตามที่เห็น

.


....ขอประกาศให้คนที่เลี้่ยงนำ เลี้ยงสัตว์ทั้งหลาย ปล่ิอยนก ปล่อยสัตว์ออก

จากกรงโดยด่วน

....ไม่งั้น หากตายแล้วจะมาทำพิธี เสียอกเสียใจ ก็ไม่มีประโยชน์ใดๆหรอก...



............................................. ส.โกรธอย่างแรง ส.บ่น ส.บ่น ส.บ่น

อาจไม่ใช่ตามที่เห็น


กัมมุนาฯ

ทุกวันนี้เห็นคนหัวโล้นห่มเหลือง อย่าซื่อบื้อหลงคิดว่าดีไปเสียหมด จะกราบไหว้ก็ไม่ค่อยแน่ใจ ถ้าเป็นพระแท้ๆไหว้แล้วอิ่มเอิบใจ ถ้าเป็นพระปลอมไหว้แล้ว"เอาคืนไม่ได้"

MrTote

บวชศึกษาพระธรรมและเผยแพร่ธรรมะจะดีกว่าบวชแล้วเลี้ยงนกนะ! ยังมาจัดงานศพให้นกอีก!

สนใจอยากได้

เลี้ยงนกมา  15  ปี  ตอนนี้พระอายุ  24  ปี  แสดงว่าเลี้ยงนกตัวนี้มาตั้งแต่ท่านยังอายุ  9  ขวบ ส.หัว
เมื่อท่านบวชเรียนเมื่ออายุ  21  ปี  ท่านสมควรที่จะปลดปล่อยสัตว์ให้เป็นอิสระไปตั้งแต่ตอนที่ท่านจะเข้าอุปสมบทแล้ว  เพื่อไม่ให้เป็นบาปติดตัวท่าน  ตั้งแต่ท่านเป็น  สมนะ ส.โกรธอย่างแรง
แต่นี่ท่านดันขังมันต่อจนตายคากรง  มาสำนึกตอนนี้มันก็ไม่มีประโยชน์หรอกนะท่าน  กระผมทราบดี  ว่านกที่เลี้ยงมาแต่เล็กๆ  มันไม่มีความสามารถที่จะหากินเองได้  เพราะถูกเลี้ยงดูแบบไม่ต้องหากินเอง  แต่ถ้าปล่อยมันไป  มันก็จะบินวนเวียนอยู่แถวนั้นแหละ  ท่านก็สามารถให้ข้าวให้น้ำมันได้  โดยที่มันเองก็มีอิสระ  แต่ท่านไม่ทำ
กระผมสงสัยว่า  อุปปัชฌาของท่าน  หรือพระที่มีพรรษาสูงกว่าท่าน  ไม่สอนท่านบ้างหรือ ส.งอน  หรือว่าเป็นพระผู้ใหญ่  แต่สอนพระพรรษาน้อยกว่าไม่เป็น  เพราะตนเองก็ไม่รู้  หรือพูดมากก็จะจุดประเด็นส่วนที่ไม่ดีของท่านอีก
งงมาก  พระเลี้ยงนก ส.หัว ส.หัว
ต่อไปในวัดคงมีกรงนกแขวนไว้เต็มวัด ส.แย่จัง
ขนาดที่ทำงานผม  ผมยังถามเพื่อนที่เลี้ยงนกเลยว่า  มันผิดข้อหาอะไร  ตัดสินจำคุก(กรง)มันกี่ปี  นี่ถ้ามันพูดได้  มันคงร้องแรกแหกกระเฌอให้ปล่อยมันไปแล้ว  นี่อะไร...ฟังเสียงนกในกรงร้องไห้  นั่งยิ้มกันจัง  หาว่ามันร้องเพราะ  ที่มันร้องเพราะมันต้องการหาคู่  ตามกฎธรรมชาติของมัน  เมื่อมันถูกขัง  ไม่ได้พบตัวผู้ตัวเมียกันเลย  ถ้าเป็นท่าน  ท่านจะคิดเช่นไร

อนิจจา  มนุษย์...เอาเปรียบสัตว์ทุกอย่างเลย ส.แย่จัง ส.แย่จัง

คุณหลวง

ก็แค่นกเขาท่านตาย  การที่นกเขาท่านตาย อาจเป็นสาเหตุทำให้ท่านบวชต่อไปนานๆก็ได้ครับ  ส-เหอเหอ
สิ่งที่ไม่เหลือคือ  ความสงสัยในวิถีตน
สิ่งที่เหลือคือ  เดินทางต่อไป และต่อไป

mix99

ถามพระองค์นี้ดูที วินัยสงค์มีกี่ข้อ เลี้ยงมา 15ปี บวชพระ น่ะเขาตัดขาดจากโลก ไม่ใช่เจ้ากูโกนหัว ห่มผ้า บอกชาวบ้านว่ากูคือนักบุญ ขอข้าวชาวบ้าน อยากทำอะไรก็ทำ โลกะวัชชะ โลกติเตียน  แล้วยังมาทำซื่อบื้อ ทำบุญงานศพอีก เจ้าอาวาสนั่งญาณอยู่หรือไง  หากวันไหนว่างๆ เห็นหมาตายข้างถนน ก็เอามาสวดศพบ้างจะดีไหม  บอกว่าหมาวัด  อยู่กันมานาน  บวชกันทำไม ห๋า  พระธรรมวินัยเอามานั่งแปลซะบ้าง  ศาสนาถอยทรุดเสื่อมก็เพราะ ไอ้แบบนี้แหละ  โลกต้องช่วยกันติเตียน อย่าเห็นดีเห็นงาม ......อาราธนาพระคุณเจ้า ให้อยู่ในร่มกาสาวพัตร  บวชให้พ่อแม่ได้รับบุญหรืออานิสงค์ที่แท้จริง บุญหรือไม่อยู่ที่การปฎิบัตีดีหรือชอบ เย็นชัดมาม่า ดูวีดีโอเอ็ก ล่อยาบ้า  เข้าหาสีกา  มันเป็นเรื่องที่ต้องคิดและทำ ถามตัวเองกู บวชเพื่ออะไร  บวชทำไม  ใครใช้ให้มาบวช

แฟนเก่าชื่อส้ม

อ้างจาก: คุณหลวง เมื่อ 07:54 น.  10 ก.ย 54
ก็แค่นกเขาท่านตาย  การที่นกเขาท่านตาย อาจเป็นสาเหตุทำให้ท่านบวชต่อไปนานๆก็ได้ครับ  ส-เหอเหอ
เอ่อ นกเขาตัวไหนครับ  ส.แลบลิ้น
ก่อนตายคุณอยากอยู่กับใครเป็นคนสุดท้าย

ช่อ พัทลุง

อยากเป็นข่าวมากกว่า บวชเสียผ้าเหลืองแล้วล่ะพี่หลวง สึกเถอะ สนุกกว่าจัดงานศพให้หมาให้นกเยอะ แม่พี่หลวงเสียฯจะไว้ถึง12วันหรือไม่ก็ไม่รู้

ช่อ พัทลุง

นกเขาพี่หลวงผิดข้อหาอะไร ถึงได้โดนจองจำตลอดชีวิต พระเณรเถนชีน่าจะคิดได้นะ นกอยู่นอกกรงย่อมมีความสุขกว่า
ถ้าเป็นคนนกตัวนี้น่าจะค้ายาฯหรือไม่ก็.........ถึงได้โดนขังลืม ความยุติธรรมอยู่ที่ไหนขอรับ พระเณรฯมาตัดสิ้นชะตากรรมสัตว์ เคยเรียนมั้ย แผ่เมตนตา เคยมั้ยท่านแผ่เมตตา ว่างๆจะไปเยี่ยมพระรูปนี้สักหน่อย

คนไทย

นมัสการพี่หลวงเจ้าของนก พี่หลวงน่าจะศึกษาธรรมให้ซึ้งกว่านี้นะ พระพุทธเจ้าโปรดสัตว์ พี่หลวงวัดป่าขาดทรมารสัตว์
พุทธองค์ชี้ทางธรรมให้สัตว์โลก พี่หลวงวัดป่าขาดชี้ทางนรกให้สัตว์ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร พี่หลวงสร้างเวรเสียเอง พี่หลวงน่าจะถามนักโทษตลอดชีวิตดูว่าอยากอยู่ในคุกมั้ย ความคิดของนกตัวนั้นย่อมมีคำตอบเหมือนนักโทษที่พี่หลวงถาม ไม่อยากจะสอนพระสอนเจ้าหรอกนะ แต่พระบางรูปท่านไม่ยอมสอนตัวเอง เจริญโกอินเตอร์ก็คราวนี้หละพี่หลวง ขอให้ดวงวิญญานนกเขาจงไปสู่สุคติ หากอยู่ที่ทุกข์ก็ขอให้พ้นทุกข์ หากอยู่ที่สุขก็ขอให้สุขยิ่งๆขึ้น

เอือมระอา

บางคนเห็นว่าไม่น่าตำหนิตรงไหน แค่พระรูปหนึ่งอาลัยอาวรณ์สัตว์เลี้ยงที่ตายจากไป ไม่น่าจะเสียหาย ก็เหมือนเราเห็นตำรวจรีดไถ,นักการเมืองโกงกิน,ข้าราชการหนีงาน,พ่อค้าฉวยโอกาส,แม่ค้ายึดทางเท้า,ฯลฯ เพราะเราเห็นจนชินชากลายเป็นเรื่องปรกติไปแล้ว แต่ถ้ามองให้ลึกๆนี่คือปัญหาที่เริ่มจากเล็กไปหาใหญ่ เห็นแล้วเฉยเพราะคิดว่าไม่สำคัญ ต่อไปจะลามปามใครๆก็ทำตาม เพราะทำแล้วไม่มีคนทักว่าผิด แถมทำแล้วได้กับได้ เลยชักชวนกันทำตาม จากส่วนน้อยจนกลายเป็นส่วนใหญ่ของสังคม ถึงเวลานั้นจะแก้ไขก็ลำบากแล้ว เพราะเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยจาก"ผิด"กลายเป็น"ถูก"
พระเดี๋ยวนี้บวชง่ายจริงๆ ไม่รู้เรื่องกฏของสงฆ์ก็บวชได้ และที่น่าเศร้าเกินครึ่งไม่ได้บวชเพราะศรัทธาหวังศึกษาพระธรรมหรือเผยแพร่ศาสนา แต่มาบวชเพื่ออะไรลองไปถามดู?

คุณหลวง

อ้างจาก: แฟนเก่าชื่อส้ม เมื่อ 09:06 น.  12 ก.ย 54
  เอ่อ นกเขาตัวไหนครับ  ส.แลบลิ้น

ส.หลกจริง ก็ไม่รู้จะพูดว่าไงครับ นกเขาท่านตายแล้ว แม่ยก แม่ม่ายที่หลงใหลพระจงทราบครับ  แต่..ตัวไหนหว่า ตามข่าวว่ามีหลายตัวหรือครับพี่แฟนเก่าชื่อส้ม    ส-เหอเหอ ส-เหอเหอ ส-เหอเหอ
สิ่งที่ไม่เหลือคือ  ความสงสัยในวิถีตน
สิ่งที่เหลือคือ  เดินทางต่อไป และต่อไป

ปิ่น

คนเราเผลอเรอ รู้เท่าไม่ถึงการกันได้ ท่านก็ยอมรับผิดแล้วจะมาซ้ำเติมอะไรหนักหนา  ให้อภัยเถอะพวกท่าน ๆ ทั้งหลาย  อย่าซ้ำเติมเลยนะ ผิดแล้วก็ยังมีจิตสำนึก ยังทัน  คิดเสียว่านกตัวเนี้ยะ เคยผูกพันมาด้วยกันแหละไม่งั้นไม่โดนขังลืม  แต่ก็ยังดีนะที่ท่านยังมีเมตตาเลี้ยงดูอย่างดี ไม่ปล่อยให้อดอยาก นกคงหมดเวรแค่นี้แหละเคยเป็นเจ้ากรรมนายเวรมาก่อนแล้ว ชาตินี้ก็ต้องชดใช้  พวกท่าน ๆ ทั้งหลายที่ตำหนิพระ ที่เลี้ยงนกขังลืมก็คงเคยสร้างเวรสร้างกรรมไว้กับพระเหมือนกันการติหนิพระผลของมันก็คือ จะทำมาหากินไม่ขึ้น ทำแล้ว เจ๋ง ๆๆๆ คิดเสียว่าเคยสร้างเ คยผูกพันมาด้วยกัน มันเป็นเรืองของพระท่านไม่ใช่เรื่องของเรา  กติกามีอยู่ว่า ทำดีย่อมได้ดี  ทำความชั่วย่อมได้ชั่ว   ผิดแล้วยอมรับผิด โลกสรรเสริญ  อย่ากระหน่ำซ้ำเติมอีกเลยนะท่าน น่ะ ! ให้อภัยนะ