ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

บทความแปล: วิกิลีกค์, พลเอกเปรม และ การกระทำรัฐประหาร

เริ่มโดย ปชปหัวก้าวหน้า, 13:05 น. 10 ก.ย 54

ปชปหัวก้าวหน้า

บทความแปล: วิกิลีกค์, พลเอกเปรม และ การกระทำรัฐประหาร

อ้างอิง: http://thaipoliticalprisoners.wordpress.com/2011/09/04/wikileaks-prem-and-the-coup/
โพสต์ในอินเตอร์เนท เมื่อวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2554

http://img171.imageshack.us/img171/4681/ppt09042011.png

แปลโดย: ดวงจำปา

ในการลงบทความอย่างต่อเนื่องของ PPT เกี่ยวกับเคเบิ้ลของวิกิลีกค์ เราได้วิเคราะห์ถึงเคเบิ้ล ซึ่งเขียนโดยเอกอัครราชฑูต ราล์ฟ บอยซ์ เมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งอ้างอิงถึงการเยี่ยมเยือนของเขาเพื่อที่จะพบกับ ประธานคณะองคมนตรี พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งเป็นเวลาเพียงไม่กี่วันหลังจากที่ฝ่ายทหารได้กระทำการรัฐประหาร เอกอัครราชฑูตบอยซ์ ได้เริ่มสาธยายให้กับทางการของประเทศสหรัฐอเมริกา ณ กรุงวอชิงตันทราบถึง การเยี่ยมเยือนของเขากับ พลเอกเปรมว่า " เมื่อวันที่ 25 กันยายน ได้อธิบายว่า ผมต้องการที่จะไปเยี่ยมเยียน ดูสุขภาพความเป็นอยู่ของท่าน จากที่ได้รับรายงานของเหตุการณ์ตอนกลางคืนของการรัฐประหารว่า (นายกรัฐมนตรีซึ่งถูกขับไล่ออกไป) ทักษิณ (ชินวัตร) กำลังพยายามที่จะดำเนินการจับกุมพลเอกเปรม" ในขณะที่มีการกระทำรัฐประหารนั้น นายกทักษิณ ยังอยู่ที่กรุงนิวยอร์ค

เอกอัครราชฑูตได้เผยว่า : "ดูมีอารมณ์ผ่อนคลาย, มีความเชื่อมั่น และมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พลเอกเปรมยืนยันกับผมว่า เขาสบายดี"

เรื่องอื่นๆ เท่าที่เคเบิ้ลฉบับนี้ได้อ้างอิงไว้ก็คือ การสนทนาที่เอกอัครราชฑูตบอยซ์ได้มีกับ อดีตโฆษกของรัฐบาลนายกฯ ทักษิณ คือ คุณบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ซึ่งหลังที่ได้หยุดสงบปากสงบคำลงไป เนื่องมาจากความกดดันจากองคมนตรีท่านหนึ่ง ก็ได้เปลี่ยนข้างและในขณะนี้ ก็อยู่ใกล้ชิดกับบุคคลบางคนซึ่งเป็นผู้วางแผนการกระทำการรัฐประหารด้วย

คุณบวรศักดิ์ได้กล่าวกับเอกอัครราชฑูตบอยซ์ว่า รัฐบาลทหาร (ซึ่งเอกอัครราชฑูตบอยซ์ชอบที่จะเรียกว่า คปค, หรือ คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข, อย่างที่ฝ่ายรัฐบาลทหารเรียกชื่อนี้ในตอนแรก) จะไม่แต่งตั้ง "นายกรัฐมนตรีที่เป็นพลเรือน จนกระทั่งถึงกลางสัปดาห์แรกในเดือนตุลาคม"

เอกอัครราชฑูตบอยซ์ "ได้ย้ำกับพลเอกเปรมว่า ทางสังคมนานาชาติกำลังจ้องมองดูอย่างขมักเขม้นและทาง คปค จะถูกวิจารณ์เป็นอย่างหนัก ถ้าเกินเวลาสองสัปดาห์ตามที่ฝ่ายตนเองได้วางกำหนดไว้ ในการเปลี่ยนผ่านการปกครองไปสู่พลเรือน พลเอกเปรมได้ชี้แนะกับผมว่า ให้เริ่มนับวันตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน แทนที่จะเป็นวันที่ 19 กันยายน เพราะทางฝ่าย คปค เองก็จะต้องยืดเวลาออกไปให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อที่จะสั่งงานต่างๆ ให้เป็นตามลำดับความเหมาะสม

ไม่มีความน่าสงสัยอะไรเลย ที่ในขณะนั้น พลเอกเปรมก็คงจะมีความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ เพราะในที่สุดแล้ว ทางฝ่ายทหารก็หวนกลับคืนขึ้นมาสู่อำนาจ และตัวนายกฯ ทักษิณ ซึ่งเป็นที่จงเกลียดจงชังนั้น ก็ได้ถูกเขี่ยออกไปแล้ว และต้องถูกเนรเทศอย่างเป็นผลตามที่หวังไว้ ซึ่งหมายความว่า กิจการงานทุกอย่าง ที่พลเอกเปรมได้กระทำลงไป เพื่อที่จะให้ทางฝ่ายกองทัพเข้ามาอยู่เคียงข้างต่อการกระทำรัฐประหารนั้น ได้เกิดผลสำเร็จงดงามอย่างคุ้มค่าจริงๆ



ความเห็นของผู้แปล:

ตกลงประเทศไทยก็พังเพราะบุคคลเหล่านี้จริงๆ เนื่องจากความเกลียดชังเป็นส่วนตัว รวมถึงการอิจฉาริษยาที่คนอื่นเขาทำได้ดีกว่า

บุคคลเหล่านี้มีความคิดคร่ำครึ ไม่ชอบให้ใครมาวัดรอยเท้า ต้องเก่งน้อยกว่าเท่านั้น

อย่างนี้ ประเทศชาติมันถึงไม่ไปไหนกัน

ประเทศชาติจะเจริญได้ ก็ต่อเมื่อรัฐบาลปัจจุบันทำผลงานได้ดีกว่ารัฐบาลในอดีต มันจะเป็นการปฎิรูปประเทศ สร้างฐานให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

การเชียร์การล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน กลับเป็นสิ่งที่ชอบธรรม

รวมทั้งการหาข้อมูลข้างเดียว จากทางฝ่ายเอกอัครราชฑูตของประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย

เรื่องขาวจึงกลายเป็นดำ ดำก็กลายเป็นขาว มันได้เกิดขึ้นหลังจากวันที่ 19 กันยายน นั่นเอง

น่าจะรณรงค์ให้เป็น "วันตาสว่างแห่งชาติ" กันนะคะ...

ดวงจำปา