มินิรีวิวหนังต้องห้ามแบบสุดๆของโลก : The Interview / 2014

[คุณาพร.]

มินิรีวิวหนังต้องห้ามแบบสุดๆของโลก  :  The Interview / 2014 

คือ.. หนังเเนวตลก-เสียดสี ที่อันตรายที่สุดในโลก ( ณ ห้วงเวลานี้)

The Interview / 2014 : เป็นภาพยนตร์แนวตลก ผลงานการเขียนบทและกำกับของ ของ เซธ โรเกน กับ Evan Goldberg นำแสดงโดย เซธ โรเกน และ เจมส์ ฟรังโก้ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์ของนักข่าวที่เคยเดินทางไปทำงานในเกาหลีเหนือ

The Interview (เรื่องย่อ) พิธีกรทอล์กโชว์ และทีมงานคนหนึ่งที่เดินทางเข้าเกาหลีเหนือเพื่อสัมภาษณ์ผู้นำหนุ่ม คิมจองอึน แต่แล้วพวกเขากลับได้รับคำสั่งจาก CIA ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับแผนลอบสังหารผู้นำของเกาหลีเหนือ ทั้งคู่จึงตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าข่ายไม่ออก และเริ่มจะรู้สึกว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตรายจากทั้งทาง CIA และเกาหลีเหนือ (อ้างอิงข้อมูลจาก : http://movie.bugaboo.tv)

เกาหลีเหนือยั๊วะ! อเมริกาสร้างหนัง the interview ลอบฆ่าผู้นำ คิมจองอึน : ไม่รู้ว่าจะกลายเป็นหนัง ฉนวนสงคราม เกาหลีเหลือและสหรัฐอเมริกาหรือเปล่า กับหนังตลก สัญชาติอเมริกา "The interview" จากค่าย Columbia Pictures นำแสดงโดย "เซ็ธ โรแกน" และ "เจมส์ แฟรงโก"  ที่มีเรื่องราวการลอบสังหาร คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ที่ทันทีที่เกาหลีเหนือทราบข่าวหนังเรื่องนี้ก็ของขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย และกล่าวผ่านตัวแทนรัฐบาลเกาหลีเหนือว่าพวกเขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก หากนำออกฉาย ทางเกาหลีเหนือไม่อาจยอมรับได้ และจะตอบโต้กลับอย่างไร้ความปราณี อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์ The interview มีกำหนดฉายในเดือน ต.ค.นี้ และได้มีคลิปตัวอย่างปล่อยออกมาแล้ว พร้อมกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมาย (อ้างอิงข้อมูล : http://movie.sanook.com)

ระงับการฉายแล้ว The Interview หนังลอบฆ่าผู้นำเกาหลีเหนือสุดป่วน : หลังจากเป็นหนังที่เป็นจุดกำเนิดทำให้ค่ายหนังผู้สร้างอย่าง Sony ต้องโดนแฮ็คจนทำเอาโปรเจคต์อื่นวุ่นไปด้วย รวมไปถึงการปล่อยข้อมูล อีเมล ของเหล่าพนักงาน และ ผู้บริหาร จนทำเอาความลับทั้งหมดรั่วออกมาหมด รวมถึงบทของ เจมส์ บอนด์ ภาคล่าสุดด้วย

และตอนนี้ก็ดูเหมือนจะถึงจุดจบของเรื่องราวทั้งหมดเสียที เมื่อล่าสุด Sony ได้ขอประกาศระงับการฉาย The Interview หนังลอบฆ่าผู้นำสุดป่วนของ เซ็ธ โรเจ้น และ เจมส์ ฟรังโก้ ไปแล้ว หลังจากได้โดนอีเมลคำเตือนครั้งล่าสุด ที่ขู่ว่าถ้าหากโรงหนังไหนฉาย The Interview จะไม่รับรองความปลอดภัย และอาจจะเกิดความอันตรายในระดับเดียวกับตอน 11 กันยายนอีกด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้น หลังจากที่อีเมลขู่เผยแพร่ออกไป โรงหนังกว่า 3 ใน 4 ของสหรัฐก็ประกาศยกเลิกการฉายหนังเรื่องนี้ทันที หลังจากเคยมีโปรแกรมจะเข้าฉายรับ คริสต์มาสต์ ปีนี้

จนทำให้ตอนนี้ Sony จึงขอประกาศระงับการฉายหนังเรื่องนี้ โดยเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดว่าชะตากรรมของหนังจะได้ฉายเมื่อไหร่ ซึ่งจากการแฮ็คครั้งนี้ทำให้มันกลายเป็นหนังที่เป็นจุดกำเนิดเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเรื่องนึงเลยก็ว่าได้ และจากการกระทำครั้งนี้ก็ดูเหมือนว่าจะรู้แน่ชัดแล้วว่าแฮ็คเกอร์คนนี้คงเป็นคนของ เกาหลีเหนือ แน่นอน หลังจากเคยได้ปฏิเสธไปครั้งนึง แต่อย่างไรก็ตาม ใครยังไม่ได้ดูตัวอย่าง หรือรู้จักหนังเรื่อง The Interview สามารถคลิกชมได้ด้านล่างเลย (อ้างอิงข้อมูล : http://movie.mthai.com/movie-news/168827.html )

**** ทัศนะส่วนตัวของผู้เขียนหลังจากชม The Interview / 2014
// ผู้เขียนได้ลิ้งรับชมออนไลน์หนังเรื่องนี้มาเมื่อราวช่วงบ่ายแก่ๆของวันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมานี้เอง หลังจากรับชมจนจบ...  The Interview / 2014 เป็นหนังแนวตลก-เสียดสี ความยาวทั้งเรื่องประมาณ 1.12 ชั่วโมง หลายฉากในหนังแอบแฝงมุกตลกร้าย (Black Comedy) ลงไปชนิดที่คนดูคาดไม่ถึงว่าคุณผู้กำกับจะกล้าเล่นและกล้าทำขนาดนี้ (ซึ่งจะไม่ขอกล่าวใดใดทั้งสิ้น...)  โดยภาพรวม..หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่มีฉากการถ่ายทำสวยงาม การดำเนินเรื่องไม่ชักช้ายืดยาด รวดเร็วฉับไวเข้าใจง่าย ฉากอลังการดี  โดยเฉพาะฉากที่ท่านผู้นำขึ้น ฮ.ติดอาวุธหนัก รบกับรถถังของ 2 นักข่าวอเมริกันในช่วงท้ายเรื่อง..ทำออกมาได้ยิ่งใหญ่อลังการ สมแล้วที่มีบริษัท Sony เป็นนายทุนใหญ่หนุนหลัง  ฉากตลกขบขันก็ตลกจริงๆ อาทิ ฉากเจอหมา (เสือ) ในสนามข้างที่พักของสองนักข่าว และอีกหลายๆฉาก ฯลฯ 

ถึงแม้นหนังเรื่องนี้จะถูกจัดไว้ในหมวดหมู่ "หนังตลกเสียดสี" แต่เนื้อในจริงๆกลับแอบแฝงฉากโหดไว้อย่างน่าตกใจ เช่น ฉากที่นายทหารท่านหนึ่ง (ในงานเลี้ยงที่มีเด็กน้อย 3 คนนั่งดีดกีต้าร์) นายทหารท่านนี้เกิดอาการบางอย่างขึ้นกับร่างกาย ตัวสั่น ใช้ปืนพกจ่อ-ระเบิดสมองตัวเองจน...เลือดกระฉูดงาน กระฉูดใส่หน้านายทหารท่านอื่นๆ รวมถึงเด็กๆและสองนักข่าว...ฉากนี้โหดจริงๆนะ! (และไม่น่าที่จะมีในหนังตลกได้)

อย่างไรก็ตาม.... The Interview / 2014 มีจุดขายอันตรายแบบถึงที่สุดตรงที่เล่นประเด็นการลอบสังหารท่านผู้นำของประเทศๆนั้น (แหล่ะ) ตรงนี้อันตรายตัวจริงเสียงจริงเลย  การที่หนังเล่าเรื่องแบบ "ทำให้เห็นภาพ" เเละตีเเผ่ด้านมืดเเบบสุดขั้ว-มโนออกมาให้คนดูได้เห็น...อันนี้น่ากลัวนะ  เพราะคนดูจะได้รับรู้เรื่องราว และภาพที่แสดงอย่างเด่นชัด  หลายฉาก...ที่มันไม่เหมาะสม หนังก็จับใส่ลงไป คิดว่าทาง Sony คิดถูกแล้วล่ะที่ไม่เอาหนังเรื่องนี้เข้าฉายในโรง เพราะถึงหนังจะดูสนุก แต่บางประเทศคงไม่สนุกด้วยเป็นแน่ที่เอาผู้นำสูงสุดของตนไปเล่นซะ... 

อนึ่ง  ฉากจบของหนัง คนดูจะได้ยินเสียงเพลง Wind of Change ของวง Scorpions ลอยแว่วมาตามลมบน.... (โอ้ยยยย...ขนลุกอีกแล้ว!)