ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

รอบปี 57 เปลี่ยนผ่านสู่ปีมะแม

เริ่มโดย ทีมงานบ้านเรา, 11:45 น. 30 ธ.ค 57

ทีมงานบ้านเรา

[attach=1]

ภายหลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ประเดิมคืนความสุขจ่ายเงินทุกเมล็ดถึงมือ "ชาวนา"เป็นผลพวงจากโครงการประชานิยมที่กดดันรัฐบาลก่อนร่วมปีใน "โครงการรับจำนำข้าว"ทุกเมล็ด ราคา 1.5 หมื่นบาทต่อตัน จากนั้นภายใต้การบริหารประเทศของคสช.เดินหน้าเร่งจัดทำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายปี 2558 และเป็นการส่งไม้ต่อการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณในไตรมาส 2 (ม.ค.-มี.ค.58) รับศักราชใหม่

ขึ้นค่าครองชีพขรก.ชั้นผู้น้อย
    มาตรการตอบแทนข้าราชการ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจร่วมปฏิรูปประเทศ โดยกระทรวงการคลังผลักดันให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติเพิ่มค่าครองชีพข้าราชการชั้นผู้น้อย โดยการันตีรายได้ขั้นต่ำที่ 1 หมื่นบาท และ สูงสูดที่ 13,385 บาท ตามลำดับขั้นของแต่ละคน ให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยกลุ่มที่เข้าข่ายได้รับปรับเพิ่มค่าครองชีพมีจำนวนประมาณ 3.8 แสนราย
   
     ขณะที่ วงเงินงบประมาณที่ใช้จะอยู่ที่ประมาณ 1.5 พันล้านบาทต่อปี  โดยจากก่อนหน้าคสช. มีแนวคิดที่จะปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการทั้งระบบ   แต่การดำเนินการดังกล่าวจะต้องใช้วงเงินงบประมาณค่อนข้างสูง ขณะที่รัฐบาลมีข้อจำกัดในแง่งบประมาณรายจ่าย  แม้จะมีการตัดวงเงินรายจ่ายประจำของหน่วยงานต่างๆ แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะรองรับได้ ประกอบกับรัฐบาลมีแนวคิดที่จะใช้งบประมาณในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านช่องทางต่างๆ แนวคิดการขึ้นเงินเดือนทั้งระบบจึงชะลอออกไป

แกะ 6 กล่องของขวัญคลัง คืนความสุขรับปีใหม่
    นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง มอบของขวัญปีใหม่2558 แก่ประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล ผ่านการปรับลดภาษีแก่ผู้ประกอบธุรกิจเอสเอ็มอี และ ลดดอกเบี้ยแก่สินเชื่อรายย่อย พร้อมคลอดมาตรการหนุนสินเชื่อรายย่อยผ่านการอนุมัติให้เอกชนสามารถเข้ามาจัดตั้งบริษัทเพื่อประกอบธุรกิจสินเชื่อเพื่อธุรกิจเรียกว่า "นาโนไฟแนนซ์"
   
    ทั้งนี้ "แวดวงการเงินการคลังและประกัน" เหตุการณ์สำคัญๆ ที่เป็นปรากฏการณ์หลากหลายในรอบปี 2557 จึงรวบรวมคัดเลือกเฉพาะประเด็นเด่นที่มีผลในเชิงเศรษฐกิจและสังคมไทยในช่วงที่ผ่านมา อีกทั้งยังเป็นปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า
   
     เริ่มจาก การดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่านมามีการผ่อนคลายต่อเนื่อง และยังตอบรับสถานการณ์เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงทั้งจากปัจจัยทางการเมืองภายในและปัจจัยวิกฤติเศรษฐกิจจากต่างประเทศ โดยเฉพาะเศรษฐกิจของประเทศแกนหลักของโลกยังฟื้นตัวช้าส่งผลให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 1 ครั้ง โดยยืนอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2.00%ต่อปี แม้กระทั่งผลประชุมครั้งส่งท้ายบอร์ดกนง.ให้เหตุผลว่าภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และสัญญาณการใช้จ่ายภาคเอกชนมีทิศทางดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3/2557
   
     อย่างไรก็ตาม ระบบการเงินโดยรวมมีเสถียรภาพและระบบธนาคารพาณิชย์มีผลการดำเนินงานดีจึงยังสามารถขยายสินเชื่อเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่คุณภาพสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ที่ด้อยลงโดยเฉพาะสินเชื่ออุปโภคบริโภค จากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สะสมมาก่อนหน้าทำให้การบริโภคฟื้นตัวช้า   เหล่านี้สะท้อนการประสานนโยบายการเงินโอบอุ้มเศรษฐกิจช่วงที่นโยบายการคลังไม่ให้ประสิทธิผลมากนัก แต่การดำเนินนโยบายการเงินยังต้องคำนึงถึงทิศทางของกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายที่จะสร้างความผันผวนตลาดเงินโลกจากทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของประเทศแกนหลัก
   
     ขณะที่ความท้าทายการดำเนินนโยบายการคลังยังคงอยู่ในห้วงของการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ หลังจากไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2558(ต.ค.-ธ.ค.57)ณ วันที่ 19 ธันวาคมมีผลเบิกจ่ายเพียง 6.64 แสนล้านบาท คิดเป็น 25.85% จากช่วง 3 เดือนแรกตั้งเป้าเบิกจ่ายไว้ 8.2 แสนล้านบาท คิดเป็น 32%ของงบประมาณรายจ่ายทั้งปีที่ 2.575 ล้านล้านบาท และงบลงทุนเบิกจ่ายได้เพียง 3.16 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 7.12% ของรายจ่ายลงทุนที่ตั้งไว้ 4.45 แสนล้านบาท โดยทั้งปีสำนักงบประมาณยังล็อกเป้าเบิกจ่ายให้ได้ 96% และเบิกจ่ายงบลงทุน 87% ดังนั้นเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวมากน้อยหรือราบรื่นขึ้นอยู่กับแรงหนุนที่ต่อเนื่องจากนโยบายด้านการเงินและการคลังโดยเฉพาะการเบิกจ่ายและการลงทุนภาครัฐในระยะข้างหน้า
   
      ด้านตลาดประกันวินาศภัยและประกันชีวิต ในรอบปี 2557 มีเบี้ยรวมกว่า 7 แสนล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโตที่ 10% แบ่งเป็นเบี้ยประกันชีวิตกว่า 5 แสนล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 13-14% ที่เหลือเป็นเบี้ยรับฟากวินาศภัย 2 แสนล้านบาทเศษ อัตราเติบโต 3% ซึ่งปีหน้าตลาดประกันประเมินการเติบโตไว้ประมาณ 10% โดยค่ายวินาศภัยประมาณ 5-6% ประกันชีวิต 10%โดยมีปัจจัยที่เป็นแรงหนุนทั้งโครงการลงทุนภาครัฐ หรือกฎระเบียบของภาครัฐ เช่น การจัดเก็บภาษีมรดก,หรือการลดความคุ้มครองเงินฝากเหลือ 25 ล้านบาทจากปัจจุบันอยู่ที่ 50 ล้านบาทต่อบัญชีต่อสถาบัน  รวมถึงการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมผู้สูงอายุ  และการลดหย่อนจากเบี้ยประกันชีวิตที่สูงถึง 3 แสนล้านบาท สำหรับทิศทางสินค้าประกันชีวิตปี2558 สินค้าประเภทบำนาญยังเป็นทางเลือกสำหรับเตรียมค่าใช้จ่ายเพื่อวัยเกษียณ, สินค้าประกันสุขภาพ เนื่องจากการปรับขึ้นค่ารักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่อง หรือสินค้าเพื่อการลดหย่อนภาษีและยูนิตลิงค์/สินค้าพ่วงการลงทุน เป็นต้น   

มอบดาบ ธปท. คุมแบงก์รัฐ
    ท่ามกลางความล้มเหลวในการบริหารงานสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ  หรือเอสเอฟไอ (SFIs) อย่างธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) และ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย(ธอท.หรือไอแบงก์)ซึ่งเต็มไปด้วยปัญหาและหนี้ด้อยคุณภาพ   สาเหตุหลักมาจากการปล่อยสินเชื่ออย่างขาดความรอบคอบรัดกุม  และเต็มไปด้วยข้อครหาว่ามีการสมรู้ร่วมคิดอย่างไม่สุจริตเกิดขึ้นหรือไม่
   
ด้วยเหตุนี้คณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.)หรือ ซูเปอร์บอร์ดมีมติให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)เข้าไปกำกับดูแลเอสเอฟไอเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยขึ้น  คือ ธปท.สามารถสั่งการแก้ไขปัญหารวมถึงร้องทุกข์กล่าวโทษผู้บริหารจากเดิมที่เป็นเพียงผู้ตรวจสอบ  แต่ยังมีเงื่อนให้กระทรวงการคลังเป็นผู้สั่งแก้ไข  จึงอาจทำให้การแก้ปัญหาและเป้าประสงค์ที่จะกำกับดูแลเอสเอฟไอบนมาตรฐานเดียวกับแบงก์พาณิชย์อาจไม่ทันกาล

"ปฏิรูปภาษี"ผลงานเด่นกระทรวงการคลัง
ในยุครัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง "สมหมาย  ภาษี"  เดินหน้า "ปฏิรูปภาษี" ตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาลที่ต้องการมุ่งกระจายรายได้และลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางด้านรายได้แก่สังคม   เปิดฉากด้วยการผลักดัน "ร่างกฎหมายภาษีมรดก"  ควบคู่กับการเตรียมผลักดัน "ร่างกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง"  หรือ "การปรับแก้ประมวลกฎหมายภาษีสรรพสามิตและศุลกากร"  และ "การเสนอปรับขึ้นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)"  ที่ปัจจุบันจัดเก็บในอัตรา 7% เพิ่มอีก 1% เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการจัดเก็บในอัตรา 7% ในสิ้นเดือนกันยายน 2558

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 3,013  วันที่  28 - 31 ธันวาคม  พ.ศ. 2557
สนับสนุนการขับเคลื่อนโดย
- ฮอนด้าพิธานพาณิชย์-อริยะมอเตอร์ www.phithan.co.th/hondaphithan
- ปาล์มสปริงส์ & ซิตี้รีสอร์ท บ้านและคอนโดคุณภาพจากเครืองศุภาลัย www.hatyainakarin.com
- ธีระการช่าง หาดใหญ่ (เยื้องบิ๊กซีคลองแห) โทร 086-4910345 www.facebook.com/teerakarnchanghy
- เอนกการช่าง ผู้นำการพัฒนาเครื่องจักรกลเกษตร โทร 081-7382622 www.an-anek.com/contact.php
รีวิวธุรกิจ เกาะติดบ้านเมือง ร้อยเรื่องท้องถิ่น TLP 0897384215