ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เปิดหลักเกณฑ์คืนภาษี รถคันแรก

เริ่มโดย AaWw, 01:27 น. 15 ก.ย 54

AaWw

 อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ใครจะเดินเข้าไปเลือกซื้อรถยนต์ เพื่อรับสิทธิ์คืนภาษีแล้ว ผู้ซื้อต้องตรวจสอบหลักเกณฑ์ของนโยบายนี้ให้แน่ชัดเสียก่อน เพื่อพิจารณาให้ดีว่า เราเข้าข่ายได้รับสิทธินี้หรือไม่ ซึ่งหลักเกณฑ์นโยบายรถคันแรก มีดังนี้

          1. ต้องเป็นรถยนต์คันแรกของผู้ซื้อ

          2. ต้องทำสัญญาซื้อขายรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน พ.ศ.2554-31 ธันวาคม พ.ศ.2555

          3. เป็นรถยนต์ราคาขายปลีกไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อคัน

          4. เป็นรถยนต์นั่ง ขนาดความจุกระบอกสูบไม่เกิน 1,500 ลูกบาศก์เซนติเมตร/รถกระบะ (Pick up)/รถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก (Double Cab)

          5.เป็นรถยนต์ที่ผลิตขึ้นในประเทศ ไม่รวมถึงรถยนต์ที่ประกอบจากชิ้นส่วนนำเข้าใช้แล้วจากต่างประเทศ (รถยนต์จดประกอบ)

          6. คืนเงินเท่ากับค่าภาษีตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อคัน

          7. ผู้ซื้อต้องมีอายุ 21 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

          8. ผู้ซื้อต้องครอบครองรถยนต์ไม่น้อยกว่า 5 ปี หากผู้ซื้อรถไม่สามารถผ่อนต่อได้ หรือมีเหตุอย่างอื่น จะต้องคืนเงินภาษีที่ได้รับให้กรมสรรพสามิต หากไม่ดำเนินการ ทางกรมสรรพสามิตจะใช้วิธีการทางศาล เพื่อให้สั่งให้คืนทะเบียนรถยนต์

          9. การคืนเงินจะคืนเมื่อครอบครองรถยนต์ 1 ปีไปแล้ว โดยจะเริ่มจ่ายคืนให้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เป็นต้นไป ซึ่งกรมสรรพสามิตจะจ่ายผ่านทางเช็คเงินสดครั้งเดียวเต็มจำนวน

          10. สามารถซื้อรถแบบเงินผ่อนผ่านไฟแนนซ์ หรือเงินสดก็ได้

          11. รถมือสองไม่สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้ เนื่องจากรถมือสองไม่มีภาษีสรรพสามิตในการซื้อ-ขาย

          สำหรับแนวทางการดำเนินงาน หลังจากซื้อรถยนต์ตามหลักเกณฑ์ข้างต้นในช่วงวันที่ 16 กันยายน พ.ศ.2554-31 ธันวาคม พ.ศ.2555 แล้วนั้น ผู้ซื้อรถคันแรกต้องยื่นคำขอคืนเงินกับกรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ พร้อมเอกสารหลักฐาน ดังนี้

          - หนังสือยินยอมสละสิทธิการโอนภายใน 5 ปี

          - สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้ซื้อ

          - สำเนาหนังสือสัญญาเช่าซื้อ (ในกรณีเช่าซื้อ)

          จากนั้นกรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ จะส่งหนังสือถึงกรมการขนส่งทางบก หรือสำนักงานขนส่งจังหวัด เพื่อขอตรวจสอบการครอบครองรถยนต์คันแรก และแจ้งการสละสิทธิการโอนภายใน 5 ปีของผู้ซื้อ ก่อนที่กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัดตรวจสอบและบันทึก "ห้ามโอนภายใน 5 ปี" ลงในคอมพิวเตอร์และในสมุดคู่มือการจดทะเบียน

           เมื่อบันทึก "ห้ามโอนภายใน 5 ปี" ลงในคอมพิวเตอร์แล้ว กรมการขนส่งทางบก หรือสำนักงานขนส่งจังหวัด จะส่งหนังสือรับรองการครอบครองรถยนต์คันแรก และสำเนาคู่มือการจดทะเบียนที่บันทึก "ห้ามโอนภายใน 5 ปี" ให้กรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ เมื่อกรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว จะสั่งจ่ายเช็คเงินสดคืนให้แก่ผู้ซื้อตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2555 เป็นต้นไป

           ทั้งนี้ จากการตรวจสอบจากราคารถยนต์ และอัตราภาษีของรถยนต์ประเภทต่าง ๆ ในท้องตลาด เพื่อคิดเป็นสัดส่วนเงินภาษีที่จะได้รับคืน จะพบว่า

           -  รถอีโคคาร์ ราคาประมาณคันละ 3.75-5.4 แสนบาท เก็บภาษี 17% ผู้ซื้อจะได้รับเงินคืนเฉลี่ย 45,000 บาท

           -  รถยนต์นั่งขนาดเล็ก (ไม่เกิน 1,500 ซีซี) ราคาประมาณคันละ 5-7 แสนบาท เก็บภาษี 25% ผู้ซื้อจะได้รับเงินคืนสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท

           -  รถกระบะ 2 ประตู ราคาประมาณคันละ 3-5 แสนบาท เก็บภาษี 3% ผู้ซื้อจะได้รับเงินเฉลี่ย 10,000 บาท

           -  รถกระบะ 4 ประตู ราคาประมาณคันละ 7-8 แสนบาท เก็บภาษี 12% ผู้ซื้อจะได้รับเงินคืนเฉลี่ย 60,000 บาท




อ่านดูเองนะครับ.........

ผู้เฒ่าเต่า

อดเลยสิคันแรก

สงสัยว่าถ้าเรามีอยู่แล้ว 1 คัน เราเอาไปขายก่อนแล้วค่อยมาซื้อไม่รู้ได้ม้ายยยยย  ส.หลกจริง ส.หลกจริง ส.หลกจริง
อย่าใช้ภาษาผิด ๆ สะกดผิด ๆ เดี๋ยวภาษาที่ ปู่ ย่า ตา ยาย ใช้กันมานมนานจะวิบัติไปกันหมด   
              พลังคลื่นเต่า..........ปู๊ด !!!!!!