ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ขออนุโมทนา

เริ่มโดย คนเมืองสง, 22:27 น. 30 มี.ค 58

คนเมืองสง

 
       ต่อมาเวลา 18.00 น. พระเมธีธรรมาจารย์ รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในฐานะที่ปรึกษา สนพ. ได้แถลงออกเว็บไซด์ยูทิวบ์ แสดงจุดยืนที่รัฐบาลเข้าเคารพมหาเถรสมาคม
       
       https://www.youtube.com/watch?v=5wlH3g5BhcE&feature=youtu.be
       
       มีใจความว่า
       
       "วันนี้ต้องขออนุโมทนาขอบคุณ สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ที่มาเพื่อกราบประธานสงฆ์ โดยเนื้อหาที่ท่านพูดผ่านสื่อ ที่หอประชุมพุทธมณฑล ชัดเจนว่า รัฐบาล (ครม.) ยังไม่ได้รับรายงานร่างความเห็นของ สปช. หรืองานที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน เสนอ เมื่อวันที่ 24 มี.ค. และ ประธาน สปช. ก็ยังไม่ได้เสนอเรื่องเพื่อพิจารณาไปยัง ครม. และ รมต. ก็ชี้แจงว่า ยังไม่ได้รับ จาก สปช. เช่นกัน"
       
       "ท่านมาชี้แจงว่ารัฐบาล ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ ในกฎหมายที่เกี่ยวกับคณะสงฆ์ เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ซึ่งยังไม่ได้เห็นชอบกับมหาเถระสมาคม ถือเป็นคำสัญญาที่ท่านให้ไว้"
       
       "ดังนั้น อาตมาที่ได้เชิญชวนทุกท่านมาเจริญพระพุทธมนต์ในวันที่ 31 มี.ค.นี้ จึงขอขอบคุณท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ครม. และ รมต.สุวพันธ์ ที่ให้ความสำคัญและความใส่ใจ กับพระสงฆ์ใน กทม. ต่างจังหวัด และต่างประเทศ ที่เป็นพระธรรมทูต ที่เห็นว่า กลุ่มบุคคลบางกลุ่มบางคนที่มีจำนวนไม่มาก ที่ก่อตัวมาเป็นคณะกรรมการปฏิรูปพระพุทธศาสนา และมองพระสงฆ์ที่ผิดจากแง่ความเป็นจริง การพูดเมื่อวันที่ 24 มี.ค. เป็นครั้งประวัติศาสตร์ ที่ไม่มีใครเอาเรื่องของนักบวชในพุทธศาสนามาด่าทอ ในสภาแบบเสียหาย"
       
       "เราไม่ได้ปิดประตูการปฏิรูป แต่คณะสงฆ์จะต้องมีส่วนร่วม ในสมมติฐานที่ถูกต้อง ไม่ใช่ที่ผิดพลาด และรัฐบาลก็มีความเอื้ออาทร ที่จะให้คำมั่นสัญญา ในการแก้ปัญหาที่อยู่มากมาย"
       
       มีรายงานว่า พระเมธีธรรมาจารย์ หรือ เจ้าคุณประสาร ระบุว่า ก่อนหน้านั้น สนพ. มีความพร้อมแล้ว และมีพระสงฆ์มาอยู่ใน กทม. จำนวนมากแล้ว โดยเชื่อว่าจะมีมากว่า 6 พันรูป เพราะพระสงฆ์มีความรู้สึกที่ตรงกัน และหากที่ประชุมมหาเถระ มีเหตุผลที่เพียงพอ ก็พร้อมจะยุติ ถ้าให้เป็นไปตามความรู้สึกแต่ละกลุ่ม ยืนยันว่า ไม่มีการปิดบัง ไม่มีการค้างคืน แต่ความรู้สึกนึกคิดตรงกัน และคณะสงฆ์ก็จะกลับไป
       
       "แต่ถ้าเบรก สนพ. แล้วเชื่อว่า หลังเทศกาลสงกรานต์ จะมีพระสงฆ์กลุ่มหนึ่งออกมาอีกแน่นอน หลังสงกรานต์ วันที่ 20 - 21 - 22 เมษายน องค์กรที่เป็นองค์กรพุทธ ไม่เกี่ยวข้องกับมหาจุฬาฯ ถ้ายุติ สนพ. จะมีกลุ่มอื่นขึ้นมา หากไม่มีการแก้ปัญหาที่ชัดเจน เขาคงจะมีการดำเนินการของเขาที่เราไม่รับรู้จะเกิดอะไรขึ้น เท่าที่เข้าจับหลุ่มมีมากพอสมควร ถ้ามีสัญญาณให้นิ่งๆ จะคุมยากกว่ากลุ่ม สนพ. หรือกลุ่มของพระมหาโชว์"
       
       พระเมธีธรรมาจารย์ ระบุว่า คราวที่แล้วที่เรายอมหยุด คือ คราวที่แล้ว 5 มี.ค. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ บอกว่า จะทำปฏิรูปโดยจะต้องเห็นชอบตาม มหาเถระ แต่พฤติกรรมการกลุ่มบุคคล เมื่อวันที่ 12 มี.ค. และ 24 มี.ค. ยังดำเนินการโดยไม่เคารพพระสงฆ์หมู่ใหญ่ ในสภา สปช. ยังไปกล่าววหาพระสงฆ์ทั้งประเทศ กล่าวหาว่า "บวชหากิน ขี้เกียจ" ถือเป็นประวัติศาสตร์ของคณะสงฆ์ที่ ไม่มีใครมาทำกับพระสงฆ์
       
       "ขอถามว่า ถ้าท่านไปด่าทออย่างนี้ต่อศาสนาอื่นจะทำไหม ถ้าเราทำใจให้เป็นกลาง ถาม นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง น.ส.รสนา โตสิตระกูล นายวันชัย สอนศิริ นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ทำไมจึงเจาะจงแต่พระเถระชั้นผู้ใหญ่"

wareerant

อ้างถึงกล่าวหาว่า "บวชหากิน ขี้เกียจ"

มันไม่มีมูลความจริงเลยเหรอ พระสะสมเงินทอง ทรัพย์สิน มีมั๊ย พระฉันแล้วนอนตลอดศก มีมั๊ย พระไม่ยอมออกไปบิณฑบาต มีมั๊ย พอเริ่มได้ยศตำแหน่งนิด ๆ หน่อย ๆ ก็เริ่มไม่ออกบิณฯ แล้ว สำคัญตนว่าฉันไม่ธรรมดา ฉันไม่ต้องบิณฯ แล้ว ตื่นสาย ๆ หน่อยก็ไม่เป็นไร ใช้ลูกเณรไปซื้ออาหารตามสั่งมาฉัน สบ๊าย สบายชีวิตนี้ เดี๋ยวอยู่เฉย ๆ ก็มีคนมาถวายสังฆทาน ได้ทั้งของได้ทั้งตังค์ บ้านไม่ต้องเช่า ข้าวไม่ต้องซื้อ

พระดีมีมั้ย มี พระไม่เข้าท่ามีมั๊ย มี
พระไม่เข้าท่า ควรปฎิรูปมั๊ย ควร แล้วเมื่อไรจะทำ ไม่จำเป็นต้องไปเกรงใจหลวงพี่หลวงพ่อหรอก เกรงใจพระพุทธเจ้าดีกว่า เกรงใจพระธรรม พระวินัยดีกว่า

สั่งการไปเลยครับ ให้วัดทุกวัดทั่วประเทศ ตรวจสอบพระทุกรูป เอาพื้นฐานอนุบาลสุด ๆ คือการบิณฑบาต พระรูปไหนมีเรี่ยวมีแรง ยังไม่ล้มหมอนนอนเสื่อ ก็ตื่นเช้าออกไปบิณฯซะหน่อย ตอนบ่ายเจ้าอาวาสออกตรวจเลยครับ ห้ามนอน(จำวัด) ถ้าไม่มีอะไรทำก็หางานให้ทำอะไรก็ได้ที่เหมาะกับพระ ศึกษาพระธรรม เรียนภาษา ออกไปโปรดสัตว์ แสดงธรรมตามโรงเรียน หน่วยงานราชการ หน่วยงานเอกชน หน่อยงานอื่น ๆ จะเป็นประโยชน์มากว่า เอาแต่นอน ในสมัยพุทธกาลไม่ค่อยมีครับ พระลักษณะนี้ ท่านเหล่านั้น ออกเดินทางจารึกไปทั่วเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา เดี๋ยวนี้การเดินทางไม่ลำบาก อุปกรณ์การสอนธรรมมีมากมายก่ายกอง คนที่จะให้ไปโปรดก็เยอะ เพราะศีลธรรมไม่ค่อยจะมีกันในคนสมัยนี้

แล้วอย่างนี้จะมามัวนอนอยู่ทำไม อาศัยข้าวชาวบ้าน ก็ต้องตอบแทนชาวบ้าน ตอบแทนในแบบที่พระทำได้ ยังงัยก็ลองไปคิดกันดู

การออกบิณฑบาต เป็นการโปรดสัตวฺ์อย่างหนึ่ง ช่วยให้ญาติโยมได้ทำบุญ กำจัดความตระหนี่ จะให้ดีสอนญาติโยมด้วยว่า การตักบาตรไม่ใช่จุดประสงค์เพื่อชาติหน้า แต่เพื่อชาตินี้เราจะได้ฝึกให้เป็นผู้ให้ โดยมิได้หวังสิ่งตอบแทน ไม่ต้องให้พร เพราะถ้าให้พร จุดประสงค์ในการบิณฑบาต และการตักบาตร ก็จะผิดเพี้ยนไป ไม่ได้เป็นดังที่ควรจะเป็นดังที่พระพุทธเจ้าทรงตั้งพระทัยไว้

ตื่นได้แล้ว พระคุณท่าน พระคุณเจ้า (คำว่า พระคุณเจ้า ใช้กับพระที่ได้พัดยศ) อากาศตอนเช้าดีจัง เหมาะแก่การออกกำลังกาย อากาศตอนบ่ายอาจจะร้อนสักหน่อย แต่ท่านเป็นพระไม่ต้องกลัวร้อน หนาว เพราะท่านได้ฝึกจิตฝึกกายมาแล้ว จิตตัง ทันตัง สุขาวหัง จิตที่ฝึกดีแล้ว นำสุขมาให้

สำหรับพระนอกแถว นอกรีต ขอให้ผู้มีอำนาจจัดการไปเลย อย่าไปอะไรมากมาย ถ้า ผบตร. บอกว่า ใหญ่แค่ไหน ถ้าผิดผมก็จับ ก็อยากให้ผู้เกี่ยวข้องกับพระ ออกมาประกาศบ้างว่า "รวยแค่ไหน แก่พรรษาแค่ไหน ผมก็จับ(สึก)" คงดีไม่น้อย ถ้าทุกคนในชาติ ร่วมกันตรวจสอบ ร่วมกันจัดการสิ่งไม่ดีในประเทศของเรา

ผมก็ยังพูดเหมือนเดิม เห็นอะไรผิดปกติในสังคมเรา ช่วยกันดูแล แจ้งเจ้าหน้าที่ แม้แต่พระ ถ้าเราเห้นท่านปฏิบัติไม่ถูกต้อง เราต้องกล้าพูด กล้าตักเตือน ถ้าทุกคนเงียบ ศาสนาพุทธของเราจะอยู่ยั้งยืนยงไปได้อย่างไร

ขอบคุณ