ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

!!! วันสุดท้าย มหกรรมลดราคาสินค้าเกษตร ด่วน!! ที่ www.kokomax.com

เริ่มโดย ชมรมส่งเสริมเกษตรชีวภาพ, 22:36 น. 03 ส.ค 58

ชมรมส่งเสริมเกษตรชีวภาพ



การขยายจุลินทรีย์ EM
1. จุลินทรีย์ EM 2 ช้อนโต๊ะ
2. กากน้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำสะอาด 1 ลิตร

วิธีทำ
ผสมจุลินทรีย์ EM กากน้ำตาล และน้ำเข้าด้วยกัน ใส่ขวดพลาสติกชนิดฝาเกลียวปิดฝาให้แน่น เก็บไว้ 3 – 5 วัน
จะเป็นหัวเชื้อขยายเป็นการนำจุลินทรีย์มาขยายให้ได้จำนวนมาก ลดต้นทุนนำไปใช้หรือขยายต่อได้อีก
( เก็บไว้ได้นาน 3 เดือน)

วิธีใช้
ใช้ทำปุ๋ยน้ำ ฮอร์โมน สารไล่แมลง และปุ๋ยแห้ง ฯลฯ
หมายเหตุ
1 แก้ว ประมาณ 250 ซีซี
2 ช้อนโต๊ะ ประมาณ 10 ซีซี

ที่มา http://www.kasedtakon.com

สินค้าเกษตรชีวภาพ จาก KOKOMAX พร้อมส่งถึงบ้านที่  http://www.kokomax.com




http://www.servecars.com

ชมรมส่งเสริมเกษตรชีวภาพ



น้ำหมักชีวภาพ สูตรไล่หอย เพลี้ยไฟ

1. ยอดยูคาลิปตัส 2 กก.
2. ยอดสะเดา 20 ยอด หรือ 2 กก.
3. ข่าแก่ 2 กก.
4. บอระเพ็ด 2 กก.
5. จุลินทรีย์ EM 1 แก้ว
6. กากน้ำตาล 1 แก้ว

วิธีทำ
นำยอดยูคาลิปตัส ยอดสะเดา ข่าแก่ และบอระเพ็ด แต่ละอย่างแยกกันใส่ปิ๊บ ใส่น้ำให้เต็ม ต้มให้เหลือน้ำ
อย่างละครึ่งปิ๊บ ทิ้งไว้ให้เย็น นำมาเทรวมกันในถังใหญ่หรือโอ่ง ใส่จุลินทรีย์ EM 1 แก้ว

วิธีใช้
ใช้แก้วผสมน้ำ 20 ลิตร ฉีด พ่น รด ในแปลง ผัก พืช ในนาข้าว ป้องกันใบข้าวไหม้ด้วย


ที่มา http://www.kasedtakon.com

สินค้าเกษตรชีวภาพ จาก KOKOMAX พร้อมส่งถึงบ้านที่  http://www.kokomax.com

ชมรมส่งเสริมเกษตรชีวภาพ

น้ำหมักชีวภาพ สูตรสารไล่แมลง

1. ลูกยอสุก 1 กก.
2. จุลินทรีย์ EM 1 แก้ว
3. กากน้ำตาล 1 แก้ว

วิธีทำ
นำลูกยอสุกมาสับให้ละเอียด ใส่น้ำพอท่วมผสมจุลินทรีย์ EM กากน้ำตาล คนให้เข้ากัน หมักไว้ 10 วัน พอได้ที่คั้นเอาแต่น้ำมาใช้

วิธีใช้
สารไล่แมลง 1 แก้ว ผสมน้ำ 20 ลิตร ฉีด พ่น รด ราด

ที่มา http://www.kasedtakon.com

สินค้าเกษตรชีวภาพ จาก KOKOMAX พร้อมส่งถึงบ้านที่  http://www.kokomax.com


ชมรมส่งเสริมเกษตรชีวภาพ



วิธีการทำปุ๋ยน้ำชีวภาพตัวขยาย

นี่เป็นอัตราเริ่มต้น เหมาะสำหรับทำใช้ในครัวเรือน และพื้นที่น้อย
– ถังพลาสติกที่มีฝาปิดใส่น้ำสะอาด 8 ลิตร ถ้าเป็นน้ำประปาก็ขังไว้ให้หมดคลอรีน 3-4 วัน
– ใส่กากน้ำตาล 300 ซีซี (ครึ่งขวดเล็ก) คนให้กากน้ำตาลละลาย
– ใส่หัวเชื้อจุลินทรีย์ 300 ซีซี คนให้เข้ากัน (หัวเชื้อแอ๊คติโนมัยซิท หรือหัวเชื้อบาซิลลัส )
– ปิดฝาซีนให้แน่น 3-4 วัน

เมื่อครบ 3-4 วัน พอเปิดฝาถังออกจะเกิดฝ้าขาวลอยอยู่ด้านบน
นั่นแสดงว่าขบวนการหมักสมบูรณ์ดี ประโยชน์การใช้ถ้านำไปใช้กับสิ่งแวดล้อม
ประมง การปศุสัตว์ใช้เวลาหมัก 3-7 วันก็สามารถนำไปใช้ได้แล้ว เพราะว่าเอาแค่จุลินทรีย์ไม่ได้เอาธาตุอาหาร

แต่ถ้าใช้กับต้นไม้ ให้หาธาตุอาหารมาใส่ และหมักไปถึง 3 เดือน ให้ความเป็นกรดลดลงเสียก่อน
แต่เนื่องจากความแตกต่างของพืชแต่ละชนิดไม่เหมือนกัน เช่น พืชบางชนิดต้องการดอก
บางชนิดต้องการผล บางชนิดต้องการต้นและใบ

ถ้าจะเร่งต้น เร่งใบ ก็เอา พืชประเภท ไนโตรเจน มาใส่ เช่น กระถิน กระเฉด คะน้า กวางตุ้ง ถั่วต่างๆ
เอามาอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างรวมกันให้ได้ 1 ก.ก.สับเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ถุงตาข่าย นำไปหมัก 3 เดือน
ถ้าเร่งดอก ก็ใช้หนอ่ไม้ฝรั่ง ใบแก่ชะอม มูลค้างคาว หินฟอสเฟต เปลือกกุ้ง ฟักทอง บล๊อกโคลี่ เปลือกไข่
ถ้าเร่งผล ก็พวก ผลไม้สุก กล้วยหอมงอม พริกสด กระเจี๊ยบเขียว

อัตราการใช้ 1-2 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 5 ลิตร ฉีด พ่น ราด รด วันเว้นวัน จะช่วยปรับปรุงดิน ธาตุอาหารจะช่วยบำรุงต้นไม้
ใช้กับสิ่งแวดล้อม นำไปใส่ท่อเพื่อขจัดไขมันอุดตัน ใส่แหล่งน้ำเพื่อขจัดน้ำเสีย ใส่ห้องน้ำดับกลิ่น
ใช้กับปศุสัตว์ 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำ 50 ลิตร ให้สัตว์กิน ผสมน้ำ 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 1 ลิตร ฉีดพ่นเพื่อขจัดกลิ่น

ที่มา http://www.kasedtakon.com

สินค้าเกษตรชีวภาพ จาก KOKOMAX พร้อมส่งถึงบ้านที่  http://www.kokomax.com

ชมรมส่งเสริมเกษตรชีวภาพ



เครือหมาน้อย

ชื่อสามัญ
หมาน้อย (อีสาน) กรุงเขมา (นครศรีธรรมราช) วุ้นหม้อน้อย; ขงเขมา; พระพาย (กลาง); หมาน้อย; เครือหมาน้อย (อีสาน); ก้นปิด (ใต้); เปล้าเลือด (แม่ฮ่องสอน); สีฟัน (เพชรบุรี); อะกามินเยาะ (นราธิวาส)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์และเกษตร

เป็นไม้เถาเลื้อยพัน ใบเดี่ยว (simple) รูปร่างใบเป็นรูปหัวใจ (cordate) โคนใบแบบก้นปิด (peltate) ใบกว้าง 5.6 – 6.6 เซนติเมตร ยาว 6.9 – 7.6 เซนติเมตร หน้าใบและหลังใบมีขนสีน้ำตาลยาวประมาณ 1 มิลิเมตร ปกคลุมหนาแน่น หลังใบมีขนปกคลุมหนาแน่นมากกว่าหน้าใบ ก้านใบมีขน ยาว 1.7 – 2.5 เซนติเมตร ดอกตัวผู้และตัวเมียเซนติเมตร ขอบใบเรียบ (entire) ใบเป็นมัน หน้าใบหลังใบไม่มีขน ยอดอ่อนสีน้ำตาลแดง ใบแก่สีเขียวเข้ม ก้านใบยาว 0.4 – 0.6 เซนติเมตร ออกดอกที่ยอดหรือปลายกิ่ง ช่อดอกมี 4 – 5 ดอก ยาว 6.0 – 6.5 เซ็นติเมตร ดอกย่อยแยกจากกัน มีขนาดเล็กสีเขียว เมล้ดโค้ง (เหมือนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว) ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดหรือหน่อ

แหล่งที่พบและเก็บรวบรวมพันธุ์
พบขึ้นทั่วไปในที่รกร้างว่างเปล่า ในสวนป่า เช่น อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร (PC 537) อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี (SN 364) ที่ความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 80 – 130 เมตร

การใช้ประโยชน์
เป็นอาหารสัตว์ โค กระบือ ชาวบ้านใช้ใบมาตำ ขยำกับน้ำ นำมาปรุงอาหาร ถ้าทิ้งไว้จะแข็งตัวเหมือนวุ้น สมุนไพร ราก มีรสหอมเย็น แก้ไข้ ดีซ่าน เป็นยาอายุวัฒนะ บำรุงอวัยวะเพศให้แข็งแรง แก้กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ใบ ใช้ทาแก้โรคผิวหนัง มีสารอัลคาลอยด์ เช่น Hayatinine; Hayatine; Beburine; Sepurine; Cissampeline; Pelosine Quercitol และ Sterol

วิธีการทำอาหารประเภทหมาน้อย

ส่วนประกอบเพื่อให้อร่อย
1. ใบหมาน้อย 1 กอบ (อุ้งมือ)
2 ปลาช่อน
3. เครื่องปรุงอาหารประภทลาบ เช่น ข้าวคั่ว ปลาร้า....
4. ใบผักหอมแป (สระแหน่ใบแบนยาว) ผักใบมน (สระแหน่อีกอัน Mint)

วิธีการ
1. หากคุณทำป่นปลาเป็น ก็ทำป่นปลา ขั้นตอนนี้ไม่ขออธิบาย
แต่ว่าอธิบายเผื่อคนไม่รู้ดีกว่า
– เอาปลาที่ได้มาทำการต้มจนสุก โดยน้ำต้มก็จะมีน้ำปลาแดก เพื่อให้ปลาหอมสักหน่อย
– นำปลาที่ต้มสุกแล้ว มาแกะให้เหลือแต่เนื้อปลา
– ตำปลาที่แกะแล้วในครกด้วยสาก
– พอละเอียดแล้วใส่พริกผง (พริกป่น) น้ำปลา ผงชูรส เพื่อให้อร่อย

เสร็จการทำป่น
ต่อไป

2. นำใบหมาน้อยมายอง (ขยี้) จนใบหมาน้อยเหลือแต่เส้นใบ ทำคล้ายๆยอง(ขยี้) ย่านางใส่แกงหน่อไม้นั่นแหละ ยองจน 1 กอบ เหลือแต่ก่าง (เหลือแส้นใบ)
3. นำไปกรองเอาก่างออกจากน้ำหมาน้อยให้หมด เหมือนแต่น้ำหมาน้อย
4. นำเอาป่นปลาที่ได้ ใส่ลงไปในน้ำหมาน้อย
5. ใส่หอมแป ผักใบมน คนให้เข้ากัน สะระหล่า
6. ใส่ข้าวคั่ว หัวหอม ปลาแดก และ เครื่องปรุงอื่นๆ เหมือนทำลาบ
7. คนให้เข้ากัน
8. ลองชิมดู ขาดอะไรก็เพิ่ม เพื่อให้อร่อย

9. ขั้นตอนสำคัญ ที่จะบอกว่า ใบที่คุณนำเอามา เป็นหมาน้อยหรือไม่ คือ ขั้นตอนนี้
– นำไปพักไว้สักครู่ ไม่ใช่ทิ้งไว้สักครู่นะ น้ำหมาน้อยจะเริ่มเปลี่ยนโมเลกุลของสารภายในที่อยู่อย่างอิสระ มารวมตัวกันเหมือนเยลลี่ เหมือนขนมปีโป้ จนเปลี่ยนจากคุณสมบัติของ "ของแหลว" กลายไปเป็น "ของแข็ง"


ที่มา http://www.kasedtakon.com

สินค้าเกษตรชีวภาพ จาก KOKOMAX พร้อมส่งถึงบ้านที่  http://www.kokomax.com

ชมรมส่งเสริมเกษตรชีวภาพ




สินค้าเกษตรชีวภาพ ชั้นนำ บริการส่งฟรีทุกชิ้น ช็อปเลยที่ http://www.kokomax.com

ชมรมส่งเสริมเกษตรชีวภาพ



ผลิตภัณฑ์การเกษตรชีวภาพ จาก KOKOMAX โปรโมชั่น 5 แถม 1 ทุกชนิด และเมื่อซื้อครบ 3,990 บาท รับฟรีทันที ถังฉีด 16 ลิตร  1 ใบ ทันที ดูสินค้าชีวภัณฑ์ และสั่งซื้อได้เลยที่ http://www.kokomax.com

ชมรมส่งเสริมเกษตรชีวภาพ



การปลูกผักบนต้นกล้วยทำได้จริง

ปลูกผักบนต้นกล้วย เป็นการปลูกพืชผักที่น่าสนใจมากเนื่องจากเกือบจะไม่ต้องใช้น้ำเลย และ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้เกษตรกรที่มีสวนกล้วยหรือปลูกอยู่แล้ว ได้ใช้ต้นกล้วยที่ตัดแล้วให้เกิดประโยชน์อีกทางหนึ่งด้วยเมื่อกล้วยออกเครือแก่แล้วตัดเครือกล้วยออกไป ส่วนใหญ่เราก็จะตัดต้นกล้วยลงไปด้วยจึงได้มีการศึกษาว่าจะทำอย่างไรถึงจะนำต้นกล้วยที่ตัดเครือออกแล้วมาใช้ประโยชน์ได้บ้าง ปัจจุบันนี้ได้มีเกษตรส่วนหนึ่งได้ปลูกผักบนต้นกล้วยซึ่งได้ผลผลิตที่ดีมากเช่นเกษตรกรจากเวียดนามขั้นตอนและวิธีการปลูกผักบนต้นกล้วยมี 2 ขั้นตอน

ขึ้นตอนที่1การเตรียมหรือการเพาะต้นกล้า
เตรียมดินเพาะกล้า โดยใช้ปุ๋ยคอก ผสม ขุยมะพร้าวหรือขี้เลื้อย และหรือเศษวัสดุอื่นๆ แล้วเพาะกล้า ลงแปลงเพาะกล้าไว้เมื่อต้นกล้าผักเจริญเติบโตมีใบประมาณ 3-4 ใบ จึงนำออกมาปลูกบนต้นกล้วยได้


ขั้นที่2สำหรับการปลูกผักไร้ดินบนต้นกล้วย
     
สำหรับการปลูกผักไร้ดินบนต้นกล้วย ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย ซึ่งต้นกล้วยนั้นหลังจากที่ตัดเครือ กล้วยที่แก่แล้วออก จะตัดต้นกล้วยทิ้งซึ่งเป็นการสูญเสียไปเปล่าๆ โดยที่ไม่ได้อะไร ดังนั้น เมื่อตัดเครือกล้วยแล้ว (จะเป็นกล้วยน้ำว้าหรือกล้วยอะไรก็ได้)ก็ให้เจาะรูที่ต้นกล้วยให้รูมีขนาดเท่ากับที่จะนำกล้าลงไปปลูกในต้นกล้วย และทำไม้ที่ตั้งต้นกล้วย ส่วนจำนวนผักที่จะปลูกมากหรือน้อย ไม่สามารถบอกได้ ให้ดูขนาดของต้นกล้วยว่าใหญ่หรือเล็ก และก็ไม่ต้องรดน้ำ ให้ต้นกล้วยแต่อย่างใด หลังจากนั้น ประมาณ 30 วัน (ขึ้นอยู่กับอายุของผักที่ปลูก) ก็เก็บเกี่ยวผักไปกินหรือนำไปขายได้เลย ผักที่นำมาปลูก ได้แก่ ผักสลัด ผักบุ้ง ผักกาดขาว หรือผักอะไรก็ได้ที่ ใช้เวลา ประมาณ 30 – 40 วัน ถ้าเกินนี้ต้นกล้วยจะโทรมและเหี่ยวแห้งตายเสียก่อน ผักที่ได้จะมีรสชาติดีมาก หวาน และกรอบ ใบเป็นเงางาม ทั้งนี้ เป็นเพราะต้นกล้วยมีธาตุโพแทสเซียมสูงนั่นเอง ผักที่ปลูกควรเป็นผักกินใบที่ไม่ต้องการแสงแดดที่แรงมากนัก

วิธีการปลูกผักบนต้นกล้วยมีดังนี้

วัสดุ – อุปกรณ์

เมล็ดพันธุ์ผัก ประเภท กินใบ อายุการเก็บเกี่ยวสั้น เช่น ผักกาดหอม(ไม่ห่อหัว) จำพวกผักสลัด
กระบะเพาะกล้า หรือ ตะกร้าสี่เหลี่ยมผืนผ้า
ถาดหลุมพลาสติก
กระดาษหนังสือพิมพ์
ขี้เถ้าแกลบ,ทราย
ปุ๋ยคอก/ปุ๋ยหมัก


วิธีการปลูกผักบนต้นกล้วย

การเพาะกล้าในตะกร้าพลาสติก/กระบะเพาะ
ปูประดาษหนังสือพิมพ์(แผ่นเดี่ยว)บนตะกร้าพลาสติก แล้วจัดกระดาษให้เข้ารูปกับตะกร้า ใส่ทรายลงไปในตะกร้าที่เตรียมไว้ให้ได้ความสูงประมาณ 2 ใน 3 ของความสูง ขีดทรายตามแนวยาวของตะกร้าให้เป็นร่องลึกประมาณ 1 ซม. 2-3 แถว โรยเมล็ดพันธุ์ผักลงไปบางๆ แล้วกลบเบาๆ ด้วยทราย จากนั้นนำกระดาษหนังสือพิมพ์(แผ่นเดี่ยว)วางปิดทับด้านบน พร้อมจัดกระดาษให้เข้ารูปกับตะกร้า ใช้บัวรดน้ำ ลงบนกระดาษหนังสือพิมพ์ (พอให้มีน้ำขังบนผิวหน้าเล็กน้อย) จัดวางตะกร้าไว้ในที่ร่ม หมั่นรดน้ำเช้า-เย็น เมื่อกล้าผักเริ่มงอก ให้เอากระดาษหนังสือพิมพ์ที่ปิดทับด้านหน้าออก แล้วรดน้ำเช้า – เย็น เมื่อต้นกล้าเริ่มมีใบจริงใบแรก หรือ เมื่อมีอายุประมาณ 10-14 วัน ให้ย้ายกล้าในกระบะเพาะลงปลูกในถาดหลุมพลาสติก


การย้ายกล้าผักลงปลูกในถาดหลุม
นำขี้เถ้าแกลบผสมเข้ากับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักพอใส่ลงถาดหลุมให้เต็มทุกหลุม จากนั้นรดน้ำให้ชุ่ม ใช้ไม้แทงนำในขี้เถ้าแกลบให้เป็นรู เพื่อนำต้นกล้าลงปลูก ใช้มือจับยอดต้นกล้าผักเบาๆ แล้วนำไม้ขุดแซะรากกล้าผักขึ้นมาจากกระบะเพาะ จากนั้นแยกกล้าลงปลูกในหลุมถาดที่เตรียมไว้ กดปิดบริเวณรูเบา ๆ ทำจนครบทุกหลุมแล้วจัดเรียงถาดหลุมที่ย้ายกล้าเสร็จแล้วไว้ในที่ร่มรำไร พอมีแสงส่องถึง จัดวางไว้บนชั้นให้น้ำไหลผ่านได้โดยสะดวก เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 2-3 ใบหรือประมาณ 2-3 สัปดาห์หลังปลูก ก็สามารถย้ายกล้าผักไปปลูกบนต้นกล้วยได้แล้ว
การปลูกผักลงบนต้นกล้วย


เจาะรูบนต้นกล้วยที่ตัดเครือแล้ว โดยกะจำนวนรูที่จะปลูกผักให้เหมาะสมกับขนาดของต้นกล้วย ให้รูมีขนาดเท่ากับหลุมในถาดหลุมเพื่อ่ยึดรากต้นกล้าผัก จากนั้นจึงเอาต้นกล้าผักยัดใส่ลงไปในรูของต้นกล้วยที่เจาะไว้ ประมาณ 30 วันก็สามารถเก็บผักที่ปลูกบนต้นกล้วยมารับประทานได้ (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอายุของผักที่ปลูก)


ทั้งนี้ ผักที่ปลูกไม่ควรมีอายุเกิน 40 วัน และควรปลูกผักกินใน ที่ไม่ต้องการแสงแดดจัด


ขอขอบคุณ หม่อนไม้ monmai


ขอบคุณ http://www.kokomax.com

ชมรมส่งเสริมเกษตรชีวภาพ



ฮอร์โมนเร่งโต เร่งดอก เร่งใบ เร่งราก

วัสดุอุปกรณ์

1.ยอดกระถิน (เก็บตอนเช้ามืดยังไม่ถูกแสงแดด) 1 กก.
2.หัวไชเท้า 1 กก.
3.มะพร้าวขูด 1 กก.
4.น้ำมะพร้าวแก่ 19 ลิตร
5.จุลินทรีย์ 1 ลิตร

ขั้นตอนที่ 1
การขยายจุลินทรีย์ในน้ำมะพร้าว นำจุลินทรีย์ 1 ลิตร ผสมลงในน้ำมะพร้าวแก่ จำนวน 19 ลิตร คนให้เข้ากัน 1-3 วันแรกเปิดฝาระบายอาศวันละครั้งหมักไว้ 15 วัน

ขั้นตอนที่ 2
ก็บยอดกระถินตอนเช้ามืดสับหรือโขลกให้พอแตก หัวไซเท้าสับหรือโขลกให้พอแตก มะพร้าวขูดนำทั้ง 3 อย่างมาห่อผ้าเสื้อยึดอย่างหนา แช่ในน้ำมะพร้าวที่ขยายในจุลินทรีย์ หมักไว้ 15 วัน ยกถุงพืชออบีบน้ำ นำน้ำหมักที่ได้บรรจุใส่ขวดเก็บไว้ใช้ในการฉีดพ่นเป็นฮอร์โมน
ประโยชน์ : เป็นฮอร์โมนเร่งโต เร่งดอก เร่งใบ เร่งราก
อัตราการใช้ : 40 ซีซี ต่อ น้ำ 20 ลิตร ควรฉีดพ่น 10-15 วันต่อครั้ง

ที่มา http://www.kasedtakon.com

สินค้าเกษตรชีวภาพ จาก KOKOMAX พร้อมส่งถึงบ้านที่  http://www.kokomax.com

ชมรมส่งเสริมเกษตรชีวภาพ



การทำปุ๋ยแห้ง (โบกาฉิ)

1. มูลสัตว์ (ทุกชนิด) 1 ส่วน ( กระสอบ)
2. แกลบดิบ 1 ส่วน ( กระสอบ)
3. รำละเอียด 1 ส่วน ( กระสอบ)
4. จุลินทรีย์ EM 20 ซีซี (2 ช้อนโต๊ะ)
5. กากน้ำตาล 20 ซีซี (2 ช้อนโต๊ะ)
6. น้ำสะอาด 10 ลิตร หรือ 1 ถัง

วิธีทำ
ขั้นที่ 1 เตรียมจุลินทรีย์ EM , กากน้ำตาล , น้ำสะอาด , ผสมไว้ในถังน้ำ
ขั้นที่ 2 นำมูลสัตว์ + รำละเอียดผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน
ขั้นที่ 3 นำแกลบดิบใส่ลงในน้ำที่ขยายจุลินทรีย์ EM ในขั้นที่ 1 จุ่มให้เปียกแล้วบีบพอหมาดๆ

นำมาคลุกกับส่วนผสม ขั้นที่ 2 ให้เข้ากันจะได้ความชื้น 40 – 50 %( กำแล้วไม่มีน้ำหยดจากง่ามมือ)
การ หมัก เอาส่วนผสมทั้งหมดบรรจุลงในกระสอบป่าน , ถุงปุ๋ย ที่อากาศถ่ายเทได้ โดยบรรจุลงไป ? ของกระสอบไม่ต้องกดให้แน่น นำไปวางลงในที่มีฟางรอง เพื่อการระบายอากาศในส่วนส่วนล่างพลิกกลับกระสอบ ในวันที่ 2,3,4 ทุกๆ วัน ในวันที่ 2 – 3 อุณหภูมิ จะสูงถึง 50 0c – 60 0c วันที่ 4 และวันที่ 5 อุณหภูมิเย็นลงจนปกติตรวจดูไม่ให้อุณหภูมิเกิน 36 0c ปุ๋ยแห้งสนิทสามารถนำไปใช้ได้

การเก็บรักษา
เก็บรักษาเมื่อโบกาฉิแห้งสนิทควรเก็บรักษาในที่ร่ม ไม่โดนฝนและไม่โดนแดด สามารถเก็บรักษา
ได้นานประมาณ 1 ปี

วิธีใช้
1. ใช้ปุ๋ยแห้งในแปลงปลูกต้นไม้ทุกชนิดในอัตราส่วนปุ๋ยแห้ง 1 กำมือ/พื้นที่ 1 ตรม. แล้วทำการเพาะปลูกได้
2. พืชผักที่มีอายุเกิน 2 เดือน เช่น ฟักทอง , แตงกวา , ถั่วฝักยาว , กระหล่ำปลี ใช้ปุ๋ยแห้งรองก้นหลุมก่อนปลูกใช้ประมาณ 1 กำมือ
3. ไม้ยืนต้น , ไม้ผล ควรรองก้นหลุ่มด้วย เศษหญ้า – ใบไม้ ฟางแห้ง และปุ๋ยแห้งประมาณ 1 – 2 บุ้งกี๋ ส่วนไม้ยืนต้น , ไม้ผลที่ปลูกแล้วให้ใส่ปุ๋ยแห้ง ให้รอบทรงพุ่มแล้วคลุมด้วยเศษหญ้า ใบไม้แห้ง , ฟางแห้ง
4. ไม้ดอก , ไม้ประดับ , ไม้กระถาง ควรใส่ปุ๋ยแห้งสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ รอบๆ โคนต้น
ข้อควรจำ
เมื่อใช้ปุ๋ยแห้ง (โบกาฉิ) ต้องใช้ปุ๋ยน้ำฉีดพ่นด้วยเสมอ เพื่อให้จุลินทรีย์ ที่พักตัวทำงานได้ดี

ที่มา:  http://www.kasedtakon.com/36

สินค้าเกษตรชีวภาพ ราคาถูก  http://www.kokomax.com

ชมรมส่งเสริมเกษตรชีวภาพ



EM คืออะไร เอาไว้ทำไม เพื่ออะไร

EM จุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ
EM กลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพและให้ประโยชน์ในทางเกษตรกรรม โดยกลุ่มจุลินทรีย์นี้ได้รับการคัดและเลือกสรรเป็นอย่างดีจากธรรมชาติที่มี ประโยชน์ต่อพืช สัตว์ และสิ่งแวดล้อมมารวมกัน

สินค้าเกษตรชีวภาพ ราคาถูกที่ http://www.kokomax.com

EM มีลักษณะอย่างไร? EM มีประโยชน์อย่างไร? EM สามารถประยุกต์ใช้ได้หรือไม่?

อีเอ็ม (EM) คืออะไร
EM ย่อมาจาก Effective Microorganisms หมายถึง กลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่ง ศ.ดร.เทรูโอะ ฮิงะ นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญสาขาพืชสวน มหาวิทยาลัยริวกิว เมืองโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น ได้ศึกษาแนวคิดเรื่อง "ดินมีชีวิต" ของท่านโมกิจิ โอกะดะ (พ.ศ.2425-2498) บิดาแห่งการเกษตรธรรมชาติของโลก จากนั้น ดร.ฮิงะ เริ่มค้นคว้าทดลองตั้งแต่ปี พ.ศ.2510 และค้นพบ EM เมื่อปี พ.ศ.2526 ท่านอุทิศทุ่มเททำการวิจัยผลว่ากลุ่มจุลินทรีย์นี้ใช้ได้ผลจริง หลังจากนั้นศาสตราจารย์วาคุกามิได้นำมาเผยแพร่ในประเทศไทย โดยท่านเป็นประธานมูลนิธิบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ด้วยกิจกรรมทางศาสนาหรือคิวเซ (คิวเซ แปลว่าช่วยเหลือโลก) ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี จากการค้นคว้าพบความจริงเกี่ยวกับจุลินทรีย์ว่ามี 3 กลุ่ม คือ
กลุ่มสร้างสรรค์ เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่เป็นโทษ ทำให้เกิดโรค มีประมาณ 10%
กลุ่มทำลาย เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่เป็นโทษ ทำให้เกิดโรค มีประมาณ 10%
กลุ่มกลาง มีประมาณ 80% จุลินทรีย์กลุ่มนี้หากกลุ่มใดมีจำนวนมากกว่า กลุ่มนี้จะสนับสนุนหรือร่วมด้วย
ดัง นั้น การเพิ่มจุลินทรีย์ที่มีคุณภาพลงในดินก็เพื่อให้กลุ่มสร้างสรรค์มีจำนวน มากกว่า ซึ่งจุลินทรีย์เหล่านี้จะช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดินให้กลับมีพลังขึ้นมา อีกหลังจากที่ถูกทำลายด้วยสารเคมีจนดินตายไป จุลินทรีย์มี 2 ประเภท

ข้อมูลรายละเอียด อ่านต่อที่ : http://www.kasedtakon.com/44


สินค้าเกษตรชีวภาพ ราคาถูก  http://www.kokomax.com

ชมรมส่งเสริมเกษตรชีวภาพ


//*สินค้าเกษตรลดราคาประจำปี อุปกรณ์การเกษตร เริ่มแล้ว ที่  http://www.kokomax.com

ชมรมส่งเสริมเกษตรชีวภาพ



มหกรรมลดราคาสินค้าเกษตร ประจำปี 2561 เริ่มแล้ววันนี้ที่ http://www.kokomax.com ด่วน!! ถูกมาก สินค้ามีจำนวนจำกัด

ชมรมส่งเสริมเกษตรชีวภาพ



มหกรรมลดราคาสินค้าเกษตร ประจำปี 2561 เริ่มแล้ววันนี้ที่ http://www.kokomax.com ด่วน!! ถูกมาก สินค้ามีจำนวนจำกัด

ชมรมส่งเสริมเกษตรชีวภาพ



มหกรรมลดราคาสินค้าเกษตร ประจำปี 2561 เริ่มแล้ววันนี้ที่ http://www.kokomax.com ด่วน!! ถูกมาก สินค้ามีจำนวนจำกัด

ชมรมส่งเสริมเกษตรชีวภาพ



มหกรรมลดราคาสินค้าเกษตร ประจำปี 2561 เริ่มแล้ววันนี้ที่ http://www.kokomax.com ด่วน!! ถูกมาก สินค้ามีจำนวนจำกัด

ชมรมส่งเสริมเกษตรชีวภาพ



มหกรรมลดราคาสินค้าเกษตร ประจำปี 2561 เริ่มแล้ววันนี้ที่ http://www.kokomax.com ด่วน!! ถูกมาก สินค้ามีจำนวนจำกัด

ชมรมส่งเสริมเกษตรชีวภาพ



ไฮ-สปีด Hi-Speed (สูตรเข้มข้น)

ใช้ฟื้นฟูสภาพต้นได้อย่างดี สามารถใช้ได้ในพืชทุกชนิด ฟื้นฟูสภาพต้นจากการเก็บเกี่ยว สภาพต้นขาดการดูแล สภาพต้นโทรมจากโรคพืช ศัตรูพืช ดอกผลออกน้อย นิยมใช้ใน ต้นทุเรียน ต้นลำใย ต้นพริก มะเขือ ใช้ได้ในพืชทุกชนิด


**** มหกรรมลดราคาสินค้าประจำปี ถูกมาก บีที-โกลด์ BT-GOLD ราคาปรกติ 190 บาท ลดเหลือ *เพียง 154 บาท #5แถม1

ที่ http://www.kokomax.com

เพิ่มเพื่อนไลน์ @KOKOMAX

ชมรมส่งเสริมเกษตรชีวภาพ



มหกรรมลดราคาสินค้า ประจำปี 2561 ถูกมาก ปุ๋ยเอบี AB ราคาปรกติ 190 บาท ลดเหลือ *เพียง 161 บาท #5แถม1

ที่ http://www.kokomax.com

เพิ่มเพื่อนไลน์ @KOKOMAX

ชมรมส่งเสริมเกษตรชีวภาพ



มหกรรมลดราคาสินค้าเกษตร ประจำปี 2561 เริ่มแล้ววันนี้ที่ http://www.kokomax.com ด่วน!! ถูกมาก สินค้ามีจำนวนจำกัด

ชมรมส่งเสริมเกษตรชีวภาพ



มหกรรมลดราคาสินค้าเกษตร ประจำปี 2561 เริ่มแล้ววันนี้ที่ http://www.kokomax.com ด่วน!! ถูกมาก สินค้ามีจำนวนจำกัด

ชมรมส่งเสริมเกษตรชีวภาพ



มหกรรมลดราคาสินค้าเกษตร ประจำปี 2561 เริ่มแล้ววันนี้ที่ http://www.kokomax.com ด่วน!! ถูกมาก สินค้ามีจำนวนจำกัด