ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

แข้งไทยวางรณชัยยิงเสือเหลืองเปิดซิงบอลซีเกมส์

เริ่มโดย ทีมงานบ้านเรา, 13:33 น. 09 พ.ย 54

ทีมงานบ้านเรา



แข้งไทยวาง "แซม" รณชัย รังสิโย ล่าตาข่ายมาเลเซีย แต่ยังหาคู่ศูนย์หน้าไม่ได้ระหว่าง อดิศักดิ์ ไกรษร กับ อิสระพงษ์ ลิละคร โดย "น้าเหม่ง" รอการตัดสินก่อนลงสนาม แต่แดนกลางให้ สารัช อยู่เย็น, ปกเกล้า อนันต์, พลวุฒิ ดอนจุ้ย และ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ทำเกมร่วมกัน พร้อมข่าวดีจะได้ สุจริต จันทกล หายจากอาการบาดเจ็บลงสนามช่วยทีม ซึ่ง "บิ๊กกาเซ็ม" เกษม จริยวัฒน์วงศ์ ผจก. ทีม ประกาศเก็บชัยประเดิมนัดแรกศึกซีเกมส์

ความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ที่มีโปรแกรมแข่งกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ระหว่างวันที่ 11-22 พ.ย. ที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยทีมชาติไทยอยู่สาย เอ ร่วมกับ "เจ้าภาพ" อินโดนีเซีย, "แชมป์เก่า" มาเลเซีย, สิงคโปร์ และกัมพูชา ประเดิมนัดแรกวันที่ 9 พ.ย. พบ มาเลเซีย, นัดสอง วันที่ 11 พ.ย. พบ กัมพูชา, นัดสาม วันที่ 13 พ.ย. พบ อินโดนีเซีย และนัดสุดท้าย วันที่ 17 พ.ย. พบ สิงคโปร์

ล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ 8 พ.ย. 2554 ที่ผ่านมา ทัพนักเตะทีมชาติไทยได้ลงทำการฝึกซ้อมตามปกติในช่วงเช้าที่บริเวณโรงแรมที่ พัก สุลต่าน โฮเต็ล ก่อนที่ช่วงเย็นจะออกไปฝึกซ้อมที่สนามเกโลร่า บัง การ์โน่ (เสนายัน) ซึ่งเป็นสนามแข่งขันจริง

โดยการฝึกซ้อม "น้าเหม่ง" ประพล พงษ์พานิช เฮดโค้ช ได้เน้นที่การเข้าทำและพยายามปรับเปลี่ยนผู้เล่นที่คาดว่าจะเป็นตัวจริงใน เกมกับมาเลเซีย วันที่ 9 พ.ย. นี้ นอกจากนั้นข่าวดีคือการที่ "เจ้าต้อม" สุจริต จันทกล ปราการหลังตัวเก่ง กลับมาฝึกซ้อมได้แล้ว หลังหายจากอาการบาดเจ็บบริเวณข้อเท้า โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งจึงเสร็จสิ้นการฝึกซ้อม

"เหม่ง" ฟันธงยิงมาเลย์ 3-0

โดย "น้าเหม่ง" ประพล พงษ์พานิช เฮดโค้ช เปิดเผยว่า เกมกับมาเลเซีย ถือเป็นเกมที่สำคัญ เพราะผลการแข่งขันจะบ่งบอกอนาคตในการเข้ารอบหรือตกรอบของทีมชาติไทย ซึ่งถึงตอนนี้นักเตะทุกคนมีความพร้อมเต็มที่จะลงสนาม และเชื่อว่าสามารถเอาชนะมาเลเซียได้ในสกอร์ 3-0

นอกจากนั้น "น้าเหม่ง" ยังบอกด้วยว่า ตำแหน่งศูนย์หน้า ณ เวลานี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าใครจะลงคู่กับ รณชัย รังสิโย เนื่องจากกำลังดูว่า อดิศักดิ์ ไกรษร กับ อิสระพงษ์ ลิละคร ใครจะเหมาะกับเกมดังกล่าวมากกว่ากัน ซึ่งคิดว่าต้องใช้เวลาในการตัดสินใจก่อนแข่งขันทีเดียว

"กาเซ็ม" จี้ 15 นาทีแรก, ท้ายสำคัญ

ขณะที่ "บิ๊กกาเซ็ม" เกษม จริยวัฒน์วงศ์ ผู้จัดการทีม ยอมรับว่า มาเลเซียเป็นทีมที่แข็งแกร่ง แต่ก็มีจุดอ่อนให้เห็นหลายจุดเหมือนกัน ซึ่งถึงตอนนี้นักเตะทุกคนกระหายที่จะลงสนามเป็นอย่างมาก ดังนั้นเป็นนิมิตหมายอันดีต่อการลงเล่น

นอกจากนั้น "บิ๊กกาเซ็ม" ยังได้บอกอีกว่า การที่มาเลเซีย เสมอ สิงคโปร์ ในเกมแรก ถือเป็นโอกาสดีที่ทีมชาติไทยจะทำคะแนนแซงขึ้นไป เพราะฉะนั้นจึงต้องการเก็บชัยชนะเป็นอย่างมาก และหากเก็บสามแต้มได้โอกาสที่ไทยจะเข้ารอบก็มีสูงทีเดียว

ผู้จัดการทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ยังบอกอีกว่า ช่วง 15 นาทีแรกและ 15 นาทีสุดท้าย เป็นช่วงเวลาที่สำคัญ ซึ่งนักเตะทุกคนต้องมีสมาธิกับเกม ที่สำคัญหากยิงประตูได้ในช่วงเวลาดังกล่าว ความมั่นใจว่าจะเก็บชัยชนะได้ก็จะมีสูงขึ้น

"บังยี" ยันให้ 10 ล้านหากแชมป์

ขณะเดียวกัน "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลไทยได้เดินทางมาถึงประเทศอินโดฯ ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบิน ทีจี 433 เพื่อให้กำลังใจนักเตะไทย นอกจากนั้น "บังยี" ยังทำหน้าที่ถึงสามอย่างในซีเกมส์ครั้งนี้ ประกอบไปด้วย นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย, ประธานผู้ตัดสินของสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) และหัวหน้าคณะทำงานเอเอฟซี

ซึ่งเจ้าตัวได้พูดถึงเกมกับมาเลเซียว่าไม่ใช่งานง่ายอย่างที่คิด เพราะปัจจุบันนักเตะในอาเซียนอายุ 23 ปีไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไหร่ แต่ยังเชื่อมั่นในการทำงานของทุกคนว่าจะสามารถเอาชัยชนะมาฝากแฟนบอลชาวไทย ได้

นอกจากนั้น "บังยี" ยังบอกอีกว่า เป้าหมายเหรียญทองคือสิ่งเดียวที่ต้องทำให้ได้ ซึ่งแน่นอนว่าหากได้แชมป์ทางสมาคมฯ จะมีเงินอัดฉีดให้ 10 ล้านบาทอย่างแน่นอน

ในส่วนของการทำหน้าที่ประธานผู้ตัดสินของสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) และหัวหน้าคณะทำงานเอเอฟซี ทาง "บังยี" เปิดเผยว่า ตนเองต้องการควบคุมการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ให้ออกมาดีที่สุด โดยผู้ตัดสินได้ติดต่อชาติเป็นกลางที่ไม่ได้อยู่ในอาเซียน อาทิ ญี่ปุ่น, คาซัคฯ, เกาหลีฯ มาทำหน้าที่เพื่อความโปร่งใส และคิดว่าซีเกมส์ครั้งนี้จะเป็นซีเกมส์ที่ออกมาดีที่สุดครั้งนึง

"กาเซ็ม" กระตุ้นนักเตะทำเพื่อแฟนน้ำท่วม

ทั้งนี้ภายหลังการฝึกซ้อม "บิ๊กกาเซ็ม" ได้ให้นักเตะยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 1 นาที เพื่อรำลึกถึงแฟนบอลชาวไทยและประชาชนชาวไทยที่กำลังประสบอุทกภัยน้ำท่วม พร้อมให้โอวาทกับนักเตะโดยบอกว่า แฟนบอลชาวไทยที่อยู่ประเทศไทยหลายคนกำลังประสบภาวะน้ำท่วม แต่ก็ตั้งหน้าตั้งตารอคอยการลงสนามของทีมชาติไทย ซึ่งบางคนตาดูทีวี ส่วนเท้ากำลังแช่น้ำ ดังนั้นจะต้องไม่ทำให้แฟนบอลชาวไทยผิดหวังเด็ดขาด

วาง "แซม" ยิง "ต้อม" ลง

สำหรับ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทีมชาติไทย ที่คาดว่าจะลงสนามพบกับมาเลเซีย ถือว่าทุกอย่างใกล้ลงตัว จะมีแต่เพียงศูนย์หน้าเท่านั้นที่ต้องเช็กว่าจะส่งใครลงสนามคู่ รณชัย รังสิโย ระหว่าง "กอล์ฟ" อดิศักดิ์ ไกรษร กับ "ทวน" อิสระพงษ์ ลิละคร ส่วนตัวอื่นๆ ไม่มีปัญหาในการจัดทัพ

ในระบบ 4-4-2 คาดว่า ผู้รักษาประตู อุกฤษณ์ วงศ์มีมา กองหลัง 4 คนจากขวา คมกฤช คำโสกเชือก, เฉลิมศักดิ์ แก้วสุขแท้, สุจริต จันทกล, วีระวุฒิ กาเหย็ม กองกลาง 4 คนจากขวา พลวุฒิ ดอนจุ้ย, สารัช อยู่เย็น, ปกเกล้า อนันต์, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ และคู่กองหน้าเป็น อดิศักดิ์ ไกรษร กับ "แซม" รณชัย รังสิโย

"อ่อง คิม สวี" หวังสามแต้มต่ออายุ

ด้าน "เสือเหลือง" มาเลเซีย ในฐานะแชมป์เก่า ที่เกมแรกเสมอสิงคโปร์ 0-0 ยังไม่น่าเปลี่ยนแปลงผู้เล่นจากเกมแรกเท่าไหร่ โดยพวกเขายังยึด 11 นักเตะชุดเดิมทั้งหมด ซึ่งจะทำทัพโดย บาดดรอ, กานดาซามี่, อาเหม็ด ฟากรี่, ทามิล อราซู, จูซุส อับดุล ซูเคอร์, อาเหม็ด มัสลิม ฯลฯ ซึ่ง อ่อง คิม สวี กุนซือมาเลเซีย คาดหวังว่าจะเก็บสามคะแนนให้ได้เพื่อโอกาสการเข้ารอบต่อไป

ทั้งนี้ อ่อง คิม สวี ยังบอกด้วยว่า นักเตะไทยยังคงเป็นนักเตะที่ฝีเท้าดีเสมอ แต่ตนก็ยังเชื่อมั่นในศักยภาพของลูกทีมตนเองว่าสามารถต่อกรกับผู้เล่นไทยได้ อย่างสนุก

สำหรับมาเลเซีย หากไม่สามารถเก็บชัยชนะในเกมนี้ได้ จะทำให้โอกาสตกรอบมีสูงทีเดียว เนื่องจากโปรแกรมสองนัดสุดท้ายต้องเจอกับกัมพูชา และ "เจ้าภาพ" อินโดนีเซีย ซึ่งถือไม่ใช่งานง่าย โดยเฉพาะ "เจ้าภาพ" ที่วางเป้าเอาไว้ในรอบแรกถึง 12 คะแนนเต็ม

สถิติไทยขี่ แต่ล่าสุดมาเลย์เขี่ยตกรอบ

สำหรับสถิติระหว่างไทย กับ มาเลเซีย ที่เคยพบกันในกีฬาซีเกมส์ ปรากฏว่าเจอกันทั้งหมด 21 ครั้ง ไทยทำได้ดีกว่าด้วยการชนะ 10 เสมอ 5 แพ้ 6 ทว่าการเจอกันล่าสุดคือเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ไทย อยู่สายเดียวกับ มาเลเซีย ซึ่งทั้งสองทีมต้องพบกันในเกมสุดท้ายของรอบแรก โดยไทยต้องการเพียงแค่ผลเสมอก็จะเข้ารอบ

ส่วนมาเลเซียต้องชนะเท่านั้น และปรากฏว่า มาเลเซีย มายิงประตูในช่วงท้ายเกม ทำให้เอาชนะไทย 2-1 เขี่ยทีมชาติไทยตกรอบแรกซีเกมส์เป็นครั้งแรกในรอบ 36 ปี ส่วนมาเลเซียก้าวไปถึงแชมป์ในปีดังกล่าว

ทั้งนี้จาก 21 ครั้งที่พบกัน ปรากฏว่ามีถึง 4 ครั้งด้วยกันที่ทั้งคู่เจอกันในรอบชิงฯ และปรากฏว่าไทยเป็นฝ่ายเอาชนะได้ทั้ง 3 ครั้ง ประกอบไปด้วย ครั้งที่ 8 ไทย ชนะ 2-1, ครั้งที่ 11 ไทย ชนะ 2-1 และครั้งที่ 21 ไทย ชนะ 1-0

"ต้อม" ไม่เชื่อเป็นอีแร้งทีมชาติ

"เจ้าต้อม" สุจริต จันทกล ปราการหลังตัวเก่งทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ออกมาเปิดเผยว่า ตนเองไม่เชื่อว่าลงสนามให้ทีมชาติไทยในรายการไหนจะตกรอบทุกครั้ง โดยบอกว่าซีเกมส์หนนี้มีโอกาสที่ทีมชาติไทยจะประสบความสำเร็จและยังเชื่อ ด้วยว่าเกมแรกไทย จะชนะ มาเลเซีย

"ฟุตบอลมันขึ้นอยู่กับรูปแบบการเล่น ผมไม่คิดว่าสถิติจะมาเป็นตัวชี้วัดได้ว่าไทยจะรุ่งหรือร่วงเพราะผม"สำหรับ "เจ้าต้อม" มีสถิติไม่สู้ดีในการเล่นฟุตบอลรายการทัวร์นาเมนต์ให้ทีมชาติไทย นับตั้งแต่เยาวชน 20 ปีชิงแชมป์โลก ที่ประเทศซาอุฯ เมื่อ 2 ปีก่อน โดยไทยตกรอบแรก ต่อด้วยซีเกมส์เมื่อ 2 ปีที่แล้วที่ประเทศลาว ไทยตกรอบแรกในรอบ 36 ปี และล่าสุดเอเชียนเกมส์ เมื่อปีที่แล้วที่ประเทศจีน ไทยตกรอบ 8 ทีม

"แซม" หวังสอยตาข่ายเปิดซิง

ด้าน "แซม" รณชัย รังสิโย กองหน้ากัปตันทีมชาติไทย บอกว่า ตอนนี้นักเตะทุกคนมีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ และแมตช์แรกของทัวร์นาเมนต์คาดหวังว่าจะทำประตูให้ได้ และจากการดูมาเลเซียเมื่อวันก่อนถือว่าไม่เท่าไหร่ แม้จะยอมรับว่ากองหลังรูปร่างสูงใหญ่แต่ก็มีความช้า เพราะฉะนั้นจะใช้ความคล่องตัวและความสามารถเฉพาะตัวของเพื่อนร่วมทีมทุกคน ช่วยกันเล่น เพื่อหาช่องเจาะเข้าทำแทนที่จะเล่นลูกกลางอากาศ

มีแข่งอีกสามคู่ เอ 1 บี 2

ขณะที่อีกสามคู่ที่เหลือ สาย เอ ระหว่าง กัมพูชา ที่นัดแรกแพ้ อินโดฯ 0-6 พบกับ สิงคโปร์ ที่เกมแรกเสมอ มาเลเซีย 0-0 โดยทั้งสองทีมลงสนามเป็นนัดที่สอง ซึ่งสถานการณ์ของสิงคโปร์ ยังมีลุ้นเข้ารอบหากเก็บชัยชนะในเกมนี้ได้ ส่วนกัมพูชาหากไม่มีแต้มโอกาสตกรอบก็จะมีสูงทันที โดยสถิติที่เคยพบกันในซีเกมส์ปรากฏว่าพบกัน 4 ครั้ง กัมพูชา แพ้ให้กับ สิงคโปร์ ทุกเกม และทั้ง 4 ครั้งเป็นการเจอกันในรอบแรก โดยกัมพูชาจะตกรอบทุกครั้งเมื่ออยู่ร่วมสายกับสิงคโปร์

ส่วนสาย บี มีเตะ 2 คู่ ระหว่าง เมียนมาร์ ที่มี 4 คะแนนจาก 2 นัด ด้วยการชนะลาว 3-2 และเสมอเวียดนาม 0-0 พบกับบรูไน ที่ลงสนามเป็นนัดที่สาม โดยเกมแรกแพ้ติมอร์เลสเต 1-2 และนัดล่าสุด เสมอลาว 2-2 โดยเกมนี้หากเมียนมาร์เก็บสามคะแนนได้ จะทำให้มีโอกาสเข้ารอบทันที ส่วนบรูไน แค่ผลเสมอก็ไม่เพียงพอต่อการเข้ารอบ ซึ่งสถิติที่ทั้งสองทีมเคยพบกันในซีเกมส์ ปรากฏว่า เมียนมาร์ ชนะ 2 แพ้ 1

และคู่สุดท้ายระหว่างเวียดนาม ที่มี 4 คะแนนจาก 2 นัด พบกับติมอร์เลสเต จ่าฝูงของสาย บี ที่นัดแรกชนะบรูไน 2-1 และนัดล่าสุดชนะฟิลิปปินส์ 2-1 เช่นเดียวกัน โดยเกมนี้หากเวียดนามต้องการสามแต้มเพื่อตัดแต้มติมอร์ฯ และเพิ่มโอกาสการเข้ารอบ

ขณะที่ติมอร์เลสเต หากชนะในเกมนี้จะจ่อเข้ารอบรองชนะเลิศเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ทันที โดยสถิติเมื่อ 2 ปีที่แล้วทั้งสองทีมอยู่ร่วมสายเดียวกัน และปรากฏว่าเวียดนามชนะ 4-0 ซึ่งถือเป็นการเจอกันครั้งเดียวในซีเกมส์

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/
สนับสนุนการขับเคลื่อนโดย
- ฮอนด้าพิธานพาณิชย์-อริยะมอเตอร์ www.phithan.co.th/hondaphithan
- ปาล์มสปริงส์ & ซิตี้รีสอร์ท บ้านและคอนโดคุณภาพจากเครืองศุภาลัย www.hatyainakarin.com
- ธีระการช่าง หาดใหญ่ (เยื้องบิ๊กซีคลองแห) โทร 086-4910345 www.facebook.com/teerakarnchanghy
- เอนกการช่าง ผู้นำการพัฒนาเครื่องจักรกลเกษตร โทร 081-7382622 www.an-anek.com/contact.php
รีวิวธุรกิจ เกาะติดบ้านเมือง ร้อยเรื่องท้องถิ่น TLP 0897384215

samrit

4 โมงเย็นวันนี้ ช่อง 3 ถ่ายทอดสดครับ

อย่าลืมส่งใจเชียร์นั่งเตะไทยนะครับ
คิดดี พูดดี ทำดี ชีวิตก็จะพบแต่สิ่งที่ดีๆ...

samrit

คิดดี พูดดี ทำดี ชีวิตก็จะพบแต่สิ่งที่ดีๆ...