10 อาหารเสริมยอดฮิต 2016

[beautyguru]

1.อาหารเสริมผิวขาว Vitamin C
ติดอันดับ1 วิตามินคู่ใจของใครหลายๆคน สำหรับใครที่เป็นภูมิแพ้อากาศ หรือเป็นหวัดง่าย ช่วยปรับภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ค่อยๆดีขึ้น สร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายได้ดีทีเดียว ยังช่วยทำให้ผิวขาวขึ้นแบบธรรมชาติ *สำหรับใครที่เป็นหวัดง่ายแนะนำให้ทานวิตามินซีอาหารเสริมแบบอัดเม็ดปริมาณ 1,000 มิลลิกรัม วันละ 1 เม็ดนะคะ

2.อาหารเสริมบำรุงร่างกาย ธาตุเหล็ก
ช่วยป้องกันและรักษาโรคโลหิตจาง สร้างการเจริญเติบโตของร่างกาย
ควรรับประทานพร้อมกับวิตามินซี เนื่องจากวิตามินซีมีส่วนช่วยผลักดันให้ธาตุเหล็กดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้เร็ว

3.วิตามินบีอาหารเสริม
ช่วยป้องกัน เหน็บชา โลหิตจาง กระตุ้นให้เส้นเลือดไหลเวียนดี บำรุงประสาทและสมอง กล้ามเนื้อหัวใจ รักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่  กระตุ้นให้ระบบเผาผลาญดี ช่วยเร่งให้แผลหายเร็ว ลดความเครียด

4.อาหารเสริมบำรุงผิว คอลลาเจน
ช่วยยับยั้งการเกิดริ้วรอย ลดอาการของโรคข้อต่ออักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น เนียนใส ชุ่มชื้น

5.อาหารเสริมบำรุงกระดูก ประโยชน์น้ำมันตับปลา
ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง และวิตามินเอ จะช่วยลดการเจ็บป่วยของร่างกายหายไวขึ้น

6.อาหารเสริมแคลเซียม
อาหารเสริม จะเป็นสารสกัดมาจากกระดูกอ่อนปลาฉลาม นำมาบดละเอียดอุดมไปด้วยแคลเซียม ฟอสฟอรัส ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรงขึ้น ป้องกันโรคกระดูกพรุน ลดอาการปวดหลังเรื้อรัง บรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือน

7.แมกนีเซียมอาหารเสริม
ช่วยบำรุงประสาทและสมอง บรรเทาอาการปวดประจำเดือน เหมาะสำหรับวัยทอง ผู้ที่มีอาการร้อนวูบวาบตามร่างกาย

8.วิตามินอีอาหารเสริม
ช่วยรักษาอาการของโรคโลหิตจาง โรคขาดสารอาหาร ลดอาการปวดกล้ามเนื้อ ละความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจขาดเลือดและอัมพฤกษ์ และยังช่วยลดโรคอัลไซเมอร์เหมาะสำหรับวัยทำงานและวัยสูงอายุ

9.อาหารที่มีวิตามินเอ
มี 2 ชนิดคือ 1.ชนิดรับประทาน ช่วยสร้างภูมิต้านทานระบบทางเดินหายใจ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น 2.ชนิดครีมทา ที่สาวๆ รู้จักกันทุกคนในนามของ Retin-A สามารถลบเลือนจุดด่างดำ รอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวให้หายเร็วขึ้น

10.อาหารเสริมวิตามินดี
วิตามินดี "วิตามินแดด" รับแสงแดดอ่อนๆไม่เกิน 10 โมงเช้าจะช่วยผลักดันให้การดูดซึมของแคลเซียม และฟอสฟอรัสสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟันให้แข็งแรงขึ้น วิตามินดี ที่เป็นอาหารเสริมที่ถูกดัดแปลงเป็นน้ำมันตับปลา
ขอบคุณข้อมูลจาก http://herbtamin.com/