อสังหาฯแห่พึ่งเทคโนโลยีในงานก่อสร้าง แก้ปัญหาวิกฤติแรงงาน

[ทีมงานบ้านเรา]

ข่าวโดย http://www.reic.or.th/News/News_Detail.aspx?newsid=52234

อสังหาฯแห่พึ่งเทคโนฯ ก่อสร้างแก้วิกฤติแรงงาน   

อสังหาฯ ตั้งรับวิกฤติรับเหมา-แรงงานขาดแคลนปีหน้า หลังรัฐลุยเมกะโปรเจค มูลค่ากว่า 1.7 แสนล้าน ดันปริมาณงานก่อสร้างเพิ่มเท่าตัว ผู้ประกอบอสังหาฯ แห่พึ่งเทคโนโลยีก่อสร้างเร็ว ทั้งระบบสำเร็จรูปพรีคาสท์-บ้านเอสซีจี ฮาม สร้างบ้านระบบโมดูลาร์ 4 เดือนเสร็จ

อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ นับเป็น อีกธุรกิจที่ต้องใช้บุคลากรและแรงงานจำนวนมาก ขณะที่การแข่งขันสูงขึ้นจากผู้เล่นหนาตา ส่งผลให้ในช่วงที่ผ่านมาเกิดภาวะขาดแคลนแรงงานในภาคอสังหาฯ ทำให้ต้นทุนแรงงานเพิ่มขึ้นจากการแย่งตัวแรงงาน ผู้ประกอบการอสังหาฯจึงพลิกระบบการก่อสร้างแบบเดิมๆ มาสู่เทคโนโลยีการก่อสร้างบ้านสำเร็จรูป ที่ช่วยร่นระยะเวลาก่อสร้าง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

นายเลอศักดิ์ จุลเทศ รองประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเติบโตของอุตสาหกรรมก่อสร้างในไทย ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเท่าตัว จากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐและภาคเอกชน ที่กำลังจะเกิดข้นในอีกไม่กี่ปี ข้างหน้า โดยโครงการรัฐมีมูลค่า รวมมากกว่า 1.7 แสนล้านบาท

ขณะที่กลุ่มห้างสรรพสินค้า คาดว่าจะมีการลงทุน 1.5 แสนล้านบาท ไม่นับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยยังคงเติบโตต่อเนื่อง

เมกะโปรเจคดันแรงงานขาดหนัก

ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยสำคัญ ที่นำไปสู่ปัญหาการขาดแคลน แรงงานก่อสร้างหนักขึ้น เทคโนโลยีการก่อสร้างจึงกลายเป็นคำตอบ ของการแก้ไขปัญหานี้ เพื่อช่วยให้การก่อสร้างเร็วขึ้น ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

โดยที่ผ่านมา พฤกษาฯได้ นำเทคโนโลยีการผลิตบ้านสำเร็จรูป หรือพรีคาสท์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยี การผลิตในระบบอุตสาหกรรม จากบริษัท อีบาเว่ จำกัด จากประเทศเยอรมันมาใช้ ก่อตั้งโรงงานพฤกษา พรีคาสท์ แห่งแรกในปี 2547

กระทั้งในปี 2551 ใช้ระบบ ก่อสร้างพรีคาสท์ในคอนโดมิเนียมแบบโลว์ไลซ์เป็นครั้งแรก ในปี 2552 ใช้ระบบพรีคาสท์ ในคอนโดแนวสูง ปัจจุบันสามารถผลิตบ้านในเชิงอุตสาหกรรมได้ 1,120 ยูนิตต่อเดือน และสามารถลดระยะเวลาก่อสร้างลงเหลือ 76 วัน

นอกจากระบบก่อสร้างสำเร็จรูป ยังได้นำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้ในการบริหารจัดการงานก่อสร้าง เพื่อช่วยลดต้นทุนดำเนินงาน และสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น นวัตกรรมก่อสร้างบ้านระบบอุตสาหกรรม REM ( Real Estate Manufacturing) เป็นการนำแนวคิดกระบวนการผลิตแบบอุตสาหกรรมรถยนต์ที่แบ่งสายการผลิตไปยังทีมงานแต่ละจุดมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการก่อสร้างบ้าน

พึ่งเทคโนโลยีสร้างบ้านไว

นอกจากระบบการก่อสร้างสำเร็จรูปแล้ว บ้าน"เอสซีจี ฮาม" (SCG HEIM) จัดเป็นหนึ่งเทคโนโลยีก่อสร้างบ้านกึ่งสำเร็จรูป ผลิตมาจากโรงงานเกือบทั้งหมด ที่บรรดาผู้ประกอบการเริ่มนำทดลองใช้ มากขึ้น เพื่อแก้ปัญหาผู้รับเหมา แรงงาน สร้างบ้านเสร็จภายใน ระยะเวลาที่กำหนด ที่สำคัญก่อสร้างเสร็จใน 4 เดือน

สำหรับบ้านเอสซีจี ฮาม เป็น การสร้างบ้านที่นำโครงสร้างและ ชิ้นส่วน ของบ้านกว่า 80% เช่น ฉนวนกันความร้อนฝ้า สายไฟ ผนังภายใน ผนังภายนอก ที่ผลิตและตรวจสอบคุณภาพจากโรงงาน แล้วนำมาประกอบหน้างาน

การสร้างแบบนี้ จะทำให้ร่นระยะเวลาก่อสร้างได้มาก สามารถควบคุมคุณภาพงานก่อสร้างให้มีมาตรฐาน แต่ระบบนี้ยังมี ต้นทุนค่าก่อสร้างสูง จึงถูกนำไปใช้เฉพาะโครงการบ้านระดับบนเท่านั้น

ระบบบ้านเอสซีจีฮามในไทย เป็นความร่วมมือระหว่างบริษัท เอสซีจี ผลิตก่อสร้าง จำกัด และเอสซีจี ผลิตก่อสร้าง จำกัด และบริษัทเซกิซุย เคมิคอล จำกัด จากญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงด้านการก่อสร้างบ้านระบบโมดูลาร์ (Modular)

"ระบบสำเร็จรูป"จุดเปลี่ยนก่อสร้าง

นายวงศกรณ์  ประสิทธิ์วิภาต ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาธุรกิจ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ระบบการก่อสร้างสำเร็จรูปถือเป็น จุดเปลี่ยนของการก่อสร้าง ช่วยแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลน และลดระยะเวลาก่อสร้าง

นอกจากนี้ บริษัทนำ บ้าน "เอสซีจี ฮาม" หนึ่งในเทคโนโลยีการก่อสร้างบ้านกึ่งสำเร็จรูป ตามโครงสร้างระบบโมดูลาร์  เข้ามาทำใช้ในโครงการบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ กลุ่มแบรนด์ "เพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ" ระดับ 20 ล้านบาท เพราะเชื่อว่าเทคโนโลยีก่อสร้างบ้านระบบสำเร็จรูปจะเป็นแนวโน้ม ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานก่อสร้าง

เพราะใช้เวลาก่อสร้างเหลือ 4 เดือน จากปกติเฉลี่ย 8-12 เดือน ถึงแม้จะมีราคาสูง ด้วยขนาด บ้าน ที่ดิน และสเป็กวัสดุที่ใกล้เคียง กัน แต่มีข้อดีโครงสร้างบ้านทำ จากเหล็ก ป้องกันการเกิดสนิม และทนทานต่อแผ่นดินไหว มีระบบการหมุนของอากาศใน บบ้านที่ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยได้อากาศที่สะอาด

เช่นเดียวกับหลายบริษัท ไม่ว่าจะเป็น สัมมากร หรือ โกลเด้นแลนด์ เรสซิเด้นซ์ กรุ๊ป ที่ได้นำ ระบบเอสซีจี ฮาม มาใช้ สำหรับ โกลเด้นแลนด์ ใช้โครงการแรก "โกลเด้น เลเจ้นด์ สาทร-กัลปพฤกษ์" เป็นบ้านเดี่ยวระดับบน ราคา 20 ล้านบาท

โดยระบบนี้มีโครงสร้าง แข็งแรง ทำจากเหล็ก ที่สำคัญใช้ระยะเวลาก่อสร้างเร็ว มีรอยต่อ น้อย มีระบบช่วยในเรื่องการ กรองฝุ่นละออง เพราะเป็นบ้านเย็นระบบหมุนเวียน แต่ยอมรับราคาค่อนข้างสูง

"เอพี"ผุดอะคาเดมี่ สร้างคน

นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หัวใจสำคัญของการพัฒนา อสังหาฯ อยู่ที่การสร้างคนที่มีคุณภาพและเป็นมืออาชีพ แต่ที่ผ่านมา กลับไม่ได้รับการพัฒนาเท่าที่ควร ส่งผลให้เกิดการซื้อตัวข้าม องค์กรต่อเนื่อง เมื่อเป็นเช่นนี้ ทำให้หลายบริษัทต้องนำเทคโนโลยีมาทดแทนคน ตั้งแต่ระบบก่อสร้างพรีแคส การสร้างนวัตกรรม ดีไซน์ใหม่ๆ การขาย การดูแลหลัง การขาย พร้อมไปกับการหาบุคลากรเพิ่มเติม

โดยเอพีฯ ได้เตรียมการผลิตบุคลากรอย่างต่อเนื่องมากว่า 5 ปี ใช้งบไปแล้วกว่า 400 ล้านบาท ในการพัฒนา เอพี อะคาเดมี่ สถาบันเพื่อการเรียนรู้ครบวงจร ด้านอสังหาริมทรัพย์แห่งแรก ของไทย

"เอพี เป็นผู้ประกอบการ รายแรกที่ก้าวเข้ามาบุกเบิก และทุ่มงบประมาณอย่างต่อเนื่อง ในการสร้างบุคลากร เพื่อให้เรา ก้าวไปอีกขั้นในการพัฒนาบ้านและที่อยู่อาศัยคุณภาพ ตอบโจทย์ ทุกความต้องการของลูกค้า เป็นระบบ และครบวงจร"

เทคโนโลยีการก่อสร้างบ้านสำเร็จรูป ช่วยร่นระยะเวลา

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ