มาเลเซียฉลองวันชาติครบรอบ 59 ปี เผยไทยแห่เที่ยวมาเลครึ่งปีแรกพุ่ง 32.1%

[ทีมงานประชาสัมพันธ์]

กรุงเทพฯ, 21 กันยายน 2559: พณฯท่าน ดาโต๊ะ นาซีระห์ บินตี ฮุสซัยน์  (H.E. Dato' Nazirah binti Hussain) เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทยจัดงานฉลองวันชาติมาเลเซีย 2016 ครบรอบ 59 ปี ณ สถานทูตมาเลเซียประจำประเทศไทยวันนี้ โดยในงานมีแขกผู้มีเกียรติและบุคคลสำคัญจากฝั่งไทยและมาเลเซีย สื่อมวลชนรวมถึงชาวไทยและชาวมาเลเซียที่พำนักอยู่ในเมืองไทยมาร่วมแสดงความยินดีในงานเฉลิมฉลองนี้กันอย่างอบอุ่น

"งานครบรอบวันชาติมาเลเซียในปี 2016 นี้แสดงให้เห็นถึงความสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของชาวมาเลเซียภายใต้สังคมหลากหลายเชื้อชาติดังแนวคิด "1Malaysia" ของรัฐบาลมาเลเซียที่เน้นการพัฒนามวลชนอันเป็นรากฐานที่มั่นคงที่จะช่วยทำให้ประเทศชาติเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าสมคำว่า "People First, Performance Now" เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทยกล่าว

นอกจากนี้ประเทศไทยและมาเลเซียยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนานในหลากหลายมิติ เช่นการเป็นคู่ค้าที่มั่นคง การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม หรือแม้แต่การท่องเที่ยวระหว่างประเทศ "ในปี 2016 นี้ มาเลเซียคือจุดหมายปลายทางที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัว จัดเต็มความสนุกสนานทั้ง เทศกาล วัฒนธรรม กีฬาอาหาร สวนสนุก แหล่งชอปปิ้งใหม่ๆผุดขึ้นมากมาย ช่วยแต่งเเต้มสีสันแห่งประสบการณ์ให้กับทุกคนในครอบครัวได้อย่างแน่นอน ชาวไทยไปเที่ยวมาเลช่วงนี้มีแต่คำว่าคุ้มค่า เพราะไม่ว่าจะค่าเงินริงกิตที่อ่อนตัวลง ดัชนีความปลอดภัยยังสูงเป็นอันดับที่ 3 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สิ่งอำนวยความสะดวกทันสมัยครบครัน เมืองต่างๆยังได้รับการโหวตระดับโลกเช่นกัวลาลัมเปอร์ของเราคือเมืองชอปปิ้งอันดับ 4 ของโลก ปีนังคือเมืองแห่งอาหารรสเลิศติด 1 ใน 10 ของโลก หรือเลโกแลนด์แห่งแรกในเอเชียก็อยู่ที่เมืองยะโฮร์" เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทยกล่าวเสริม

ข้อมูลจาก Booking.com ในเดือนมิถุนายน 2559 ระบุว่าจุดหมายยอดนิยม 5 อันดับแรกซึ่งครอบครัวชาวไทยเลือกไปเที่ยวคือ ประเทศมาเลเซีย ตามมาด้วยนิวซีแลนด์ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ ตรงกับข้อมูลของสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) ผู้จัดงานเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลกที่เน้นแพ็คเกจเที่ยวต่างประเทศ ที่เผยว่าตลาดที่นักท่องเที่ยวไทยไปเที่ยวอันดับ 1 ในปี 2559 นี้คือ มาเลเซีย รองลงมา คือสปป.ลาวและญี่ปุ่น

นอกจากนี้นายอับดุล ฮาริส บิน ฮาดี้ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวมาเลเซียประจำประเทศไทยและพม่ายังเผยอีกว่าครึ่งปีแรก 2559 ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเลเซียเป็นจำนวน 13 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3.7% จาก 12.5 ล้านคนในปี 2558 โดยมีรายได้จากการท่องเที่ยวคิดเป็น 37.4 พันล้านริงกิต เพิ่มขึ้นถึง 10.7% จาก 33.8 พันล้านริงกิตในปี 2558 โดยมีค่าใช้จ่ายต่อคนต่อวันอยู่ที่ 2,869.6 ริงกิต ระยะเวลาพำนักเฉลี่ยต่อคนต่อวัน 5.8 คืน รายได้โดยรวมจากการชอปปิ้งคิดเป็น 11.7 พันล้านริงกิต เพิ่มขึ้น 17.1% จาก 10 พันล้านริงกิตในปี 2558 ชี้สถานการณ์ดีขึ้นหลังจากตัวเลขนักท่องเที่ยวโดยรวมลดลงเมื่อปี 2558 โดยอัตรานักท่องเที่ยวไทยโตทะลุเป็นอันดับหนึ่งคิดเป็น 32.1% 

จำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 10 อันดับแรกที่เดินทางเข้ามาเลเซียตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมิถุนายน 2559 ได้แก่ สิงคโปร์ (6,596,452), อินโดนีเซีย (1,378,699), จีน (992,463), ไทย (864,453), บรูไน (637,369), อินเดีย (359,853), เกาหลีใต้ (228,023), ฟิลิปปินส์ (220,163), อังกฤษ (206,313) และญี่ปุ่น (198,693) ในขณะที่นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอาเซียนยังคงมีสัดส่วนมากที่สุดคิดเป็น 75.7% (9.87 ล้าน) ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด

ส่วนตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด ได้แก่ ไทย (+32.1%) ลาว (+26.8%) บรูไน (+15.2%) อินโดนีเซีย (+4.9%) และสิงคโปร์ (+3.2%) ปัจจัยหลักที่ทำให้อัตรานักท่องเที่ยวไทยพุ่งโตสูงสุด เนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของไทยในช่วงไตรมาสแรกและค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเงินดอลลาร์ ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สิงคโปร์และบรูไนแข็งค่าต่อเงินริงกิตทำให้นักท่องเที่ยวจากสองประเทศนี้เดินทางเข้ามาเลเซียเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะช่วงเดือนรอมฎอนและเทศกาลฮารีรายอ อิดิ้ลฟิตรี

ตลาดการเดินทางระยะกลางคิดเป็นสัดส่วน 18.3% หรือ 2.3 ล้านคนของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด ตลาดที่มีอัตราการเติบโตขึ้นใน 6 เดือนแรกของปีนี้ได้แก่ จีน (+32.1%), เกาหลีใต้ (+11.2%), ซาอุดิ อาระเบีย (+6.9%) และไต้หวัน (+3.7%) ในขณะที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์มียอดลดลง 22.1% และ 15.1% ตามลำดับ สืบเนื่องจากจดหมายแจ้งเตือนการท่องเที่ยวของสองประเทศต่อการเดินทางมาเที่ยวที่มาเลเซียจากเหตุการณ์ลักพาตัวนักท่องเที่ยวที่ซาบาฮ์และเหตุการณ์จากกลุ่ม IS นอกจากนี้ยังมีการยกเลิก 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์จากออสเตรเลียมีผลให้จำนวนที่นั่งเครื่องบินลดลง 8.5% จาก 35,359 ที่นั่งในปี 2558 เป็น 32,339 ที่นั่งในปี 2559