The Magnificent Seven (2016)

[Review]

http://www.hatyaireview.com/index.php/attachment/image/315" />

The Magnificent Seven “7 สิงห์แดนเสือ” หนังดัดแปลงมาจากภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่เป็นตำนานและสร้างโดยผู้กำกับปรมาจารย์ของโลก “อากิระ คูโรซาว่า” ที่ต้นฉบับใช้ชื่อว่า Shichinin no samurai ( 7 Samurai ) “7 เซียนซามูไร (1954)” เวอร์ชั่นเดิมเป็นเรื่องของชาวนาที่ถูกรังแกปล้นสดมภ์บ่อย ๆ หลังฤดูเก็บเกี่ยว  จนต้องรวมตัวรวมเงินที่มีอยู่น้อยนิดช่วยกันจ้างซามูไรรับจ้าง 7 คน มาช่วยปกป้องจากโจรร้ายที่จะเข้ามาปล้น  การนำเสนอตัวละครจำนวนมากแต่สามารถถ่ายทอดได้เข้าใจรู้เรื่องสนุกและมันส์สุด ๆ   จนทำให้ฉากที่ซามูไรต่อสู้กับเหล่ากองทัพโจรถูกนำมาใช้เป็นบทเรียนหนึ่งในการตัดต่อภาพยนตร์แอคชั่นของนักศึกษาที่เรียนในสาขาภาพยนตร์ทั่วโลก หนังทำออกมาได้ดีมากจนทางฮอลลีวู้ด หยิบเอามาดัดแปลงเป็นเวอร์ชั่นอเมริกันในปี 1970 โดยนำมาดัดแปลงให้เป็นเรื่องของ 7 คาวบอยที่ช่วยปกป้องชาวบ้านที่กำลังจะถูกยึดที่ทั้งหมู่บ้านเพื่อเอาไปทำเป็นเหมือง...นี่ไม่นับรวม ภาพยนตร์ไทยอย่าง 7 ประจัญบาน ที่ได้รับอิทธิพลมาเช่นกัน... โดยขนบหลัก ๆ ของภาพยนตร์ชุดนี้คือการรวมคนเก่ง ๆ มีบุคลิกโดดเด่นแตกต่างกัน มีจิตใจดีงามช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน แต่ในส่วนของความลึกซึ้งของแต่ละเวอร์ชั่นก็แตกต่างกันออกไปตามสภาพแวดล้อม สังคมพื้นฐานของแต่ละประเทศผู้สร้าง ฉบับญี่ปุ่นมีความลึกซึ้งซับซ้อน มีเรื่องของอารมณ์การชั่งน้ำหนักเลือกข้างความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ในขณะเวอร์ชั่นอเมริกัน จะดูผ่อนคลายกว่ามีอารมณ์ขัน และออกไปทางแอคชั่นมากขึ้น

http://www.hatyaireview.com/index.php/attachment/image/318" />

 มาในปีนี้ 2016 หนังเรื่องนี้ก็ถูกหยิบมาปัดฝุ่นสร้างใหม่อีกครั้ง หนังยังคงธรรมเนียมเดิมของหนังชุดนี้ มีการดึงเอาดาราระดับซุปเปอร์สตาร์ของยุคสมัยมารวมตัวกัน เฉกเช่นเวอร์ชั่นเก่า ๆ “แดนเซล วอชิงตัน” ดาราผิวสี คู่บุญผู้กำกับ “อังตวน ฟูกัว” ที่เคยร่วมงานกันจนได้ออสการ์มาแล้วจาก “Training Day”  กลับมารับบทหัวหน้าทีมคาวบอยรับจ้างผู้รวบรวมทีมคนกล้าคนเก่ง ๆ มาอยู่ด้วยกัน   ความสามารถทางการแสดงไม่ต้องพูดถึงแล้ว แต่ที่ดูแปลกตาและเก๋ามาก ๆ คือมาดคาวบอยหลังคุ้มหน่อย ๆ ขาโก่งนิด ๆ เหน็บปืนที่เอวแต่หันด้ามไปด้านหน้า ก็งง ๆ เหมือนกันว่าชีวิตจริงจะยิงสู้กับผู้ร้ายทันหรือเปล่า เพราะต้องพลิกข้อมือไปมาก่อนจะส่องผู้ร้ายได้

“คริส แพตต์” ดาราหนุ่มสุดร้อนแรงจาก “Guardians of The Galaxy” และล่าสุดอย่าง “Jurassic World” ยังคงบุคลิกมาดกรุ้มกริ่ม กวนตีน ๆ เช่นเคย และยังไปได้ดีกับบทนี้ เป็นตัวสร้างสีสรรและอารมณ์ขันให้กับเรื่องอย่างมาก

“Byung-hun Lee” คาวบอยเอเชียกับบทพูดน้อยต่อยหนัก ดูโดดเด่นเช่นเรื่องก่อน ๆ ของเขา ถือว่าเป็นดาราเกาหลี-เอเชียอีกคนที่ไปได้ไกลในฮอลลีวู้ด งานที่ผ่านมาอย่า GI Joe ทั้ง 2 ภาค หรือคนเหล็ก Terminator Genisys

http://www.hatyaireview.com/index.php/attachment/image/317" />

หนังเปลี่ยนแปลงให้บทหัวหน้าคาวบอยผู้ที่รวบรวมยอดมือปืนเป็นชายผิวสี ซึ่งก็ทำให้สามารถเป็นประเด็นดราม่าสร้างความความรู้สึกเปราะบางในหนังได้ต่อ ไม่ว่าเรื่องของการเหยียดชาติพันธุ์ การแบ่งชนชั้น ฉากที่แดนเซล เดินเข้าเมืองกับ Byung -hun Lee เป็นฉากตลกที่หัวเราะไม่ได้ขำไม่ออกกันเลย เมื่อเมืองทั้งเมืองสงบนิ่งตะลึงมองสองคนนี้เดินเข้าเมืองมา...

ไม่รู้ทำไมเห็นฉากที่แดนเซล หัวหน้าทีม ไปติดต่อตามหายอดฝีมือ ใจนึกไปถึงเล่าปี่แห่งสามก๊ก ที่เอาทั้งเรื่องของคุณธรรม น้ำมิตร บู๊ บุ๋นประสานกันทุกวิถีทางจนเพื่อนยอมรับและเปิดใจมาร่วมทำงานด้วยกัน.....

ฉากแอคชั่นดูสนุก ดาราส่วนที่เหลือนอกเหนือตัวจี๊ดหลัก ๆ ก็ไม่โดนกลืนหายไปกับหนัง อย่างอินเดียนแดง หรือลุงหมีที่มีแก๊กมีมุกให้เฮอยู่เรื่อย ๆ  เพลงประกอบ เสียงกระสุนเอฟเฟ็คส์เร้าใจ โปรดักชั่นภาพรวมของหนังดูดีมาก ฉากทิวทัศน์มุมกว้างดูงดงามตระการตา การได้มีโอกาสดูหนังคาวบอยในยุคนี้ถึงว่าเป็นความกล้าของผู้สร้างและน่าทึ่งยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อได้ดูมันฉายบนจอใหญ่ Imax

ถึงแม้พล็อตหนังจะดูเชย ๆ ไปบ้าง แต่เรื่องของความดีก็เป็นเรื่องที่เราสมควรทำควรเชื่อไปตลอดมิใช่หรือ...

http://www.hatyaireview.com/index.php/attachment/image/316" />

ที่มา:http://www.hatyaireview.com/index.php/article/35">หาดใหญ่รีวิว

[jobyjob]

เรื่องนี้น่าดูครับผม