พาไปดูวิธีเลือกซื้อครีมกันแดด ว่าค่า SPF และ PA เท่าไรถึงจะดีสำหรับสาวกลัวแดดกัน

[nick numprik]

           ส่วนผสมในครีมกันแดดจะทำหน้าที่ในการปกป้องผิวจากรังสี UV ด้วยการดูดซับรังสี ป้องกันแสง UV ไม่ให้ผ่านเข้าไปถึงชั้นผิว หรือทำให้รังสี UV แตกกระจายออกไปเพื่อไม่ให้เข้าทำร้ายผิวโดยตรง เพื่อให้ได้ผลดีที่สุด ควรทาครีมกันแดดก่อนออกไปสู่ที่มีแสงแดด 30 นาที

ผลิตภัณฑ์ กันแดดที่จำหน่ายนั้น มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันแดด จึงขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่างเช่น ความสามารถในการป้องกันรังสี UV เราจึงควรเลือกครีมกันแดดที่มีทั้งค่า SPF และ PA คือสามารถป้องกันได้ทั้งรังสี UVB และ UVA แล้วสำหรับแดดบ้านเรา ควรใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดหน้าที่มี SPF และ Pa เท่าไหร่ดี ถึงจะเหมาะสมและปกป้องผิวจากแสงแดดได้จริงล่ะ??

        คำตอบคือ ในความเป็นจริงแล้ว SPF ที่มากกว่า 30 ขึ้นไป ให้ฤทธิ์ของการปกป้องแสงแดดแตกต่างกันน้อยมาก
ค่า SPF เท่ากับ 20 จะดูดซับ UVB ได้ 95%
ค่า SPF เท่ากับ 30 จะดูดซับ UVB ได้ 96.7%
ค่า SPF เท่ากับ 45 จะดูดซับ UVB ได้ 97.8%
ค่า SPF เท่ากับ 50 จะดูดซับ UVB ได้ 98%
จะเห็นว่า ค่า SPF หลังจาก 30 แล้ว ค่า SPF จะแตกต่างกันเพียง 1% เท่านั้น เราจึงอาจไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเลือกใช้ครีมกันแดดหน้าที่มี SPF สูง ๆ

สำหรับ PA นั้นจะมี 3 ระดับคือ PA+,PA++ และ PA+++
       PA+++ นั้นสำหรับผู้ที่ต้องการ การปกป้องสูง (เจอกับแสงแดดจัด ๆ เป็นเวลานาน)
       PA+ สำหรับผู้ที่ต้องการปกปกแสงแดด จากกิจกรรมทั่ว ๆไป (อาจจะไม่ได้เจอกับแสงมากนัก)
       ดังนั้นสำหรับใครที่จะต้องเจอกับแสงแดดเป็นเวลาหลายชั่วโมง ให้เลือก PA++ หรือ สูงกว่านี้

ครีมกันแดดหน้าที่ดีจะต้องเข้าได้กับสภาพผิวหน้าของเรา สามารถกระจายได้ดี ไม่ทำให้เกิดคราบ ครีมกันแดดในปัจจุบันมีในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อครีม เจล หรือโลชั่น สาวๆจึงควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่เข้ากันได้กับสภาพผิวหน้าของเราด้วยนะคะ