ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

คอมพ์ปรับตัวครั้งใหญ่ ปั๊มยอดขายบนกลยุทธ์ใหม่

เริ่มโดย ฅนสองเล, 13:58 น. 20 ธ.ค 54

ฅนสองเล

โดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์   15 ธันวาคม 2554 15:57 น.   


[attach=1]
       *ค่ายคอมพ์ฉีกแนวทำตลาดแบบเดิมๆ ทิ้ง
       
       * กลยุทธ์ใหม่-วิธีคิดใหม่ ถึงตอบโจทย์ลูกค้า
       
       * ผลกระทบน้ำท่วมทำพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน
       
       * ตัวแปรสำคัญทำให้ตลาดชะลอตัวถึง 2 ไตรมาส
       
       ปี 2555 ถือได้ว่าเป็นปีที่ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ต้องปรับตัวขนานใหญ่อย่างเลี่ยงไม่ได้ หลังสถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ ไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรรมฮาร์ดดิสก์เท่านั้น ทว่ายังทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปด้วย โดยไอดีซีและแวดวงผู้ประกอบการ ประเมินว่า การเปลี่ยนเครื่องใหม่จะช้าลง ส่งผลให้ตัวเลขตลาดรวมคอมพ์ไตรมาส 4 ต่อเนื่อง ไตรมาส 1 ปี 55 จะหดตัวลงไม่ต่ำกว่า 30% สวนทางกับราคาเครื่องที่ว่ากันว่าน่าจะดีดตัวสูงขึ้น ทั้งหมดจึงเป็นแรงเหวี่ยงสำคัญให้ผู้ประกอบการต้องปรับกลยุทธ์และวิถีคิดใหม่นับจากนี้ เพื่อปั๊มตัวเลขยอดขายปีหน้าให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
       
       หากมองภาพรวมตลาดคอมพ์รอบปี 2554 เรียกได้ว่า เป็นปีที่มีสีสันและเผชิญความท้าทายอย่างมาก เพราะนอกจากการแข่งขันที่ดุเดือดเลือดพล่าน โดยเฉพาะการขับเคี่ยวระหว่างแบรนด์เบอร์ 2 ไปจนถึงเบอร์ 5 ที่มีส่วนแบ่งตลาดต่างกันไม่มาก โดยแต่ละค่ายต่างอัดกิจกรรมการตลาดเข้าใส่กันไม่ยั้ง เพื่อแย่งฐานลูกค้าและเพิ่มส่วนแบ่งให้กับตนเองมากที่สุด แล้ว ยังต้องเผชิญกับสถานการณ์ไม่คาดฝัน โดยเฉพาะภาวะน้ำท่วม จนทำให้แต่ละแบรนด์ต้องเร่งปรับแผนรับมือกันแบบวันต่อวัน
       
       ทว่าสำหรับปี 2555 ผู้ประกอบการมองตรงกันว่า ยังเป็นปีที่การแข่งขันร้อนแรง และไม่ง่าย เพราะทุกค่ายต่างมีเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งตลาดให้ตนเอง เมื่อบวกกับผลพวงจากสถานการณ์น้ำท่วม ก็ทำให้ทุกแบรนด์ต้องปรับตัว พร้อมเปลี่ยนวิธีคิดการตลาดใหม่ๆ ให้เหมาะสมมากขึ้นกว่าเดิม
       
       "เป็นปีที่ทุกแบรนด์ต้องปรับตัว ไม่ยึดติดกับการตลาดในรูปแบบเดิมๆ"
       
       เป็นคำกล่าวของ จีรวุฒิ วงศ์พิมลพร ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จำกัด ถึงการเปลี่ยนแปลงนับจากนี้ และบอกว่า ตัวผลักสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถใช้ยุทธศาสตร์เดิมๆ ทำตลาดได้อีกต่อไป มาจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป จากข้อมูลของไอดีซี พบว่า ผู้บริโภคจะเปลี่ยนเครื่องใหม่ช้าลง ส่งผลให้ภาพรวมตลาดคอมพ์ช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ต่อเนื่องไตรมาส 1 ปี 2555 หดตัวลงประมาณ 30% ของตลาดรวมคอมพิวเตอร์ 1.8 ล้านเครื่อง
       
       สอดคล้องกับ ถกล นิยมไทย ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฝ่ายธุรกิจเทคโนโลยี บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด ที่มองว่า สถานการณ์น้ำท่วมจะส่งผลต่อตลาดรวมคอมพิวเตอร์ปีหน้า โดยในไตรมาส 1 และ 2 ตลาดยังฝืด และจะฟื้นตัวอย่างชัดเจนในไตรมาส 3 ผู้ผลิตจึงต้องเปลี่ยนกลยุทธ์และวิธีคิดใหม่ เนื่องจากการใช้การทำตลาดแบบเดิมๆ อาจไม่เพียงพอแล้ว
       
       แนวทางการปรับตัวของค่ายเลอโนโวในปีหน้าจะมุ่ง 3 เรื่องหลัก ได้แก่ การขยายตลาดคอนซูเมอร์มากขึ้น อีกทั้งนำสินค้าเข้ามาทำตลาดให้ครบไลน์ ทั้งกลุ่มโน้ตบุ๊ก พีซี และแท็บเลต รวมไปถึงโทรศัพท์มือถือ ซึ่งปัจจุบันได้เปิดตัวในประเทศฟิลิปปินส์ ผลตอบรับดีมาก ส่วนเมืองไทยอยู่ระหว่างศึกษาตลาด หากพร้อมอาจจะนำเข้ามาทำตลาดปีหน้า พร้อมเพิ่มช่องทางการขายใหม่ๆ เช่น ตลาดต่างจังหวัด โดยคาดว่าปีหน้าจะเพิ่มสัดส่วนเป็น 25% จากปัจจุบัน 15% เพราะจากภาวะน้ำท่วม ตลาดกลุ่มนี้ช่วยให้ยอดขายไม่หดตัวลงมาก
       
       ตลอดจนมีการจัดแคมเปญโปรโมชั่นให้ตรงความต้องการลูกค้า เช่น มีการทำโปรโมชั่นในร้านค้ามากขึ้น เพื่อดันยอดขายกระจายในทุกพื้นที่ จากเดิมที่จะเน้นทำโปรโมชั่นในงานอีเวนต์เป็นหลัก อีกทั้งต้องมีการผนึกพาร์ตเนอร์เพื่อรุกกิจกรรมกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นด้วย เพราะทิศทางการทำตลาดต่อไปจะทำคนเดียวไม่ได้ โดยตอนนี้อยู่ระหว่างการวางแผน
       
       จีรวุฒิ บอกว่า จากแนวทางการปรับตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ยอดขายเลอโนโวช่วงน้ำท่วมกระทบไม่มากนัก พร้อมมั่นใจปีหน้าจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 10% จากปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาด 8% รั้งอันดับที่ 5
       
       ฟากโตชิบา ยอมรับว่า น้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อยอดขายประมาณ 300 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดขายรวมปีนี้จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 4,500 ล้านบาท เหลือเพียง 4,300 ล้านบาท แต่ในแง่ของส่วนแบ่งทางการตลาด ไม่กระทบ โดยปัจจุบันโตชิบามีส่วนแบ่งตลาดโน้ตบุ๊ก 9% ปีหน้าตั้งเป้าจะมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 15%
       
       ถกล บอกว่า สถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้แม้จะสร้างวิกฤตทางด้านการขาย แต่โตชิบาก็ไม่หยุดนิ่ง ตรงกันข้ามกลับทุ่มงบและทำการตลาดไม่หยุด ล่าสุดผุดแคมเปญ "ยิ้มสู้" ซึ่งใช้เม็ดเงินสูงถึง 10 ล้านบาท เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า
       
       "ปีหน้าในแง่การทำตลาดเราต้องบุกมากกว่าเดิม และต้องเปลี่ยนวิธีใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับตลาดยิ่งขึ้น"
       
       ถกล กล่าว และว่า ยุทธศาสตร์การทำตลาดใหม่ของโตชิบาในปีหน้า จะเน้นการจัดโรดโชว์ย่อยๆ ในต่างจังหวัดมากขึ้น พร้อมกับมีการจัดแคมเปญโปรโมชั่นถี่ขึ้นชนิดรายสัปดาห์ เพื่อไดรฟ์ให้เกิดการขายมากขึ้น
       
       นอกจากรูปแบบการจัดกิจกรรมที่เปลี่ยนไปแล้ว โตชิบายังจะหันมารุกตลาดกลุ่มเอนทรีมากขึ้นด้วย เนื่องจากเป็นตลาดที่โตชิบายังมีสัดส่วนตลาดน้อย พร้อมทั้งมีแผนขยายช่องทางการขายใหม่ๆ ที่ยังไม่ได้เข้าไปทำตลาด ไม่ว่าจะเป็นต่างจังหวัด และโมเดิร์นเทรด เพื่อขับเคลื่อนยอดขายและส่วนแบ่งตลาดให้ได้ตามเป้าที่วางไว้

toogting