วัสดุก่อสร้าง ในยุคที่อะไรก็สร้างใหม่ ( ผลประกอบการ ปี 60 )

[อรรถพล แจ่มบุรี]

           ช่วงปีที่ผ่านมา หนึ่งข่าวที่เป็นกระแสเข้าหูมาตลอด ก็คือข่าวประเภทโครงการก่อสร้างต่างๆ ไม่ว่าจะโครงการรถไฟฟ้า , โครงการมิกซ์ยูส ฯลฯ นอกจากกลุ่มรับเหมาจะได้ประโยชน์ไปเต็มๆแล้ว ฝั่งบริษัทมหาชนที่ประกอบธุรกิจจัดอยู่ในหมวดหมู่วัสดุก่อสร้างในตลาดหลักทรัพย์บ้านเราก็มีอยู่ไม่น้อย กว่า 21 บริษัท ไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์คอนกรีตและคอนกรีตสำเร็จ , กระเบื้องเซรามิค , แผ่นพื้นและเสาเข็มคอนกรีตอัดแรง , หลังคา แผ่นผนังและฝ้า ไม้สังเคราะห์ หรือ ธุรกิจแปรรูปพลาสติก(Holding Company) เป็นต้น TerraBKK Research ตามติด ผลประกอบการ ปี 2560 กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ลองมาดูสิว่า ด้านตัวเลขรายได้และกำไรสุทธิ รวมทั้งอัตราส่วนการเงินอย่าง ROE, ROA และ NPM จะเป็นอย่างไรกันบ้าง รายละเอียดดังนี้

            รายได้และกำไรสุทธิ จาก ผลประกอบการ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ปี 2560 TerraBKK Research ต้องบอกว่า ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) บริษัท Holding Company กลุ่มธุรกิจซิเมนต์ ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ธุรกิจเคมีภัณฑ์ และธุรกิจแพคเกจจิ้ง สร้างรายได้สูงสุดในกลุ่ม 4.82 แสนล้านบาท หากดู แนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตัวเลขรายได้ (Up Trend) ในช่วงปี 2557 – 2560 มี 4 บริษัทด้วยกัน คือ วนชัย กรุ๊ป(VNG) , อีสเทิร์นโพลีเมอร์(EPG) , ส.กิจชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ (SKN) แต่ที่น่าจับตาที่สุด คือ ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น (TCMC) บริษัทผลิตพรม ทั้งพรมทอด้วยเครื่องจักรและทอด้วยมือ ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตทั้งตัวเลขรายได้และกำไรสุทธิมาตลอด ล่าสุดปี 2560 ด้วยตัวเลขรายได้ 7.71 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 2.04 ร้อยล้านบาท



            อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) ด้าน ผลประกอบ ของกลุ่มนี้ TerraBKK Research พบว่า ผลิตภัณฑ์ตราเพชร(DRT) บริษัทผลิตภัณฑ์หลังคา แผ่นผนังและฝ้า ไม้สังเคราะห์ เช่น ตราเพชร เป็นต้น ทำ ROE เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง (Up Trend) เพียงหนึ่งเดียวของกลุ่ม สะท้อนถึงความสามารถในการบริหารงานก่อเกิดผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นในฐานะเจ้าของกิจการ ด้วยตัวเลข 21.16% (ปี 2560) , 18.58% (ปี 2559) , 14.49% (ปี 2558) ขณะที่ ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย)(TOA) ทำอัตราส่วน ROE ปี 2560 สูงสุดในกลุ่ม 37.01% หลังจากที่ผ่านมาเคยเป็นของแชมป์เก่า ไดนาสตี้เซรามิค(DCC) บริษัทผลิตและจำหน่ายกระเบื้องเซรามิค ที่นานวันกลับมีแนวโน้มลดลงไปเรื่อย 32.59% (ปี 2560), 44.41% (ปี 2559) และ 47.03% (ปี 2558)



           อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (ROA) สะท้อนประสิทธิภาพของบริษัทในการนําสินทรัพย์ไปลงทุนให้เกิดผลตอบแทนได้ดี ผลลัพธ์ยิ่งมีค่าสูงยิ่งดี โดย ผลประกอบการ ของ ไดนาสตี้เซรามิค(DCC) สามารถรักษาแชมป์ปี 2560 ไว้ได้ 20.68% แม้จะมีแนวโน้มถดถอยลงก็ตาม ทั้งนี้ หากดู แนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตัวเลขรายได้ (Up Trend) ในช่วงปี 2557 – 2560 TerraBKK Research กลับพบเพียงบริษัทเดียว ผลิตภัณฑ์ตราเพชร(DRT) บริษัทผลิตภัณฑ์หลังคา ด้วยตัวเลข 16.73% (ปี 2560) , 15.04% (ปี 2559) และ 12.22% (ปี 2558)




           สุดท้ายสำหรับ อัตรากำไรสุทธิ (NPM) จาก ผลประกอบการ อดีต 2 ปีที่ผ่านมา ทักษิณคอนกรีต (SCP) บริษัทผลิตภัณฑ์คอนกรีตอัดแรงชนิดต่างๆ เคยสร้างอัตรากำไรสุทธิสูงสุดในกลุ่ม 16.74%ในปี 2558 และ 16.48% ในปี 2559 แต่สำหรับปี 2560 กลับมาผ่ายแพ้ ดีคอนโปรดักส์ (DCON) บริษัทผลิตภัณฑ์แผ่นพื้นและเสาเข็มคอนกรีตอัดแรง ด้วยอัตรากำไรสุทธิ 20.4% สูงสุดในกลุ่ม แต่ในแง่การเติบโตอย่างต่อเนื่องของอัตรากำไรสุทธิ (Up Trend) ในช่วง 3 ปีที่ผ่าน T erraBKK Research พบว่า ผลิตภัณฑ์ตราเพชร(DRT) มีอัตราส่วนน่าสนใจค่อยๆเพิ่มขึ้น 9.84% (ปี 2560) , 9.42% (ปี 2559) และ 7.93% (ปี 2558) ส่วน



            อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) กลุ่มนี้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่มีอะไรน่ากังวล เพราะมีอัตราส่วนไม่เกิน 2 เท่า มีเพียง ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น (TCMC) บริษัทเดียวที่มีอัตราส่วน 2.7 เท่า เพิ่มขึ้นตลอดในช่วงที่ผ่านมา 2.22เท่า (ปี 2559) และ 1.58เท่า(ปี 2558) ---TerraBKK


บทความโดย : TerraBKK เคล็ดลับการลงทุน
TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก


อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : TerraBKK.com - https://www.terrabkk.com/news/192785