ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ใครตกเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่ OneCoin ให้ดำเนินตามนี้!

เริ่มโดย โสน้าหน้า, 13:52 น. 26 ต.ค 61

วิน​ กบแดง


วิน​ กบแดง

ช่วงนี้เป็นช่วงที่ประเทศชาติบ้านเมืองกำลังจะเลือกผู้แทนราษฎร พวกเราเป็นราษฎรจะเลือกผู้แทนให้ดูให้ดีนะลูกหลานนะ อย่าไปเห็นแก่ห้าแก่สิบ เห็นแก่สินจ้างรางวัล เขามาจ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ เอาเงินจากเขา ก็เกรงใจเขา ผลที่สุดเอาคนไม่ดีเข้าไปเป็นผู้แทนของเรา ความเดือดร้อนเกิดขึ้น แล้วจะไปโหวกเหวกโวยวายยังไงล่ะทีนี้ เลือกคนไม่ดี

จุดนี้หลวงพ่อก็ไม่อยากจะพูดเพราะเป็นพระสงฆ์ แต่ก็อยู่ในตะกร้าในกะละมังใบเดียวกัน อยู่ในข้องเดียวกัน อยู่ในประเทศชาติเดียวกัน ถ้าไม่แสดงความคิดเห็นเสียเลย ก็ดูเหมือนเฉื่อยชา ไม่รับรู้รับทราบโลกเขาไปถึงไหน แต่เราจะไปก้าวก่ายเกินไป ไปชี้นำชี้แนะมันก็ไม่ถูก มีแต่บอกกล่าวให้เลือกคนดีนะลูกหลานทุกคน อย่าไปเห็นแก่เงินแก่ทองสินจ้างรางวัล เขาจ้างห้าบาทสิบบาทร้อยบาทพันบาทให้ตัดแข้งตัดขาตัวเองก็ตัด ให้ตัดนิ้วมือก็ตัด ให้ตัดลิ้นก็ตัด เพราะเขาจ้าง ก็ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น เราต้องเป็นตัวของตัวเอง จะไปเห็นแก่เงินแก่ทองแค่นั้น พอผลเสียหายเกิดขึ้นแก่ประเทศชาติบ้านเมืองจะเป็นยังไง

ผู้ที่สมัครเป็นผู้แทนราษฎรก็เหมือนกัน ต้องพร้อมทุกอย่าง เข้าไปพัฒนาประเทศชาติให้มีความเจริญรุ่งเรือง ไม่ได้ไปกอบไปโกยไปถอนทุนคืน  เข้าไปเป็นผู้แทนของราษฎร  ไม่ใช่ผู้แทนของรัฐบาล ไม่ใช่ผู้แทนของผู้ว่าราชการจังหวัด ไม่ใช่ผู้แทนของนายอำเภอ ไม่ใช่ผู้แทนของตำรวจ ไม่ใช่ผู้แทนของผู้ใหญ่บ้านกำนัน แต่เป็นผู้แทนราษฎร ราษฎรก็คือพวกเราท่านทั้งหลาย พวกเราจะให้เสียงใครไปก็ต้องกลั่นกรองให้ดีนะ หลวงพ่อมีแต่แนะนำอย่างนี้เท่านั้น ให้เอาคนดีเข้าสู่สภา

นโยบายเขา เราก็ต้องฟัง นโยบายไหนเขาบอกในโทรทัศน์เราก็ต้องฟังนโยบายของเขา มีนโยบายอย่างไร นโยบายให้อย่างเดียวใช่ไหม ไม่มีวิธีการหา ไม่รู้จักหาใช่ไหม รู้จักแต่จะใช้อย่างเดียวใช่ไหม สิ่งเหล่านี้ต้องคิดทั้งหมด พวกเราเป็นราษฎรอยู่ในประเทศชาติต้องเอาคนฉลาด แต่ฉลาดแล้วโกงกินก็ไม่เอา ฉลาดแล้วต้องมีคุณธรรม ศีลธรรม จริยธรรมที่ดี เห็นแก่ประเทศชาติบ้านเมือง มาปกครองประเทศชาติบ้านเมือง นี่หลวงพ่อพูดในฐานะเป็นหลวงปู่หลวงตา อยากจะให้ลูกหลานทั้งหลายใช้ดุลพินิจ ใช้ความคิดความอ่าน เอาพรรคไหนที่จะพัฒนาประเทศชาติบ้านเมือง เป็นตัวแทนของราษฎร เป็นตัวแทนของเรา เป็นรัฐบาล จากนั้นประเทศชาติบ้านเมืองก็จะร่มเย็นเป็นสุข

ถ้าหากว่าเราเอาพวกกเฬวราก เอาแต่พวกที่ตัวเองชอบ คนไหนให้มากก็เอาคนนั้น เราต้องการแต่คนที่แจกเท่านั้นใช่ไหม แล้ววิธีการทำล่ะ วิธีการพัฒนาล่ะ แจกไปแจกมาก็หมด ประเทศก็เจ๊งล่ะทีนี้ คนขี้เกียจ ไม่รู้จักหา มีแต่จะใช้ รู้จักแต่รับ ถ้ารัฐบาลรู้จักแต่ให้อย่างเดียวไม่รู้จักว่าจะลงทุนยังไง ปรับปรุงแก้ไขการดำรงชีพอย่างไร ให้พึ่งตนเองอย่างไร ให้คอยรับอย่างเดียว ผลที่สุดประเทศก็เจ๊ง อย่างที่ในหลวงท่านสอน ให้รู้จักหา ให้รู้จักเก็บ ให้รู้จักใช้ เรียกว่าเศรษฐกิจพอเพียง ถ้าเราใช้อย่างนี้ ถึงจะอยู่ในสถานที่ใดก็ร่มเย็นเป็นสุข รู้จักประมาณตน...  ส.สู้ๆ

มโน นโม

❇️ #ปกิณกธรรม_หลวงปู่ปานบอกหลวงพ่อ__เรื่องการเงิน_เหตุที่ไม่สะสมทรัพย์❇️

   หลายคนถามว่า "เหตุที่ไม่สะสมทรัพย์นั้นมีความเป็นมาอย่างไร" ได้ตอบให้ทราบว่ามีมาตั้งแต่วันที่อุปสมบท (บวช) วันแรก  เมื่อออกจากโบสถ์  แล้วพักเหนื่อยประมาณ ๑ ชั่วโมงเศษๆ

   หลวงพ่อปานท่านเรียกเข้าไปหาท่าน  ท่านแนะนำว่า  เรื่องการเงินเป็นเรื่องที่ต้องระวังมาก  อย่าเผลอปล่อยให้ความโลภเข้าครอบงำจิต

ขออธิบายโดยย่อว่า...
ท่านแนะนำว่า  อย่าสะสมเงินไว้ให้มากเมื่อมีคนถวายมาให้แบ่งส่วนดังนี้

๑.ส่วนที่หนึ่ง  ร่วมสังฆทาน  คือเอาเข้าโรงครัว
๒. ส่วนที่สอง  เอาไปเข้าร่วมวิหารทาน คือร่วมการก่อสร้าง
๓. ส่วนที่สาม  เอาไว้ใช้ส่วนตัวเมื่อมีความจำเป็น
๔. ในจำนวนเงินที่เอาไว้ใช้ส่วนตัวนั้น  จงอย่าให้มีเกินพันบาท  ถ้าเกินพันบาทให้ทำบุญเสีย
๕. เงินในปีนี้  จงอย่าให้เหลือถึงปีหน้า
ถ้าเหลือให้คิดว่าปีหน้าเราจะทำอะไรที่มีการใช้จ่ายเกินจำนวนเงินทีเหลือ  และเมื่อถึงปีหน้าจริงๆให้ทำตามที่ตั้งใจไว้

#อารมณ์คิดเมื่อรับเงิน
   เมื่อรับเงินท่านแนะนำว่า  ให้คิดว่าถ้าเราไม่เป็นพระ  ไม่มีใครให้เงินใช้ฟรีๆอย่างนี้  เพราะเราบวชเป็นพระจึงมีคนถวายเงิน  จงอย่าเมาเงินที่ญาติโยมถวายมา  จงใช้อย่างพระ  มีอย่างพระ อย่ามีมากกว่าที่กำหนดให้

   คำแนะนำของท่านมากกว่านี้แต่เห็นว่าจะเฟ้อมากเกินไป  จึงนำมากล่าวเพียงย่อๆเมื่อฟังแล้วก็รับปฏิบัติ  ความจริงทำแบบที่หลวงพ่อปานสอนมาเป็นปกติ  ชินต่อการปฏิบัติเช่นนี้จึงบอกว่าไม่จำเป็นต้องเป็นพระอริยะก็ละการสะสมได้

✴️หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
(หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)
วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี

วิน กบแดง

คำพ่อสอน "ที่หนึ่งในโลก"

"ขอให้ทุกคนช่วยกัน อย่าเบียดเบียนกัน ก็จะทำให้เรายังคงรักษาความสงบได้ จะเรียกว่าตามอัตภาพของเรา คือประเทศไทยเราอาจไม่เป็นประเทศที่รุ่งเรืองที่สุดในโลก หรือรวยที่สุดในโลก หรือฟู่ฟ่าที่สุดในโลก แต่ก็ขอให้เมืองไทยเป็นประเทศที่มีความมั่นคง มีความสงบได้ เพราะว่าในโลกนี้หายากแล้ว

เราทำเป็นประเทศที่สงบ ประเทศที่มีคนช่วยเหลือซึ่งกันและกันจริงๆ เราจะเป็นที่หนึ่งในโลกในข้อนี้ แล้วรู้สึกว่าที่หนึ่งในโลกในข้อนี้จะดีกว่าผู้อื่น จะดีกว่าคนที่รวยที่สุดในโลก จะดีกว่าคนที่เก่งในทางอะไรก็ตามที่สุดในโลก ถ้าเรามีความสงบแล้วมีความสบาย ความมั่นคงที่สุดในโลกนั้นรู้สึกจะไม่มีใครสู้เราได้"



วิน กบแดง


กบแดง​ คางสั่น

นักดนตรีสี่สหาย หรือนักดนตรีแห่งเบรเมน (Town Musicians of Bremen)

เป็นนิทานพื้นบ้านของเยอรมัน ซึ่งเป็นหนึ่งในนิทานที่ได้รับการรวบรวมและถ่ายทอดโดย เจค็อบ ลุดวิจ กริมม์ และ วิลเฮล์ม คาร์ล กริมม์ หรือ สองพี่น้องตระกูลกริมม์ ผู้ที่ทำให้เด็กๆ ได้รู้จักนิทานและเทพนิยายหลายเรื่อง ฮันเซลและเกรเทล, ราพันเซล, ซินเดอเรลล่า และเรื่องอื่นๆ

นักดนตรีแห่งเบรเมน เป็นเรื่องราวการโคจรมาพบกันของสัตว์ 4 ชนิด

ทั้ง 4 ตัวมีปัญหาคล้ายๆ กันคือ เริ่มแก่ สังขารร่วงโรย ทำงานไม่ฟิตเปรี๊ยะเหมือนเก่า

เจ้าลา ตัวใหญ่สุด คิด ว่าอยู่โรงงานต่อไปก็ไร้ประโยชน์ ลุยไปเมืองเบรเมนจะดีกว่า ไปเล่นดนตรีหาเลี้ยงชีพเอา

ระหว่างนั้นไปเจอเจ้าโฮ่งที่บ่นว่าเรี่ยวแรงไม่ค่อยมี ออกช่วยเจ้านายล่าสัตว์ไม่ไหวแล้ว อยู่ไปก็เปลืองข้าวสุก เสียวๆ ว่าเจ้านายจะยิงทิ้งวันไหนก็ไม่รู้ จึงขอไปกับเจ้าลาด้วย

เดินไปได้ไม่ไกล ไปเจอเจ้าเหมียว หน้าตาบอก บุญไม่รับ ถามไถ่เข้าก็รู้ว่ามีปัญหาคล้ายกัน แก่แล้วไล่จับหนูไม่ทัน คุณนายหญิงไม่ปลื้ม เหมียวจึงขอร่วมขบวนไปตายเอาดาบหน้า

และไม่ทันพ้นประตูไร่ เจอเจ้าไก่ที่กำลังทำใจว่าจะถูกเชือดไปเป็นเมนูบนโต๊ะอาหาร

ลา หมาและแมว จึงชวนไก่หนีไปด้วยกัน

บนเส้นทางไปเมืองเบรเมนยามค่ำคืน ทั้ง 4 ตัวเห็นไฟส่องสว่างมาจากกระท่อมหลังหนึ่ง จึงแวะไปชะโงกดู เห็นกลุ่มโจรกำลังสำเริงสำราญกับอาหารน่ากิ๊น...น่ากิน ชวนให้หิวอยากกินมั่ง

ทั้ง 4 ปรึกษากันว่า น่าจะไล่เหล่าโจรไปซะ จะได้เข้าไปกินอาหารแทน ว่าแล้วก็วางแผนต่อตัวเป็นเงาประหลาด เรียงลำดับตามขนาด

ให้ลาอยู่ล่าง หมาขึ้นไปยืน ต่อด้วยแมว และไก่อยู่บนสุด จากนั้นก็บรรเลงเสียงดนตรีพร้อมๆ กัน ลาร้อง...เบร.. หมาเห่าโฮ่งๆ แมวร้องเมี้ยวๆ หง่าว.. และไก่ขัน..เอ้กอี๊เอ้กเอ้ก

แน่นอนว่า เป็นบทเพลงที่ไม่ไพเราะเอาเสียเลย เสียงอย่างกับผีป่าที่น่าสะพรึงกลัว แต่กลับได้ผลชะงัด โจรแตกตื่นวิ่งหนีออกไปคนละทิศละทาง

แม้ว่าคืนถัดมาโจรที่ข้องใจกลับมาดูที่กระท่อมนี้อีก แต่ก็ถูกทั้งสี่สหายสั่งสอนซะน่วม โดนแมวข่วน หมดกัด ลาเตะ และไก่แกล้งร้องเสียงโหยหวนไล่ ท่ามกลางความมืดโดยไม่รู้ว่าเป็นอะไร พานให้เข็ดเขี้ยวไม่กล้ากลับมาอีก

สุดท้ายทั้ง 4 สหายก็ยึดกระท่อมหลังนั้นอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข โดยไม่ทันต้องไปถึงเมืองเบรเมน

มีแต่รูปปั้นตั้งไว้ใจกลางเมือง ดึงดูดผู้คนและรายได้เข้าเมืองด้วยเรื่องราวของสี่สหายนักดนตรี ^_^   ส.หลก

กบแดง คางสั่นสู้

คนไม่มีความสุจริต คนไม่มีความมั่นคง ชอบแต่มักง่าย ไม่มีวันจะสร้างสรรค์ประโยชน์ ส่วนรวมที่สำคัญอันใดได้ ผู้ที่มีความสุจริตและความมุ่งมั่นเท่านั้น จึงจะทำงานยิ่งใหญ่ ที่เป็นคุณประโยชน์ แท้จริงได้อย่างสำเร็จ พระบรมราโชวาท ในหลวงรัชกาลที่​ 9 — feeling blessed with พระอธิการไพบูลย์ ปุญญเถระ and 47 others at วัดทุ่งลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา... ส.สู้ๆ

สายฮารายวัน

 ส-เหอเหอ ว่าด้วยเรื่อง โกหก มดเท็จ ตอแหล เล่ห์เหลี่ยม มโน อุปโลกน์ ปั้นน้ำเป็นตัว ชี้ลาเป็นม้า บลาๆๆๆๆ คงต้องยกเรื่องด้านความเก่งกาจเฉพาะตัวนี้ให้พวกตัวพ่อตัวแม่ทีมแชร์ลูกโซ่วันคอยน์ OneCoin เลยละฮะท่านผู้ชม *เพราะล่าสุดกลุ่มพวกนี้ก็ยังไม่วายที่จะดิ้นเฮือกสุดท้าย ยังจะมาหลอกสมาชิกในห้องกลุ่มว่าน้องชายของผู้ก่อตั้งธุรกิจฟอกเงินวันคอยน์นี้ได้ถูกปล่อยตัวแล้ว เพราะทางการรัฐนั้นเข้าใจผิด และได้ขอโทษขอโพยกันแล้ว(มันพูดความจริงไม่หมดตามนิสัยสันดานอัพไลน์เหมือนเคย ปล.อยากตะโกนใส่หน้าว่า"มันเป็นเพียงการย้ายที่คุมขัง"โว้ย) แต่!..ไม่สามารถมาหลอกเหล่าชาวโซเซียลได้แม้แต่นิด เพราะแท้ที่จริงไอ้ตัวน้องชายรูจาไรนี้ก็ยังอยู่ดีมีสุขแต่ในห้องขังนะ 555+ ไปติดตามเช็คตรวจสอบกันได้เลยครับท่านผู้ชม>>>
เข้าเว็บ bop.gov นั่นล่ะ ไปที่ Inamtes ---> Visiting แล้วก็เอาเลขประจำตัวนักโทษใส่ลงไป ของ Konstantin คือ 77737-112 แล้วจะเห็นว่า Konstantin is currently in transit and visiting hours are not available.
https://www.bop.gov/inmates/visiting.jsp
https://www.bop.gov/inmateloc/
*แด่พวกอัพไลน์วันคอยน์ OneCoin หลอกตัวเองยังไม่พอ ยังต้องไปชวนคนอื่นๆ เขามาให้โดนหลอกอีก คนนิสัยสันดานแบบนี้เหรอที่เหล่าสมาชิกทั้งหลายยังจะคงเชื่อมันในระบบการรวมหัวฉ้อโกงต้มตุ่นเงินของพวกท่านๆ อยู่อีก แล้วเหล่าพวกอัพไลน์ก็จะใช้สูตรเดิมเหมือนที่เคยๆ ใช้ได้ทุกๆ สถานะการณ์เมื่อจวนตัวว่า "กระผม/ดิฉัน ก็ถูกโดนหลอกมาอีกทีนึง ไม่นึกเลย บลาๆๆๆ(แต่พวกกรูเหล่าอัพไลน์สบายแว้ววว)" ตรงนี้ก็อยากจะฝากบอกไปพิจารณาไว้ด้วยละกัน ว่าในทางกฎหมายสามารถเอาผิดเหล่าพวกมิจฉาชีพอัพไลน์วันคอยน์ OneCoin ได้แน่นอน ล้าน% และล่าสุดเหล่าสมาชิกที่โดนอัพไลน์หลอกชักชวนในภาคเหนือ-อีสาน ก็ได้มีการรวมตัวที่จะเข้ายื่นดำเนินการฟ้องร้องความเสียหายส่งตรงถึงท่าน"บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล เป็นที่เรียบร้อยแล้ว *เรื่องอยู่ในขั้นตอนรวบรวมพยานหลักฐานและจะเป็นข่าวดังไม่แพ้เรื่องการ"คืนโฉนดที่ดิน"ให้แก่ประชาชนที่กู้เงินนายทุนนอกระบบแน่นอน แล้วอยากรู้ว่าเหล่าสมาชิกชาวใต้ยังคงนั่งสมาธิทำจิตใจให้สงบกันอยู่หรือเปล่า 555+  ส.หลก

วินกบหมู(แดง)​

'คนซื่อสัตย์ คือ สมบัติของพระราชา'

เมื่อหลายปีก่อน (ประมาณสัก ๑๓ ปีที่แล้ว) มีนักธุรกิจคนหนึ่งไปหาอาตมาที่วัดสุทัศน์ฯ เมื่อพบกัน ท่านผู้นี้ก็แจ้งความประสงค์ของการมาพบและเล่าเรื่องที่เป็นจุดประสงค์ ดังนี้...

"เราเคยพบกัน ท่านคงพอจะจำผมได้นะครับ  ผมมีเรื่องอยากจะเล่าให้ท่านฟังดังนี้ว่า...

เมื่อก่อนผมเป็นครูสอนวิชาภูมิศาสตร์และวิชาประวัติศาสตร์ ปกติผมต้องไปค้นคว้าข้อมูลในหอสมุดแห่งชาติต่อมา ก็มีนักเรียนหญิงคนหนึ่งผูกเปีย ๒ ข้างเข้าไปค้นข้อมูลอย่างจริงจังว่างก็สนทนากันถึงเรื่องวิชาการ ...อยู่มาวันหนึ่งนักเรียนหญิงคนนั้นก็ชวนผมไปเที่ยวบ้านโดยบอกว่าจะให้พ่อเลี้ยงข้าวหนึ่งมื้อ ในฐานะที่ให้ความรู้ด้านวิชาการโดยมีการนัดแนะกันที่พระราชวังดุสิต สวนจิตรลดาโดยเธอบอกว่าเมื่อเข้าประตูที่ ๑ แล้วขอให้บอกแก่คนที่เฝ้าประตูด้วยคำพูดนี้ (เป็นคำเฉพาะ)...ครั้นถึงวันนัดหมายผมก็เดินทางไปโดยรถแท็กซี่

เมื่อเข้าประตูผมก็มิได้สงสัย คงบอกเจ้าหน้าที่ตามนั้นครั้นถึงขั้นที่ ๒ ผมก็บอกตามนั้นอีก เจ้าหน้าที่ก็อัธยาศัยดี ให้ความเคารพผมอย่างยิ่ง แต่พอ ถึงขั้นที่ ๓ ผมก็เริ่มเห็นภาพชัดเจนว่า...แท้ที่จริงเด็กผู้หญิงคนนั้นคือ "สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี" ซึ่งตอนนั้นยังมิได้เฉลิมพระยศนี้ ...ท่านครับ พอผมนึกออกก็เริ่มสั่นแล้ว แต่เหตุที่ผมนึกไม่ออกนั้น เพราะผมไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าฟ้าจะสนพระทัยในวิชาการอย่างจริงจัง เวลาค้นคว้าก็ทรงสืบค้นด้วยพระองค์เองทุกอย่าง ทรงค้นคว้าและจดจำอย่างขมีขมันโดยมิได้มีข้าราชบริพารเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพระองค์และเวลาที่ทรงสนทนาก็ให้ความนับถือคู่สนทนา ยิ่งรู้ว่าผมเป็นครูสอนวิชาดังกล่าว
...เมื่อผมรู้ว่านักเรียนหญิงคนนั้นคือสมเด็จพระเทพฯ ผมก็ประหม่า และแล้วรถแท็กซี่ก็ถึงที่นัดพบ สักครู่พระองค์ก็เสด็จออกมาแล้วตรัสปฏิสันถาร ถึงตอนนี้ผมก็ก้มลงกราบกับพื้น และที่ทำให้ผมสั่นยิ่งขึ้นก็คือตอนนี้ผมรู้แล้วว่าคุณพ่อของเด็กผู้หญิงคนนี้คือ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"

สักครู่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็เสด็จออกมา ทรงมีพระพักตร์ที่ยิ้มแย้มแล้วตรัสว่า"เห็นลูกสาวบอกว่าเป็นเพื่อนกัน" เมื่อพระองค์ตรัสดังนี้ ผมก็ก้มลงกราบด้วยความประหม่าเป็นที่สุด แล้วกราบบังคมทูลว่า "มิเป็นการบังอาจ พระพุทธเจ้าข้า"

...พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระมหากรุณาธิคุณตรัสว่า ขอให้ทำตัวตามปกติไม่ต้องประหม่าหรือกลัวแต่อย่างใด พระองค์ตรัสขอบใจที่ได้เป็นเพื่อนสนทนาในวิชาการดังกล่าวจากนั้นพระองค์ก็ตรัสว่า "อันที่จริงก็มีผู้อยากขอเข้าเฝ้าฯ เป็นจำนวนมาก บางรายก็ขอนำเงินขึ้นทูลเกล้าถวาย แต่เราก็ไม่สามารถจะรับเงินของบางคนได้เราจะรับเงินของเขาได้อย่างไร ในเมื่อเงินที่เขานำมาถวายเรานั้นเป็นเงินที่เกิดจากการขายแผ่นดินของเรา เราจึงรับเงินนั้นไม่ได้...ถ้าจะถามพระราชาอย่างเราว่าพระราชาอย่างเราต้องการอะไร เราก็ขอตอบว่า...พระราชาอย่างเราต้องการคนที่ซื่อสัตย์เพราะคนที่ซื่อสัตย์ คือ สมบัติของพระราชาอย่างเรา"...ท่านครับ ผมก้มลงกราบถวายบังคมพระองค์อีกครั้ง ด้วยความซาบซึ้งน้ำตาไหลในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้แก่ครูสอนหนังสือเล็กๆ คนหนึ่ง พระราชดำรัสของพระองค์มีคุณค่ายิ่งต่อชีวิตของผม จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็พระราชทานเลี้ยงก๋วยเตี๋ยว เป็นอาหารที่ผมรับประทานแล้วอิ่มตลอดชีวิต

...ท่านครับ จากวันนั้นมา ชีวิตผมก็เปลี่ยนแปลงไปโดยที่ผมเองก็มิได้รู้ว่าทำไมชีวิตของผม ซึ่งเป็นครูต้องเปลี่ยนแปลงงานที่ทำโดยมิได้ตั้งใจ ชีวิตเจริญก้าวหน้าขึ้นตามลำดับ แต่พระราชดำรัสที่พระองค์ตรัสไว้นั้นจารึกอยู่ในใจผมเสมอ ...ผมอยากจะเรียนท่านให้ทราบเพียงเท่านี้แหละครับ

ถ้าท่านจะกรุณานำไปเล่าให้คนทั้งหลายได้รับทราบ ก็จะเป็นลาภของคนที่ฟัง
เขาจะได้รู้ว่าพวกเขาควรทำอย่างไรจึงจะได้ชื่อว่าเป็นคนของพระราชา"

อาจารย์ท่านนี้เมื่อเล่าจบก็ลากลับด้วยสีหน้าที่อิ่มสุขและน้ำตาที่คลอเบ้าตา
มิใช่เพียงอาจารย์ท่านนี้ที่อิ่มสุขเท่านั้น อาตมาเองซึ่งเป็นผู้ฟังก็อิ่มสุขน้ำตาคลอเบ้าเช่นเดียวกัน

(Edit จากบทความของ พระราชวิจิตรปฏิภาณ วัดสุทัศนเทพวราราม จากหนังสือพิมพ์สยามรัฐ ฉบับวันศุกร์ที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๑)

Cr: ตามรอยพ่อ — feeling blessed with Wisan Hongsa and 99 others at วัดบางธน​ ทุ่งลุง...  ส.สู้ๆ