รมว.เกษตรฯ สั่งเร่งรัดแก้ปัญหานมโรงเรียน ทั้งคุณภาพและการจัดส่ง

[ทีมงานบ้านเรา]

สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
.
จากการที่ ครม.ได้เห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ปรับระบบโครงการนมโรงเรียนสำหรับเด็กและเยาวชนทั่วประเทศเพื่อแก้ไขปัญหานมไม่มีคุณภาพและการส่งนมไปยังโรงเรียนไม่ตรงต่อเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา นั้น
.
เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2562 นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดแก้ไขปัญหานมโรงเรียน
.
ขณะนี้ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชนเพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการโครงการอาหารเสริม(นม) สำหรับนักเรียนและเยาวชนทั่วประเทศและให้ คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ระดับกลุ่มพื้นที่ จำนวน 5 กลุ่มเป็นผู้พิจารณาคัดเลือกและจัดสรรสิทธิการจำหน่ายนมโรงเรียนในโครงการ ฯ ให้กลุ่มผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการส่งนมโรงเรียนแล้ว
.
การจัดสรรปริมาณน้ำนมให้แก่ผู้ประกอบการแต่ละรายนั้นพิจารณาจากปริมาณและขีดความสามารถในการให้บริการนมซึ่งสอดคล้องต่อพื้นที่และจำนวนนักเรียน เพื่อป้องกันปัญหาการส่งนมไม่ตรงเวลาและไม่มีคุณภาพ รวมทั้ง ส่งไม่ครบจำนวนนักเรียน ตามสัญญาซื้อขายระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ โรงเรียนเอกชน หรือหน่วยจัดซื้อ กับองค์การส่งเสริมกิจการโคนม อ.ส.ค. หรือ ผู้ประกอบการที่ได้รับมอบอำนาจจาก อ.ส.ค.
.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กำชับให้ปศุสัตว์จังหวัดและเกษตรจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบการส่งมอบนมโรงเรียนให้ครบทุกแห่งและเพียงพอต่อจำนวนนักเรียน อีกทั้งต้องเป็นน้ำนมที่มีคุณภาพด้วย
.
นอกจากนี้ หากผู้ประกอบการรายใดอ้างว่าได้รับการจัดสรรปริมาณส่งนมโรงเรียนไม่เป็นธรรม แนะนำให้ผู้ประกอบการรายนั้น ยื่นอุทธรณ์ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดตามขั้นตอนกฎหมายได้ทันที
.
ผู้ประกอบการจะใช้เป็นข้ออ้างไม่ยอมส่งนมตามสัญญาที่มีอยู่ไม่ได้ โดยขอให้แยกประเด็นการส่งนมกับการจัดสรรที่ไม่เป็นธรรมออกจากกัน
.
ผู้ประกอบการที่ไม่ส่งนมจนทำให้นักเรียนไม่มีนมดื่มตามสัญญาโดยไม่มีเหตุผล ก็จะได้รับการลงโทษ เช่น ตัดโควต้าจำนวนและปริมาณนำ้นมในภาคการศึกษาต่อไป
.
ขณะเดียวกัน อ.ส.ค.จะจัดส่งนมทดแทนสำหรับโรงเรียนที่ผู้ประกอบการไม่ส่งนมเป็นการชั่วคราว
.
นายกฤษฎา บุญราช ย้ำให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทุกเขตตรวจติดตามการดำเนินการและรายงานผลให้ปลัดกระทรวงฯ ตั้งแต่ 21 พ.ค.62 เป็นต้นไป
.
พร้อมกันนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการ ถึงสถานการณ์นักเรียนที่มีแนวโน้มลดลงทุกปี ซึ่งจะส่งผลต่อปริมาณความต้องการลดลง
.
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการและเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมจะต้องเตรียมแผนการตลาดและเลี้ยงโคนมให้สอดคล้องกับปริมาณความต้องการนมต่อไป