ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ส่องสนามอบจ.สงขลา สนามที่ห้ามกระพริบตา

เริ่มโดย ทีมงานบ้านเรา, 14:49 น. 17 มิ.ย 62

ทีมงานบ้านเรา

สนามอบจ.สงขลา ร้อนฉ่าขึ้นมาทันทีเมื่อนิพนธ์ ทิ้งเก้าอี้ไปเป็นรมต.

สนามท้องถิ่นใหญ่สุดอย่างอบจ.สงขลา ก่อนหน้านี้ยังเงียบๆ ไม่มีข่าวคราวความเคลื่อนไหวอะไรมากนัก แต่เมื่อนายกอบจ.สงขลา นิพนธ์ บุญญามณี ที่มีหมวกอีกใบคือรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้โควต้าเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลประยุทธ์2/1 ทำให้ตำแหน่งนายกอบจ.สงขลา จะว่างลงทันที

เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ในสื่อหลักว่าทางพรรคจะส่งพี่หลวงคร พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี อดีตผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ลงสมัครในนามพรรคแทน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากพรรคหรือจากเจ้าตัวอย่างชัดเจนว่าข่าวนี้จริงหรือไม่ หากย้อนกลับไปก่อนนี้พี่หลวงคร ประกาศชัดเจนว่าจะลงนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ มีการเปิดศูนย์ประสานงาน ลงพื้นที่ แจกนามบัตรขอรับใช้ชาวนครหาดใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แต่หากดูความสัมพันธ์ของพี่หลวงคร กับปชป.ถือว่าเหนียวแน่นมากและว่ากันว่าพี่หลวงคร ให้ความเคารพนายหัวชวนมาก เมื่อการประกาศลงสนามหาดใหญ่ แต่เหมือนไม่มีสัญญาณถอยจากอดีตนายกไพร พัฒโน ซึ่งพรรคค่อนข้างหนักใจเรื่องนี้พอสมควร พอดีกับจังหวะที่นายกอบจ.จะมาเป็นรมช.มหาดไทย จึงถือโอกาสจัดการเรื่องสนามท้องถิ่นไปในตัวด้วย ครั้นจะดันนายกไพร มาลงสนามอบจ.ก็ดูท่าเจ้าตัวจะไม่มาหวยจึงมาออกที่การดันพี่หลวงลงสนามอบจ.แทน

ถามว่าคู่แข่งจะมีใครบ้าง ตอนนี้ชื่อที่ถูกจับตามองมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นพรรคพลังประชารัฐ ที่ได้สส.สงขลาไปถึง 4 จาก 8 ที่นั่ง และคนอยู่เบื้องหลังก็คือผุ้การชาติ พันเอกสุชาติ จันทรโชติกุล ที่ปัจจุบันสส.พปชร.กำลังดันและทวงเก้าอี้รมต.มาให้อยู่ หากไม่ได้โควต้ารัฐมนตรีเขาคงเป็นตัวแทนพรรคลงสนามท้องถิ่นที่อบจ.สงขลา ซึ่งเป็นสนามใหญ่สุดและพรรคคงช่วยเต็มที่เพื่อตอบแทนผลงานที่ทำสส.ใต้ได้ถึง 13 เสียง

และที่สำคัญไปกว่านั้น ผุ้การชาติยังเป็นนักเรียนเตรียมทหารร่วมรุ่นกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อีกด้วย อดีตสส.ที่ขึ้นป้ายและหมายมั่นจะลงแค่สนามเทศบาลเมืองคอหงส์ แต่วันนี้เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนการขยับจากเทศบาลมาเป็นอบจ.คงดูดีกว่า และด้วยคะแนนสส.ของพรรคที่มีถึง 4 คน น้ำเลียงจากพรรคก็คงสนับสนุนเต็มที่หากลงเลือกตั้งจริง พี่หลวงคร VS ผู้การชาติ ถ้าลงชนกันจริงคงเป็นมวถูกคู่สูสีน่าติดตามอย่างยิ่ง

คนอื่นๆ ยังมีใครอีกหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่ทราบแต่มีข้อมูลที่พอเชื่อถือได้ว่า สจ.บางส่วนกำลังรวมทีมเพื่อเชิญคนใกล้ชิดอดีตนายกอบจ.คนหนึ่งลงแข่งขันด้วย และอาจมีอดีตข้าราชการระดับผู้ว่าฯ ให้ความสนใจกับสนามอบจ.สงขลาด้วย หากมีข้อมูลหรือรายชื่อที่ชัดเจนจะนำมาอัพเดทให้ติดตามกันต่อไป   
สนับสนุนการขับเคลื่อนโดย
- ฮอนด้าพิธานพาณิชย์-อริยะมอเตอร์ www.phithan.co.th/hondaphithan
- ปาล์มสปริงส์ & ซิตี้รีสอร์ท บ้านและคอนโดคุณภาพจากเครืองศุภาลัย www.hatyainakarin.com
- ธีระการช่าง หาดใหญ่ (เยื้องบิ๊กซีคลองแห) โทร 086-4910345 www.facebook.com/teerakarnchanghy
- เอนกการช่าง ผู้นำการพัฒนาเครื่องจักรกลเกษตร โทร 081-7382622 www.an-anek.com/contact.php
รีวิวธุรกิจ เกาะติดบ้านเมือง ร้อยเรื่องท้องถิ่น TLP 0897384215

ทีมงานบ้านเรา

ผู้การชาติ ชูนโยบายสู้ศึกเลือกตั้งอบจ.สงขลา ดันรถไฟฟ้าสงขลา-หาดใหญ่-ด่านสะเดา

พันเอก สุชาติ จันทรโชติกุล ว่าที่ผู้สมัครนายกอบจ.สงขลา ยืนยันว่าได้รับการสนับสนุนจากพรรคพลังประชารัฐ จากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ อย่างเต็มที่ในการสู้ศึกเลือกตั้งนายกอบจ.สงขลา ที่คาดว่าจะมีขึ้นในอีกไม่ช้านี้

โดยหนึ่งในนโยบายเด็ดที่ขอนำเสนอต่อพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสงขลา คือการผลักดันเมกกะโปรเจกต์หมื่นล้านในการเดินหน้าโครงการรถไฟฟ้าจากด่านสะเดา-หาดใหญ่-สงขลา ระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างประเทศ ส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว พร้อมทั้งเชื่อมโยงกับโครงการโมโนเรลเขตเมืองของนายกอบจ.คนเก่าด้วย

ซึ่งทางรัฐบาลได้ให้ความเห็นชอบในโครงการนี้ในเบื้องต้นแล้ว เหลืิอแต่การเดินหน้าผลักดันอย่างจริงจังจากพื้นที่ ผู้การชาติ เน้นย้ำด้วยว่าที่ผ่านมาจังหวัดสงขลา เสียโอกาสมานานแล้วจากการผูกขาดของพรรคการเมืองเพียงพรรคเดียว แต่ไม่สามารถดึงโครงการขนาดใหญ่มาลงในพื้นที่ได้เลย ตนมีความตั้งใจในการทำงานการเมืองท้องถิ่น อยากผลักดันการพัฒนาสงขลาอย่างเป็นรูปธรรมแม้ทางพรรคเชิญให้เป็นรัฐมนตรีก็ไม่รับ

โดยมีความตั้งใจแน่วแน่ว่าจะขอเสนอตัวรับใช้พี่น้องชาวจังหวัดสงขลา ในตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด เพียงอย่างเดียว ตอนนี้มีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.อบจ. เปิดตัวทีมบริหาร หลังจากนี้จะเริ่มนำเสนอนโยบายต่างๆ ให้พี่น้องได้รับทราบและติดตามกันอย่างต่อเนื่องต่อไป     
สนับสนุนการขับเคลื่อนโดย
- ฮอนด้าพิธานพาณิชย์-อริยะมอเตอร์ www.phithan.co.th/hondaphithan
- ปาล์มสปริงส์ & ซิตี้รีสอร์ท บ้านและคอนโดคุณภาพจากเครืองศุภาลัย www.hatyainakarin.com
- ธีระการช่าง หาดใหญ่ (เยื้องบิ๊กซีคลองแห) โทร 086-4910345 www.facebook.com/teerakarnchanghy
- เอนกการช่าง ผู้นำการพัฒนาเครื่องจักรกลเกษตร โทร 081-7382622 www.an-anek.com/contact.php
รีวิวธุรกิจ เกาะติดบ้านเมือง ร้อยเรื่องท้องถิ่น TLP 0897384215

ทีมงานบ้านเรา

สุชาติ จันทรโชติกุล VS สาคร ทองมุณี ณ นาทีนี้ใครแต้มเหนือกว่า

คู่เอกของสนามเลือกตั้งนายกอบจ.สงขลาที่มี่การเปิดตัวอย่างเป็นทางการออกมาแล้วคงหนีไม่พ้น ผู้การชาติ พันเอก สุชาติ จันทรโชติกุล ที่มีพรรคพลังประชารัฐ แกนนำรัฐบาลให้การสนับสนุน และพี่หลวงคร พลตำรวจโท สาคร ทองมุณี ที่พรรคประชาธิปัตย์ให้การสนับสนุนลงสมัครในครั้งนี้

ผู้การชาติ แม่ทัพภาคใต้พลังประชารัฐ สามารถกวาดสส.ได้ถึง 13 จาก 50 เขตในภาคใต้ ที่สงขลากวาดมาได้ถึง 4 จาก 8 ที่นั่ง ที่ให้ความตั้งใจที่จะลงสนามนายกเมืองคอหงส์ เปลี่ยนมาเป็นสนามใหญ่อย่างอบจ.สงขลาทันที เจ้าตัวบอกว่าเป็นความต้องการผู้ใหญ่ในพรรคและชาวบ้านที่อยากให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในทุกระดับตั้งแต่ระดับชาติมาจนถึงท้องถิ่น

26 ปีที่ภาคใต้ถูกผูกขาดด้วยพรรคประชาธิปัตย์ วันนี้ได้เปลี่ยนไปแล้วการได้สส.สงขลาถึง 4 คน หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องบังเอิญแต่ความจริงคือเรื่องของยุทธศาสตร์การหาเสียง เรื่องนโยบายพรรค และความเบื่อหน่ายของประชาชนที่มีต่อพรรคการเมืองเดิมคือปัจจัยที่นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ล่าสุดผู้การชาติ นำทีมเข้าพบพลเอก ประวิตร วงศ์สุวรรณ ประธานพรรคพลังประชารัฐ โดยมีอดีตนายกไพร พัฒโน แห่งทน.หาดใหญ่ อดีตลูกหม้อปชป.ตามติดเป็นเงาไปด้วย

ผู้การชาติ อ่านเกมส์ค่อนข้างขาดว่าว่าที่ผู้สมัครสจ.ที่เปิดตัวร่วมทีมไปแล้วนั้นส่วนใหญ่จะเป็นหน้าใหม่แทบทั้งสิ้น การดึงคนมาช่วยทำแต้มจึงจำเป็นอย่างยิ่ง แม้จะมีสส.ถึง 4 คนในมือแต่ก็ใช่ว่าจะการันตีคะแนนเหล่านั้นมาเป็นของตัวเองได้ การดึงอดีตนายกอบจ.คนแรก สาทร สิกกะ  จากสะบ้าย้อย รองอมรรัตน์ ศรีสถิตย์วงศ์ อดีตรองนายกทต.สำนักขามหรือเมืองด่านนอกสะเดา เปิดโควต้าฝ่ายบริหารที่เป็นมุสลิมมาช่วยเสริมคมจึงเป็นส่งสำคัญอย่างยิ่ง

เจ้าตัวยังบอกว่าพรรคอื่นๆ ก็พร้อมสนับสนุนตนเองในเที่ยวนี้ การได้คะแนนจากนายกไพร เขตเขตเมืองหาดใหญ่+สส.เขต2+3 สส.วันชัย+อดีตสจ.และนายกเล็กในเขตเมืองสงขลา ซึ่งเป็นจุดชี้ผลแพ้ชนะในการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา สส.อรุณ ในพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ วันนี้ ผู้การชาติ พันเอก สุชาติ จันทรโชติกุล จึงมั่นใจว่าโอกาสเข้าวินไม่ใช่เรื่องไกลเลย

พี่หลวงคร พลตำรวจโท สาคร ทองมุณี อดีตผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ม้าเปลี่ยนสนามอีกหนึ่งคนที่ก่อนหน้านี้ประกาศจะลงนายกนครหาดใหญ่โดยจะลงในนามพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนนายกอบจ.นิพนธ์ บุญญามณี ทิ้งเก้าอี้ไปเป็นรมช.มหาดไทยในนามพรรค รวมถึงนายกไพร ก็ขอลงนายกหาดใหญ่ต่ออีก สนามอบจ.จึงเป็นคำตอบสุดท้ายของพี่หลวงคร

ทีมพรรคประชาธิปัตย์ มีสส.3 คน นายกชาย สส.เดชอิศม์ ขาวทอง คือกองหนุนคนสำคัญของพี่หลวงคร มท.2 นิพนธ์ ก็เป็นอีกแรงที่ช่วยหนุนและเป็นผู้เสนอให้พรรคเลือกมาลงสมัครนายกอบจ.ต่อจากตัวเอง สส.สุรินทร์ เขต 8 คงไปในทางเดียวกับพรรค สส.ถาวร รมช.คมนาคม ยังไม่พูดว่าสนามท้องถิ่นเที่ยวนี้จะหนุนใครเป็นพิเศษหรือไม่ แต่ที่หนุนแน่นอนคือสจ.ส่วนใหญ่ในสภาชุดปัจจุบันที่ประกาศว่าจะร่วมทีมกับพี่หลวงครเกือบ 100%

จากการพี่หลวงคร ลงพื้นที่ร่วมกับชุมชนพบปะชาวบ้านมายาวนาน มีบุคลิกที่เป็นกันเองเข้าถึงง่าย มีนายกเล็กในเกือบทุกพื้นที่ร่วมเป็นแรงหนุน การเป็นนักการเมืองที่ไม่มีบุคลิกความเป็นนักการเมืองเต็มตัว คืออีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้เจ้าตัวเข้ากับทุกคนทุกฝ่ายได้ง่าย และมีผลดีต่อการเพิ่มฐานคะแนนเสียงให้ตัวเองได้เป็นอย่างดี

สรุปโดยรวมการได้ว่าที่สจ.ที่เป็นตัวเต็งจะชนะเกือบทั้งหมด+แรงหนุนจากพรรคประชาธิปัตย์ นายหัวชวน หลีกภัย สายสัมพันธ์ที่แนบแน่นมายาวนานของพี่หลวงคร กับนักการเมืองท้องถิ่น นักธุรกิจส่วนใหญ่ของจังหวัด คือปัจจัยสำคัญที่จะโกยคะแนนให้พี่หลวงคร พลตำรวจโท สาคร ทองมุณี กำชัยชนะในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเร็วๆนี้   

ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 1 คน 1 สิทธิ์ 1 เสียง คือผู้กำหนดอนาคตสงขลา การเลือกตั้งเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ประชาชนส่วนใหญ่เท่านั้นคือผู้ให้คำตอบ   

สนับสนุนการขับเคลื่อนโดย
- ฮอนด้าพิธานพาณิชย์-อริยะมอเตอร์ www.phithan.co.th/hondaphithan
- ปาล์มสปริงส์ & ซิตี้รีสอร์ท บ้านและคอนโดคุณภาพจากเครืองศุภาลัย www.hatyainakarin.com
- ธีระการช่าง หาดใหญ่ (เยื้องบิ๊กซีคลองแห) โทร 086-4910345 www.facebook.com/teerakarnchanghy
- เอนกการช่าง ผู้นำการพัฒนาเครื่องจักรกลเกษตร โทร 081-7382622 www.an-anek.com/contact.php
รีวิวธุรกิจ เกาะติดบ้านเมือง ร้อยเรื่องท้องถิ่น TLP 0897384215


ฅนสองเล

มีลุ้นทั้งคู่ หากนายกชายชนผู้การชาติ ที่สนามอบจ. พี่หลวงครฟัดนายกไพร ที่นครหาดใหญ่

ทันทีที่นายกชาย สส.เดชดิศม์ ขาวทอง เขต 5 สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่าอาจจะลาออกจากสส.มาลงสมัครนายกอบจ.สงขลาในการเลือกตั้งเที่ยวหน้าก็ได้ ทำให้ตามร้านน้ำชาต่างๆ มีสีสันขึ้นมาทันที มีเรื่องให้เล่าขานกันเยอะแยะมากมาย ทั้งด้านสนับสนุนและไม่เห็นด้วย

หากนายกชายลาออกจากสส.ก็ต้องเลือกตั้งใหม่นั่นหมายความว่าประชาชนเขต 5 ต้องใช้สิทธิ์กันอีกครั้งในเวลาใกล้เคียงกันทั้งเลือกสส.และนายกอบจ. ซึ่งเป็นประเด็นให้ฝ่ายตรงข้ามโจมตีได้ อีกอย่างปชป.ก็ไม่ใช่พรรคแม่เหล็กของสงขลาไปแล้วหลังได้มา 3 จาก 8 ที่นัง หากออกแล้วคนใหม่ไมได้กลับมาเที่ยวหน้าเป็นงานหนักหนาสาหัสของพรรคแน่ๆ ซึ่งไม่รู้ว่าผู้ใหญ่ในพรรคจะมีความคิดเห็นกับประเด็นนี้อย่างไร ในส่วนของนายกชาย ดูแล้วหัวใจน่าจะกลับมาอยู่ที่ท้องถิ่นเสียแล้วหรือไม่ก็อาจเป็นการโยนหินถามทางเพื่อเช็คกระแสก่อน

สำหรับว่าที่ผู้สมัครนายกอบจ.สงขลา ที่โดดเด่นสุดเวลานี้ก็หนีไม่พ้น พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ผู้การชาติแห่งค่ายพลังประชารัฐ ที่มีพรายกระซิบบอกว่างานนี้มีใบสั่งเลยว่าแพ้ไม่ได้ กวาดสส.ได้มาตั้ง 4 แล้วจะกวาดเก้าอี้นายกอีกตำแหน่งคงเป็นไปได้สูง ก่อนหน้านี้ฟากฝั่งปชป.จะส่ง พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี โดยให้ขยับจากที่เคยเปิดตัวจะลงนายกนครหาดใหญ่มาเป็นอบจ.สงขลาแทน แต่ดูเหมือนว่าเรทติ้งจะแรงไม่พอ บวกกระแสสจ.และผู้นำท้องถิ่นที่อยากได้ผู้นำที่เข้าใจนักการเมืองด้วยกันมากกว่านี้ จึงเป็นที่มาของเสียงเชียร์ให้นายกชาย กลับมาเป็นนายกอบจ.สงขลาอีกครั้ง

ระยะเวลา 1 ปีกว่าของการทำหน้าที่สส. นายกชาย มีความโดดเด่นทั้งในพื้นที่และในสภาจึงมีการจับตามองไปถึงโอกาสการเป็นกรรมการบริหารพรรค โอกาสการเป็นรัฐมนตรี และเป็นแม่ทัพจัดระเบียบการเมืองสงขลาให้มีเอกภาพมากยิ่งขึ้น หากตัดสินใจกลับมาสู่สนามท้องถิ่นนั่นคือการวางเดิมพันที่สูงมาก สส.คนใหม่ในการเลือกตั้งซ่อมจะชนะหรือไม่ เลือกตั้งนายกอบจ.ชนะหรือไม่ หากคำตอบออกมาว่าไม่แม้เพียงสนามเดียวก็ถือว่าสั่นคลอนมากโดยเฉพาะสนามอบจ.

นายกชาย เคยเสนอตัวลงนายกอบจ.ในการเลือกตั้งจากชาวบ้านโดยตรงมา 3 ครั้ง ยังไม่ชนะเลยสักครั้ง ครั้งนี้หากคู่ชิงคือผู้การชาติ ต้องบอกว่ามีดีกันคนละอย่าง ผู้การชาติรุ่นใหญ่แต่ประสบการณ์ท้องถิ่นน้อย นายกชายรุ่นน้องแต่ประสบการณ์เพียบน่าจะมีแต้มต่อที่ดีกว่า แต่หากพปชร.หนุนเต็มที่ ผู้การชาติก็คงมีอาวุธไม่น้อยในการใช้สู้ศึกเลือกตั้งเที่ยวนี้ และยังมีข่าวว่าต้นสังกัดประกาศเลยว่าสนามสงขลาแพ้ไม่ได้ หาก 2 คนนี้ลงชิงกันจริงเชื่อว่ากว่าจะบอกได้ว่าใครเป็นฝ่ายชนะคงต้องรอบการนับคะแนนใบสุดท้ายกันเลย

ที่สนามนครหาดใหญ่ก็น่าสนใจไม่น้อยหากพี่หลวงคร มาลงในนามทีมพรรคประชาธิปัตย์ แล้วต้องมาชนกับลูกหม้อเก่าอย่างไพร พัฒโน ที่ลาออกไม่นั่งตบยุงเพราะไม่ได้ลงสส.มาแล้วปีกว่าๆ ตอนแรกที่ผู้การสาครขยับไปที่สนามอบจ. นครหาดใหญ่ก็เงียบเหงาแต่หากขยับกลับมาอีกครั้งก็คงต้องตอบคำถามชาวบ้านกันมากเช่นกัน แต้มที่เคยทำไว้หล่นหายไปเยอะคงต้องรีบมาเก็บมาสร้างกันใหม่ หากจะลงสนามนี้จริงๆ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วผลของการเลือกตั้งไม่ว่าสนามเล็กหรือใหญ่ ประชาชนเจ้าของสิทธิ์เท่านั้นที่จะเป็นให้คำตอบว่าเสียงส่วนใหญ่ให้ใครชนะ       

นี่เป็นเพียงน้ำจิ้มและสีสันการเมืองสงขลาส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังไม่รู้วันเลือกตั้ง ยังไม่เปิดรับสมัคร จึงยังให้คำตอบไม่ไดว่าใครกันแน่ที่จะลงแข่งในสนามไหนบ้าง รอติดตามกันต่อไป

ฅนสองเล

4 ขุนพลปชป.ประกาศหนุน "ไพเจน มากสุวรรณ์" ชิงนายกอบจ.สงขลา

ถาวร-นิพนธ์-สุรินทร์-นายกชาย ร่วมเปิดตัวไพเจน มากสุวรรณ์ อดีตรองอธบดีกรมชลประทานลูกหม้อสงขลาจากสิงหนคร ลงชิงนายกอบจ. พร้อมดันลงในนามพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันไร้ความขัดแย้งพี่หลวงคร ขอถอนตัวเพราะปัญหาสุขภาพส่วนจะลงชิงนายกหาดใหญ่หรือไม่ต้องรอคำตอบจากเจ้าตัว  นายกชายพร้อมนำทีมเป็นแม่ทัพการเลือกตั้ง

เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2563 ณ โรงแรมต้นอ้อยแกรนด์โฮเต็ล อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และรองหัวพรรคประชาธิปัตย์ นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 6 จังหวัดสงขลา พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 8 จังหวัดสงขลา และนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 5 จังหวัดสงขลา ร่วมงานแถลงข่าวการสนับสนุน ว่าที่ร้อยตรีไพเจน มากสุวรรณ์ ลงชิงตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา โดยมีสมาชิกสภาอบจ.สงขลา และผู้ที่สนใจเข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าวผลงานของว่าที่ร้อยตรีไพเจน มากสุวรรณ์ ที่ผ่านมากับการพัฒนาจังหวัดสงขลา ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมชลประทาน และผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นายถาวร เสนเนียม กล่าวว่าการเลือกตั้งนายกอบจ.สงขลาที่ผ่านมาตนกับนายนิพนธ์ สนับสนุนผู้สมัครคนละฝั่งกันเสมอแต่ในครั้งนี้เมื่อเป็นชื่อของไพเจน มากสุวรรณ์ ตนมีความเชื่อมั่นและพร้อมสนับสนุนทันทีเพราะเป็นคนสงขลา ที่ผ่านการทำงานในกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้ผลักดันการพัฒนาโครงการแหล่งน้ำขนาดใหญ่ทั้งคลองร.1 ลุ่มน้ำคาบสมุทรสทิงพระ จึงเป็นบุคคลที่ควรสนับสนุนให้เป็นผู้นำของชาวสงขลาในตำแหน่งนายกอบจ.สงขลาต่อไป 

เช่นเดียวกับนายนิพนธ์ บุญญามณี ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวถึงการตัดสินใจสนับสนุนว่าที่ร้อยตรีไพเจน มากสุวรรณ์ ลงชิงตำแหน่งนายก อบจ. ครั้งนี้ว่า ในฐานะที่จังหวัดสงขลา ถือเป็นเมืองหลักของภาคใต้ ทั้งด้าน เศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยว ดังนั้นการที่จะมีใครสักคนที่ลงมายืนอยู่ตรงนี้ และไม่เสียโอกาสที่จะพัฒนาจังหวัดสงขลา จึงเล็งเห็นว่าที่ร้อยตรีไพเจน มากสุวรรณ์ ที่ขันอาสาลงมาสมัครชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ในฐานะเคยเป็นรองอธิบดีกรมชลประทาน ผู้ตรวจราชการของกระทรวงเกษตรฯ

อดีตข้าราชการซี10 ซึ่งถือว่ามากด้วยประสบการณ์ที่จะมาพาเมืองสงขลาก้าวเดินไปข้างหน้าโดยเฉพาะการแก้ปัญหาเรื่องน้ำที่จะใช้ในจังหวัดสงขลา สิ่งหนึ่งวันนี้ถ้าเราได้คนที่มีความพร้อมการขับเคลื่อนต่างๆโดยศักยภาพและเวลาจึงเป็นช่วงเวลาที่พวกเราจะไปทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนจึงอยากให้มีความมั่นใจว่านี่คือ โอกาสที่เราจะให้เป็นทางเลือกของประชาชนมากขึ้นในการหาผู้ที่จะมาบริหารจังหวัดสงขลา แต่ทั้งนี้จะสำเร็จได้ก็โดยอาศัยพวกเราช่วยกันทั้งฝ่ายสนับสนุน ว่าที่ผู้สมัครส.อบจ.ทุกคน ส่วนจะได้ลงในนามพรรคหรือไม่ต้องรอมติอย่างเป็นทางการของพรรคประชาธิปัตย์ก่อน

พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ กล่าวถึงว่าที่ร้อยตรีไพเจน มากสุวรรณ์ ว่าเป้นบุคคลที่มีคุณภาพ คบได้มีประสบการณ์ และมีความตั้งใจเข้ามาทำงานการเมืองท้องถิ่นอย่างแท้จริง จึงควรให้การสนับสนุนให้เป็นผู้นำของชาวสงขลา

ทางด้านนายกชาย เดชอิศม์ ขาวทอง ที่รับหน้าที่ผู้อำนวยการเลือกตั้ง ประสานสจ.ชุดปัจจุบันมาร่วมทีม เรียกได้ว่าเป็นหัวเรือหลักนำทัพการเลือกตั้งในครั้งนี้ กล่าวว่าวันนี้เราได้ผู้สมัครที่ดี เป็นบุคคลมีความรู้ความสามารถผ่านการทำงานระดับชาติมายาวนาน สามารถประสานความร่วมมือจากส่วนกลางได้เป็นอย่างดี และเป็นบุคคลที่พี่ใหญ่ทางการเมืองของสงขลาทั้งถาวร เสนเนียม และนิพนธ์ บุญญามณี ให้การสนับสนุนและเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกที่ส.ส.ประชาธิปัตย์เป็นหนึ่งเดียวสนับสนุนผู้สมัครคนเดียวกัน

ส่วนพี่หลวงคร พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ที่เคยได้รับการสนับสนุนให้ลงในนามพรรคก่อนหน้านี้นั้น เจ้าตัวได้ขอถอนตัวเนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ เพราะสนามอบจ.เป็นสนามใหญ่ต้องเดินทางไกลมากในแต่ละวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีความขัดแย้งกันแต่อย่างใด ส่วนจะมาลงสนามชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเจ้าตัว หากพี่หลวงคร ลงตนเองก็พร้อมช่วยเต็มที่ ส่วนกับนายไพร พัฒโน ที่เป็นเพื่อนเกลอกันนั้นตอนนี้ต่างคนต่างเดินต่างทำหน้าที่ของตัวเอง เพราะอยู่คนละพรรคคนละฝั่งก็ต้องแข่งขันกันเป็นธรรมดา

สำหรับว่าที่ผู้สมัครนายกอบจ.สงขลา ว่าที่ร้อยตรีไพเจน มากสุวรรณ์ พื้นเพเป็นชาวสิงหนคร ผ่านทำงานรับราชการในสังกัดกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผ่านการดำรงตำแหน่งสำคัญอาทิ ผู้อำนวยการสำนักก่อสร้างแหล่งน้ำขนาดใหญ่ รองอธิบดีกรมชลประทาน และผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯ ปัจจุบันอายุ 64 ปี เป็นนายกสมาคมนักเรียนเก่ามหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา เป็นบุคคลที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับผู้ใหญ่ในจังหวัด และมีผลงานในการผลักดันการพัฒนาจังหวัดสงขลาเป็นที่ประจักษ์ในหลายโครงการที่เกี่ยวกับการพัฒนาแหล่งน้ำ แก้ปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้ง

โดยเจ้าตัวยืนยันว่าช่วงเวลาที่รับราชการก็ได้ผลักดันการพัฒนาจังหวัดสงขลา ทั้งการขยายคลองร.1 การขุดคลองอาทิตย์และพัฒนาลุ่มน้ำทั้งระบบของคาบสมุทรสทิงพระ การพัฒนาแหล่งน้ำโซนนาทวี ผลักดันงบเฉพาะกิจมาช่วยชาวจะนะกรณีสะพานข้ามคลองน้ำเค็มขาดเมื่อครั้งเกิดอุทกภัยปี 54 และได้ติดตามการเมืองในพื้นที่มาโดยตลอดเมื่อมีโอกาสจึงขอเสนอตัวเข้ามาเป็นผู้นำท้องถิ่นพี่ใหญ่สุดของจังหวัดสงขลา

ตอนนี้ได้มีการจัดเตรียมเฟ้นหาผู้ร่วมทีมฝ่ายบริหาร ซึ่งมีผู้เสนอตัวมาจำนวนมาก เฟ้นหาผู้สมัครสจ.เพราะหลายเขตมีเสนอตัวมากกว่า 1 คน รวมถึงการนำเสนอนโยบายการพัฒนาสงขลา ซึ่งจะเริ่มทยอยนำเสนอให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบในเร็วๆ นี้ จากนี้จะขอฟิตร่างกายให้พร้อมกับการลงพื้นที่ การเร่งทำงานอย่างหนักเพื่อให้พี่น้องชาวสงขลาได้รู้จัก และฝากพิจารณาเลือกไพเจน มากสุรรณ์ เป็นผู้แทนของท่านด้วยครับ

สำหรับสนามอบจ.สงขลา ถือเป็นสนามใหญ่ที่มีการแข่งขันค่อนข้างดุเดือด โดยผู้สมัครที่ยืนยันชัดเจนว่าจะลงแน่นอนคือ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล จากพรรคพลังประชารัฐ ที่เดินสายหาเสียงเปิดตัวมายาวนาน ยังมีชื่อของมิตร แก้วประดิษฐ์ ประธานสภาอบจ.สงขลา สจ.เขตควนเนียง ที่อาจร่วมกับสจ.บางส่วนสร้างทีมลงแข่งขันด้วย ทีมสงขลาพลังใหม่ ที่มีชื่อของปรีชา สุขเกษม นักเคลื่อนไหวคนดังอดีตผู้สมัครสส.พรรครวมพลังประชาชาติไทย เป็นอีกทีมที่เปิดชื่อตอนนี้ ช่อของภัทรวรรณ ขำตรี ทีมเพื่อสังคม ชื่อของวชิรวิทย์ ภัสระ วิศวกรหนุ่มที่ประกาศจะลงเลือกตั้งด้วย และอาจมีผู้สมัครจากพรรคก้าวไกลหรืออนาคตใหม่เก่า เสนอตัวชิงชัยสนามนี้กับเขาด้วย ซึ่งต้องรอดูกันจนนาทีสุดท้ายว่าจะมีชื่อใครโผล่มาเพิ่ม ชื่อใครหายไปบ้าง   

ฅนสองเล

ไพเจน มากสุวรรณ์ VS สุชาติ จันทรโชติกุล ศึกชิงเดิมพันสนามท้องถิ่นสงขลา

ข่าววงในทะลุกันออกมาค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าสนามอบจ.จะเป็นเวทีแรกในการเลือกตั้งท้องถิ่นแน่นอนหลังถูกดองมายาวนาน ภายในปีนี้ต้องมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นแล้ว ความคึกคักของว่าที่ผู้สมัครนายกอบจ. ว่าที่สจ.จึงร้อนแรงมาเป็นพิเศษ

นายกอบจ.สงขลา ว่างมาปีกว่าแล้วนับตั้งแต่นายกนิพนธ์ ขยับไปเป็นมท.2 การเลือกตั้งเที่ยวนี้ 4 ขุนพลปชป.ถาวร-นิพนธ์-สุรินทร์-เดชอิศม์ จับมือสนับสนุนผู้สมัครคนเดียวกันเป็นครั้งแรก โดยบทสรุปชื่อที่ถูกส่งเข้าประกวดคือว่าที่ร้อยตรี ไพเจน มากสุวรรณ์ อดีตรองอธิบดีกรมชลประทาน นายกศิษย์เก่ามหาฯ มาจากสิงหนคร ถึงจะมาช้าก็เปิดตัวและลุยพื้นที่ทันที ว่ากันว่าเทียวนี้นายกชายหรือสส.เดชอิศม์ เป็นผู้อำนวยการใหญ่ในในการป้องกันแชมป์ให้พรรคสีฟ้า

ส่วนคู่แข่งอย่าง พันเอก สุชาติ จันทรโชติกุล นั้นเปิดตัวนำหน้าไปหลายขุมตั้งแต่จบศึกเลือกตั้งใหญ่ที่คว้าชัยสส.ไป 4 คน วันชัย-ศาสตรา-พยม-อรุณ ราศีผู้การชาติก็จับขึ้นมาทันทีเจ้าตัวบอกไม่เอารมต.ไม่เอาระดับชาติขอกอดท้องถิ่นไว้ให้แน่นๆ ขยับจากว่าที่นายกคอหงส์ มาเป็นว่าที่นายกอบจ.สงขลาอย่างรวดเร็ว มีการเปิดตัวผู้สมัครสจ.มานานในเกือบทุกเขต แม้ส่วนใหญ่จะเป็นหน้าใหม่แต่ผู้การชาติ ยืนยันมั่นใจว่า สส.ก็หน้าใหม่ทั้งหมดชนะมาได้แล้ว สจ.ก็คงไม่ยากเกินไป

ถึงนาทีนี้บอกได้ว่าคู่ต่อกรตัวจริงในสนามอบจ.สงขลา คงเป็น ไพเจนกับสุชาติ นี่แหละคงไม่มีชื่อใหม่โผล่มาเซอร์ไพรส์อีกแล้ว ช่วงนี้งานต่างๆ อาจมีแขกเยอะหน่อยเพราะนักการเมืองเขาแข่งกันไปเปิดตัวเพื่อหวังชิงความได้เปรียบล่วงหน้า ก่อนถึงฎีกาเลือกตั้ง 

ทีมงานบ้านเรา

ผู้การชาติ เปิดตัวทีมงานฝ่ายบริหารพร้อมลุยด้วยสโลแกน มาเพื่อพัฒนาไม่ได้มาเพื่อผลประโยชน์

ผู้การชาติ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ว่าที่ผู้สมัครนายกอบจ.สงขลา ทีมสงขลาประชารัฐ ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่หลังศึกเลือกตั้งสส.ต้นปี 62 จนถึงวันนี้ก็ยังเดินเต็มสูบ ที่ผ่านมามีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสจ.ไปแล้ว ล่าสุดก็มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับทีมงานฝ่ายบริหาร ทั้งว่าที่รองนายก ที่ปรึกษา และเลขาฯ พร้อมสโลแกนล่าสุด มาเพื่อพัฒนาไม่ได้มาเพื่อผลประโยชน์

ไล่ดูตามรายชื่อก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย รองนายกฯ เอกพงษ์ ยีหล๊ะ หรืออิหม่ามกิ๊บ กรรมการมัสยิดควนลัง อ.หาดใหญ่  เคยเป็นประธานสภาเทศบาลควนลัง และเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในแวดวงผู้นำศาสนาอิสลามในจังหวัดสงขลาและใกล้เคียง

คนต่อมา สาทร สิกกะ ตัวแทนจากสะบ้าย้อย อดีตนายกอบจ.สงขลาคนแรกที่มาจากเลือกตั้งของสจ. เคยร่วมทีมกันตั้งแต่สมัยผู้การชาติ ลงในนามทีมสงขลารักไทย คราวนี้ก็กลับมาเป็นแกนหลักในการดึงคะแนนโซนสะบ้าย้อยและข้างเคียง และอดีตรองนายกด่านนอก อมรรัตน์ ศรีสถิตวงศ์  อดีตรองนายกเทศมนตรีตำบลสำนักขาม สะเดา หญิงเก่งอีกคนที่มาร่วมทีมตั้งแต่เริ่มแรกๆ ในการก่อตั้งทีม

ทีมที่ปรึกษา นายแพทย์ธีรวัฒน์ กรศิลป์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 12 สงขลา และเป็นนักวิชาการอิสระที่ถูกเรียกว่าหมอการเมืองอีกคนในแวดวงบ้านเรา และสนธยา หมัดหมัน อาจารย์ด้านศาสนาอิสลามอีกคนที่ทำงานร่วมกับทีมพรรคประชารัฐสงขลามายาวนาน

เลขานุการนายก สมชาย เล่งหลัก อดีตผู้สมัครสส.เขต 5 ที่เจอคู่แข่งหินอย่างนายกชาย เดชอิศม์ ขาวทอง แต่ก็แบ่งคะแนนมาได้ 2หมื่นกว่าเสียง และเป็นคนที่ผุ้การชาติ ไว้ใจมากที่สุดคนหนึ่ง ผู้หญิงอีกคนถือว่ารุ่นใหม่สุดของทีม ณัชนาริชาต์ คชาทอง มาทำหน้าที่เลขานุการอีกคน

นอกจากทีมงานที่เปิดตัวมาแล้วต้องบอกว่า สส.4 คนก็ถือเป็นกำลังสำคัญของทีมที่ต้องช่วยกันออกแรงจริงจัง เขต 1 วันชัย ปริญญาศิริ เครือข่ายแน่นนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่มีความใกล้ชิดกันหลายคน เขต 2 ศาสตรา ศรีปาน แม้จะมาใหม่แต่อาศัยลูกขยันลองผิดลองถูกมาในหลายเรื่อง แถมยังมีไพร พัฒโน มาช่วยอีกแรงด้วย เขต 3 พยม พรหมเพชร สส.ส้มหล่นคนนี้เคยเป็นโฆษกคู่กายนายกชาย วันนี้ได้เป็นผู้แทนพร้อมกันต้องมาเชียร์ว่าที่นายกคนละฝั่งกัน ครูยม จะช่วยทีมเต็ที่หรือไม่น่าคิดเช่นกัน เขต 4 อรุณ สวัสดี ตัวช่วยเก็บแต้มจากโซนคาบสมุทรสทิงพระ     

ส่วนว่าที่สจ.แม้จะหน้าใหม่เกือบทั้งทีมแต่ก็เปิดตัวมายาวนาน โดยในเที่ยวนี้ สจ.36 คน มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยคือ ระโนด ลดจาก 2 เหลือ 1 เขต โดยไปเพิ่มที่นาทวี จาก 1 เป็น 2 เขต ส่วนพื้นที่อื่นๆ ยังคงเดิม หาดใหญ่ 10 เขต เมือง 4 เขต สะเดา 3 เขต จะนะ รัตภูมิ เทพา สะบ้าย้อย สิงหนคร 2 เขต ส่วนที่เหลืออำเภอละ 1 เขตเลือกตั้ง

อำนาจการเลือกตั้งอยู่ในมือประชาชน ระฆังลั่นเมื่อไหร่เตรียมตัวใช้สทธิ์กันได้เลยครับ 
สนับสนุนการขับเคลื่อนโดย
- ฮอนด้าพิธานพาณิชย์-อริยะมอเตอร์ www.phithan.co.th/hondaphithan
- ปาล์มสปริงส์ & ซิตี้รีสอร์ท บ้านและคอนโดคุณภาพจากเครืองศุภาลัย www.hatyainakarin.com
- ธีระการช่าง หาดใหญ่ (เยื้องบิ๊กซีคลองแห) โทร 086-4910345 www.facebook.com/teerakarnchanghy
- เอนกการช่าง ผู้นำการพัฒนาเครื่องจักรกลเกษตร โทร 081-7382622 www.an-anek.com/contact.php
รีวิวธุรกิจ เกาะติดบ้านเมือง ร้อยเรื่องท้องถิ่น TLP 0897384215

ฅนสองเล

ชัยวุฒิ-อับดลรอหมาน-สุภาพร นั่งว่าที่รองนายก ทีมไพเจน มากสุวรรณ์

นับถอยหลังสู่การเลือกตั้งเข้ามาทุกขณะสำหรับสนามอบจ.สงขลา ซึ่งมวยคู่เอกของสนามนี้คงหนีไม่พ้นผุ้การชาติ พันเอก สุชาติ จันทรโชติกุล จากทีมสงขลาประชารัฐ ซึ่งเปิดตัวมายาวนานข้ามปีและก่อนหน้านี้ได้มีการเปดโฉมหน้าฝ่ายบริหารอย่างเป็นทางการกันไปแล้ว ส่วนคู่แข่งมาทีหลังจะดังกว่าหรือไม่สำหรับไพเจน มากสุวรรณ์ มาจากการสนับสนุนของทีมสส.ประชาธิปัตย์สงขลา

ล่าสุดในเวทีที่รัตภูมิ นายกชาย สส.เดชอิศม์ ขาวทอง ซึ่งจะรับหน้าที่ผู้อำนวยการเลือกตั้งในเที่ยวนี้ ได้ปราศรัยเปิดตัวลูกชาย บิ๊กเสือ วงศ์วชิระ ขาวทอง เป็นว่าที่ผู้สมัครสจ.เขต 1 อำเภอรัตภูมิ และในการปราศรัยยังได้เปิดเผยรายชื่อฝ่ายบริหารของทีมในตำแหน่งรองนายกอบจ.3 ตำแหน่ง ซึ่งประกอบด้วย นายชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว อดีตสส.เขต4 นายอับดลรอหมาน กาเหย็ม อดีตรองนายกยุคนิพนธ์ และกรรมกลางอิสลามฯ และนางสาวสุภาพร กำเนิดผล หรือคุณนายน้ำหอม ภรรยาคนสวยของนายกชาย

โดยนายกชาย กล่าวบนเวทีปราศรัยว่าการเลือกคุณน้ำหอม เป็นรองนายกนั้น นายถาวร เสนเนียม เป็นคนเสนอ และนายนิพนธ์ บุญญามณี ก็ให้การสนับสนุน เพื่อให้เป็นตัวแทนดูแลชาวบ้านในท้องถิ่นระดับจังหวัด โดยเฉพาะของคนเขต 5 ซึ่งยังได้กล่าวแกมหยอกด้วยว่า "หากดูและประชาชนเขต 5 ไม่ดีผมก็จะเปลี่ยนเมียใหม่" อย่างไรก็ดีหากไล่ดูตามรายชื่อทีมฝ่ายบริหารกลุ่มรองนายก ถือว่าไม่พลิกโผมากนัก

รองคนที่ 1 ชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว มาในโควต้าถาวร เสนเนียม ซึ่งจะเป็นหัวแรงหลักในพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ เป็นคนหนึ่งที่เกาะติดพื้นที่มายาวนานเที่ยวล่าสุดก็พ่ายการเลือกตั้งสส.แก่พปชร.ไปไม่มาก

รองคนที่ 2 อับดลรอหมาน กาเหย็ม อดีตรองนายกอบจ.ยุคนิพนธ์ บุญญามณี และเป็นกรรมกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ถือเป็นหัวแรงหลักในการหาเสียงกับชาวมุสลิม และเป็นชื่อที่รู้จักกันในวงกว้างของจังหวัด

รองคนที่ 3 ตอนแรกคาดว่าในโควต้านายกชาย น่าจะเป็นรองบอย ธนกร จันทร์สว่าง อดีตรองนายกยุคนิพนธ์ ที่ทำหน้าที่เเสมือนเลขาประจำตัวนายกชาย ซึ่งเป็นคนสิงหนคร บ้านเดียวกับว่าที่นายกฯ เลยกระจายไปที่คนอื่นน่าจะเหมาะสมกว่าและมาลงเอยที่ชื่อ สุภาพร กำเนิดผล ภรรยานายกชายนั่นเอง

ตำแหน่งเป็นทางการในฝ่ายบริหารยังมีที่ปรึกษา 2 ตำแหน่ง และเลขานายกอีก 2 ตำแหน่ง ซึ่งต้องรอรายชื่อเป้นทางการว่าจะมีใครบ้าง ส่วนว่าที่ผู้สมัครสจ.ทั้ง 36 เขต เป็นอดีตสจ.เก่าเป็นส่วนใหญ่ บางเขตมีมากกว่า 1 ราย บางคนจึงต้องลงอิสระ ซึ่งบรรยากาศช่วงนี้ต้องบกว่าเข้มข้นขึ้นทุกขณะ ชาวบ้านติดตามทุกการเคลื่อนไหวแบบไม่กระพริบตา เมื่อถึงเวลาคูหาเปิดประชาชนส่นใหญ่เท่านั้นจะตัดสินใจได้ว่าให้ใครเป็นผู้นำคนใหม่ของเราต่อไป 
 

ฅนสองเล

ก่อนถึงวันเข้าคูหามาทำความรู้จักกับ 36 เขตเลือกตั้ง ส.อบจ.สงขลากันก่อน

ปี่กลองการเมืองท้องถิ่นคึกคักขึ้นทุกขณะโดยเฉพาะสนามเลือกตั้งอบจ.ที่ชัดเจนว่าจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 20 ธันวาคม 2563 บ้านเราการแข่งขันค่อนข้างดุเดือด 2 ทีมใหญ่เปิดเกมรุกเข้าหาชาวบ้านกันอย่างเต็มที่แล้ว

ก่อนจะถึงวันเลือกตั้ง วันรับสมัคร วันได้เบอร์ วันนี้ขอนำไปทำความรู้จักกับเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ส.อบจ.หรือที่เรียกันติดปากว่า สจ. สงขลาบ้านเรามีได้ 36 คน แบ่งเป็น 36 เขตเลือกตั้ง เวลาเข้าคูหาท่าจะได้รับบัตร 2 ใบ เลือกได้ใบละ 1 เบอร์เท่านั้น คือเลือกนายกอบจ.เป็นผู้นำฝ่ายบริหาร กับเลือกสจ.เป็นผู้แทนของเราในพื้นที่ (ดูรายละเอียดการแบ่งเขตจากเอกสารประกอบข่าว) 

อำเภอหาดใหญ่ อำเภอเดียวก็มีสจ.ถึง 10 คน 10 เขตเลือกตั้ง เมื่อไล่เลียงดูตามเขตเลือกตั้งแล้วน่าเวียนหัวพอสมควร เขต 1-4 อยู่ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ทั้งหมด

เขต 5 ทม.บ้านพรุบางส่วน+ทต.บ้านไร่(ทั้ง 2 เทศบาลคือตำบลบ้านพรุ) +ต.พะตง (ทต.และอบต.พะตง) ซึ่งในอดีตตำบลบ้านพรุ+พะตง จะอยู่ในเขตนี้ทั้งหมด แต่เที่ยวนี้บางส่วนจะถูกย้ายไปรวมกับเขต 10 ซึ่งเป็นโซนติดฝั่งควนลังแต่ยังมี ม.3 บ้านชายคลอง ซึ่งเป็นเขตทต.บ้านไร่ขั้นกลางอยู่แต่ไม่ถูกรวมไปในเขต 10 ดูแล้วน่าเวียนหัวดีครับ

เขต 6 เทศบาลเมืองคอหงส์ ยกเว้น ม.1 และชุมชนคลองเปล 1-3 เขตนี้ตำบลคอหงส์ได้มีการยกเลิกเขตหมู่บ้านตั้งแต่เป็นเทศบาลเมือง ม.1 จึงหมายถึงชุมชนคลองเตย 1-4 ส่วนชุมชนคลองเปล 1-3 คือ ม.2 เดิมแต่ทำไมใช้ศัพท์การเรียกต่างกัน

เขต 7 ต.ทุ่งใหญ่ ท่าข้าม น้ำน้อย คูเต่า และชุมชนคลองเปล 1-3 ต.คอหงส์ เขต 8 ต.คลองแห คลองอู่ตะเภา และม.1 ต.คอหงส์ เขต 9 ต.ฉลุง+ต.ควนลังบางส่วน และเขต 10 ต.ทุ่งตำเสา+ต.ควนลังบางส่วน+ทม.บ้านพรุบางส่วน

อำเภอเมืองสงขลา มี 4 เขตเลือกตั้ง เขต 1 ต.บ่อยางหรือทน.สงขลาบางส่วน เขต 2 ต.บ่อยางหรือทน.สงขลาบางส่วน+ต.เขารูปช้างบางส่วน เขต 3 ต.เกะาแต้ว เกาะยอ+เขารูปช้างบางส่วน เขต 4 ต.พะวง+ทุ่งหวัง

อำเภอสะเดา มี 3 เขตเลือกตั้ง เขต 1 ต.พังลา ท่าโพธิ์ เขามีเกียรติ ปริก เขต 2 ต.ปาดังเบซาร์ ทุ่งหมอ+ต.สะเดาบางส่วน เขต 3 ต.สำนักแต้ว สำนักขาม+ต.สะเดาบางส่วน

การแบ่งเขตเขายึดจำนวนประชากรเป็นเกณฑ์ทำให้ดูแล้วอาจงงๆ กันบ้างแต่เมื่อใกล้ถึงวันเลือกตั้งคงมีจดหมายแจ้งเขตและหน่วยเลือกตั้งจากกกต.มาถึงบ้าน รวมถึงมีผู้หาเสียงเข้าหาเพื่อชวนเราไปเลือกตั้งแน่นอน

สำหรับอำเภอที่มี 2 เขตเลือกตั้ง มีอำเภอจะนะ อำเภอนาทวี อำเภอเทพา อำเภอสะบ้าย้อย อำเภอรัตภูมิ และอำเภอสิงหนคร ซึ่งส่วนใหญ่แบ่งพื้นที่ทั้งตำบลเป็นเขตเลือกตั้งและเป็นพื้นที่เดียวกับการเลือกตั้งรอบก่อน

ส่วนอำเภอที่มี 1 เขตเลือกตั้ง ที่น่าสนใจคงเป็นอำเภอระโนด ที่ถูกลดจาก 2 เหลือ 1 อำเภอใหญ่พื้นที่กว้างมีสจ.แค่ 1 คน คงแข่งขันกันสนุกน่าลุ้นมากสำหรับสนามนี้ อำเภอสทิงพระ อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอบางกล่ำ อำเภอควนเนียง อำเภอคลองหอยโข่ง และอำเภอนาหม่อม   

36 เขต มีผู้แทนได้ 36 คน ในทุกสนามมีผู้เสนอตัวมากกว่า 1 คน ปากกาในมือประชาชนชาวสงขลาส่วนใหญ่เท่านั้นที่จะตัดสินว่าจะเลือกใครไปเป็นผู้แทนของท่านในท้องถิ่นใหญ่สุดที่มีชื่อว่า อบจ.สงขลา 

ฅนสองเล

รับสมัครนายกอบจ.วันแรกคึกคึกมีผู้สมัคร 4 ราย กองเชียร์สุชาติ-ไพเจน จัดเต็ม

การรับสมัครรับเลือกตั้งนายกและส.อบจ.สงขลา วันแรกเป็นไปอย่างคึกคักมีผู้สมัครนายก 4 ราย โดยหมายเลขผู้สมัครนายกอบจ.สงขลา ดังนี้
เบอร์ 1 นายจะเด็ด เหมโกทวีทรัพย์ ผู้สมัครอิสระ
เบอร์ 2 พันเอก สุชาติ จันทรโชติกุล ทีมสงขลาประชารัฐ
เบอร์ 3 นายไพเจน มากสุวรรณ์ ทีมพรรคประชาธิปัตย์
เบอร์ 4 นางภัทรวรรณ ขำตรี ทีมเพื่อสังคม
ส่วนผู้สมัครส.อบจ.ก็มากันจำนวนมากทั้ง 36 เขต โดยในเที่ยวนี้ผู้สมัครสจ.กับหัวหน้าที่จะมีหมายเลขไม่ตรงกันเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากมีผู้สมัครอิสระด้วยทำให้ต้องมีการจับฉลากกันใหม่ทุกเขตเลือกตั้ง โดยการเปิดรับสมัครมีจนถึงวันที่ 6 พ.ย.63 ผู้ที่สนใจยังมีเวลาและเตรียมเอกสารไปสมัครกันได้ครับ

สำหรับบรรยากาศที่อบจ.สงขลาช่วงเช้ามีความคึกคักมาก โดยเฉพาะกองเชียร์ของพันเอกสุชาติ และนายไพเจน ที่ขนกันมาจำนวนมาก มีการเตรียมพร้อมทั้งรถแห่และการเขียนหมายเลขทันทีที่ได้ ซึ่งการเลือกตั้งเที่ยวนี้มีข้อห้ามไม่ให้นักการเมืองระดับชาติมาช่วยหาเสียงการเลือกตั้งท้องถิ่นจึงทำให้ดูเงียบและขาดสีสันไปบ้าง แต่ผู้สมัครทั้ง 2 ก็มีความมั่นใจไม่กระทบฐานเสียงแต่อย่างใด

การเลือกตั้งเที่ยวนี้คงไม่เหมือนเที่ยวก่อนเพราะผู้สมัครก็เปลี่ยนใหม่หมด สส.สงขลา ก็ไม่ได้ผูกขาดจากพรรคประชาธิปัตย์เหมือนในอดีต ก่อนถึงวันรับสมัครเลือกตั้งไม่กีวันมีกติกาว่าห้าม นักการเมืองระดับชาติมาช่วยหาเสียงในระดับท้องถิ่น ส่งผลให้พรรคพลังประชารัฐประกาศไม่ส่งผู้สมัครในนามพรรค ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ยังลงในนามพรรคแต่มีการเก็บป้ายที่เคยขึ้นคู่กับสส.สงขลาออกทั้งหมด และคงเตรียมลงป้ายรอบใหม่ภายหลังได้หมายเลขผู้สมัคร

แม้ไม่ให้สส.มาช่วยหาเสียงแต่ผู้คนก็รับรู้กันแล้วว่าใครอยู่ฝั่งไหน ผู้การชาติ ที่เปิดตัวมายาวนานและมีฐานะเป็นแม่ทัพของสส.สงขลา ดูจะได้เปรียบขึ้นมาทันทีเมื่อไพเจน ซึ่งใหม่มากในเวทีการเมืองไม่สามารถนำพี่เลี้ยงที่เป็นระดับขุนพลทั้งถาร นิพนธ์ นายกชาย สุรินทร์ มาช่วยออกหน้าหาเสียงให้ได้ ซึ่งอาจทำให้เวทีปราศรัยหาเสียงเที่ยวนี้อาจกร่อยลงไปมาก

ส่วนผู้สมัครอีก 2 ราย นายจะเด็ด เหมโกทวีทรัพย์ ผู้สมัครอิสระ เที่ยวล่าสุดเคยลงสส.เขต 6 ในนามพรรคเพื่อธรรม และนางภัทรวรรณ ขำตรี ทีมเพื่อสังคม เปิดตัวมานานแล้วพร้อมมีการส่งผู้สมัครสจ.ในบางเขตด้วย โดยคาดว่าจะมีผู้สมัครนายกอบจ.อีกอย่างน้อย 2 คนที่ยังไม่ได้เดินทางมายื่นใบสมัครในวันนี้ ซึ่งต้องติดตามกันว่าจนถึงวันที่ 6 พ.ย.จะมีผู้สมัครทั้งสิ้นกี่ราย

ย้อนกลับไปดูผลเลือกตั้งเที่ยวล่าสุด 4 ส.ค.56 อันดับ1 (หมายเลข 2) นายนิพนธ์ บุญญามณี 347,589 คะแนน อันดับ2 (หมายเลข 1) นายอุทิศ ชูช่วย 243,639 คะแนน อันดับ3 (หมายเลข 4) นายจรัญ อรุณพันธุ์ 6,343คะแนน อันดับ4 (หมายเลข 3) นายพิณ คงเอียง 4,114คะแนน จำนวนผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนน 36,207 คิดเป็น 5.55% จำนวนบัตรเสีย 14,644 คิดเป็น 2.25% รวมจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ 652,239 คิดเป็น 66.96% จากจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งสิ้น 974,035 คน

สำหรับการเลือกตั้งนายกอบจ.และส.อบจ.สงขลา จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม 2563 โดยเที่ยวนี้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งประมาณ 1 ล้านเสียงนิดๆ จะเป็นผู้กำหนดว่าจะเลือกใครมาเป็นผู้นำท้องถิ่นคนต่อไปของจังหวัดสงขลาบ้านเรา

ฅนสองเล

สนามสงขลาคึกคักผู้สมัครนายกอบจ.แล้ว 6 ราย รวมยอดผู้สมัครสจ.ทะลุ 100 ราย 

การรับสมัครรับเลือกตั้งนายกและส.อบจ.สงขลา วันแรกเป็นไปอย่างคึกคักมีผู้สมัครนายก 4 ราย วันที่ 2 มีสมัครเพิมอีก 2 ราย รวม 6 ราย โดยหมายเลขผู้สมัครนายกอบจ.สงขลา ดังนี้
เบอร์ 1 นายจะเด็ด เหมโกทวีทรัพย์ ผู้สมัครอิสระ
เบอร์ 2 พันเอก สุชาติ จันทรโชติกุล ทีมสงขลาประชารัฐ
เบอร์ 3 นายไพเจน มากสุวรรณ์ ทีมพรรคประชาธิปัตย์
เบอร์ 4 นางภัทรวรรณ ขำตรี ทีมเพื่อสังคม
เบอร์ 5 นางสาวอภิญญา ยอดแก้ว ผู้สมัครอิสระ
เบอร์ 6 นายวชิรวิทย์ ภัสระ ผู้สมัครอิสระ

ส่วนผู้สมัครส.อบจ.ทั้ง 36 เขต ผ่านมา 3 วันมีสมัครรวมทั้งสิ้น 94 ราย  โดยสมัครวันแรก 89 ราย วันที่ 2 จำนวน 3 ราย และวันที่ 3 อีก 2 ราย รวม 94 ราย เมื่อรวมกับผู้สมัครนายกอบจ.ทำให้มีผู้สมัครรับเลือกตั้งแล้วถึง 100 ราย โดยการเปิดรับสมัครมีจนถึงวันที่ 6 พ.ย.63 ผู้ที่สนใจยังมีเวลาและเตรียมเอกสารไปสมัครกันได้

ฅนสองเล

​บทสรุปสนามสงขลา ผู้สมัครนายกอบจ. 6 ราย สมัครส.อบจ.รวม102 ราย

เสร็จสิ้นไปแล้วกับการรับสมัครรับเลือกตั้งนายกและส.อบจ.สงขลา ระหว่างวันที่ 2-6 พ.ย.63 ที่ผ่านมา รวมมีผู้สมัคร 108 ราย เป็นผู้สมัครนายกอบจ. 6 ราย โดยหมายเลขดังนี้

เบอร์ 1 นายจะเด็ด เหมโกทวีทรัพย์ ผู้สมัครอิสระ
เบอร์ 2 พันเอก สุชาติ จันทรโชติกุล ทีมสงขลาประชารัฐ
เบอร์ 3 นายไพเจน มากสุวรรณ์ ทีมพรรคประชาธิปัตย์
เบอร์ 4 นางภัทรวรรณ ขำตรี ทีมเพื่อสังคม
เบอร์ 5 นางสาวอภิญญา ยอดแก้ว ผู้สมัครอิสระ
เบอร์ 6 นายวชิรวิทย์ ภัสระ ผู้สมัครอิสระ

ส่วนผู้สมัครส.อบจ.ทั้ง 36 เขต รวมทั้งสิ้น 102 ราย เขตที่สมัครน้อยที่สุดคือ 2 ราย และสูงสุด 5 ราย สำหรับการเลือกตั้งนายกอบจ.และสมาชิกสภาอบจ.จะมีขึ้นในวันที่ 20 ธันวาคม 2563 โดยมีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ กาได้ใบละ 1 เบอร์เท่านั้น

ฅนสองเล

ส่องสนามสงขลา ร่วมพลังร่วมสร้างสุข VS รวมพลังร่วมโค่นประชาธิปัตย์

สนามเลือกตั้งอบจ.สงขลา ส่วนของนายกอบจ.มีผู้สมัครถึง 6 ราย แต่แน่นอนว่าที่ถูกจับตาและยกให้เป็นคู่แข่งตัวเอกระหว่าง พันเอกสุชาติ จันทรโชติกุล ทีมสงขลาประชารัฐ และว่าที่ร้อยตรีไพเจน มากสุวรรณ์ ทีมพรรคประชาธิปัตย์

การเลือกตั้งเที่ยวนี้มีความผันแปรทันทีเมื่อช่วงใกล้ถึงกำหนดวันรับสมัครเมื่อกกต.มีข้อห้ามไม่ให้ข้าราชการการเมือง นั่นหมายถึง สส.สว.ผู้ช่วยหรือนักการเมืองท้องถิ่นสนามอื่นมาช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครนายกและสจ.ทำให้ต้องมีการเก็บป้ายกันแทบไม่ทัน โดยเฉพาะฝั่งประชาธิปัตย์ที่ขึ้นป้ายไปทั่วเมืองแล้ว

พรรคพลังประชารัฐ ก็ประกาศไม่ส่งผู้สมัครในนามพรรคทุกจังหวัด ทีมงานผู้การชาติเลยต้องไปติดสติ๊กเกอร์ พ่นสีทับโลโก้พรรคบนป้ายหาเสียงพร้อมเปลี่ยนชื่อเป็นทีมสงขลาประชารัฐ เดินหน้าหาเสียงอย่างหนักหน่วงเหมือนเดิม โดยในการเลือกตั้งครั้งนี้ ผู้การชาติ พันเอกสุชาติ จันทรโชติกุล ทีมสงขลาประชารัฐ ได้หมายเลข 2 พร้อมส่งผู้สมัครสจ.ลงครบทั้ง 36 เขต และว่าที่ร้อยตรีไพเจน มากสุวรรณ์ ทีมพรรคประชาธิปัตย์ ได้หมายเลข 3 และส่งสจ.ครบทุกเขตเช่นกัน

นาทีนี้ถ้าเป็นมวยไทยต้องบอกว่าขึ้นยกที่ 2 แล้ว จะให้ชี้ว่าใครชนะคงดูไม่ออกแต่หากถามว่าใครแต้มต่อกว่าก็บอกไม่ถูกอีกเช่นกัน ผู้การชาติเปิดตัวล่วงหน้ามาเป็นปีมีทีมฝ่ายบริหาร ทีมว่าที่สจ.มาโชว์ชาวบ้านก่อนและลุยหาเสียงมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน และยังมีสส.พลังประชารัฐในสงขลาถึง 4 คน+1 จากภูมิใจไทย ที่ณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื่อ ประกาศว่ามีพี่สะใภ้ร่วมเป็นเลขาในทีมผู้การชาติ แม้ออกหน้าช่วยหาเสียงไม่ได้แต่นั้นหมายถึงว่าผู้การชาติ มีแรงหนุนจากสส.ถึง 5 คน

ขณะที่นักชกมือใหม่ ไพเจน เบอร์ 3 หากเทียบกันอาจเป็นกระดูกคนละเบอร์แต่เพราะเปิดตัวด้วยพี่เลี้ยงถึง 4 คน นิพนธ์-ถาวร-สุรินทร์-เดชอิศม์ แถมตรีตราด้วยทีมพรรคประชาธิปัตย์ ผนึกกับได้อดีตสจ.มาร่วมทีมเกือบทั้งหมด ไม่มีใครกล้าบอกว่านี่คือมวยรองแม้ในวันขึ้นชกจริงพี่เลี้ยงมือดีจะถูกห้ามนั้งข้างหรือขึ้นเวทีช่วยแต่ยังคงเป็นกองหนุนอยู่เหมือนเดิม หากมีการเปิดเวทีปราศรัยก็เป็นที่น่าสนใจว่ามีใครมาขึ้นช่วยดึงคนช่วยสร้างสีสันได้บ้าง

ดูทีมฝ่ายบริหารที่เปิดตัวกันก่อนหน้านี้ ฝั่งผู้การชาต มาพร้อมสโลแกนล่าสุด มาเพื่อพัฒนาไม่ได้มาเพื่อผลประโยชน์ รองนายกฯ เอกพงษ์ ยีหล๊ะ หรืออิหม่ามกิ๊บ กรรมการมัสยิดควนลัง อ.หาดใหญ่ สาทร สิกกะ ตัวแทนจากสะบ้าย้อย อดีตนายกอบจ.สงขลาคนแรก และอดีตรองนายกด่านนอก อมรรัตน์ ศรีสถิตวงศ์ ทีมที่ปรึกษา นายแพทย์ธีรวัฒน์ กรศิลป์ และสนธยา หมัดหมัน เลขานุการนายก สมชาย เล่งหลัก อดีตผู้สมัครสส.เขต 5 และณัชนาริชาต์ คชาทอง คนนี้พี่สะใภ้สส.หนุ่ยเขต 7

ส่วนทีมไพเจน ปชป.ดูเหมือนจะเปิดไม่ครบทุกคน ทีมรองนายกมีคุณนายน้ำหอม สุภาพร กำเนิดผล ภรรยานายกชาย สส.เดชอิศม์ ขาวทอง อับดลรอหมาน กาเหย็ม อดีตรองนายกอบจ.ยุคนิพนธ์ บุญญามณี และชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว อดีตสส.เขต 4 มาในโควต้าถาวร เสนเนียม ส่วนเลขาฯ มีเพียงชื่อของปรินดา ปาลาเร่ มาในโควต้าสส.สุรินทร์ เพียงคนเดียว อีกตำแหน่งรวมถึงที่ปรึกษายังไม่มีรายชื่อเป็นทางการออกมา ซึ่งรายชื่อส่วนใหญ่ดูเหมือนจะมาในโควต้าตัวแทนสส.ปชป.เป็นหลัก

ป้ายหาเสียงและการลงพื้นที่ภายหลังการเปิดรับสมัครดูเหมือนทีมผู้การชาติจะเข้มแข็งเข้มข้นกว่ามาก แต่ทีมไพเจน ก็ใช่ว่าจะนิ่งเสียทีเดียวด้วยตัวสจ.ที่ส่วนใหญ่เป็นคนเก่าคนเดิมผลงานและความคุ้นเคยกับชาวบ้านย่อมมีมากกว่า ตอนนี้ทั้งกระแสและกระสุนคอการเมืองให้ไปทางผู้การเป็นต่อเล็กน้อย ต้องรอดูว่าทีพี่เลี้ยงสีฟ้าจะแก้เกมส์อย่างไรซึ่งน่าสนใจอย่างยิ่ง แต่มุมมองของผู้เขียนคงไม่สำคัญเท่าเจ้าของสิทธิ์ตัวจริงนั่นคือชาวสงขลา 1 ล้านกว่าเสียงเท่านั้นที่จะกำหนดว่าจะเลือกใครเข้าสภา 20 ธันวา 63   

ฅนสองเล

#ว่าที่ผู้แทน สท.เจมส์ บ้านพรุ ขอโอกาสขยับรับใช้ในตำแหน่งใหม่ สจ.ของชาวเขต 5 หาดใหญ่

การเลือกตั้งอบจ.นอกเหนือจากตำแหน่งนายกที่เป็นผู้นำฝ่ายบริหารแล้ว ตัวแทนชาวบ้านในระดับพื้นที่ที่เรียกกันติดปากว่า สจ.ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เขต 5 หาดใหญ่ สจ.เล็ก ณัฐวุฒิ ไชยชุลี ไม่ลงต่อโดยเปิดตัวเตรียมลงสมัครนายกเทศมนตรีเมืองบ้านพรุในสมัยต่อไป

ในการเลือกตั้งครั้งนี้ผู้เสนอตัวจึงเป็นหน้าใหม่ทั้งคู่ เวทีว่าที่ผู้แทน ขอแนะนำนายภาคย์ภูมิ ผดุ้งกูล หรือสท.เจมส์ บ้านพรุ อดีตสมาชิกสภาเทศบาลเมืองบ้านพรุ ทำหน้าที่มาตั้งแต่ปี 2554 การทำหน้าที่สท.ถือว่ามีผลงานโดดเด่นทั้งในพื้นที่และในสภา มีการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องติดตามแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านมาโดยตลอด นอกจากนี้ยังเป็นแม่ทัพคนสำคัญในการสร้างทีมฟุตบอลเยาวชนของจังหวัดสงขลา ในชื่อทีมบินหลาซิตี้สงขลา ปั้นเด็กท้องถิ่นบ้านเราสู่เส้นทางฟุตบอลอาชีพมาแล้วมากมาย

สท.เจมส์ เปิดตัวที่จะลงสมัครสจ.มายาวนาน ขยายการสร้างความรู้จักแก่ชาวบ้านในเขตเลือกตั้งที่ 5 หาดใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่ตำบลบ้านพรุ-พะตง แต่เที่ยวนี้บ้านพรุบางส่วนถูกย้ายไปรวมกับเขต 10 หาดใหญ่ การลงพื้นที่ทำงานเชิงรุก รับฟังปัญหาของชาวบ้านมาโดยตลอด รวมถึงการเป็นแม่ทัพสร้างทีมฟุตบอลเด็กที่ชาวสงขลารู้จักกันเป็นอย่างดี เด็กๆ เรียกน้าเจมส์ ลุงเจมส์ โค้ชเจมส์

ในการเลือกตั้งเที่ยวนี้ เจมส์ บ้านพรุ ได้รับความไว้วางใจให้เป็นตัวแทนทีมพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีว่าที่ร้อยตรีไพเจน มากสุวรรณ์ ผู้สมัครนายกอบจ.หมายเลข 3 เป็นหัวหน้าทีม ส่วนนายภาคย์ภูมิ ผดุ้งกูล ผู้สมัครสจ.เขต 5 หาดใหญ่ หมายเลข 1 ทันทีที่ได้หมายเลขผู้สมัครเขาก็เดินหน้าหาเสียงลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องเหมือนที่ทำมาโดยตลอด

สท.เจมส์ เน้นบอกกล่าวถึงความตั้งใจในการเป็นตัวแทนชาวบ้าน เป็นคนของประชาชน ลูกชาวบ้านที่เข้าถึงง่าย เข้าใจปัญหา พร้อมผลักดันการพัฒนาพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม และค่อนข้างมีความมั่นใจว่าได้รับการตอบรับจากชาวเขต 5 หาดใหญ่ เป็นอย่างดีพร้อมให้โอกาสเขาทำหน้าที่คนของประชาชนของประชาชนต่อไปในตำแหน่ง สจ.เขต 5 หาดใหญ่ต่อไป

สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 5 อ.หาดใหญ่ มีผู้สมัคร 2 รายคือ
เบอร์ 1 นายภาคย์ภูมิ ผดุ้งกูล ทีมพรรคประชาธิปัตย์
เบอร์ 2 นายศุภวัฒน์ กลับกลาย ทีมสงขลาประชารัฐ   

ต้อม รัตภูมิ 0897384215 รายงาน

ฅนสองเล

เปิดข้อมูลพื้นฐาน 6 ผู้สมัครนายกอบจ.สงขลา หลังผ่านการรับรองทั้งหมด 

ประกาศผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา เรื่อง บัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ที่ได้รับสมัครรับเลือกตั้งและไม่ได้รับสมัครรับเลือกตั้ง เขตองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ซึ่งผู้สมัครทั้ง 6 รายผ่านการรับรองทั้งหมด โดยมีหมายเลขผู้สมัครดังนี้

เบอร์ 1 นายจะเด็ด เหมโกทวีทรัพย์ ผู้สมัครอิสระ อายุ 59 ปี ที่อยู่ ต.โคกม่วง อ.คลองหอยโข่ง อดีตผู้สมัครสส.พรรคเพื่อธรรม การลงเที่ยวนี้ดูเหมือนจะประกาศทีมคณะก้าวใหม่ พร้อมสโลแกนหาเสียงสั้นๆ เงินไม่หาย พัฒนา 100%

เบอร์ 2 พันเอก สุชาติ จันทรโชติกุล ทีมสงขลาประชารัฐ อายุ 70 ปี ที่อยู่ ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ อดีตสส.เมื่อปี 35 อดีตผู้สมัครนายกอบจ.ทีมสงขลารักไทย ยุคเลือกตั้งนายกโดยตรงครั้งแรก ผอ.เลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐภาคใต้ เที่ยวนี้ลงในนามทีมสงขลาประชารัฐ พร้อมสโลแกนมาเพื่อพัฒนาไม่ได้มาเพื่อหาผลประโยชน์ ชูนโยบายกระจายงบ 1080 ล.ถึงทุกชุมชน

เบอร์ 3 ว่าที่ร้อยตรีไพเจน มากสุวรรณ์ ทีมพรรคประชาธิปัตย์ อายุ 63 ปี ที่อยู่ ต.สทิงหม้อ อ.สิงหนคร อดีตรองอธิบดีกรมชลประทาน นายกศิษย์เก่ามหาฯ ประสบการณ์ดี คอนเน็คชั่นแน่น แม้จะเป็นหน้าใหม่ทางการเมืองแต่มาในสังกัดทีมพรรคประชาธิปัตย์ ชูนโยบายรวมพลังร่วมสร้างสุข พร้อมย้ำเลือกคนสงขลามาพัฒนาสงขลา กับ 10 นโยบายสร้างสุข พร้อมได้อดีตสจ.มาร่วมทีมเกือบทั้งหมด 

เบอร์ 4 นางภัทราวรรณ ขำตรี ทีมเพื่อสังคม อายุ 38 ปี ที่อยู่ ต.เขารูปช้าง อ.เมือง น้องเล็กเด็กสุดที่สมัครเลือกตั้งในเที่ยวนี้เปิดตัวในนามทีมเพื่อสังคม ที่มีการส่งผู้สมัครสจ.ในบางเขตด้วย เน้นนโยบายขับเคลื่อนอบจ.ภาคประชาชน

เบอร์ 5 นางสาวอภิญญา ยอดแก้ว ผู้สมัครอิสระ อายุ 56 ปี ที่อยู่ อ.น้ำขาว อ.จะนะ ผู้หญิงอีกคนที่เสนอตัวในชุดสีส้มแต่ไม่ใช่ทีมของพรรคการเมืองไหน เป็นตัวแทนเครือข่ายองค์กรภาคประชาชนสงขลา ชูนโยบายนำสงขลาสู่สังคมดีมีความสุข 

เบอร์ 6 นายวชิรวิทย์ ภัสระ ผู้สมัครอิสระ อายุ 45 ปี ที่อยู่ ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ วิศกรหนุ่มที่เปิดตัวบนโลกออนไลน์มายาวนานอีกคน ว่องไว ทำจริง เพื่อการเปลี่ยนแปลง แก้ไข ปรับปรุง และพัฒนา จ.สงขลา ทุกอำเภอ "สงขลา๔.๐ Songkhla4.0" ท้องถิ่น 4.0 สู่เมืองอัจฉริยะสมดุลและยั่งยืน

ส่วนผู้สมัครส.อบจ.ทั้ง 36 เขต รวมทั้งสิ้น 102 ราย ผ่านการรับรองทั้งหมดเช่นกัน โอกาสต่อไปจะนำนโยบายแต่ละทีมแต่ละคนมาให้ติดตามกันบ้างครับ

ต้อม รัตภูมิ 0897384215 รายงาน




ฅนสองเล

นิพัฒน์ อุดมอักษร เข้าขอพรผู้ใหญ่ในโอกาสก้าวเข้าสู่เวทีการเมืองครั้งแรกในชีวิต

นิพัฒน์ อุดมอักษร นักธุรกิจชาวหาดใหญ่ที่ถูกวางตัวให้เป็นหนึ่งในทีมงานฝ่ายบริหารของทีมพรรคประชาธิปัตย์ ในการเลือกตั้งนายกอบจ.สงขลา ภายใต้การนำของไพเจน มากสุวรรณ์ ผู้สมัครหมายเลข 3 ถือเป็นชื่อที่เซอร์ไพรส์พอสมควร เพราะนี่คือการเข้ามาในเวทีการเมืองครั้งแรกในชีวิต

คุณนิพัฒน์ เปิดเผยว่าได้รับการทาบทามจากผู้ใหญ่ที่เคารพให้มาร่วมทีมฝ่ายบริหารกับทีมพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเป็นตัวแทนนักธุรกิจชาวหาดใหญ่ โดยเฉพาะชาวไทยเชื้อสายจีนที่มีจำนวนมากและอยากเห็นการผลักดันนโยบายเพื่อพัฒนาหาดใหญ่อย่างจริงจัง จึงตัดสินใจรับและวันนี้ได้ถือโอกาสเข้าพบขอพร ขอคำแนะนำจากจากผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ รวมถึงร่วมหารือแนวทางการหาเสียงร่วมกับหัวหน้าทีมด้วย

คนแรกที่เข้าพบคือคุณพิชัย วัฒนะพยุงกุล นายกสมาคมไทย-จีน จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นบุคคลที่ให้คำปรึกษาในการทำงานเพื่อสังคมมาตั้งแต่แรกเริ่ม โดยคุณพิชัย ได้แนะนำว่าหากมีโอกาสเข้าไปก็ขอให้ทำงานเพื่อทดแทนบุญคุณแผ่นดินจริงๆ ทำให้หาดใหญ่กลับมาเป็นเมืองที่มีจุดขายทางการท่องเที่ยว การลงทุนให้ได้อีกครั้ง

จากนั้นได้เข้าพบคุณธรรมนูญ โกวิทยา นายกสมาคมฮกเกี้ยนแห่งจังหวัดสงขลา และผู้บริหารกลุ่มบริษัทพิธานพาณิชย์ ต้นแบบนักธุรกิจที่ทำงานควบคู่กับการดูสังคมมาโดยตลอด ซึ่งคุณธรรมนูญ ก็กล่าวว่านับเป็นโอกาสดีที่มีนักธุรกิจให้ความสนใจทำงานการเมืองก็ขออวยพรให้ประสบความสำเร็จดั่งที่ปราถนา

อีกหนึ่งคนที่เข้าพบในวันนี้คือคุณระวิ ผดุงมาศ อดีตนายกสโมสรไลออนส์หาดใหญ่ อดีตกรรมาธิการการพลังงานสภาผู้แทนราษฎร และอีกหลายตำแหน่งในทางสังคมและการเมือง คุณระวิ เน้นย้ำว่าสิ่งสำคัญของคนเราในการทำงานคือต้องมีศีลธรรม ไม่ยุ่งเกี่ยวอบายมุข และคิดถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้งไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ใด

และยังได้ร่วมพูดคุยกับคุณไพเจน มากสุวรรณ์ ผู้สมัครนายกอบจ.สงขลา หมายเลข 3 ทีมพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อแนะนำทีมงานที่มาช่วยในการหาเสียง การร่วมกันนำเสนอนโยบายที่จะพัฒนาท้องถิ่นด้านต่างๆ โดยเน้นย้ำการพัฒนาและฟื้นฟูเศรษฐกิจหาดใหญ่เป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วน หากได้มีโอกาสเข้าไปร่วมในทีมฝ่ายบริหารของอบจ.สงขลา

สำหรับนายนิพัฒน์ อุดมอักษร เป็นผู้บริหารบริษัท เอนกการช่าง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องจักรกลเกษตร เป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ทำงานควบคู่กับดูแลสังคมมาโดยตลอด มีบทบาทในองค์กรการกุศล เป็นผู้รวมกลุ่มนักธุรกิจจัดกอล์ฟการกุศลเพื่อช่วยเหลือสังคมด้านต่างๆ และการตัดสินใจเข้าสู่ถนนการเมืองในครั้งนี้ก็มีเป้าหมายสำคัญในการผลักดันให้หาดใหญ่กลับมาเป็นศูนย์การค้าแดนใต้ ให้ได้สมดั่งคำขวัญจังหวัดสงขลาอีกครั้ง

ฅนสองเล

เขต 2 หาดใหญ่ สดบดเก๋าหรือเก๋าเขย่าสด
สนามเลือกตั้งสจ.มีหลายเขตน่าสนใจ วันนี้ขอติดตามในเขต 2  หาดใหญ่ พื้นที่ใจกลางนครหาดใหญ่อีกเขต เที่ยวนี้สจ.ประสิทธิ์ ช่วยชูสกุล แชมป์เก่าสวมเสื้อทีมพรรคประชาธิปัตย์ลงสนาม เจอกับคู่แข่งจากทีมสงขลาประชารัฐ พีระพงษ์ บุญเลิศ น้องใหม่ทางการเมืองแต่ดีกรีไม่ธรรมดา เครือญาติสส.กอล์ฟ ศาสตรา ศรีปาน
ดีกรีสจ.เก่า+รองประธานสภาฯ ก่อนลงสนามเหมือนจะเป็นตัวเต็งแต่การมาเจอคู่แข่งน้องใหม่ที่อาศัยลูกขยันบวกแรงหนุนทั้งจากสส.กอล์ฟ อดีตนายกไพร พัฒโน งานของสจ.ประสิทธิ์เที่ยวนี้จึงไม่ง่ายเลย ทั้งกระแสและกระสุนยังเช็คไม่ออกว่าใครแรงกว่า แต่ดูแล้วว่าคู่นี้อาจต้องลุ้นกันจนถึงการนับคะแนนใบสุดท้ายเลยก็ได้
#สนามอบจสงขลา

ฅนสองเล

รวมพลังร่วมสร้างสุข เปิดประวัติ ผลงาน ทีมงาน "ไพเจน มากสุวรรณ์"

ไพเจน มากสุวรรณ์ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา หมายเลข 3 ทีมพรรคประชาธิปัตย์ เขาเป็นใคร มาจากไหน มีผลงานอะไรมาบ้าง? วันนี้มีสกู๊ปพิเศษมาฝากกัน

ไพเจน มากสุวรรณ์ พื้นเพเป็นชาวอำเภอสิงหนคร เป็นลูกสงขลาโดยกำเนิด เป็นนักเรียนเก่าโรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา จบปริญญาตรีด้านวิศวกรรมศาสตร์ จากวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา ปริญญาโทจากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ผ่านการทำงานรับราชการในตำแหน่งที่สำคัญคือ รองอธิบกรมกรมชลประทาน และผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์   

ในช่วงที่รับราชการได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้และจังหวัดสงขลาเป็นหลัก เป็นผู้ผลักดันการพัฒนาจังหวัดสงขลาในด้านการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้งมาโดยตลอด มีผลงานสำคัญอาทิ เป็นผู้เสนอให้มีการขยายคลองร.1 ให้สามารถเพิ่มการระบายน้ำได้อีก 1 เท่าตัว เป็นผู้ผลักดันการขุดลอกคลองอาทิตย์ฯ และคลองสาขาเพื่อแก้ปัญหาลุ่มน้ำคาบสมุทรสทิงพระ แก้ไขปัญหาลุ่มน้ำนาทวีให้มีประสิทธิภาพการระบายน้ำเร็วขึ้นในช่วงหน้าฝน

ด้วยสำนึกในความเป็นลูกสงขลา เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาจังหวัดสงขลามาโดยตลอด เมื่อเกษียณอายุราชการก็กลับมาที่บ้านเกิดเต็มตัวได้รับการคัดเลือกให้ทำหน้าที่นายกสมาคมนักเรียนเก่าโรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา ด้วยประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา สุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงในวัย 63 ปี จึงมีความเชื่อมั่นว่ายังสามารถทำคุณประโยชน์ให้จังหวัดสงขลาได้อีกมาก

จึงเสนอตัวเข้ามาทำงานการเมืองท้องถิ่นร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ ในตำแหน่งนายกอบจ.สงขลา โดยประสานความร่วมมือกับทุกฝ่ายเรียนเชิญผู้มีความรู้ความสามารถในทุกด้านมาร่วมทำงานฝ่ายบริหาร และได้รับแรงสนับสนุนจากอดีตสมาชิกสภาอบจ.เกือบทุกคนมาร่วมทีม ร่วมระดมสมองเพื่อพัฒนาจังหวัดสงขลาอย่างเต็มที่ผ่านนโยบายที่ร่วมกันคิดร่วมกันทำ โดยมีเป้าหมายสำคัญร่วมกันคือ "รวมพลังร่วมสร้างสุข" เพื่อชาวสงขลาทุกคน

ทีมงานฝ่ายบริหารได้มีการเชิญชวนบุคคลที่มีความรู้ความสามารถมาร่วมทัพระดมสมองทำงานเพื่อจังหวัดสงขลา โดยมี พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี อดีตผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวคนแรกของประเทศไทย เป็นประธานที่ปรึกษา นายภิรพล ลาภาโรจน์กิจ อดีตสส.สงขลา นางพรเอื้อ เชื้อแหลม นายกสมาคมผู้นำสตรีพัฒนาชุมชนจังหวัดสงขลา ร่วมเป็นที่ปรึกษา

ผู้เสนอตัวร่วมทีมรองนายกฯ มีนายชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว อดีตสส.สงขลา ที่ยังคงเดินหน้าทำงานการเมืองอย่างเข้มแข็งในพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ ดร.อับดลรอหมาน กาเหย็ม อดีตรองนายกอบจ.สงขลา และเป็นกรรมกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และนางสาวสุภาพร กำเนิดผล ที่ขอเป็นตัวแทนสตรีชาวสงขลาในการผลักดันโครงการสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ

เลขานุการนายกฯ เที่ยวนี้นับเป็นครั้งแรกที่มีตัวแทนสตรีมุสลิมร่วมทีมฝ่ายบริหาร คือนางสาวปารินดา ปาลาเร่ ที่ทำงานการเมืองในพื้นที่จะนะและใกล้เคียงมาอย่างต่อเนื่อง อีกหนึ่งคนก็เป็นครั้งแรกเช่นกันที่มีตัวแทนจากภาคธุรกิจในหาดใหญ่ นายนิพัฒน์ อุดมอักษร โดยทำหน้าที่ระดมสมองดึงความร่วมมือทุกภาคส่วนเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจเมืองหาดใหญ่ ให้กลับมาเป็นศูนย์การค้าแดนใต้ สมดั่งคำขวัญจังหวัดสงขลาให้ได้อีกครั้ง

เช่นเดียวกับผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด(ส.อบจ.)หรือสจ.ทั้ง 36 เขต ส่วนใหญ่เป็นอดีตสจ.ที่ทำงานในพื้นที่ใกล้ชิดชาวบ้านมาโดยตลอด มีเพียงบางเขตที่เปลี่ยนเป็นเลือดใหม่ โดยทางทีมเน้นคัดเลือกบุคคลที่มีความุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานการเมืองเพื่อรับใช้พี่น้องประชาชนชาวสงขลา และเป็นผู้ผลักดันโครงการที่เกิดประโยชน์ต่อชุมชนในเขตตัวเองให้มากที่สุดด้วย

มาร่วมก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน รวมพลังร่วมสร้างสุข กับไพเจน มากสุวรรณ์ วันที่ 20 ธันวาคม 2563 เข้าคูหากาเบอร์ 3 เลือกไพเจน เป็นนายกอบจ.สงขลา และโปรดเลือกผู้สมัครส.อบจ.ของทีมพรรคประชาธิปัตย์ในทุกเขตด้วย

ฅนสองเล

โยธิน VS ทักษิณ สนามกระแสสินธุ์ไม่สิ้นกระแส

กระแสสินธุ์ เป็นสนามเลือกตั้งสจ.ที่หลายคนพูดถึงและจับตามองเป็นพิเศษ เพราะเป็นสนามที่ผู้สมัครหน้าใหม่ที่มีความน่าสนใจทั้งคู่ระหว่าง นายโยธิน ทองเนื้อแข็ง เบอร์ 1 จากทีมพรรคประชาธิปัตย์ กับนายทักษิณ เครือแก้ว เบอร์ 2 จากทีมสงขลาประชารัฐ

จุน นายโยธิน ทองเนื้อแข็ง เบอร์ 1 อายุ 50 ปี เป็นบุตรชายของอดีตสจ.เปรม ที่มาพร้อมสโลแกน สืบเจตนารมณ์พ่อ สานต่อพัฒนากระแสสินธุ์ เปิดตัวมายาวนานทำงานในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง ได้สวมสีเสื้อพรรคประชาธิปัตย์ในเที่ยวนี้ภาษีดีมีโอกาสชนะสูงมาก โดยมีไพเจน มากสุวรรณ์ ผู้สมัครนายกอบจ.สงขลา เบอร์ 3 เป็นหัวหน้าทีม

นอบ เกาะใหญ่ นายทักษิณ เครือแก้ว เบอร์ 2 อายุ 47 ปี เครือข่ายนายกมงคล เครือแก้ว อบต.เกาะใหญ่ จากทีมสงขลาประชารัฐ ชื่อนี้ก็เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีโดยเฉพาะในแวดวงกีฬา มีความใกล้ชิดค่ายมวยเกียรติเจริญชัยแห่งเมืองสตูล เปิดตัวเกาะติดพื้นที่มายาวนานไม่แพ้กัน แถมมีพันเอกสุชาติ จันทรโชติกุล ผู้สมัครนายกอบจ.เบอร์ 2 เป็นแรงหนุนสำคัญด้วย

สนามกระแสสินธุ์ แม้จะเป็นอำเภอเล็กๆ แต่น่าสนใจมากว่าเลือกตั้งเที่ยวนี้ว่าคนรุ่นใหม่คนไหนจะได้แรงหนุนจากชาวบ้านมากกว่ากัน 20 ธันวาอย่าลืมทำหน้าที่กันนะครับ

ฅนสองเล

นิด้าโพล ชี้เลือกตั้งอบจ.สงขลาแข่งกันสูสี ลุ้นจุดเปลี่ยนจากพลังเงียบที่ยังไม่ตัดสินใจ

นิด้าโพล เปิดผลสำรวจการตัดสินใจเลือกนายกอบจ.ใน 3 สนามใหญ่ของประเทศ ที่สงขลา โพลชี้ผู้คนส่วนใหญ่ยังไม่ตัดสินใจเลือก ส่วนที่ตัดสินใจแล้วเลือกสุชาตินำหน้าไพเจนเล็กน้อย ผู้สันทัดกรณีชี้โค้งสุดท้ายแข่งกันสนุกถึงตอนนี้ยังมองไม่ออกว่าใครแรงกว่า

สำหรับผลสำรวจบุคคลที่ประชาชนจะลงคะแนเลือกเป็นนายกอบจ.สงขลา อันดับ 1 ร้อยละ 39.26 ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร อันดับ 2 ร้อยละ 21.57 เลือกพันเอกสุชาติ จันทรโชติกุล อันดับ 3 ร้อยละ 20.65 เลือกนายไพเจน มากสุวรรณ์ อันดับ 4 ร้อยละ 5.01 เลือกนายจะเด็ด เหมโกทวีทรัพย์ อันดับ 5 ร้อยละ 3.49 ไม่ตอบ อันดับ 6 ร้อยละ 2.73 ไม่ไปลงคะแนนเลือกตั้ง อันดับ 6 ร้อยละ 2.58 เลือกนายวชิรวิทย์ ภัสระ อันดับ 7 ร้อยละ 1.98 เลือกนางสาวอภิญญา ยอดแก้ว อันดับ 8 ร้อยละ 1.67 ไม่ลงคะแนนเลือกใคร ร้อยละ 1.06 เลือกนางภัทรวรรณ ขำตรี

ผลโพลวันนี้ไม่ผิดคาดสำหรับทีมไพเจน เพราะเพิ่งเปิดตัวมาไม่นานและเมื่อเข้าสู่ช่วงเวลาการรับสมัครเลือกตั้งไม่สามารถให้สส.มาช่วยหาเสียงได้ กลายเป็นมวยไม่มีพี่เลี่ยงที่อาศัยเพียงลูกลุยลูกขยันเดินสายอย่างเต็มที่ การขยับเข้ามาใกล้ห่างเพียงร้อยละ 1 ต่างหากที่ดูแล้วผิดคาดที่คะแนนตีตื้นขึ้นมาเร็วมาก หากเปรียบเทียบกับฝั่งสุชาติ ที่เปิดตัวมาตั้งแต่จบเลือกตั้งสส.ฟอร์มทีมล่วงหน้าทั้งฝ่ายบริหาร สจ.ซึ่งล้วนเป็นคนหน้าใหม่เกือบทั้งหมดแต่อาศัยฐานเสียงการเป็นพรรคแกนนำรัฐบาลมาเป็นแรงหนุน

ผู้สันทัดกรณีให้ข้อมูลกับทีมข่าวหลังเห็นโพลจากนิด้าว่า เป็นสิ่งที่ไม่ผิดคาดสำหรับคะแนนนำที่ยังเป็นของผู้การชาติ แต่การตีตื้นขึ้นมาของไพเจน สะท้อนอะไรได้หลายอย่างบางคนบอกว่าคะแนนไม่น่าขึ้นมาสูสีเช่นนี้ ช่วงก่อนเลือกตั้งผู้การชาติเดินหน้าไปหลายช่วงตัวมาก ไพเจนใหม่มากในเวทีการเมืองสงขลา ยิ่งถูกห้ามสส.ช่วหาเสียงยิ่งทำให้ขาดสีสันไปเยอะ คะแนนที่เพิ่มขึ้นของไพเจนจึงเป็นโจทย์ใหญ่ที่ทีมคู่แข่งต้องทำการบ้านมากขึ้น ยิ่งคะแนนนำเป็นของผู้ไม่ตัดสินใจเลือกใครอีก นี่จึงเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญว่าหากคะแนนี้เทไปทางไหนฝ่ายนั้นก็ชนะทันที

ล่าสุดพันเอกสุชาติ ด้วยการปักป้ายหาเสียงชุดใหม่พร้อมโลโก้พรรคพลังประชารัฐ ทั้งที่ก่อนหน้านี้พรรคมีมติไม่ส่งผู้สมัครนายกอบจ.ทุกจังหวัด แต่ล่าสุดมีการอนุญาตให้ผู้สมัครที่เป็นสายตรงของพรรคในบางจังหวัดใช้โลโก้พรรคหาเสียงได้ รวมถึงของผู้การชาติ ที่ใช้ทีมสงขลาประชารัฐก็แปลงร่างเป็นพลังประชารัฐอีกครั้ง อย่างไรก็ตามการเดินสายหาเสียงของผู้การชาติ เป็นที่น่าสังเกตุว่าไม่ค่อยมีผู้ที่ถูกวางตัวในฝ่ายบริหารตำแหน่งต่างๆ มาช่วยหาเสียงเลย

ฟากฝั่งทีมไพเจน นับจากเปิดตัวคู่สส.ปชป.ก่อนต้องเก็บป้ายทั้งหมด ปรับมาเปิดคู่ผู้สมัครสจ.เปิดทีมบริหาร และนโยบายต่างๆ ลูกขยันของทีมนี้นอกจากหัวหน้าทีมแล้วในตำแหน่งอื่นๆ ต่างช่วยกันลุยหาเสียง มีทั้งขนาบคู่หัวหน้าทีม มีแยกกันเดินกับผู้สมัครสจ. และเดินสายหาฐานคะแนนที่ตัวเองถนัด การไล่ขึ้นมาตีตื้นตามโพลส่วนสำคัญคงมาจากลูกขยันเป็นตัวช่วยด้วย เกมที่สูสีเช่นนี้อำเภอหาดใหญ่ ที่มีประชากรมากที่สุดโดยเฉพาะในเขตเมืองคงเป็นตัวแปรสำคัญที่จะตัดสินผลแพชนะเหมือนหลายครัง้ที่ผ่านมาก็ได้

เรื่องกระแสถือว่าสูสีส่วนเรื่องกระสุนใครมีมากกว่ากันไม่กล้าฟันธง แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้มีโจมตีกันเรื่องซื้อเสียงมากขึ้นทุกขณะ ส่วนตัวมองว่าการพยายามให้ข่าวในเชิงดิสเครดิตคู่แข่ง โจมตีกันด้วยวาทกรรมต่างๆ เป็นรูปแบบการหาเสียงที่ล้าสมัย การนำเสนอนโยบาย นำเสนอความตั้งใจให้เข้าถึงชาวบ้านมากที่สุดคงตอบโจทย์ได้ดีกว่า ในวันนี้เหลือเวลาอีกเพียง 20 วัน ก็ถึงวันชี้ชะตาแล้วชาวสงขลาล้ากว่าเสียงเท่านั้นที่เป็นผุ้กำหนดอนาคตท้องถิ่นของเรา อย่าลืมออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งกัน 20 ธันวาคม 2563 เวลา 08.00-17.00 น.   

ฅนสองเล

เนชั่นทีวี จัดเวทีประชันวิสัยทัศน์ "เลือกตั้งอบจ.คืนอำนาจท้องถิ่น" ที่สงขลา

6 ธันวาคม 2563 ณ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ จ.สงขลา เนชั่นทีวี22  จัดเวทีประชันวิสัยทัศน์ "เลือกตั้งอบจ.คืนอำนาจท้องถิ่น"  โดยมีผู้สมัครนายกอบจ.สงขลา 5 คนร่วมเป็นแขกรับเชิญ ประชันวิสัยทัศน์ก่อนถึงวันเลือกตั้ง 20 ธันวาคม 2563 ผู้ร่วมเวทีประกอบด้วย
หมายเลข 1 จะเด็ด เหมโกทวีทรัพย์
หมายเลข 2 พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล
หมายเลข 3 ว่าที่ร้อยตรีไพเจน มากสุวรรณ์
หมายเลข 4 ภัทราวรรณ ขำตรี
หมายเลข 5 อภิญญา ยอดแก้ว
หมายเลข 6 วชิรวิทย์ ภัสระ (ไม่มาร่วมเวที)

ดำเนินการประชันวิสัยทัศน์โดย นลิน สิงหพุทธางกูร พร้อมถ่ายทอดสดทางช่อง22 เนชั่นทีวี และทางออนไลน์ ซึ่งผู้ร่วมเวทีทั้ง 5 คนได้ร่วมตอบคำถามที่เหมือนกันคนละ 2 นาทีต่อ1 คำถาม โดยมีกองเชียร์ของผู้สมัครหมายเลข 2 และ 3 มาร่วมเวทีจำนวนมาก พร้อมส่งเสียงเชียร์เสียงปรบมือดังกึกก้องทุกครั้งที่ผู้สมัครทีมตัวเองได้กล่าวบนเวที

หมายเลข 1 จะเด็ด เหมโกทวีทรัพย์ โชว์นโยบายสำคัญเงินไม่หายพัฒนา100% มีสภาประชาชนร่วมตรวจสอบการทำงานของอบจ. หากได้รับเลือกตั้งพร้อมเชิญผู้สมัครทุกคนร่วมเป็นที่ปรึกษาด้วย

พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ผู้สมัครหมายเลข 2 ทีมสงขลาประชารัฐ ได้กล่าวย้ำนโยบายของตัวเองว่ามาเพื่อพัฒนาไม่ได้มาเพื่อหาผลประโยชน์ และย้ำการทำงานการเมืองสีขาวไม่มีสีเทาแอบแฝง พร้อมกล่าวว่าตอนนี้เริ่มมีการซื้อเสียงมีการเก็บบัตรประชาชนกันแล้วด้วย จึงอยากให้กกต.ทำงานตรวจสอบอย่างใกล้ชิดด้วย

ทางด้านว่าที่ร้อยตรี ไพเจน มากสุวรรณ์ ผู้สมัครหมายเลข 3 ทีมพรรคประชาธิปัตย์ เน้นย้ำนโยบายมุ่งส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว เพื่อเป็นเม็ดเงินสร้างรายได้ให้ชาวบ้าน 1 อำเภอ 1 แหล่งท่องเที่ยวคือนโยบายสำคัญที่จะใช้ในการพัฒนาสงขลา ชูสโลแกนรวมพลังร่วมสร้างสุข ด้วยทีมงานคุณภาพทั้งฝ่ายบริหารและผู้สมัครส.อบจ.

หมายเลข 4 ภัทราวรรณ ขำตรี ชูนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างตลาดผ่านระบบออนไลน์ พัฒนาสงขลาสู่เมืองที่ทันสมัย

หมายเลข 5 อภิญญา ยอดแก้ว  ชูนโยบายส่งเสริมสวัสดิการชุมชน ขยายโครงการสัจจะออมทรัพย์วันละบาทให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ส่งเสริมวินัยทางการเงินและการออมให้ประชาชน

รับชมการประชันวิสัยทัศน์ย้อนหลังได้ที่ https://www.facebook.com/NationChannelTV/videos/2757246561190181/