ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ส่องสนามอบจ.สงขลา สนามที่ห้ามกระพริบตา

เริ่มโดย ทีมงานบ้านเรา, 14:49 น. 17 มิ.ย 62

ฅนสองเล

รถแห่มาแล้ว ทีมไพเจน จัดรถฉลองแชมป์ลิเวอร์พูลประเดิมหาเสียงรอบเมืองหาดใหญ่

ไพเจน มากสุวรรณ์ ผู้สมัครนายกอบจ.สงขลา เบอร์ 3 ทีมพรรคประชาธิปัตย์ นำรถบัสเปิดประทุนที่ใช้แห่ฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีกของทีมลิเวอร์พูล มาใช้หาเสียงพบปะพี่น้องประชาชนช่วงโค้งสุดท้ายประเดิมวิ่งวันแรกรอบเมืองหาดใหญ่ ชาวบ้านสองข้างทางให้การต้อนรับอย่างดี

ช่วงเย็นวันที่ 7 ธ.ค.63 ไพเจน มากสุวรรณ์ ผู้สมัครนายกอบจ.สงขลา เบอร์ 3 ทีมพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนิพัฒน์ อุดมอักษร เลขานุการ ผู้สมัครส.อบจ.ในเขตนครหาดใหญ่ และทีมงานผู้ช่วยหาเสียง ได้ร่วมกันขึ้นรถบัสเปิดประทุนของทีมพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นรถที่กลุ่มแฟนคลับลิเวอร์พูลเมืองไทย จัดทำเพื่อใช้ฉลองการเป็นแชมป์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษช่วงต้นปีที่ผ่านมา

และในวันนี้ถูกนำมาใช้เป็นรถหาเสียงของทีมพรรคประชาธิปัตย์ โดยเปิดประเดิมแห่หาเสียงในพื้นที่นครหาดใหญ่และใกล้เคียง เริ่มต้นจากวงเวียนน้ำพุหาดใหญ่ แห่ไปบนถนนเพชรเกษมและถนนสายต่างๆ มีการโปรโมทหาเสียงทักทายประชาชน 2 ข้างทางที่ให้ความสนใจกับรถแห่คันนี้ตลอดเส้นทางที่วิ่งผ่าน มีทั้งยกกล้องถ่ายรูป โบกมือตอบรับ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสีสันของการหาเสียงของทีมพรรคประชาธิปัตย์ ในช่วงใกล้ถึงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งเข้ามาทุกขณะ อย่าลืม 20 ธันวาคม 2563 ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันเยอะๆ น่ะครับ

ฅนสองเล

จากใจ "นิพัฒน์ อุดมอักษร"
ต้องช่วยกันฟื้นเศรษฐกิจหาดใหญ่

https://www.youtube.com/watch?v=1dXOWkglvYo

ทันทีที่ถูกทาบทามให้มาร่วมทีมฝ่ายบริหารของทีมพรรคประชาธิปัตย์ ที่นำโดยคุณไพเจน มากสุวรรณ์ ผมใช้เวลาตัดสินใจนานพอสมควร โทรถามผู้ใหญ่ที่นับถือถามเพื่อนๆ ทุกคนต่างให้การสนับสนุนด้วยเหตุผลเดียวกันว่า "ให้ตัวแทนนักธุรกิจหาดใหญ่เข้าไปมีบทบาทในอบจ.สงขลาบ้าง"

เมื่อตอบรับร่วมทีมบริหารและถูกวางให้เป็นเลขานุการ "นิพัฒน์ อุดมอักษร" ก็เสนอตัวกับหัวหน้าทีมเลยว่าขอทำหน้าที่ผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจหาดใหญ่โดยเฉพาะ จากนั้นก็ได้เดินสายคารวะแนะนำตัวกับผู้นำองค์ มูลนิธิ สมาคม ชมรม นักธุรกิจในพื้นที่หาดใหญ่และใกล้เคียงอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำเสนอนโยบายของทีมที่จะมาพัฒนาสร้างจุดขายใหม่เพื่อให้หาดใหญ่ให้กลับมาเป็นศูนย์การค้าแดนใต้อีกครั้ง

โดยมีนโยบายสำคัญของทีม อาทิ การสร้างแลนด์มาร์คใหม่ด้วยหอชมเมืองหาดใหญ่ สร้างจุดขายให้สวนสาธารณะให้มีความน่าสนใจดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น สานต่อโครงการโมโนเรลหาดใหญ่ การจัดการด้านจราจรและพื้นที่จอดรถในเขตเมืองให้ดีขึ้น รวมถึงการรับฟังความคิดเห็นจากทุกท่านที่ได้เข้าพบหารือเพื่อนำมาเป็นนโยบายของทีมและขับเคลื่อนสู่ภาคปฏิบัติหากมีโอกาสเข้าไปบริหารงานที่ อบจ.สงขลา

ซึ่งมีข้อเสนอที่น่าสนใจจำนวนมากโดยเฉพาะเรื่องหาดใหญ่ไชน่าทาวน์ สร้างซุ้มประตูจีนและพื้นที่จำหน่ายสินค้าคุณภาพจากประเทศจีน สร้างย่านการค้าอาหรับทาวน์หรือมุสลิมทาวน์ รวมถึงยูโรเปี้ยนทาวน์ เพื่อการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวโดยมีหาดใหญ่เป็นศูนย์กลางต่อยอดกับนโยบาย 1 อำเภอ 1 แหล่งท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของสงขลาทั้งระบบ การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการก็เป็นสิ่งสำคัญ

การส่งเสริมท่องเที่ยวรูปแบบซิตี้ทัวร์ วันเดียวเที่ยวรอบเมือง สร้างพื้นที่ให้เยาวชนได้แสดงออก ทำในสิ่งที่เขาอยากทำช่วยให้เขาค้นหาตัวเองเจอตั้งแต่วัยเด็ก ซึ่งอบจ.ต้องเข้าไปส่งเสริมทุกกลุ่มตั้งแต่กระบวนการเริ่มต้นไปจนถึงการจัดจำหน่าย ส่งเสริมเรื่องเทคโนโลยี องค์ความรู้ และที่สำคัญคือเรื่องอีคอมเมิร์ซ การค้าขายออนไลน์ เราต้องเข้าไปช่วยเติมเต็มตรงจุดนี้ด้วย

ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและทีมงานฝ่ายบริหารที่ล้วนเป็นคนมีความรู้ความสามารถ การทำงานที่เน้นความสุจริต โปร่งใส ประชาชนมีส่วนร่วม ผมเชื่อมั่นว่าทีมพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมรวมพลังร่วมสร้างสุขกับชาวสงขลาทุกคน 20 ธันวาคม 2563 เข้าคูหากาเบอร์ 3 เลือกไพเจน มากสุวรรณ์ เป็นนายกอบจ. และเลือกผู้สมัครสจ.ทีมประชาธิปัตย์ในทุกเขตด้วย

กราบขอบพระคุณครับ

เผยแพร่โดย นิพัฒน์ อุดมอักษร 23/1 ถนนสัจจกุล ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 90110


ฅนสองเล

5 ว่าที่นายกร่วมเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ ศึกชิงเก้าอี้นายก อบจ.สงขลา

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ ร่วมกับ สมาคมรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ภาคใต้ และชมรมเสรีชนคนประชาธิปไตย จัด "โครงการเสวนาสงขลาเมืองประชาธิปไตย" เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจในการแสดงความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมในทางการเมืองอย่างสร้างสรรค์ตามแนวทางระบอบประชาธิปไตย และส่งเสริม รณรงค์การเลือกตั้งท้องถิ่น และการให้ข้อมูลพื้นฐานในการตัดสินใจเลือกผู้สมัครองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่มีความเหมาะสม

โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุพจน์ โกวิทยา รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นประธานเปิดการบรรยาย โดยมีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ปี 2563 ได้แก่ นายจะเด็ด เหมโกทวีทรัพย์ ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 1 พันเอก (พิเศษ) สุชาติ จันทรโชติกุล จากทีมสงขลาประชารัฐ  หมายเลข 6 นายนายไพเจน มากสุวรรณ์ จากทีมพรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 3 นางภัทราวรรณ ขำตรี จากทีมเพื่อสังคม  หมายเลข 4 และนางสาวอภิญญา ยอดแก้ว ผู้สมัครอิสระ  หมายเลข 5 (ส่วนนายวชิรวิทย์ ภัสระ ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 6 ไม่มาร่วมเวที) 

โดยผู้สมัครนายกอบจ.สงขลา ทั้ง 5 คน ร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์หัวข้อ "สงขลาในอนาคต" และมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จุมพล ชื่อจิตต์ศิริ รองอธิการบดีฝ่ายกฎหมายและบริการวิชาการ  ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ฆายนีย์ ช. บุญพันธ์ หัวหน้าสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์  คณะวิทยาการจัดการ เป็นผู้ดำเนินการเสวนา โดยมีคณะผู้บริหาร คณาจารย์ นักศึกษา และผู้สนใจเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ณ ห้องภูมิวิทยาร (ห้องประชุมใหญ่) คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 63

ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุพจน์ โกวิทยา รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นมีความสำคัญมากสำหรับประเทศไทย โดยผู้สมัครองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นคนในท้องถิ่นที่รู้จักจังหวัดสงขลา และชาวสงขลาอย่างแท้จริง ทั้งยังทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และจะพัฒนาสงขลาไปในทิศทางที่ดี ทั้งนี้ สงขลาถือเป็นเมืองหนึ่งที่มีความสำคัญ เป็นประตูสู่อาเซียน เป็นเมืองหลักของภาคใต้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดจึงถือเป็นองค์กรหนึ่งที่ได้ดำเนินการขับเคลื่อนให้จังหวัดสงขลาเจริญก้าวหน้าขึ้นต่อไป   

สำหรับบรรยากาศการเสวนาเป็นไปอย่างเรียบร้อย ผู้สมัครทุกคนได้มีโอกาสนำเสนอข้อมูล นโยบาย และส่งที่น่าสนใจผ่านคำถามจากผู้ดำเนินรายการและผู้ร่วมห้องประชุม โดยผู้ร่วมเสวนามีเวลาตอบคำถามคนละ 3 นาที โดยมีหลายคำถามที่นาสนใจ อาทิ คำถามเรื่องรถไฟฟ้าโมโนเรลหาดใหญ่ ซึ่งเป็นนโยบายของนายกอบจ.คนเก่าที่มีการศึกษาข้อมูลไว้แล้วแต่ยังไม่มีเป็นรูปธรรม ผู้สมัครนายกอบจ.รอบนี้มีความเห็นเช่นไรบ้าง

ผู้สมัครหมายเลข 1 กล่าวว่าเป็นโครงการหลอกผี นโยบายหลอกลวงประชาชน อบจ.ไม่มีทางทำได้จริง ถ้าเศรษฐกิจสงขลาดีและร่ำรวยกว่านี้แล้วค่อยมาว่ากัน
ผู้สมัครหมายเลข 2 มองว่าโครงการผ่านการศึกษามาแล้วในระดับหนึ่ง ตนเองก็พร้อมที่จะสานต่อและขยายเส้นทางเดินรถเพิ่มขึ้นให้ถึงสนามบิน ให้ถึงเมืองสงขลา เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนมากขึ้น
ผู้สมัครหมายเลข 3 มองว่าปัญหาจราจรเป็นปัญหาใหญ่ของหาดใหญ่ โครงการนี้ผ่านการศึกษาความเหมาะสมขั้นต้นแล้ว ตนเองพร้อมผลักดันโครงการนี้ถ้าพี่น้องประชาชนชาวหาดใหญ่สว่นใหญ่ต้องการและเห็นด้วย
ผู้สมัครหมายเลข 4 มองว่าเกินกำลังของอบจ.เป็นโครงการที่ไม่น่าเป็นไปได้
ผู้สมัครหมายเลข 5 มองว่าเป็นโครงการที่ดีแต่ต้องให้ประเทศไทยมีความพร้อมมากกว่านี้ ถึงจะสามารถดำเนินโครงการนี้ได้

รับฟังข้อมูลย้อนหลังทั้งหมดได้ที่ https://fb.watch/2hpDvXJ0xu/

ฅนสองเล

นายกชาย โต้สมพงษ์ สระกวี ปราศรัยมั่วชี้เหมือนยาหมดอายุ ด้านเสริมศักดิ์ เตรียมขึ้นเวทีชี้แจง

นายกชาย สส.เดชอิศม์ ขาวทอง อัดคลิปชี้แจงหลังโดนสมพงษ์ สระกวี อดีตสว.สงขลา กล่าวบนเวทีปราศรัยหาเสียงของพันเอกสุชาติ จันทรโชติกุล ผู้สมัครนายกอบจ.สงขลา หมายเลข 2 ว่าในอดีตมีการร่วมกันโกงเลือกตั้งนายกสิงหนคร ช่วยทีมญาตินายกเปลี่ยนจากแพ้มาเป็นชนะ

โดยยืนว่าเป็นการกล่าวหาที่มั่วมากมาพาดพิงตนเองให้เสียหายโดยไม่มีสิทธิ์ปราศรัยชี้แจงต้อบโต้ เพราะไม่ได้ลงเลือกตั้งและการเป็นสส.ก็ไม่สามารถขึ้นเวทีหาเสียงท้องถิ่นได้ พร้อมกล่าวว่าหากให้เปรียบเทียบนายสมพงษ์ สระกวี ก็เหมือนยาหมดอายุไม่มีคุณค่าอะไรกับสงขลา แต่หากไม่ชี้แจงทุกฝ่ายจะเสียหายกันหมดเพราะการเลือกตั้งในครั้งนั้นทีมฝั่งตนเองเป็นฝ่ายชนะ 1 คะแนน

และทีมคู่แข่งเป็นฝ่ายเรียกร้องให้มีการนับคะแนนใหม่ไม่ใช่ทีมตนเองซึ่งเมื่อนับใหม่ก็กลับมาชนะ 6 คะแนน และในครั้งนั้มีหน่วยงานต่างๆ ที่เข้ามาร่วมนับคะแนนทั้งเจ้าหน้าที่เทศบาล ข้าราชการปกครอง ทหาร ซึ่งการกล่าวหาดังกล่าวไม่ใช่แค่ตนเองที่เสียหายแต่เป็นข้าราชการเหล่านั้นด้วย ทางด้านนายเสริมศักดิ์ จันทร์สว่าง อดีตนายกเทศมนตรีเมืองสิงหนคร พี่เขยนายกชาย ซึ่งถูกพาดพิงโดยตรง มีรายงานว่าจะขึ้นพูดบนเวทีวันนี้ (11 ธ.ค.63) ของทีมพรรคประชาธิปัตย์ที่จัดปราศรัยเวทีใหญ่ครั้งแรกที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอสิงหนคร และอาจจะมีการแจ้งความดำเนินคดีกับนายสมพงษ์ สระกวีด้วย

คำชี้แจงจากนายกชาย https://www.youtube.com/watch?v=QSdRgWycmZg

ฅนสองเล

แฟนคลับล้นหลาม ไพเจน มากสุวรรณ์ เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรกที่บ้านเกิดสิงหนคร

ไพเจน มากสุวรรณ์ ผู้สมัครนายกอบจ.สงขลา หมายเลข 3 ทีมพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมฝ่ายบริหาร ผู้สมัครสจ.ทั้ง 36 เขต ร่วมขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรกที่สิงหนคร ท่ามกลางกองเชียร์ที่มากันอย่าล้นหลามมากกว่า 2,000 คน

เมื่อช่วงค่ำ 11 ธ.ค.63 ณ สนามหน้าที่ว่าการอำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา นายไพเจน มากสุวรรณ์ ผู้สมัครนายกอบจ.สงขลา หมายเลข 3 ทีมพรรคประชาธิปัตย์ ได้เปิดเวทีปราศรัยใหญ่หาเสียงเป็นครั้งแรกหลังจากได้เดินสายหาเสียงในพื้นที่ต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง โดยมีทีมงานฝ่ายบริหารทั้งพี่หลวงคร พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ประธานที่ปรึกษา พรเอื้อ เชื้อแหลม ที่ปรึกษา ดร.อับดลหรอหมาน กาเหย็ม อดีตสส.ชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว คุณน้ำหอม สุภาพร กำเนิดผล ทีมรองนายก นิพัฒน์ อุดมอักษร ปารินดา ปาลาเร่ เลขานุการ และขุนพลผู้สมัครส.อบจ.ทั้ง 36 เขต มาร่วมเวทีปราศรัย

โดยไพเจน มากสุวรรณ์ ได้กล่าวย้ำความตั้งใจในการเสนอตัวเข้ามาทำงานการเมืองท้องถิ่นต่อหน้าชาวสิงหนครและใกล้เคียงที่มาร่วมเวทีกันมากกว่า 2,000 คน ด้วยความเป็นคนสงขลาเกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ด้วยการทำงานที่ยาวนานในชีวิตราชการที่ไม่เคยมีเรื่องถูกร้องเรียนเรื่องความไม่โปร่งใส วันนี้มีความตั้งใจทำงานการเมืองร่วมกับทีมฝ่ายบริหารที่มีคุณภาพ สจ.ที่ใกล้ชิดชาวบ้าน มั่นใจว่าตนเองจะทำหน้าที่เป็นแม่ทัพพัฒนาสงขลาได้ และขอยืนยันว่านโยบายสวัสดิการต่างๆ ของรัฐบาลไม่เกี่ยวกับท้องถิ่น เลือกทีมไหนพี่น้องก็ยังได้รับเหมือนเดิม อย่าไปหลงกับคำโกหกของบางทีมหากมีใครกล่าวเช่นนี้ถือว่าเป็นการโกหกประชาชน

ทั้งนี้ ก่อนถึงวันเลือกตั้งใหญ่ ทีมพรรคประชาธิปัตย์ เตรียมเปิดปราศรัยในหัวเมืองต่างๆ ดังนี้ 11 ธ.ค. สนามหน้าอำเภอสิงหนคร 12 ธ.ค. ลานหน้าหอนาฬิกาหาดใหญ่ 13 ธ.ค. สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ตรงข้ามขนส่งใหม่เมืองสงขลา 15 ธ.ค. สนามหน้าอำเภอนาทวี 16 ธ.ค.ลานหน้าสำนักงาน ทต.ระโนด 17 ธ.ค. ศูนย์ประสานงานสส.เดชอิศม์ อ.รัตภูมิ และ 18 ธ.ค.ปราศรัยใหญ่ปิดเวที ณ สนามข้างบิ๊กซีคลองแห หาดใหญ่       

ฅนสองเล

ไพเจน แถลงโต้ถูกกล่าวหาแจกเสื้อ พร้อมจัดเวทีปราศรัยที่หน้าหอนาฬิกาหาดใหญ่

เมื่อช่วงค่ำ 12 ธ.ค.63 ณ ลานหน้าหอนาฬิกาหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ไพเจน มากสุวรรณ์ ผู้สมัครนายกอบจ.สงขลา หมายเลข 3 ทีมพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมทีมผู้บริหาร ผู้สมัครสจ.เขตหาดใหญ่และใกล้เคียง ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนกรณีฝ่ายตรงข้ามกล่าวหาเดรื่องแจกเสื้ออสม.และจัดเวทีปราศรัยพบปะพี่น้องประชาชนชาวหาดใหญ่ ซึ่งมีผู้มาร่วมรับฟังกันอย่าล้นหลามจนเก้าอี้ไม่เพียงพอ

โดยนายไพเจน ได้กล่าวกับสื่อมวลชนและประชาชนที่มาร่วมเวทีปราศรัยว่า การที่ถูกทีมพันเอกสุชาติ จันทรโชติกุล ผู้สมัครนายกอบจ.สงขลา ซึ่งเป็นคู่แข่งทางการเมืองกล่าวหาว่ากระทำผิดพรบ.เลือกตั้งเรื่องการแจกเสื้อแก่อสม.นั้น ขอยืนยันว่าการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่จะมีการประกาศเลือกตั้ง และเป็นการระดมทุนจากพรรคพวกเพื่อนฝูงมอบให้ทางประธานชมรมอสม.สงขลา นำไปสั่งและจัดทำเสื้อกันเองโดยไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องเรื่องการออกแบบแต่อย่างใด และมั่นใจว่าการกระทำดังกล่าวไม่ผิดกฎหมายเลือกตั้ง

หลังจากแถลงข่าวเป็นการเปิดเวทีปราศรัยจากผู้สมัครสจ.ในเขตอำเภอหาดใหญ่ โดยเฉพาะอดีตสจ.ประสิทธิ์ ช่วยชูสกุล เขต 2 ที่ขี้นเวทีปราศรัยสร้างสีสันได้เป็นอย่างมาก มีการกล่าวถึงฝ่ายตรงข้ามที่ปราศรัยไม่ตรงความจริงหลายประการ พร้อมย้ำว่านโยบายรัฐบาลไม่เกี่ยวกับท้องถิ่นเหมือนที่มีบางทีมพยายามกล่าวอ้างซึ่งเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ และยังมีอดีตสจ.หมี นิยม พรรณราย เขต 1 จำลอง บุญวรรรโณ เขต 3 มานพ รักนวล เขต 4 ภาคย์ภูมิ ผดุ้งกูล เขต 5 ทวีศักดิ์ อรัญดร เขต 6 รวมถึงเตใกล้เคียงมาร่วมเวที ส่วนฝ่ายบริหารก็มากันครบทีมเช่นเดิม

บนเวทีปราศรัย ไพเจน มากสุวรรณ์ ได้กล่าวถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานการเมืองเพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดินเกิด พร้อมยืนยันว่าไม่หวั่นไหวแม้จะถูกฝ่ายตรงข้ามโจมตีมากมาย ขอเดินหน้านำเสนอนโยบายการพัฒนาจังหวัดสงขลา เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของชาวบ้านให้่ได้มากที่สุด และยืนยันว่าไม่ได้เป็นหุ่นเชิดของใครพร้อมเริ่มต้นทำงานทันทีที่ได้รับการรับรองผลการเลือกตั้ง และในช่วงเย็นนี้ 13 ธ.ค.63 มีเวทีปราศรัยที่สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา อ.เมืองสงขลา 17.30 น.เป็นต้นไป

ฅนสองเล

เวทีปราศรัยใหญ่ก่อนเลือกตั้ง "ไพเจน มากสุวรรณ์" มั่นใจได้ไปต่อ

18-12-63 สีสันบรรยากาศเวทีปราศรัยส่งท้าย ไพเจน มากสุวรรณ์ ผู้สมัครนายกอบจ.สงขลา เบอร์ 3 ทีมพรรคประชาธิปัตย์ จัดเต็มทั้งทีมบริหาร สจ.ท่ามกลางกองเชียร์มากันล้นหลาม ยืนยันกับกองเชียร์มากกว่า 3,000 คน พร้อมนำนโยบายที่นำเสนอสู่ภาคปฏิบัติหากได้รับโอกาสจากพี่น้องประชาชนชาวสงขลาในการเลือกตั้ง 20 ธันวาคมนี้

โดยเวทีปราศรัยของทีมพรรคประชาธิปัตย์ ได้ย้ายจากสนามแยกโรงปูนใกล้บิ๊กซีคลองแห มายังโรงยิมศูนย์กีฬา ม.อ.หาดใหญ่ เนื่องจากฝนตกหนักแต่แฟนคลับ กองเชียร์ และคอการเมืองก็มกันอย่างเนืองแน่นคาดว่ามีมากกว่า 3,000 คน ซึ่งทีมผุ้บริหาร ผู้สมัครสจ.ร่วมขึ้นเวทีแนะนำตัวปราศรัย พร้อมแสดงความมั่นใจว่าจะได้รับการเลือกตั้งในวันที่ 20 ธันวาคมนี้แน่นอน

ผู้ปราศรัยทีมบริหารมากันครบทีมทั้งประธานที่ปรึกษา พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ที่ปรึกษา พรเอื้อ เชื้อแหลม ทีมรองนายก ชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว อับดลหรอหมาน กาเหย็ม สุภาพร กำเนิดผล เลขานุการ นิพัฒน์ อุดมอักษร ปรินดา ปาลาเร่ ผู้สมัครสจ.ฝีปากกล้าทั้งประสิทธื์ ช่วยชูสกุล เขต 2 หาดใหญ่ อาคม ประสมพงศ์ เขตนาหม่อม วงศ์วชิระ ขาวทอง เขต 1 รัตภูมิ และตัวแทนผู้สมัครอีกหลายคนร่วมขึ้นเวทีปราศรัย

โดยนายไพเจน มากสุวรรณ์ ได้กล่าวปราศรัยปิดท้ายการหาเสียงเลือกตั้งว่ามีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำงานการเมืองเพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดินเกิด เมื่อได้รับโอกาสจากพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ของพรรคในจังหวัดสงขลา ได้รับการสนับสนุนจากทีมฝ่ายบริหารคุณภาพที่ไม่มีใครปฏิเสธเมื่อชวนมาร่วมทำงาน ได้รับการสนับสนุนจากอดีตสจ.เกือบทุกคน และที่สำคัญที่สุดคือต้องได้รับการสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสงขลาทุกคน หากได้รับโอกาสพร้อมเริ่มงานทำงานทันที พร้อมระดมสมองพัฒนาจังหวัดสงขลา "รวมพลังร่วมสร้างสุข" ไปด้วยกัน 

https://www.youtube.com/watch?v=XaZAtDa6OgE
ชมไฮไลท์การปราศรัยและบรรยากาศที่อบอุ่นท่ามกลางสายฝนโปรยปรายกันครับ

ฅนสองเล

รมต.-ส.ส.สงขลา ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งอบจ.พร้อมเชิญชวนประชาชนใช้สิทธิ์กันให้มากที่สุด

วันที่ 20 ธันวาคม 2563 เป็นวันเลือกตั้งนายกอบจ.และสมาชิกอบจ.พร้อมกันทั่วประเทศ ส่วนของจังหวัดสงขลาประชาชนทยอยออกมาใช้สิทธิ์กันอย่างต่อเนื่องแม้จะมีฝนตกลงมาเกือบตลอดทั้งวัน นิพนธ์-ถาวร-นายกชาย ชวนชาวบ้านออกมาใช้สิทธิ์ให้มากที่สุด พร้อมแสดงความห่วงใยจากสถานการณ์ฝนตกหนักในหลายพื้นที่

นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางมายังอาคารเอนกประสงค์ SML หน่วยเลือกตั้งที่ 14 ตำบลเขารูปช้าง ของเขตเลือกตั้งที่ 2 บริเวณวัดเกาะถ้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เพื่อใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้ง ซึ่งมีพี่น้องประชาชนในเขตเลือกตั้งที่ 14 เริ่มทยอยออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง โดยเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยมีการตรวจวัดอุณหภูมิ และใช้เจลล้างมือ พร้อมทั้งสวมหน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่างเข้ามาในคูหาเลือกตั้ง

นายนิพนธ์ กล่าวว่า ถือโอกาสนี้ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกท่าน ที่ออกมาใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นการเลือกตั้งท้องถิ่นในช่วง covid-19 และต้องขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้ความร่วมมือกับทางราชการอย่างดียิ่ง โดยการสวมใส่หน้ากาก และเว้นระยะห่างในการเข้ามาใช้สิทธิ์เลือกตั้งในคูหา ซึ่งจะทำให้ช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งขณะนี้บางจังหวัดก็อยู่ในสถานการณ์ ที่มีการควบคุมเป็นพิเศษจึงอยากให้ทุกฝ่ายต้องระมัดระวังมากขึ้นดังนั้น

ในส่วนของฝนที่กำลังตกอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ขณะนี้ยังมีความห่วงใยในพื้นที่ของ 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยเฉพาะเมื่อวานที่ยะลา อำเภอเบตง มีดินโคลนถล่ม และมีผู้เสียชีวิตด้วย ซึ่งได้เรียนกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดแล้ว ให้มีการประสานกับทางชลประทาน ในการให้ความช่วยเหลือโดยการชะลอการระบายน้ำเพราะปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ใน 3 จังหวัด ถือว่ามากเป็นพิเศษซึ่งยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ได้เรียนให้ทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้มีความพร้อม และได้เรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดให้มีความพร้อมในพื้นที่ รวมถึงการเตรียมความพร้อมของแผนเผชิญเหตุ การอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ไปอยู่ในพื้นที่ที่มีความปลอดภัย รวมถึงเรื่องอาหารการกิน การเตรียมพร้อมเรื่องถุงยังชีพต่างๆ และเจ้าหน้าที่เองก็ให้มีความพร้อมในการปฏิบัติ

รวมถึงการประสานงานกับทหาร ไม่ว่าจะเป็น กองทัพบก หรือกองทัพเรือ ซึ่งถือเป็นกำลังหลักในการเตรียมการอพยพในเรื่องของยานพาหนะ รวมถึงเฮลิคอปเตอร์ที่พร้อมจะเข้ามาช่วยเหลือ พี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงภัยสูง ซึ่งยานพาหนะอื่นไม่สามารถเข้าไปได้ ก็ให้เตรียมความพร้อมอยู่ในพื้นที่เช่นกัน

ที่อำเภอหาดใหญ่ เวลา 8.00 น. นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งเป็น​แรกที่หน่วยเลือกตั้งที่ 3 เขตเลือกตั้งที่ 10 ตำบลควนลัง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เช่นเดียวกับที่อำเภอรัตภูมิ "นายกชาย" ส.ส.เดชอิศม์ ขาวทอง ใช้สิทธิเลือกตั้ง นายก อบจ. และ ส.อบจ. ณ หน่วยเลือกตั้งที่ 4 อาคารกลุ่มออมทรัพย์ บ้านนาปาบ ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ด้วยเช่นกัน

ฅนสองเล

ปชป.สงขลาคึกคัก จุรินทร์ นำทัพขอบคุณหลังนำทัพคว้าชัยชนะเลือกตั้งนายกอบจ.สงขลา

จุรินทร์ ร่วมแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ นำไพเจน และผู้สมัครสมาชิกสภาอบจ.สงขลา แถลงข่าวขอบคุณทุกคะแนนเสียง พร้อมกับนำทีมปชป.แห่ขอบคุณประชาชนรอบหาดใหญ่ ลั่นจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้ทุกนโยบาย มั่นใจคะแนนศรัทธาพรรคในพื้นที่กลับมาดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

(21 ธ.ค.63) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และรองหัวหน้าพรรค นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.เขต 5  พล.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ สส.เขต 8 ร่วมการแถลงข่าวแสดงความขอบคุณพี่น้องประชาชนในจังหวัดสงขลา ที่มอบความไว้วางใจลงคะแนนเสียงเลือกนายไพเจน มากสุวรรณ์ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ทีมพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยผู้สมัครสมาชิกสภาอบจ.สงขลา จากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้รับเลือกตั้งเสียงข้างมากด้วย

โดยกล่าวว่าขอแสดงความยินดีกับว่าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ทั่วทั้งประเทศ และขอบคุณพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนที่ช่วยกันออกมาใช้สิทธิ์ลงคะแนนออกเสียงเลือกตั้งในครั้งนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งท้องถิ่น และการเลือกตั้งอบจ.ต้องขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้กับคุณไพเจน มากสุวรรณ์ และคณะที่สำคัญขอบคุณทีมงานทุกท่านที่ช่วยกันอย่างเต็มที่ จึงต้องขอขอบคุณพวกเราทุกคนที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์มีวันนี้

พร้อมกันนี้นายจุรินทร์ ได้ขึ้นรถแห่รถขอบคุณชาวสงขลา ในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ ซึ่งบรรยากาศทั่วไปเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ทั้งของแกนนำ และของพี่น้องประชาชนที่พบเห็น และทักทายพร้อมโบกมือแสดงความยินดีตลอดเส้นทางของขบวนรถแห่ โดยส่วนของนายไพเจน มากสุวรรณ์ ว่าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาได้กล่าวขอบคุณ และย้ำว่าจะเดินทำงานเพื่อชาวสงขลาตามที่ได้หาเสียงไว้ทุกนโยบาย และมั่นใจว่าจะสามารถชี้แจงข้อร้องเรียนของผู้สมัครฝ่ายตรงข้ามได้ทุกประเด็น และพร้อมร่วมทำงานกับว่าที่สจ.ทุกคนทุกเขตด้วย

ชัยชนะของนายไพเจน มากสุวรรณ์ เป็นสิ่งที่คอการเมืองต่างคาดไม่ถึงว่าจะชนะคู่แข่งอย่างพันเอกสุชาติ จันทรโชติกุล ที่หาเสียงล่วงหน้ามาตั้งแต่จบการเลือกตั้งระดับชาติต้นปี 62 มีแรงหนุนจากพรรคพลังประชารัฐ มีสส.เขตมือถึง 4 เขต+1 จากพรรคภุมิใจไทย ก็สนับสนุนด้วย ขณะที่ไพเจน อดีตข้าราชการโนเนมเปิดตัวหาเสียงเพียงแค่ 4 เดือน แต่ด้วยแรงหนุน+ลูกอ้อนลูกขยัน รวมถึงคะแนนศรัทธาพรรคประชาธิปัตย์ที่เริ่มกลับมาดีขึ้น ทำให้ไพเจน มากสุวรรณ์ คว้าชัยชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วยคะแนนอย่างไม่เป็นทางการที่ 265,048 ต่อ 239,101 ชนะกันถึง 25,947 คะแนน

สำหรับทีงานฝ่ายบริหารของทีมว่าที่นายกอบจ.ไพเจน มากสุวรรณ์ ประกอบด้วย ประธานที่ปรึกษา พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ที่ปรึกษา พรเอื้อ เชื้อแหลม และภิรพล ลาภาโรจน์กิจ ทีมรองนายกฯ ชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว ดร.อับดลหรอหมาน กาเหย็ม และสุภาพร กำเนิดผล เลขานุการ นิพัฒน์ อุดมอักษร และปรินดา ปาลาเร่ ส่วนสมาชิกสภาอบจ.36 เขตเลือกตั้ง ปรากฎว่าทีมพรรคประชาธิปัตย์ ได้ 22 เขต ทีมสงขลาประชารัฐ 10 เขต ผู้สมัครอิสระ 4 เขต ตามพื้นที่ต่างๆ



ฅนสองเล

เลือกตั้งอบจ.สงขลา บทพิสูจน์ศรัทธาประชาธิปัตย์หรือความผิดพลาดของคู่แข่ง

เปิดตัวแค่ 4 เดือนแต่เป็นฝ่ายชนะเลือกตั้งถือเป็นดีกรีไม่ธรรมดาของไพเจน มากสุวรรณ์ ว่าที่นายกอบจ.สงขลา จากทีมพรรคประชาธิปัตย์ ชนะที่หาดใหญ่แต่ไม่ชนะใจคนทั้งจังหวัดนำมาซึ่งความพ่ายแพ้ของสุชาติ จันทรโชติกุล ทีมสงขลาประชารัฐที่มีพรรคพลังประชารัฐเป็นสปอนเซอร์ใหญ่

โดยผลการเลือกตั้งนายกอบจ.สงขลา 20 ธ.ค.63 อันดับ 1 นายไพเจน มากสุวรรณ์ ได้คะแนน 265,475 อันดับ 2 พ.อ.(พิเศษ)สุชาติ จันทรโชติกุล ได้คะแนน 239,786 ผลต่างอยู่ที่ 25,689 คะแนน ซึ่งก็เป็นไปตามคาดที่ผมได้เขียนไว้ตั้งแต่ปิดหีบเลือกตั้งว่าไพเจน จะเป็นฝ่ายชนะแต่ตอนที่ติดตามการนับคะแนนช่วงแรกๆ สารภาพว่าเหมือนจะถอดใจคิดว่าผู้การชาติคงเป็นฝ่ายชนะไปแล้ว เพราะจากการตระเวนตามหน่วยเลือกตั้งในหาดใหญ่ คะแนนของทีมผู้การนำเกือบทุกหน่วย

แต่เมื่อติดตามที่วอลลรูมรวมคะแนนทำให้เห็นภาพคะแนนต่างอำเภอว่าไพจน แรงกว่าเกือบทุกอำเภอส่วนที่หาดใหญ่ผลแพ้ชนะไม่ทิ้งห่างกันมากและผลสรุป ไพเจน มากสุวรรรณ์ คือผู้กุมชัยชนะเป็นว่าที่นายกอบจ.สงขลาคนใหม่ ว่ากันตามเนื้อผ้า ไพเจน มากสุวรรณ์ เปิดตัวก่อนถึงวันเลือกตั้งแค่ 4 เดือนนิดๆ ถูกหาว่ามาเป็นมวยแทน พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ที่หาเสียงในนามพรรคมาก่อนบ้างแล้ว มวยใหม่แต่พี่เลี้ยงดีเพราะเป็นครั้งแรกที่ ถาวร เสนเนียม และนิพนธ์ บุญญามณี สนับสนุนผู้สมัครคนเดียวกัน แถมยังมีสส.เดชอิศม์ ขาวทอง หรือนายกชาย ซึ่งมีที่มาของชื่อจากตำแหน่งนายกอบจ.สงขลานี่แหละเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักในการหาเสียงตอนแรก ผนึกกับ พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ สส.ผู้กว้างขวางในพื้นที่อำเภอโซนชายแดน

แต่เมื่อเข้าช่วงเลือกตั้งมีจุดผันแปรอีกรอบเมื่อกกต.ห้ามไม้ให้สส.ผู้ช่วยสส.ข้าราชการการเมืองในตำแหน่งอื่นๆ มาช่วยหาเสียง ห้ามขึ้นป้ายคู่ ห้ามขึ้นปราศรัย ทำได้แค่เป็นสปอนเซอร์เบื้องหลัง หากให้มองจุดแข็งไพเจน คำตอบจากความรู้สึกส่วนตัวคืออยู่ที่ไพเจนและทีมงานฝ่ายบริหารเกือบทุกคนคือจุดแข็งของทีม เรียบๆ ง่ายๆ ลุยๆ บ้านๆ คือเสน่ห์ของเขา ไม่เสียงดัง ไม่คำหยาบ ไม่ว่าใคร คือสิ่งที่เขาทำบนเวทีปราศรัย ส่วนที่มฝ่ายบริหารอาจถูกมองเป็นจุดอ่อนเพราะส่วนใหญ่คือตัวแทนของสส.ปชป.แต่ทุกคนกลับทำงานหนักจนกลายเป็นจุดแข็งของทีมได้

น้ำหอม สุภาพร กำเนิดผล ถูกโจมตีเยอะเพราะเป็นภรรยาสส.เดชอิศม์ แต่เธอกลับลุยพื้นที่อย่างหนักเรียกว่าไปทุกพื้นที่ ลุยแบบไม่ห่วงสวยแถมมีรอยยิ้มที่จริงใจ และวาจาอ่อนหวานเป็นที่ประทับใจต่อทุกคนที่ได้เจอเรียกได้ว่าไปตรงไหนก็แฟนคลับเพียบ ดร.อับดลหรอหมาน กาเหย็ม เป็นอีกคนที่มาแบบเรียบๆ แต่มีผลงานและความดีมัดใจชาวบ้าน โดยเฉพาะชาวมุสลิม ปราศรัยแบบให้ความรู้มากกว่าส่วนสไตล์นักการเมืองก็ยกให้อดีตสส.ชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว ทำหน้าไป การรับตำแหน่งประธานที่ปรึกษาและมาขึ้นเวทีของพี่หลวงคร สาคร ทองมุณี ก็เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งว่าทีมมีความเป็นหนึ่งเดียว

ทีมเลขาก็ไม่ธรรมดา ปรินดา ปาลาเร่ ก็ขยันลงพื้นที่และเป็นตัวแทนสตรีมุสลิมในตำแหน่งฝ่ายบริหาร มีส่วนสำคัญในการดึงฐานเสียงในพื้นที่ได้เป็นอย่างดีบวกกับสจ.เก่าทำให้ชนะทุกเขตในพื้นที่โซนจะนะ เทพา นาทวึ ส่วนที่หาดใหญ่เที่ยวนี้ปชป.พ่ายแพ้แต่ไม่ถึงกับเสียฟอร์ม เพราะคู่แข่งได้อดีตลูกหม้ออย่างไพร พัฒโน ไปช่วยหาเสียงเต็มที่แต่เลขานิพัฒน์ อุดมอักษร นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงก็สกัดและดึงคะแนนมาให้ทีมได้จำนวนมากแม้จะได้สจ.มาแค่ 3 จาก 10 แต่คะแนนนายกทั้งอำเภอแพ้แค่หมื่นนิดๆ จึงไม่เสียหายมากเมื่อรวมกันทั้งจังหวัดยังเป็นฝ่ายชนะ

ไล่ดูคะแนนรายอำเภอ ไพเจน ชนะถึง 12 อำเภอ โซนที่ชนะขาดมีเทพา สะเดา รัตภูมิ จะนะ เมือง กระแสสินธุ์ สิงหนคร ควนเนียง บางกล่ำ ส่วนสุชาติ 12 อำเภอ มีเพียงหาดใหญที่ชนะหมื่นกว่าที่เหลือแค่เฉียดฉิวทำให้คะแนนรวมสู้ไม่ได้ และครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่คะแนนหาดใหญ่ สวนทางกับคะแนนส่วนใหญ่ของจังหวัดหากถามว่าปัจจัยมาจากอะไร มองได้หลายมุมคือ คนเมืองเขาพร้อมที่จะเปลี่ยนโดยไม่ยึดติดกับสจ.เก่า คนเมืองอาจชื่นชอบนายกรัฐมนตรี และอีกเหตุผลที่ปฏิเสธไม่ได้คือ ฐานคะแนนอดีตนายกไพร พัฒโน

สจ.เขต1-4 อยู่ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ทีมสุชาติเข้าวินหมดทั้งที่เป็นผู้สมัครหน้าใหม่ นอกจากคะแนนที่เป็นฐานเสียงไพรแล้วข่าวว่าช่วงท้ายๆ ทีมผู้การชาติหันมาลุยพื้นที่หาดใหญ่หนักมากเพราะประเมินว่านี่คือพื้นที่ชี้ขาดชัยชนะเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา แต่เที่ยวนี้ชัยชนะที่หาดใหญ่ไม่เพียงพอที่จะพาผู้การและทีมงานฝ่ายบริหารเข้าวินได้

พูดถึงฝ่ายบริหารก็นับว่าเป็นอีกเหตุผลของความพ่ายแพ้ของทีมในครั้งนี้ด้วย เพราะรายชื่อที่นำเสนอมาเป็นคนที่ชาวบ้านรู้จักน้อยมาก ไม่ได้มีผลงานที่มาช่วยดึงคะแนนให้ทีมได้ ผู้ขึ้นปราศรัยหลายคนไม่มีมนต์เสน่ห์สะกดคนฟังให้คล้อยตามแถมบางคนยังทำให้เสียคะแนนอีกด้วยต่างหาก จึงไม่แปลกที่ช่วงหลังจะได้เห็นการพยามยามเอานโยบายรัฐบาลมาช่วยเป็นจุดขายของทีมด้วยทั้งที่เป็นคนละส่วนกัน

พูดถึงสจ.เที่ยวนี้เริ่มมีบทพิสูจน์ในหลายพื้นที่แล้วว่าคน คนสำคัญกว่าพรรค หรือทีม อย่างอำเภอเมือง วิชัย กุหลาบวรรณ และนราเดช คำทัปน์ ถือเป็นอดีตสจ.ที่ยังเหนียวแน่ในพื้นที่ ปชป.จึงโค่นไม่ได้ ที่สะเดา 3 เขตมีครบทั้งอิสระ ปชป. พปชร.ที่นี่ถื่อว่าตัวบุคคลสำคัญมากต่อชัยชนะทั้ง 3 เขต ที่บางกล่ำและควนเนียงผู้สมัครอิสระที่มีความโดดเด่นกว่าคนมีทีมก็เป็นฝ่ายชนะได้เช่นเดียวกัน ซึ่งตรงจุดนี้ที่นำเสนออยากบอกให้คนที่สนใจการเมืองว่าหากมีความตั้งใจจริง ทำงานต่อเนื่องโอกาสที่จะชนะใจชาวบ้านก็มีมากไม่จำเป็นต้องรอสังกัดทีม สังกัดพรรคเพียงอย่างเดียว

สรุปรายงานผลคะแนนเลือกตั้ง สมาชิกฯ และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา 2563 อย่างไม่เป็นทางการ  รายชื่อผู้ที่ได้รับคะแนนมากที่สุดและได้ชนะการเลือกตั้ง มีดังนี้

นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา
อันดับ 1. นายไพเจน มากสุวรรณ ได้คะแนน 265,475
อันดับ 2. พ.อ.(พิเศษ)สุชาติ จันทรโชติกุล ได้คะแนน 239,786
อันดับ 3. นายจะเด็ด เหมโกทวีทรัพย์ ได้คะแนน 63,894
อันดับ 4. นางภัทราวรรณ ขำตรี ได้คะแนน 6,960
อันดับ 5. นางสาวอภิญญา ยอดแก้ว ได้คะแนน 5,333
อันดับ 6. นายวชิรวิทย์ ภัสระ ได้คะแนน 5,028

สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา (คะแนนของผู้สมัครลำดับอื่นๆ ดูได้จากเอกสารประกอบข่าว)
อำเภอหาดใหญ่ เขต 1  นายสุพรชัย ผกาวรรณได้คะแนน 5,646 พปชร.
อำเภอหาดใหญ่ เขต 2 นายพีระพงษ์ บุญเลิศ ได้คะแนน 5,575 พปชร.
อำเภอหาดใหญ่ เขต 3 นายสวิชญ์พล พิชัยรัตน์ ได้คะแนน 5,300 พปชร.
อำเภอหาดใหญ่ เขต 4 นายนิติธร จินดามณี ได้คะแนน 4,859 พปชร.
อำเภอหาดใหญ่ เขต 5 นายศุภวัฒน์ กลับกลาย ได้คะแนน 8,208 พปชร.
อำเภอหาดใหญ่ เขต 6 นายทวีศักดิ์ อรัญดร ได้คะแนน 4,631 ปชป.
อำเภอหาดใหญ่ เขต 7 ด.ต.สุรินท์ ปานดำรงค์ ได้คะแนน 9,679 พปชร.
อำเภอหาดใหญ่ เขต 8 นางสาวเวทิดา การันสันติ ได้คะแนน 6,288 อิสระ
อำเภอหาดใหญ่ เขต 9 นายอาซีด หลำเบ็นสะ ได้คะแนน 6,253 ปชป.
อำเภอหาดใหญ่ เขต 10 นายณัฐวุฒิ เกิดสุวรรณ ได้คะแนน 8,575 ปชป.
อำเภอเมืองสงขลา เขต 1 นายวิชัย กุหลาบวรรณ ได้คะแนน 5,484 พปชร.
อำเภอเมืองสงขลา เขต 2 นายศิริชัย เอกพันธ์ ได้คะแนน 6,673 ปชป.
อำเภอเมืองสงขลา เขต 3 นายนราเดช คำทัปน์ ได้คะแนน 6,870 พปชร.
อำเภอเมืองสงขลา เขต 4 นายพรชัย พานิชกรณ์ ได้คะแนน 8,887 ปชป.
อำเภอสะเดา เขต 1 นายบรรพต สิงห์หนู ได้คะแนน 8]123 อิสระ
อำเภอสะเดา เขต 2 นายโอภาส บุญโสภา ได้คะแนน 5,365 พปชร.
อำเภอสะเดา เขต 3 นายพิทักษ์ พฤกษานุศักดิ์ ได้คะแนน 8,372 ปชป.
อำเภอจะนะ เขต 1 นายเสรี เหล๊าะเหม ได้คะแนน 10,896 ปชป.
อำเภอจะนะ เขต 2 นายอริย์ธัช ทองเพชร ได้คะแนน 11,674 ปชป.
อำเภอนาทวี เขต 1 นางพิรญาณ์ เสนะพันธุ์ ได้คะแนน 6,828 ปชป.
อำเภอนาทวี เขต 2  นายธนิศร์ ทองสุข ได้คะแนน 7,383 ปชป.
อำเภอเทพา เขต 1 นายวรพงศ์ ปราบ ได้คะแนน 11,029 ปชป.
อำเภอเทพา เขต 2 นายศิริชัย หนิมา ได้คะแนน 8,507 ปชป.
อำเภอสะบ้าย้อย เขต 1 นายสุลี โต๊ะเพ็ชร ได้คะแนน 7,393 ปชป.
อำเภอสะบ้าย้อย เขต 2 นายปิยะ อุ่นแดง ได้คะแนน 8,200 ปชป.
อำเภอรัตภูมิ เขต 1 นายวงศ์วชิระ ขาวทอง ได้คะแนน 10,204 ปชป.
อำเภอรัตภูมิ เขต 2 นายพิษณุ หลีหีม ได้คะแนน 5,097 ปชป.
อำเภอสิงหนคร เขต 1 นายจตุพร เขียวเจริญ ได้คะแนน 9,333 ปชป.
อำเภอสิงหนคร เขต 2 นายวิสิทธิ์ รุจิเรข ได้คะแนน 7,417 ปชป.
อำเภอสทิงพระ นายปรีชาพงศ์ วงศ์พระจันทร์ ได้คะแนน 10,302 ปชป.
อำเภอระโนด ว่าที่ ร.ต.ไกรธนู แกล้วทนงค์ ได้คะแนน 13,632 ปชป.
อำเภอกระแสสินธุ์ นายโยธิน ทองเนื้อแข็ง ได้คะแนน 6,091 ปชป.
อำเภอนาหม่อม นายอาคม ประสมพงศ์ ได้คะแนน 6,572 ปชป.
อำเภอควนเนียง นายศดิศ ไชยศิริ ได้คะแนน 6,124 อิสระ
อำเภอบางกล่ำ นายล่องหิ้น ทิพย์แก้ว ได้คะแนน 6,509 อิสระ
อำเภอคลองหอยโข่ง นายอุดม แก้วสุวรรณ์ ได้คะแนน 5,500 พปชร.
(อักษรย่อท้ายทีม ปชป. คือทีมพรรคประชาธิปัตย์ พปชร.คือทีมพรรคพลังประชารัฐหรือสงขลาประชารัฐ และผู้สมัครอิสระ)

ฅนสองเล

รวมที่สุดของว่าที่ สจ.สงขลา

1.หลายสมัยที่สุด สจ.เต้ง ระโนด ว่าที่ ร.ต.ไกรธนู แกล้วทนงค์ ได้รับเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นสมัยที่ 6 ยาวนานที่สุดของบรรดาสจ.ที่มีอยู่ตอนนี้ รอบนี้แม้เขตจะใหญ่ทั้งอำเภอก็ยังชนะใจชาวบ้านส่วนใหญ่ได้ทั้งที่คะแนนรวมของนายกได้น้อยกว่า

2.คะแนนมากที่สุด สจ.เต้ง ระโนด ว่าที่ ร.ต.ไกรธนู แกล้วทนงค์ คว้าไปอีกหนึ่งตำแหน่งด้วยคะแนนคะแนน 13,632 ซึ่งส่วนหนึ่งมีผลจากการที่กกต.ยุบระโดนจากเดิมมี 2 เขตเหลือแค่เขตเดียว

3.คะแนนน้อยที่สุด สจ.บำ นายทวีศักดิ์ อรัญดร ได้คะแนน 4,631 อำเภอหาดใหญ่ เขต 6 เขตนี้เป็นอีกพื้นที่ที่ลุ้นกันนานกว่าจะรู้ผล

4.ทิ้งห่างคู่แข่งที่สุด สจ.เสือ รัตภูมิ นายวงศ์วชิระ ขาวทอง  อำเภอรัตภูมิ เขต 1 ได้คะแนน 10,204 ทิ้งห่างคู่แข่งที่ได้อันดับ 2 ถึง 8,032 คะแนน ถือเป็นความสำเร็จที่งดงามขอลูกชายสส.เดชอิศม์ ขาวทอง กับการลงสนามครั้งแรก

5.สูสีคู่แข่งที่สุด อำเภอสิงหนคร เขต 2 นายวิสิทธิ์ รุจิเรข ได้คะแนน 7,417 ชนะคู่แข่งเพียง 19 คะแนน เล่นเอาอดีตรองประธานสภาฯ เกือบเสียท่าแล้ว (รูปเล็กด้านหน้า) อีกคนคือนายอาซีด หลำเบ็นสะ อำเภอหาดใหญ่ เขต 9  ได้คะแนน 6,253 เป็นการเอาชนะคู่แข่งมาได้เพียง 20 คะแนน เสียงว่าตอนนับคะแนนทั้งเจ้าตัวและหัวคะแนนฉาบเป็นลม แต่ยังเอาตัวรอดมาจนได้

6.อายุมากที่สุด สจ.ป้ายแดง ทนายศดิศ ไชยศิริ  จากอำเภอควนเนียง ผู้สมัครอิสระได้รับเลือกตั้งครั้งแรกด้วยอายุ 66 ปี มากกว่าว่าที่นายก 3 ปี เขตนี้ในอดีตเป็นของครูมิตร ที่ข่าวว่าจะขยับไปลงสนามอบต.บ้านเกิดในเที่ยวหน้า

7.อายุน้อยที่สุด เป็นสาวน้อยวัยแค่ 27 ปี หน้าตาสดใสวัยรุ่นอยู่เลย สจ.บิ๋ม นางสาวเวทิดา การันสันติ จากอำเภอหาดใหญ่ เขต 8 ซึ่งก็คือพื้นที่เมืองคลองแห และเธอก็นามสกุลเดียวกับนายกเล็กที่นี่เพราะคือลูกสาวบังน๊อตนั่นเอง ถือเป็นมิติใหม่ที่คนรุ่นใหม่สนใจการเมืองมากขึ้น 

ทั้งนี้ จังหวัดสงขลา มีสมาชิกสภาอบจ.ได้ 36 คนแบ่งเป็น 36 เขตเลือกตั้ง

ฅนสองเล

ปชป.สงขลา โต้ผู้การชาติ-สิระ พร้อมเตรียมฟ้องกลับทุกข้อกล่าวหาไม่มีข้อยกเว้น

นายกชาย-ไพเจน นำทีมประชาธิปัตย์สงขลา แถลงข่าวโต้กรณีนายสิระ เจนจาคะ สส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ลงมารับเรื่องร้องเรียนจากผู้การชาติ ที่แพ้ศึกเลือกตั้งนายกอบจ.แต่พยายามโจมตีฝ่ายตรงข้ามว่าทุจริตบ้าง ซื้อเสียงบ้าง นายกชาย ลั่นเมื่อเลือกตั้งจบแล้วก็ควรจบและยอมรับเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน แต่เมื่อไม่ยอมจบก็พร้อมฟ้องกลับทุกกรณี

ศึกเลือกตั้งนายกอบจ.สงขลา เสร็จสิ้นไปตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2563 แต่ความวุ่นวายที่สนามการเมืองสงขลายังไม่จบ ล่าสุดเมื่อวานนี้ (4 ม.ค.64) นายสิระ เจนจาคะ สส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางมายังกกต.สงขลา เพื่อรับหนังสือร้องเรียนการทุจริตเลือกตั้งจากพันเอกสุชาติ จันทรโชติกุล ซึ่งเป็นผู้สมัครนายกอบจ.จากทีมสงขลาประชารัฐ หรือพรรคพลังประชารัฐ ที่พ่ายแพ้การเลือตั้งต่อว่าที่ร้อยตรีไพเจน มากสุวรรณ์ จากทีมพรรคประชาธิปัตย์

ซึ่งตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งทีมพันเอกสุชาติ มีการร้องเรียนและกล่าวบนเวทีหาเสียงหลายครั้งว่าฝั่งตรงข้ามทำผิดกฎหมายและโดนใบแดงแน่ๆ แม้จะชนะการเลือกตั้ง ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการรับรองผลเลือกตั้งนายกอบจ.สงขลา รวมถึงจังหวัดอื่นๆ แต่ที่จังหวัดสงขลามีเรื่องแปลกเพราะมีการนำสส.มากดดันการทำงานของกกต.พร้อมให้สัมภาษณ์โจมตีคู่แข่งในหลายประเด็น แต่หลายประเด็นเป็นการกล่าวโดยไม่มีหลักหฐาน ไม่มีการยื่นร้องเรียนต่อหน่วยงานรับผิดชอบแต่อย่างใด

นายเดชอิศม์ ขาวทอง หรือนายกชาย สส.เขต 5 สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกพาดพิงมากที่สุดตั้งแต่ช่วงปราศรัยหาเสียง จนมาถึงการให้ข่าวว่ามีส่วนร่วมในการซื้อเสียงในการจัดกิจกรรมเพื่อหวังผลทางเมืองบ้าง ได้ชี้แจงในทุกประเด็นว่าเมื่อมีการห้ามไม่ให้สส.ช่วยหาเสียงก็ไม่เคยเข้ามาก้าวก่ายการทำงานของทีมผู้สมัครของพรรค แต่ก็ยังถูกโจมตีตลอดทั้งที่เคยเป็นคนคุ้นเคยกันทั้งกับผู้การชาติ อดีตสว.สมพงษ์ สระกวี รวมถึงอดีตนายกไพร พัฒโน

ก่อนหน้านี้ตนเองยืนยันมาตลอดว่าไม่สนับสนุนผู้การชาติ เพราะไม่ใช่คนสงขลาและมองแล้วว่าไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะมาบริหารงานการเมืองระดับใหญ่ขนาดนี้ ถ้าลงนายกเทศบาลเมืองคอหงส์ ตนเองยังพอเห็นสมควรอยู่บ้าง ส่วนกรณีของนายสิระ นั้นตนเองไม่ให้ราคากับนักการเมืองคนนี้เพราะตั้งแต่อยู่ในเวทีการเมืองมาเพิ่งเคยเห็นสส.เข้ามาก้าวก่ายการทำงานขององค์กรอิสระก็ครั้งนี้แหละ

การที่มีความพยายามร้องเรียนถึงขั้นจะยุบพรรคประชาธิปัตย์ ทางพรรคจะมีการสอบถามว่ามีผู้ใหญ่ในพรรคพลังประชารัฐ สนับสนุนเรื่องด้วยหรือไม่ หากสนับสนุนก็คงต้องมาทบทวนบทบาทในการร่วมรัฐบาลกันบ้าง และยืนยันว่าพร้อมจะรวบรวมหลักฐานแจ้งความเอาผิดกับพันเอกสุชาติ และผู้ที่มีส่วนสร้างความเสียหายแก่พรรคและตัวเองทุกคนโดยไม่มีข้อยกเว้น เพราะเมื่อเลือกตั้งจบแล้วแต่ยังไม่ยอมจบก็ขอไปคุยกันที่ชั้นศาล

ด้านว่าที่ร้อยตรีไพเจน มากสุวรรณ์ ว่าที่นายกอบจ.สงขลา กล่าวยืนยันด้วยความมั่นใจว่าจะได้รับการรับรองผลเลือกตั้งแน่นอน ตนเองพร้อมชี้แจงข้อร้องเรียนของฝ่ายตรงข้ามทุกกรณี ส่วนที่กล่าวหาว่ามีการทุจริตหรือมีอิทธิพลนั้นยืนยันว่าไม่มีแน่นอน นับตั้งแต่เริ่มลงสนามเลือกตั้งก็ลุยหาเสียงพบปะพี่น้องประชาชน นำเสนอนโยบายและความตั้งใจในการทำงานอย่างเดียว ไม่มีมือปืน ไม่โจมตีใคร และวันนี้ก็พร้อมที่จะทำงานเพื่อพัฒนาจังหวัดสงขลาแล้ว ส่วนที่ถามว่าจะฟ้องกลับฝ่ายตรงข้ามหรือไม่นั้นขอให้ฝ่ายกฎหมายศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อน   

bigbikeprice

อยากเห็นคนดีๆ มาทำงานเพื่อชุมชนบ้าง