ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

โรคไทรอยด์เป็นพิษ

เริ่มโดย guupost, 16:46 น. 13 มี.ค 63

guupost



ต่อมไทรอยด์ นับเป็นต่อมไร้ท่อที่สำคัญของร่างกายตั้งอยู่บริเวณหน้ากล่องเสียง ลักษณะคล้ายกับผีเสื้อ ทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ 2 ชนิด ซึ่งมีบทบาทในการควบคุมการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย การผลิตฮอร์โมนนั้นจะถูกควบคุมด้วยต่อมใต้สมองอีกทอดหนึ่ง

ไทรอยด์เกินมีหลายสาเหตุ
- โรคคอพอก เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากภูมิคุ้มกันของร่างกายไปกระตุ้นให้ต่อมไทรอยด์หลั่งฮอร์โมนไทรอยด์มากผิดปกติ โรคนี้พบได้ในวัยกลางคน ช่วงอายุตั้งแต่ 20-40 ปี สามารถพบได้ทั้งในเพศชายและหญิง อาการที่พบได้แก่ คอพอกเนื่องจากการเพิ่มขนาดของต่อมไทรอยด์ ตาโปน อาจทำให้เยื่อบุตาแดง อักเสบ กลอกตาลำบากและมองเห็นภาพซ้อน
- ก้อนที่ต่อมไทรอยด์ ซึ่งก้อนเหล่านี้สามารถผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ได้เหมือนเนื้อเยื่อของต่อมไทรอยด์ปกติ
- ต่อมไทรอยด์อักเสบ เกิดจากต่อมไทรอยด์อักเสบชั่วคราวจากภูมิคุ้มกัน ซึ่งการอักเสบทำให้มีการหลั่งฮอร์โมนไทรอยด์ออกมาเพิ่มขึ้น สามารถพบได้ในสตรีหลังคลอดบุตรโดยไม่มีอาการปวด
- ต่อมไทรอยด์อักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส จะมีอาการปวดบริเวณต่อม ต่อมโต กดเจ็บ หลังจากการติดเชื้อดีขึ้นจะเกิดภาวะไทรอยด์ต่ำตามมาได้
- ทานยาลดระดับฮอร์โมนไทรอยด์มากเกินไป ทำให้ร่างกายมีฮอร์โมนสูงผิดปกติ

อาการของโรคไทรอยด์เป็นพิษเป็นยังไง
- กระสับกระส่าย นอนไม่หลับ
- อ่อนแรงโดยเฉพาะบริเวณต้นแขน ต้นขา เป็นเหตุให้ยกแขนหรือเดินขึ้นบันไดลำบาก
- มือสั่น
- ร้อนง่าย
- ใจเต้นเร็ว แรง
- อ่อนเพลีย
- บริโภคมาก น้ำหนักลด
- ลำไส้บีบตัวเร็ว ทำให้ถ่ายบ่อยหรือถ่ายเหลว

โรคไทรอยด์เป็นพิษวินิจฉัยได้อย่างไร
การตรวจระดับฮอร์โมนไทรอยด์ในเลือด เป็นวิธีเบื้องต้นในการตรวจว่าฮอร์โมนมากเกินหรือเปล่า จากนั้นจึงตรวจเพื่อหาสาเหตุต่อไปได้แก่ การทำไทรอยด์สแกน

วิธีการรักษามีอะไรบ้าง
- การใช้ยาประกอบด้วยยาลดการสร้างฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์และยาลดอาการใจสั่น  ระยะเวลาของการกินยาจะอยู่ที่ประมาณ 1-2 ปี ผู้ป่วยประมาณ30% สามารถรักษาจนหายขาดได้ ถ้าอาการเป็นน้อยโอกาสหายขาดจะสูงขึ้นเป็น50%-70% กรณีตัวโรคไม่สามารถควบคุมได้ด้วยยา อาจพิจารณารักษาด้วยการกลืนแร่หรือการผ่าตัดต่อไป ในคนป่วยที่ไม่รักษาด้วยวิธีดังกล่าวก็สามารถรับประทานยาต่อในระยะยาวก็ได้ การใช้ยาในระยะยาวมีข้อควรระวังในสตรีตั้งครรภ์ด้วยเหตุที่ยาไทรอยด์บางชนิดเป็นเหตุให้เกิดความพิการต่อทารก นอกจากนี้ต้องตรวจเม็ดเลือดขาวเพื่อติดตามภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำที่เป็นผลข้างเคียงที่สำคัญของยาอย่างเสมอ
- การกลืนแร่ไอโอดีน เป็นการใช้สารรังสีที่บรรจุเป็นแคปซูลหรือน้ำโดยต้องรับการดูแลในโรงพยาบาลในช่วงที่ได้รับสารรังสี เมื่อทานเข้าไปในร่างกายประมาณ 6-18 สัปดาห์สารนี้จะไปทำลายเนื้อเยื่อของต่อมไทรอยด์อย่างถาวรและมีความปลอดภัย ผู้ป่วยส่วนใหญ่รักษาเพียงครั้งเดียวแต่หากต่อมไทรอยด์มีขนาดใหญ่มากอาจจำเป็นต้องกลืนแร่มากกว่าหนึ่งครั้ง ในช่วง 3-7 วันหลังรับการรักษาอาจมีสารรังสีกระจายออกมาจากร่างกายจึงไม่ควรอยู่ใกล้ชิดเด็กหรือสตรีมีครรภ์ และไม่ควรตั้งครรภ์ในระหว่างที่รักษาด้วยวิธีนี้
- การผ่าตัด ในกรณีที่ไม่สามารถรักษาด้วย 2 วิธีข้างต้นได้ ผู้ที่มีปัญหาหลอดลมและทางเดินหายใจถูกกดเบียดโดยต่อมไทรอยด์ที่มีขนาดใหญ่หรือสงสัยมะเร็งของก้อนที่ต่อมไทรอยด์ โดยผ่าตัดเอาต่อมไทรอยด์ออก อย่างไรก็ตามอาจทำให้คนไข้มีระดับฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำและต้องบริโภคฮอร์โมนทดแทนหลังการผ่าตัด  การผ่าตัดอาจเอาต่อมพาราไทรอยด์ออกไปด้วยจะทำให้เกิดระดับแคลเซี่ยมในเลือดเสียสมดุล หรือมีเสียงแหบเนื่องจากผ่าตัดถูกเส้นประสาทที่มาเลี้ยงกล่องเสียง

ติดตามอ่านเนื้อหาของเรื่องไทรอยด์เป็นพิษต่อ หรืออ่านข้อเขียนสุขภาพดี ๆ อีกมากมายได้ที่
Website : https://www.honestdocs.co/hyperthyroidism