ผู้การฯสตูลสั่งขยายผลจับกุมวิทยุหนีภาษีหวั่นนำใช้ก่อเหตุร้าย

[ทีมงานบ้านเรา]

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    20 กุมภาพันธ์ 2555 17:17 น.    

สตูล - ผบก.ภ.จว.สตูล สั่งขยายผลการจับกุมวิทยุสื่อสารหนีภาษีจากประเทศเพื่อนบ้าน จำนวน 101เครื่อง ขณะเตรียมส่งไปขายใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หวั่นนำไปใช้ประกอบวัตถุระเบิดสร้างสถานการณ์ป่วน
       
       วันนี้ (20 ก.พ.) พล.ต.ต.นราศักดิ์ เชียงสุข ผบก.ภ.จว.สตูล สั่งการให้ผู้บังคับบัญชาตำรวจในทุกพื้นที่ของจังหวัดสตูลเร่งขยายผลการจับ กุมกลุ่มบุคคลที่ลักลอบซื้อวิทยุสื่อสารหนีภาษีในพื้นที่จังหวัดสตูล ภายหลังมีการจับกุมเครื่องวิทยุสื่อสารจำนวน 101 เครื่อง ที่นำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเตรียมนำไปส่งต่อให้ลูกค้าสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ หวั่นนำไปใช้ในสิ่งที่ผิดกฎหมาย อาทิ ชนวนระเบิด
       
       ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ธรรมนูญ ประยืนยง ผกก.สส.ภ.9 ได้สืบทราบว่ามีขบวนการค้าวิทยุสื่อสารหลบหนีภาษีนำเข้าวิทยุสื่อสารมาจาก ประเทศเพื่อนบ้าน และส่งขายในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงได้สนธิกำลัง ร.ต.ต.กฤษณพงศ์ บัวงาม รอง สว.สส.สภ.เมืองสตูล พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ออกสกัดจับ พบรถกระบะมิสซูบิชิสตาดาร์ สีแดง ทะเบียน กข.4547 สตูล ต้องสงสัย ขณะขับไปตามถนนยนตรการกำธร ผ่านสามแยกวัดหน้าเมือง ตำบลคลองขุด อำเภอเมืองสตูล
       
       จากการตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบวิทยุสื่อสารยี่ห้อทีวายที ซึ่งหลบหนีการจ่ายภาษีศุลกากร จำนวน 101 เครื่อง ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 500,000 บาท จึงได้เข้าตรวจยึดและจับกุมคนขับรถดังกล่าว ทราบชื่อคือ นายอิสมะแอ เจ๊ะดีแม อายุ 41 ปี ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสตูลดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร และ พ.ร.บ.วิทยุสื่อสาร โดยผู้ต้องหาสารภาพว่า รับจ้างขับรถไปส่งวิทยุสื่อสารดังกล่าวให้กับพ่อค้าในตลาดนัดชายแดนวัง ประจัน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล
       
       พล.ต.ต .นราศักดิ์ เชียงสุข ผบก.ภ.จว.สตูล กล่าวว่า จากการตรวจสอบที่มาที่ไปของวิทยุสื่อสารดังกล่าวพบว่า ได้ลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนนำมาขายในพื้นที่ชายแดนของจังหวัดสตูล และพบอีกว่ามีกลุ่มคนจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาหาซื้อกันจำนวนมาก โดยจะต้องสืบสวนหากลุ่มเครือข่ายผู้ซื้อขายให้แน่ชัดอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากตรวจสอบยังพบอีกว่า วิทยุเหล่านี้เป็นอุปกรณ์ที่กลุ่มผู้ก่อเหตุร้ายส่วนใหญ่นำไปใช้ในการประกอบ เป็นวัตถุระเบิด

[puiey]

ถ้านำไปใช้ก่อเหตุจริง สงสัยได้ตายกันอีกมากมายเลยทีเดียว