ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ดูแลพวงมาลัยรถยนต์อย่างไร? ให้ขับขี่ปลอดภัย อุ่นใจทุกการเดินทาง

เริ่มโดย Achana Jrs, 16:58 น. 14 ส.ค 63

Achana Jrs

หนึ่งในอุปกรณ์สำคัญของรถยนต์ที่หลายคนอาจหลงลืมไป เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้กันอยู่เป็นประจำและมองเห็นได้ง่ายจนดูเหมือนว่าแทบไม่ต้องดูแลรักษากันเป็นกรณีพิเศษ นั่นคือ พวงมาลัยรถยนต์ ที่เป็นอุปกรณ์สำคัญต่อการบังคับรถยนต์ให้ไปในทิศทางที่ผู้ขับขี่ต้องการ แล้วเราจะมีวิธีดูแลรักษาพวงมาลัยรถยนต์ได้อย่างไรบ้าง

ประเภทของพวงมาลัยรถยนต์

ในการออกแบบรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ นั้น นอกจากจะต้องมีรูปทรงที่โฉบเฉี่ยวสวยงามสะดุดตาและมีสมรรถนะในการขับขี่ที่ดีแล้ว ยังต้องคำนึงถึงการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงอีกด้วย โดยจะมีการนำเอามอเตอร์ไฟฟ้ามาช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ลงในหลายส่วน รวมไปถึง "ระบบพวงมาลัยเสริมแรง" หรือ "พวงมาลัยเพาเวอร์" โดยพวงมาลัยสามารถแบ่งออกได้เป็น4 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

1. พวงมาลัยรถยนต์รุ่นเก่า

เป็นพวงมาลัยที่ยังไม่มีระบบใด ๆ มาช่วย การหมุนพวงมาลัยในขณะที่รถจอดอยู่นิ่ง ๆ หรือเคลื่อนที่ช้า ๆ จะทำได้ลำบาก และต้องใช้กำลังแขนมาก เนื่องจากมีแรงต้านเกิดขึ้นระหว่างหน้าสัมผัสของยางกับพื้นถนน

2. พวงมาลัยเพาเวอร์แบบใช้แรงดันของน้ำมันไฮดรอลิก

เป็นพวงมาลัยที่แรงดันน้ำมันไปช่วยเสริมแรงในขณะที่ผู้ขับหมุนพวงมาลัย และเป็นระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ที่คุ้นเคยกันมากที่สุด โดยแรงดันของน้ำมันไฮดรอลิกนี้ได้มาจากการแบ่งกำลังของเครื่องยนต์ไปช่วยหมุนปั๊มน้ำมันไฮดรอลิกเพื่อสร้างแรงดัน แต่ก็ทำให้เครื่องยนต์มีภาระในการทำงานเพิ่มขึ้นและกินน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้นเช่นกัน

3. พวงมาลัยเพาเวอร์แบบใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวช่วย

มักพบได้ในรถอีโคคาร์หรือรถขนาดเล็ก มีข้อดีคือช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง บำรุงรักษาง่าย และมีค่าใช้จ่ายต่ำ เพราะมีชิ้นส่วนไม่มาก ประสิทธิภาพในการทำงานของพวงมาลัยขึ้นอยู่กับระบบควบคุมหรือปรับน้ำหนักพวงมาลัย โดยเฉพาะเมื่อรถยนต์ต้องใช้ความเร็วสูงหรือต้องคอยแต่งพวงมาลัยให้ตรงทางอยู่ตลอดเวลา พบได้บ่อยในพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้ารุ่นแรก ๆ แต่ในรถรุ่นใหม่จะมีระบบควบคุบน้ำหนักของพวงมาลัยตามความเร็วของรถที่ดีขึ้น การตอบสนองของพวงมาลัยมีความแม่นยำใกล้เคียงกับพวงมาลัยเพาเวอร์น้ำมัน

4. พวงมาลัยพาวเวอร์แบบมอเตอร์ไฟฟ้าควบคู่ปั๊มน้ำมันไฮดรอลิก

มักพบได้ในระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ของรถยนต์ซีดานขนาดใหญ่ เป็นแบบลูกผสมที่รวมเอาข้อดีของระบบพวงมาลัยแบบไฟฟ้าและไฮดรอลิกเข้าไว้ด้วยกัน คือ ยังคงใช้แรงดันจากน้ำมันไฮดรอลิกในการเสริมแรงขณะหมุนพวงมาลัย แต่เปลี่ยนวิธีการสร้างแรงดันน้ำมันไฮโดรลิกจากการใช้กำลังของเครื่องยนต์มาเป็นการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าหมุนปั๊มน้ำมันไฮดรอลิกแทน แต่ระบบเพาเวอร์แบบนี้มีข้อด้อยตรงเรื่องการบำรุงรักษาที่ยุ่งยากและมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าระบบพวงมาลัยไฟฟ้าแบบให้มอเตอร์ไฟฟ้า
ขับรถอย่างไร ดูแลรักษาพวงมาลัยให้ใช้งานได้นาน

สำหรับคำแนะนำในการใช้งานระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ทั้งแบบไฟฟ้าและน้ำมันไฮดรอลิกจะไม่แตกต่างกัน คือ

    1. ไม่ควรหมุนพวงมาลัยไปทางซ้ายสุด หรือขวาสุด ถึงแม้จะเป็นการเลี้ยวเพื่อกลับรถก็ตาม หรือถ้าหมุนไปจนสุดแล้วก็ควรคืนพวงมาลัยลงมาเล็กน้อย เพื่อลดการทำงานของมอเตอร์ หรือแรงดันของน้ำมันไฮดรอลิกในระบบ

    2. อย่าพยายามหมุนพวงมาลัยเพื่อปีนข้ามฟุตปาธหรือขอบทาง เพราะทำให้มอเตอร์ทำงานหนักเกิดความร้อนสูงจนมอเตอร์ไหม้ได้ หรือทำให้ท่อน้ำมันเพาเวอร์รั่ว เนื่องจากปั๊มต้องสร้างแรงดันสูงมากกว่าปกติ

    3. ขณะเลี้ยวข้ามสิ่งกีดขวาง ควรให้รถได้เคลื่อนที่เล็กน้อยก่อน แล้วค่อยหมุนพวงมาลัยเพื่อช่วยลดความฝืดระหว่างยางกับถนน รวมทั้งช่วยลดการทำงานของระบบเพาเวอร์

    4. หลีกเลี่ยงการขับลุยน้ำท่วม และเส้นทางขรุขระ เพื่อรักษาสภาพรถ

    5. ภายหลังจอดรถเสร็จแล้ว ควรหมุนพวงมาลัยให้ล้อตั้งตรง ยกเว้นเฉพาะการจอดบนทางลาดชัน ที่ควรหมุนล้อหันเข้าหาขอบทางเพื่อป้องกันรถไหล

แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในการดูแลบำรุงรักษาอุปกรณ์ต่างๆ ของเครื่องยนต์ แต่หากปฏิบัติแล้วจะช่วยให้อุปกรณ์ต่างๆ ลดความเสียหาย และมีอายุการใช้งานที่นานขึ้น ก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถได้มากขึ้นเช่นกัน

ขอบคุณข้อมูลจากHengDirect โบรกเกอร์ประกันรถยนต์ออนไลน์  www.hengdirect.co.th

Ruth Ploysupa

บริการดีๆจาก ADB ประกันรถยนต์ ราคาถูกมีให้เลือกมากมาย ประกันชั้น 1 ประกันรถยนต์ 2+ ที่นี่เขามีหมด