ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

หูดหงอนไก่ โรคไม่ร้ายแรง แต่ทำลายความมั่นใจในการใช้ชีวิตคู่

เริ่มโดย เอยู, 14:30 น. 24 ก.ย 63

เอยู


หูดหงอนไก่ โรคทางเพศสัมพันธ์ที่แม้อาการจะไม่ร้ายแรง แต่ก็มักสร้างความรำคาญหรือทำให้รู้สึกวิตกกังวลใจและขาดความไม่มั่นใจในการใช้ชีวิตคู่ หูดหงอนไก่เป็นโรคที่ค้นพบมานานแต่ยังมีการติดต่อและมีผู้เข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โรคนี้คืออะไร มีปัญหาต่อการใช้ชีวิตคู่อย่างไร เรามีคำตอบมาให้เช่นเคยครับ

รู้จักหูดหงอนไก่
หูดหงอนไก่ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า หูดอวัยวะเพศหรือหูดกามโรค เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่งมาจากไวรัส ฮิวแมนแปปิโลมาไวรัส(HPV) สามารถเป็นได้ทุกวัยตั้งแต่วัยเด็กถึงวัยผู้ใหญ่ แต่ที่พบมากที่สุดคือช่วงอายุ 16-25 ปี และมักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย การติดต่อหากเป็นในวัยเด็กก็มักจะติดต่อทางการคลอดด้วยวิธีธรรมชาติคือผ่านทางช่องคลอดจากแม่ที่เป็นหูดหงอนไก่ หากเป็นในวัยผู้ใหญ่จะติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งโรคนี้มักเกิดขึ้นในบริเวณอับชื้นโดยเฉพาะที่อวัยวะเพศ

อาการของหูดหงอนไก่
หลังจากที่ได้รับเชื้อมา ผู้ป่วยบางรายอาจไม่มีอาการเลย  ซึ่งกว่าจะมีอาการก็อาจกินเวลาหลายปี หูดหงอนไก่มีตั้งแต่ขนาดเล็กและเล็กมากจนตามองไม่เห็น ไปจนถึงเก้อนเนื้อขรุขระคล้ายดอกกระหล่ำ อาจมาอุดกั้นช่องคลอดท่อปัสสาวะหรือทวารหนัก มีอาการคันระคายเคือง บางรายมีเลือดออกจากก้อนเนื้อ มีตกขาวหรือแสบร้อนที่อวัยวะเพศ โดยตำแหน่งที่พบหูดหงอนไก่ได้มาก หากเป็นผู้หญิงมักพบที่ ปากช่องคลอด ปากมดลูก ผนังช่องคลอด ทวารหนักหรือบริเวณฝีเย็บ ในผู้ชายมักพบที่ตำแหน่ง หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ บริเวณรูเปิดของท่อปัสสาวะหรือบริเวณรอบทวารหนัก หากเป็นทารกที่คลอดผ่านทางช่องคลอดก็จะพบว่ามีมีสิ่งอุดกั้นกล่องเสียงและเสียงแหบ

สาเหตุของการเกิดโรคและการติดต่อ
หูดหงอนไก่ เกิดจากการติดเชื้อโรคฮิวแมน แปปิโลมาไวรัส ซึ่งไวรัสชนิดนี้ยังสามารถทำให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูกได้อีกด้วย โดยมีการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่ไม่สามารถติดต่อได้โดยการสัมผัส การกอด การจูบ หรือการใช้ของใช้ร่วมกัน 

ปัจจัยเสี่ยงมีอะไรบ้าง
โรคหูดหงอนไก่ เป็นโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ดังนั้นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคนี้จึงเกิดจากการที่ผู้ป่วยมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย มีคู่นอนหลายคน เปลี่ยนคู่นอนบ่อย ชอบรักร่วมเพศ และการมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนที่เป็นโรคนี้



การวินิจฉัยโรค
การวินิจฉัยโรค หูดหงอนไก่ สามารถทำได้ด้วยการ ดูจากลักษณะของโรคเช่น ตุ่มนูนที่ยื่นออกมา ซึ่งลักษณะของโรคของหูดหงอนไก่มี 4 แบบด้วยกันคือ 

ลักษณะขรุขระคล้ายดอกกะหล่ำ 
ลักษณะตุ่มเล็กมีขี้ไคลคลุม 
ลักษณะตุ่มสีเนื้อ
ลักษณะเป็นตุ่มนูนแบน หรือผู้ป่วยบางรายอาจเป็นลักษณะตุ่มนูนหลาย ๆประเภทปะปนอยู่พร้อม ๆ กันก็ได้
การรักษาหูดหงอนไก่
การรักษาหูดหงอนไก่ ส่วนใหญ่พบว่าการรักษาให้หายขาดได้ ขึ้นกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้ป่วยและการมีภูมิคุ้มกันต่อโรคนี้ ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาในการรักษา ส่วนการรักษาเพื่อบรรเทาอาการให้ดีขึ้น แพทย์จะใช้ยาทาประเภทต่าง ๆ ดังนี้ 

1.สารละลายกรดเข้มข้น ยาประเภทนี้จะออกฤทธิ์ทำให้เซลล์ของหูดหงอนไก่ตายและจะหลุดออกภายใน 2-3 วัน วิธีนี้แพทย์จะต้องเป็นผู้ทายาให้เท่านั้น

 2.ยากระตุ้นภูมิคุ้มกันกับยายับยั้งการแบ่งเซลล์ ซึ่งยาประเภทนี้ผู้ป่วยสามารถใช้ทาเองได้ 

3.ใช้วิธีอื่น ๆคือ การจี้ไฟฟ้า จี้เย็น การตัด ซึ่งการรักษาจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ว่าจะต้องใช้วิธีการใด 

ภาวะแทรกซ้อนผลกระทบและการเกิดซ้ำ
1. หูดหงอนไก่ มักสร้างความรำคาญ ความน่ากังวล ซึ่งโรคนี้ไม่ทำให้เป็นมะเร็ง แต่การติดเชื้อไวรัส ก็มีโอกาสติดได้พร้อม ๆกันหลายสายพันธ์ ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ก็ย่อมทำให้มีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะเกิดเป็นมะเร็งปากมดลูกได้
สำหรับผู้หญิง หากเป็นหูดหงอนไก่ขณะตั้งครรภ์ ก็อาจทำให้ผนังมดลูกขยายตัวได้ไม่เต็มที่ อาจทำให้มีเลือดออกได้ และหากมีขนาดใหญ่ก็อาจทำให้ขัดขวางการคลอดซึ่งอาจต้องใช้วิธีผ่าตัดแทนการคลอดแบบธรรมชาติ และทารกที่คลอดออกมามีโอกาสที่จะติดโรคนี้จากแม่ หรืออาจพบว่าทารกเกิดหูดหงอนไก่ ที่บริเวณลำคอ คอหอย หลอดลม ซึ่งทำให้ทารกหายใจลำบากอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ 
การเกิดซ้ำ หลังการรักษาโรคนี้ในผู้ป่วยร้อยละ 30-70% สามารถเกิดขึ้นซ้ำ ๆได้ภายในเวลา 6 เดือน ซึ่งก็มาจากหลายสาเหตุ เช่น รักษาไม่หายขาดเนื่องจากการใช้ยาหรือการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่เป็นโรคนี้
วิธีป้องกันโรคหูดหงอนไก่
ปัจจุบันมีวัคซีนที่สามารถป้องกันการเกิดโรคนี้ได้ ซึ่งเป็นวัคซีนที่สามารถป้องกันไวรัสได้ 4 สายพันธ์ ที่ามารถใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่อย่างไรก็ตามการป้องกันการเกิดหูดหงอนไก่ที่ดีที่สุด คือ ไม่สำส่อนทางเพศ รักเดียวใจเดียว ก่อนมีเพศสัมพันธ์ควรสวมถุงยางอนามัย จะลดโอกาสการติดเชื้อนี้ได้ ในผู้ที่เป็นพาหะและไม่แสดงอาการ

การได้รับเชื้อไวรัสพบว่าชายหญิงในวัยเจริญพันธ์ สามารถกำจัดเชื้อนี้ไปได้เองภายใน 2 ปี ยกเว้นในผู้ที่มีภูมิต้านทานน้อยเช่น ผู้ป่วยโรคเอดส์ หญิงตั้งครรภ์ และถึงแม้ว่าผู้ที่ได้รับเชื้อไวรัสหูดหงอนไก่จะไม่มีอาการใด ๆเลย แต่ก็สามารถติดต่อไปสู่ผู้อื่นได้ ซึ่งเมื่อทราบว่าเป็นโรคนี้แล้วก็ควรรีบรักษา และป้องกันด้วยการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำอีก


ขอบคุณบทความจาก https://aufarm.shop/genital-warts-sexual-health/
ขอบคุณเนื้อหา และสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่: https://aufarm.shop/