ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

จดหมายจากคุก

เริ่มโดย สุรชัย อวตาร, 23:22 น. 02 มี.ค 55

สุรชัย อวตาร

กราบเรียน
ท่าน ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ท่านพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

อย่าเป็นแม่ทัพที่ทำลายนักรบของตนเองเพื่อเอาใจข้าศึก
การเคลื่อนไหวของ นปช. ภายใต้การสนับสนุนของพรรคเพื่อไทย
ตั้งแต่ต้นปี พศ.2552เป็นต้นมามีเป้าหมายอยู่ที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
โดยมีจุดหมายอยู่ที่การยุบสภา แล้วจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่และพรรคเพื่อไทย
จะได้รับชัยชนะและจัดตั้งรัฐบาล

ดังนั้นการจัดชุมนุมใหญ่ในเดือนเมษายน 2552
ที่มีการล้อมทำเนียบรัฐบาลก็เพื่อบรรลุจุดมุ่งหมาย
เชื่อถือว่าเป็นยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทยและ นปช.
ภายใต้การนำของสามเกลอแต่ถูกล้อมปราบสูญเสียเลือดเนื้อและชีวิต
ถูกจับกุมมากมาย จนบัดนี้คดีก็ยังไม่สิ้นสุด

แต่พรรคเพื่อไทยและ นปช.
ก็ไม่เปลี่ยนเป้าหมายและยุทธศาสตร์การต่อสู้
จนถึงปี พศ.2553 ก็จัดการเคลื่อนไหวใหญ่เรียกยุทธการนี้ว่า
"ลาวาแดง" คือการระดมคนเสื้อแดงทั้งประเทศเข้าสู่กรุงเทพฯ
ในเดือน มีนาคม เพื่อกดดันให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยุบสภา
แต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นคนประเภทเด็กดื้อ อวดฉลาด
รวมทั้งคนที่เป็นเสนาธิ-การอยู่เบื้องหลังก็เช่นเดียวกันอ่านเกมพลาด
จึงแทนที่จะหาทางออกตามวิถีทางการเมือง
ที่เรียกคะแนนให้กับรัฐบาลตนเองอย่างท่วมท้นเป็นพระเอกในสายตาคนทั่วโลก

แต่กลับตัดสินใจใช้แผน 6 ตุลาคม 2539 หวังปราบปราม ไล่ล่า เช็คบิล ให้สิ้นซาก
และขบวนการนักศึกษาประชาชนที่ถูกกระทำในวันที่ 6 ตุลาคม 2539
จึงถือว่าเป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
และกลุ่มอำนาจที่อยู่เบื้องหลัง เพราะสภาพการณ์ของโลกของสังคมไทยเปลี่ยนไป
จากเมื่อสามสิบกว่าปีก่อนมาก และคู่ต่อสู้ของเขาก็ไม่ใช่ฝ่ายซ้ายเหมือนแต่ก่อน
ดังนั้นถึงจะถูกจับกุม ปราบปราม เข่นฆ่า
ไล่ล่าจับกุมคุมขังจนตกอยู่ในสถานการณ์พ่ายแพ้ก็ชั่วขณะหนึ่ง
แต่กลับฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
จนรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์และกลุ่มอำมาตย์คาดไม่ถึง
ดังนั้น

1 การลากยาวทอดเวลาไม่รีบยุบสภา
ที่คิดว่าจะได้เปรียบกลับกลายเป็นช่วยให้ฟื้นจากอาการมึนงง
คนเสื้อแดงกลับมาด้วยศักยภาพมากกว่าเดิม
ถึงวันนี้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และกลุ่มอำมาตย์คงนึกออกแล้วว่า
ถ้าตัดสินใจยุติการปราบปรามเข่นฆ่า วันนี้ก็ยังคงได้เป็นรัฐบาลอยู่
ด้วยภาพที่สวยงามหรือหากเลือกเหตุการณ์ 19 พฤษภาคม 2553
รีบยุบสภาไม่เกินเดือนสิงหาคม 2553 ที่พรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงยังไม่ฟื้น
เวลานี้รัฐบาลก็น่าจะเป็นของพรรคประชาธิปัตย์ แกนนำ นปช.หลายคน
ก็ยังคงอยู่ในคุกไม่ได้เป็น ส.ส. ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ก็คงจะไม่ได้เป็น รมช. แต่ยังเป็น น.ช. อยู่

โอกาสที่ผ่านไปแล้วเอาคืนไม่ได้แล้ว
เวลานี้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี
สำหรับพรรคเพื่อไทยและ นปช. นับว่าบรรลุจุดมุ่งหมายทางยุทธศาสตร์
ตามที่กำหนดแล้ว แต่ถามว่า แล้วมีอำนาจอย่างแท้จริงหรือไม่
สามารถแก้ไขปัญหาของประเทศได้อย่างถาวรหรือไม่
เอาแค่คนเสื้อแดงที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยที่ถูกคุมขังอยู่ในคุก
ก็ไม่สามารถช่วยเหลือออกไปได้ เทียบกับคนเสื้อเหลืองที่ยึดทำเนียบรัฐบาล
ยึดสนามบินสุววรรณภูมิ ที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ช่วยเหลือ
จนทุกวันนี้ยังไม่มีใครติดคุกแม้แต่คนเดียว
แล้วเวลานี้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยออกมาข่มขู่คนเสื้อแดงที่เคลื่อนไหวให้มีการแก้ไข
ประมวลกฏหมายอาญามาตรา 112 จะให้มองว่าอย่างไร ฉลาดหรือโง่กันแน่
หรือเข้าใจว่าการเป็นรัฐบาลพรรคเดียวเที่ยวนี้เป็นที่สุดแล้ว เป็นชัยชนะตลอดการแล้ว
สามารถตกลงปลงใจร่วมผลประโยชน์กับฝ่ายตรงข้ามได้แล้ว
ไม่จำเป็นต้องมีมวลชนสนับสนุนอีกแล้ว
หรือจะอธิบายได้ว่านี่เป็นเพียงแผนลับลวงพลางให้ฝ่ายตรงข้ามตายใจเท่านั้น

ไม่ว่าจะอธิบายอย่างไรเวลานี้คนเสื้อแดงจำนวนหนึ่ง
โดยเฉพาะคนเสื้อแดงระดับคุณภาพที่ตาสว่างแล้ว
มีความรู้สึกที่เคลือบแคลง ต่อรัฐบาลพรรคเพื่อไทยไปมาก
จึงควรที่ผู้บริหารพรรคเพื่อไทยระดับคุณภาพจะออกมากู้ศรัทธากลับคืน
อย่าปล่อยให้คนประเภทฉวยโอกาสกระแสพรรค
เที่ยวสามหาวก้าวร้าว ต่อมวลชนที่สนับสนุนพรรคชนิด
ไม่กลัวความตายไม่ใช่มุดหัวทุกทีที่มีการยึดอำนาจ


2 ต้องศึกษาทบทวนบทเรียนในประวัติศาสตร์
ถึงความฉลาดของรัฐไทยในการเอาชนะคอมมิวนิสต์
ขณะที่รอบบ้านเป็นคอมมิวนิสต์หมดแล้ว ประเทศไทยกำลังจะเป็นโดมิโนตัวต่อไป
แต่ด้วยความชาญฉลาดจึงเดินทางไปเปิดสัมพันธภาพกับประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
ผู้นำหลักของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย(พคท) เป็นแผนแยกสลายทำลายทีละส่วน
จนในที่สุด พคท. ที่มีผู้นำเป็นคนแก่บ้องตื้น
มองพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นเทพแล้วยอมตามทุกอย่าง
กระทั่งเป็นศัตรูกับเวียดนามตามพรรคคอมมิวนิสต์จีน
สุดท้ายถูกทอดทิ้งเพราะจีนเห็นประโยชน์กับรัฐไทยมากกว่าอุดมการณ์
พคท. จึงล่มสลาย เวลานี้ก็ยังไม่หายบ้องตื้น แบ่งเป็นสองฝ่าย
นั่งเถียงกันเรื่องวิเคระห์สังคมไทย
คงนั่งเถียงกันจนแก่ตายทั้งสองฝ่ายไม่ได้ต่อสู้อะไร

แผนนี้กำลังใช้กับรัฐบาลไทยพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงปัจจุบัน
นั่นคือแผนแยกสลายทำลายทีละส่วน
โดยแสร้งทำดีปรองดองกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทยโดดเดี่ยวทำลายคนเสื้อแดงคุณภาพ
ก่อนค่อยสลาย "แดงแม่ยก" เปลี่ยนเป็น"แดงจงรักภักดี" แบบขวัญชัย ไพรพนา
เมื่อหมดมวลชนเสื้อแดงก็เชือดพรรคเพื่อไทย
ตอนนี้ก็คือการอี๋อ๋อระหว่างอำมาตย์ใหญ่กับนายกฯปูก็เพื่อบรรลุแผนนี้

นายกฯปูนั่นก็เหมือนนกกระจิบหัดบินเมื่อเผชิญเหยี่ยวใหญ่ที่ช่ำชองย่อมไม่เท่าทันหรอก
ดังนั้นการที่คนในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ออกมาข่มขู่คุกคามและโดดเดี่ยว
คนเสื้อแดง ที่เคลื่อนไหว ให้แก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
และผู้ต้องคดีตามมาตรนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับแม่ทัพที่ทำลายนักรบของตัวเอง
เพื่อเอาใจข้าศึก วันใดที่หมดนักรบแม่ทัพจะถูกฆ่าอย่างง่ายดาย
หวังว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทย คงฉลาดพอที่จะเท่าทันในแผนนี้
คนเสื้อแดง

ขอแสดงความนับถืออย่างยิ่ง

สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์

28 กุมภาพันธ์ 2555

ควายตัวหนึ่ง

สมน้ำ้้หน้า เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล

คุณหลวง

ถ้าเรื่องนี้เป็นของสุรชัย แซ่ด่านจริงนะครับ แต่ถ้าไม่ใช่ก็ขอพูดกับคุณอวตารก็แล้วกัน

    คือ ผมอยากให้พวกคุณหัดเล่นหมากรุกให้เป็นนะครับ เล่นบ่อยๆจะเข้าใจเกมการเมืองมากขึ้นได้กระมัง เบี้ยตัวเล็กๆอย่าคิดว่าตัวเองสำคัญมากเลยครับ

    การเมืองคือการแย่งชิงอำนาจ ผู้นำสามารถใช้อุบายทุกอย่างเพื่อตัวเอง การที่จะหาความจริงใจจากคนพวกนี้นั้นเป็นเรื่องยากมากๆครับ เพราะใครๆก็ต้องรักษาตัวเองก่อน บางคนสำคัญตัวเองมากคิกว่าเป็นที่ไว้วางใจของนาย ตอนยังมีประโยชน์ ใช่ครับ แต่ไม่ใช่ตลอดไป

    แปลกใจทำไมมี ทำไมต้องปฏิวัติซ้ำแล้วซ้ำเล่า แปลกใจทำไมมี ที่รัฐธรรมนูญเป็นแค่เครื่องมืออำนาจ ไม่เคยศักดิ์สิทธิ์ต่อคนเหล่านี้ แปลกใจทำไม เมื่อน้องรักเนวินต้องทิ้งนายทักษิณ ทำไมทักษิณต้องทิ้งสมัคร ทำไมมาร์คต้องรักเนวิน ทำไมเติ้งจึงทิ้งหลานเนวินได้ลงคอแค่ข้ามคืน ฯลฯ

    เกมเหล่านี้ ต้องแลกมากับทุกๆอย่าง แพ้ก็อย่าร้องสิ ถ้าแน่จริงก็สู้กันต่อไป ใครมีอุบายมีอะไรงัดมาใช้สิ ประชาชนหรอกที่รับผลกระทบมากที่สุด มิใช่ใคร มิใช่ท่าน ประเทศชาติที่บรรพบุรุษสร้างมาด้วยเลือดเนื้อชีวิตอย่างกล้าหาญหรอกที่เจ็บที่สุด มิใช่ใคร

    เพื่อรักษาอำนาจตนใครจะอยากเจ็บตัวกับเบี้ยตัวหนึ่ง หากพลาดท่าวันหนึ่งก็คลายใจกันได้อยู่ดีกับประโยชน์จัดสรรแล้วเอามาใช้งานใหม่

    ดูซอดองโย จูมง สิครับ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเรื่องอำนาจโดยตรง น่าจะรู้ดีขึ้น ทำใจได้ง่ายขึ้น เทรนด์เกาหลีก็ยังไม่ตก แม้แต่ทงอีที่เพิ่งจบไปไม่นานก็เป็นเรื่องการแย่งชิงอำนาจทั้งสิ้น

    "ศึกนอกที่ว่าใหญ่ ไม่เคยร้ายเท่าศึกใน"

    ประชาธิปัตย์ไม่มีน้ำยาจะชนะการเลือกตั้งหรอก หากยังเป็นอย่างนี้ แม้เสียงในภาคใต้ยังจะลดลงด้วยซ้ำไป เพราะการทำงานไม่้เข้าตาสักเท่าไหร่ สส.ยิ่งไม่้องพูดถึง ผลงานไม่เคยมีให้เห็น แล้วจะกลัวอะไร

    แต่ประชาธิปัตย์ก็มีดี การเป็นฝ่ายค้านสามารถทำให้รัฐบาลเจ็บจังๆได้เสมอ ก็ต้องแก้เกมกันเอง

ที่สำคัญคือ คุมพวกกันเองให้ได้ก็แล้วกัน

ผมสงสารท่านที่ต้องมาเครียดมาเป็นหมากเดินเกมให้เขาจนตาย ไม่คลายใจตัวเองออกมาให้ได้ ถอยออกมามีความสุขกับชีวิตเสียบ้างก็ดีนะครับ แต่การเกิดมาเป็นทาสทางวิญญาณเขาสักครั้งทั้งชีวิตก็มีความสุขไปอีกแบบกระมัง

ผมมองเรื่องเหล่านี้เหมือนหนัง เหมือนดูจูมง สนุก กลเกมน่าศึกษา น่าติดตาม แต่ขี้เกียจสนใจมาก เพราะหาสาระยาก

    เหลือแต่ความรักที่ผมมีกับสถาบันพระมหากษัตริย์ กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์นี้ ผมถวายใจเพื่อติดตามรับใช้พระองค์ท่านไปทุกชาติจนกว่าถึงที่สุดแ่ห่งวัฏฏะของพระองค์ท่าน

    ผมศรัทธาพระองค์ท่านเพราะการทรงงานเพื่อประชาชนอย่างทุ่มเททั้งชีวิต มิใช่เพราะความกลัว หรือความโง่แบบที่บางคนกล่าวหาคนที่จงรักพระองค์ท่านแบบนั้น และคนไทยเกือบทั้งหมดคงซาบซึ้งดีกับน้ำพระทัยของพระองค์

    อย่าเอาสถาบันมาเล่นเกมการเมือง อย่าคิดทำลายสถาบัน เพราะผมคนหนึ่งที่จะไม่ยอมเป็นเด็ดขาด หากผมตายไปแล้วผมก็จะยังอยู่เพื่อปกป้องพระองค์ท่านแน่นอน

    อันนี้ขอร้องทุกฝ่ายนะครับ อย่าพยายามสร้างประเด็นกระทบพระองค์ท่านเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตน

ขอบคุณครับ
สิ่งที่ไม่เหลือคือ  ความสงสัยในวิถีตน
สิ่งที่เหลือคือ  เดินทางต่อไป และต่อไป

wareerant

พูดเรื่องการเมืองทีไร ผมโมโหคณะราษฎร์ทุกที ถ้าไม่ยึดอำนาจ ประเทศเราคงสงบสุขกว่านี้