ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ความรู้ทั่วไปของ กองทัพเรือไทย

เริ่มโดย wm5398, 17:36 น. 17 ก.พ 64

wm5398

กองทัพเรือไทย หรือ ราชนาวีไทย เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบต่อการปฏิบัติการทางทหาร ด้านทะเล ลำน้ำ และพื้นที่บริเวณชายฝั่งของประเทศไทย ซึ่งกองทัพเรือจะมีจำนวนกำลังพลประจำการเป็นลำดับ 2 รองลงมาจากกองทัพบก โดยจะมีเรือรบปฏิบัติการกว่า 74 ลำ อากาศยานกว่า 90 เครื่อง และยังมีกำลังรบทางบกอีกด้วย

นอกจากนี้กองทัพเรือยังมีพื้นที่ปฏิบัติการหลักอยู่ในอ่าวไทย และทะเลอันดามันตามแนวเขตแดนระหว่างประเทศในทะเลมีความยาวกว่า 1,680 ไมล์ และตรงแนวชายฝั่งความยาวกว่า 1,500 ไมล์ โดยหน่วยต่างๆในสังกัดกองเรือนั้นมีลักษณะโครงสร้างที่คล้ายคลึงกับกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา

ประวัติแบบย่อของกองทัพเรือไทย
กองทัพเรือไทยนั้นมีจุดกำเนิดควบคู่มากับการสร้างอาณาจักรไทยเลยก็ว่าได้ เริ่มตั้งแต่ในสมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี ซึ่งในกองทัพไทยช่วงสมัยเดิมนั้นมีเพียงทหารเหล่าเดียว ไม่ได้มีการแบ่งแยกออกเป็นกองทัพบก กองทัพเรือ หรือกองทัพอากาศ แบบในปัจจุบัน โดยหากตัวยาตราทัพไปทางบกก็จะเรียกว่าทัพบก หากยาตราทัพไปทางเรือก็เรียกว่าทัพเรือ เป็นเหตุให้การจัดระเบียบการปกครองบังคับบัญชากองทัพไทยในยามปกตินั้นยังไม่มีแบบแผนที่แน่นอน และในยามศึกสงครามได้ใช้ทหารทัพบกกับทัพเรือรวมกัน ส่วนในการยาตราทัพเพื่อทำศึกสงครามภายในอาณาจักรหรือนอกอาณาจักร บางครั้งก็มีความจำเป็นที่ต้องใช้เรือเป็นพาหนะในการลำเลียงทหาร เหตุเพราะเรือนอกจากจะสามารถลำเลียงเสบียงอาหารได้คราวละมากๆแล้ว ยังสามารถลำเลียงอาวุธหนักต่างๆได้อย่างบเช่น ปืนใหญ่ หรืออื่นๆ ผ่านทางเรือไปได้ง่ายและรวดเร็วกว่าทางบก ด้วยความสะดวกและรวดเร็วนี้จึงนิยมยกทัพไปทางเรือจนสุดทางน้ำ แล้วจึงค่อยยกทัพขึ้นไปทางบก โดยกิจการทหารเรือดำเนินไปเช่นนี้จนถึงสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์

พ.ศ. 2394 กิจการทหารเรือเริ่มแบ่งฝ่ายออกมาชัดเจน และแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ทหารเรือวังหลวง (ทหารมะรีนสำหรับเรือรบ) ทำการขึ้นตรงกับสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ สมุหพระกลาโหม และทหารเรือวังหน้า ทำการขึ้นตรงกับพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว

ต่อมาในวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2476 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อกรมทหารเรือเป็นกองทัพเรือ เพื่อช่วยให้สอดคล้องกับการเรียกชื่อส่วนรวมของทหารบกว่ากองทัพบก และขึ้นตรงต่อกระทรวงกลาโหม โดยจะแบ่งส่วนราชการออกเป็น 4 ส่วนด้วยกัน คือ กรมเสนาธิการทหารเรือ, กองเรือรบ, สถานีทหารเรือกรุงเทพ, กรมอู่ทหารเรือ, กรมสรรพาวุธทหารเรือ และกรมอุทกศาสตร์ เป็นต้น

บทบาทของกองทัพเรือในปัจจุบัน
        - การปฏิบัติการทางทหาร (Military Role) คือ การปฏิบัติการทางเรือเพื่อการป้องกันประเทศในรูปแบบต่างๆ ตามสถานการณ์ที่กระทบต่ออำนาจอธิปไตยและเอกราชของประเทศ ซึ่งจำเป็นต้องใช้กำลังทางเรือที่เข้มแข็ง ปฏิบัติการด้วยความเฉียบพลัน รุนแรง และเด็ดขาด
        - การรักษากฎหมายและช่วยเหลือ (Constabulary Role) คือ การรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล การรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ การรักษากฎหมายตามที่รัฐบาลมอบอำนาจ ให้ทหารเรือเป็นเจ้าหน้าที่รวม 28 ฉบับ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือประชาชนและการพัฒนาประเทศ
        - การสนับสนุนกิจการระหว่างประเทศ (Diplomatic Role) คือ การสนับสนุนการดำเนินนโยบายและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของรัฐบาล และใช้หรือแสดงกำลังเพื่อสนับสนุนการเจรจาต่อรอง เมื่อมีการขัดกันในผลประโยชน์ของชาติหรือเหตุการณ์วิกฤติที่กระทบต่อผลประโยชน์ของชาติโดยตรง

ภารกิจของกองทัพเรือ
ภารกิจของกองทัพเรือ สามารถสรุปออกมาเป็นข้อๆได้ดังนี้
        1. เตรียมกำลังกองทัพเรือและป้องกันราชอาณาจักร
        2. รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล
        3. พิทักษ์รักษาสถาบันพระมหากษัตริย์
        4. สนับสนุนการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ
        5. สนับสนุนการพัฒนาประเทศ และช่วยเหลือประชาชน

หน้าที่กองทัพเรือ
        - การปกป้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
        - การรักษาสิทธิและอธิปไตยของชาติทางทะเล
        - การคุ้มครองและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล
        - การดำรงการคมนาคมทางทะเลให้ได้อย่างต่อเนื่อง
        - การช่วยเหลือและสนับสนุนการป้องกันอธิปไตยทางบก
        - การสนับสนุนการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ
        - การสนับสนุนการพัฒนาประเทศและช่วยเหลือประชาชน

คุณสมบัติทหารเรือไทย
คุณสมบัติทหารเรือไทย มีสิ่งสำคัญหลักๆอยู่ทั้งหมด 5 ประการ ได้แก่
        1. มีความรู้
               - จะต้องขวนขวายหาความรู้และฝึกฝนตนเองอยู่เสมอ
               - รู้จักถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้อื่น
               - รู้จักใช้ความรู้ให้เป็นประโยชน์
         2. เป็นผู้นำทางทหาร
               - มีลักษณะท่าทางองอาจสมเป็นทหาร และมีความ เข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ
               - มีระเบียบวินัย
               - มีความสำนึกในหน้าที่ กล้าตัดสินใจ และรับผิดชอบ
               - มีมนุษยสัมพันธ์ดี
               - มีจิตใจแน่วแน่ไม่ท้อถอย
               - มีความอดทนพากเพียรและกระตือรือร้น
               - มีความริเริ่ม
               - มีความเป็นธรรม
               - มีไหวพริบ
         3. มีความซื่อสัตย์และความจงรักภักดี
         4. เป็นสุภาพบุรุษ
               - มีความเมตตา กรุณา เสียสละ ไม่อิจฉาริษยา
               - มีคุณธรรมและจริยธรรม
               - มีความสุภาพอ่อนโยน
               - รู้จักกาลเทศะ
         5. มีความละเอียดรอบคอบไม่ประมาท
https://nine100.com/general-knowledge-of-royal-thai-navy/