ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

15 คำถาม ที่คุณต้องถามหมอแน่ๆ ถ้าคิดจะเสริมหน้าอก ทำนม

เริ่มโดย wm5398, 12:31 น. 15 เม.ย 64

wm5398

คำถามที่พบบ่อย
สวัสดีครับ ผมหมอหลุยส์ Jarem Clinic ครับ วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเสริมหน้าอกนะครับ
คำถาม 1 : เสริมหน้าอกผ่าแผลตรงไหนดี
คำตอบ : แผลของการเสริมหน้าอกที่ในปัจจุบันนี้มีอยู่ 3 ทางนะครับ คือแผลอยู่ที่ใต้ราวนม ปานนมและรักแร้ ซึ่งแต่ละแผล แต่ละที่ก็มีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันไป ผมอาจจะไม่ได้พูดในที่นี้ เดี๋ยวอาจจะต้องไปดูคลิปอื่นนะครับ

คำถาม 2 : ต้องเปลี่ยนซิลิโคนทุกกี่ปี
คำตอบ : เสริมหน้าอก ปัจจุบันไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนนะครับ คือใช้แล้วอยู่ได้ตลอดชีวิตเลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับซิลิโคนที่เราใส่ต้องมีคุณภาพมีมาตรฐาน โดยจะดูจากว่ามีบัตรรับประกันไหม เป็นซิลิโคนที่มีกล่องให้กลับบ้านหรือเปล่า ถ้าเป็นซิลิโคนที่ไม่ได้มาตรฐาน อย่างเช่นของประเทศจีนหรือว่าอะไรที่ยังไม่ผ่านอย.ไทย หรือว่าอย.ต่างประเทศ อันนี้ก็มีความเสี่ยงที่อาจจะต้องก่อน 10 ปีครับ

คำถาม 3 : เสริมหน้าอกมีลูกได้ไหม
คำตอบ : เสริมหน้าอกสามารถมีลูกได้ แต่ว่าการเสริมหน้าอกแบ่งเป็น เหนือกล้ามเนื้อและใต้กล้ามเนื้อ หากเราใส่ใต้กล้ามเนื้อ เราไม่ได้ไปยุ่งกับเนื้อนมด้านบนเลย คือให้นมลูกได้ปกติ แต่ถ้าเราใส่เหนือกล้ามเนื้ออาจจะเบียดเนื้อนมเวลามีนมหรือว่ามีบุตรอาจจะทำให้มีอาการเจ็บหรือว่าหน้าอกเสียรูปทรงได้ครับ

คำถาม 4 : เสริมหน้าอกบีบแรงได้ไหม
คำตอบ : เสริมหน้าอกการบีบแรงแรงไม่เป็นผลดีกับหน้าอกนะครับ เพราะว่าถ้าหน้าอกยังไม่เข้าที่ เพิ่งทำเสร็จ การบีบแรงแรงจะทำให้มีอาการเจ็บ เนื้อเยื่อบาดเจ็บหรือว่าทำให้ซิลิโคนไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องได้ครับ แต่ว่าถ้าเวลาผ่านไปแล้วประมาณสัก 3 เดือนขึ้นไป ซิลิโคนอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง มีพังผืดมารัดพอสมควร เราสามารถบีบด้วยความแรงระดับหนึ่งได้ สามารถออกกำลังกายได้ครับ

คำถาม 5 : หลังเสริมหน้าอกออกกำลังกายได้ไหม
คำตอบ : ข้อนี้อยู่ในเรื่องการบีบแรงที่กล่าวมาแล้ว สามารถออกกำลังกายได้ครับ แต่ว่าในช่วงแรก 1 เดือน ขอให้เป็นออกกำลังกายเบาๆอย่างเช่น การเดิน Jogging การใช้ยกดัมเบลที่ไม่ได้หนักเกินไป ส่วนถ้านมเข้าที่แล้วมีพังผืดมารัดรอบนม 3 เดือนขึ้นไปก็สามารถออกกำลังกายหนักๆได้วิ่ง Jogging ออกกำลังกายชกมวยอะไรแบบนี้ก็สามารถทำได้ครับ

คำถาม 6 : ก่อนเสริมหน้าอกต้องตรวจเลือดอะไรบ้าง
คำตอบ : ถามกันเข้ามาเยอะเลยว่าก่อนเสริมหน้าอกที่ Jarem Clinic ต้องทำอะไรบ้าง การเตรียมตัวก็เป็นสิ่งสำคัญในการเสริมหน้าอก การเจาะเลือดก็เป็นสิ่งสำคัญ ให้คนไข้เจาะเลือดก็คือมีผลแล็บ CBC HIV แล้วก็ HBS Antigen ก็คือดูว่าเกล็ดเลือดเรามีเยอะไหม เกล็ดเลือดเราเป็นอย่างไรบ้าง เรามีผล HIV Postive หรือว่า Negative ไวรัสตับอักเสบบีเราเป็น Positive หรือว่าเรามีภูมิคุ้มกันเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อความปลอดภัยของบุคลากรทางการแพทย์เกี่ยวกับวิธีการล้างเครื่องมือแพทย์แล้วก็เป็นความปลอดภัยกับคนไข้คนต่อๆไปด้วย

คำถาม 7 : ต้องตรวจแมมโมแกรมไหม
คำตอบ : Mammogram แตกต่างกับ เอกซเรย์นะครับ Mammogram ก็คือการตรวจเนื้อเต้านมว่าเนื้อเต้านมเรามีสิ่งแปลกปลอมไหม อย่างเช่น มีก้อนซีสต์ มีมะเร็ง มีแคลเซียมมีอะไรอยู่หรือเปล่า ถามว่าการเสริมหน้าอกไม่ได้ทำให้เกิดเป็นมะเร็งเต้านม แต่ว่าการทำ Mammogram ก่อนที่จะเสริมหน้าอกก็มีผลดีครับ คือเราจะได้รู้ว่าหน้าอกของเราปลอดภัย ไม่มีก้อนมะเร็ง ไม่มีก้อนอะไรแปลกๆเพราะว่าภายหลังเสริมหน้าอกไปแล้วเป็นระยะเวลานึง เราจะไม่สามารถทำ Mammogram ได้ครับ

คำถาม 8 : เป็นซีสต์ เสริมหน้าอกได้ไหม
คำตอบ : เป็นซีสต์เสริมหน้าอกได้ไหม ถ้าซีสต์นั้นได้ตรวจเช็กแล้วว่าเป็นซีสต์ที่ปลอดภัย ไม่ใช่ซีสต์อันตราย เราสามารถเสริมหน้าอกได้ครับและอีกอย่างหนึ่งก็คือผมจะทำเสริมหน้าอกซิลิโคนใต้กล้ามเนื้ออยู่แล้ว ไม่ได้ไปยุ่งกับเนื้อนม เพราะฉะนั้นภายหลังถ้าก้อนซีสต์มันมีการเติบโตใหญ่ขึ้น เราต้องการเจาะตรวจหรือว่าตรวจเช็กชิ้นเนื้อ เราก็สามารถผ่าตัดได้ปกติ แม้ว่าเราจะเสริมซิลิโคนไปแล้วก็ตาม

คำถาม 9 : อายุที่เหมาะสมในการเสริมหน้าอกและอายุเยอะเสริมอกได้ไหม
คำตอบ : อายุเกี่ยวกับการเสริมหน้าอกนะครับ ร่างกายก็คือให้เจริญเติบโตให้เต็มที่ก่อน ไม่ใช่ว่าเรายังเป็นวัยรุ่นอยู่เลย เนื้อนมเรายังไม่เจริญเติบโตเต็มที่แล้วมาเสริมหน้าอกก็อาจจะเกิดการเจ็บ แน่นหน้าอกได้ แนะนำอายุที่พร้อมก็คืออายุ 20 ปีขึ้นไป ส่วนอายุเท่าไหร่ที่ยังสามารถเสริมหน้าอกได้อยู่ อันนี้ก็แล้วแต่สุขภาพร่างกาย ถ้าอายุค่อนข้างเยอะ มีโรคประจำตัวเยอะ อันนี้ก็ไม่แนะนำให้เสริมหน้าอกครับ

คำถาม 10 : เสริมหน้าอกสูบบุหรี่ได้ไหม
คำตอบ : เสริมหน้าอกสูบบุหรี่ได้ไหม ความจริงก่อนที่จะมาเสริมหน้าอกเราควรจะงดบุหรี่นะครับ เพราะว่านิโคตินมันมีผลทำให้แผลไม่ดี ผิวหนังอักเสบได้ง่ายกว่าคนปกติ หลังเสริมหน้าอกไปก็ไม่แนะนำให้สูบบุหรี่อยู่ดี คือถ้าเลิกได้ก็เลิกไปเลย เพราะมันก็มีผลทำให้เกิดพังผืด แผลอักเสบหลังผ่าตัดได้ครับ

คำถาม 11 : เสริมหน้าอกกี่เดือนถึงจะเข้าที่
คำตอบ : ถามว่าหน้าอกจะเข้าที่สวยให้เนื้อเยื่อหายดีก่อน ประมาณ 2-3 เดือนขึ้นไปครับ หน้าอกจะเข้าที่ขึ้น แต่ว่าถ้าเราได้ดูแลตัวเองดี ใส่บรากระชับหน้าอก กินอาหารที่สะอาด คุณค่าทางอาหารสูง พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ทำงานหนัก ดูแลตามที่แพทย์พูดก็อาจจะเข้าที่เร็วมากขึ้นครับ

คำถาม 12 : เสริมหน้าอกพักฟื้นกี่วัน
คำตอบ : เสริมหน้าอกที่ Jarem Clinic ขอเวลาพักฟื้นอยู่กับบ้านสัก 2-3 วันก็เพียงพอครับ แต่ว่าถ้าจะไปทำงานเลยก็ขึ้นอยู่กับว่างานที่ทำนั้นเป็นงานอะไร ถ้าเราเป็นงานที่ค่อนข้างสบาย ไม่ได้ใช้แรงแขนเยอะ ไม่ได้ยกของหนักมากเกินไปก็สามารถเริ่มได้เร็ว แต่กรณีที่เป็นงานที่ต้องใช้แขนเยอะ ต้องใช้การขับรถตลอดเวลาก็ขอให้ 1-2 อาทิตย์ขึ้นไปครับ

คำถาม 13 : เสริมหน้าอกกี่วันถึงจะนอนตะแคงได้
คำตอบ : เรื่องนอนตะแคง ท่าทางการนอนนี่เป็นคำถามที่พบบ่อยมาก คุณผู้หญิงท่านใดชอบที่จะนอนตะแคง นอนคว่ำ ช่วงแรกนี่อาจจะลำบากหน่อยเพราะว่าถ้าหน้าอกยังไม่เข้าที่ การนอนตะแคงจะเป็นการทำให้เกิดความดันขึ้นในหน้าอก ซิลิโคนมีโอกาสพลิกได้ ให้เวลาสัก 2-3 สัปดาห์ขึ้นไปถึงจะเริ่มนอนตะแคง แต่ถ้าให้ดีใส่บราล็อกนมไว้เวลานอนตะแคงก็จะไม่เกิดแรงดัน

คำถาม 14 : ควรนวดหน้าอกตอนไหน
คำตอบ : การนวดหน้าอกถามว่าจำเป็นหรือเปล่า มีหลายทฤษฎีที่ว่าการนวดหน้าอกไม่ได้ช่วยอะไร การนวดหน้าอกก็ช่วยให้นมนิ่มขึ้น โดยส่วนตัวของผม การนวดหน้าอกจะเป็นการทำให้เนื้อเยื่อได้ผ่อนคลาย ทำให้น้ำเหลืองระบายได้ดี ผมจะแนะนำให้นวดหน้าอกเมื่ออาการเจ็บหายดีแล้ว บางคนก็อาจจะเริ่มได้เลยอาทิตย์แรกหรือว่าบางคนก็อาจจะเริ่มที่ประมาณ 1 เดือนครับ

คำถาม 15 : หลังเสริมหน้าอกทานอาหารเสริมและคอลลาเจนได้ไหม
คำตอบ : อาหารเสริมที่ผมแนะนำคนไข้หลังเสริมหน้าอกไปส่วนใหญ่จะเป็นวิตามินซี วิตามินบี ส่วนคอลลาเจนมีคนทานเพื่อให้ผิวพรรณเต่งตึง แต่คอลลาเจนมีการศึกษาแล้วว่าทำให้เกิดพังผืดในหน้าอกง่ายขึ้น ถ้าอยากจะทานคอลลาเจนจริงๆขอให้นมเข้าที่ก่อน ประมาณสัก 3 เดือนขึ้นไป แล้วก็คอลลาเจนที่ทานขอให้เป็นแบรนด์ที่เชื่อถือได้

คำถามเหล่านี้ก็เป็นคำถามเบื้องต้นที่ผมได้พบเจอกับคนไข้ของผม หากผู้ใดมีคำถามอื่นๆสามารถมาทัก Inbox หรือว่าเข้ามาปรึกษาที่ Jarem Clinic ได้ครับ
https://jarem.co.th/q-a-questions-about-breast-augmentation/