ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

Digital Marketing Freelancer หลักสูตรอบรม, ความรู้การทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย

เริ่มโดย wm5398, 21:10 น. 22 มิ.ย 64

wm5398

ขายของออนไลน์ ด้วยเว็บไซต์ WordPress + SEO ยอดขายเกิน 15 ล้าน/ปี

"แชร์ประสบการณ์ผลลัพธ์ที่ได้ผลแล้ว ผู้อ่านควรนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับตัวเองครับ "
– นักรบ


หลังจากมีพื้นฐานการเป็น Freelance รับทำเว็บไซต์ด้วย WordPress และ เป็น Freelance รับทำ SEO จึงฟอร์มทีมเพื่อทำเว็บไซต์ขายของออนไลน์ด้วย พิสูจน์ว่าถ้าเว็บติดหน้า 1 Google Search จะช่วยให้ขายของออนไลน์ได้ยอดขายเกินล้านหรือไม่ครับ

ที่สามารถทำได้เพราะอาศัยหลักคิดเริ่มต้น คือ Good Product + Marketing เพราะมีสินค้าดีและมีการตลาดที่ดี ถึงจะสู้คู่แข่งได้ครับ ฉะนั้นถ้ายังไม่แน่ใจ ก็ขอให้ลงทุนที่ละน้อยๆค่อยทดสอบเรียนรู้ไป พอมียอดขายเพิ่มขึ้นค่อยลงทุนเพิ่มก็ได้ครับ จะได้ไม่เสี่ยงเกินไป


ทำการตลาดออนไลน์ แตะยอดขายหลัก 1,000,000 ฿
พิสูจน์ว่าเทคนิคการตลาดออนไลน์แบบนักรบ นั้นได้ผลจริงกับธุรกิจค้าขายออนไลน์ (E-Commerce) แน่นอน แต่กว่าจะทำได้ก็ต้องลองผิดถูกพอสมควร และพัฒนาปรับปรุงเสมอๆ โดยดูคู่แข่งเพื่อเรียนรู้ และดูตัวเองเพื่อหาจุดเด่นสร้างจุดขาย พัฒนาต่อเนื่องจนกว่าจะได้ผล

ทำไมเลือกทำการตลาดให้ธุรกิจขายของออนไลน์ แบบขายส่ง/ผลิตเอง
      - เพื่อสัมผัสการสร้างยอดขายเกิน 1 ล้านบาท จะได้มีประสบการณ์มาสอนได้
      - ต้องการให้ทีมงานคุยกับลูกค้าไม่กี่ราย ก็สร้างยอดขายสูงๆได้ และการขายส่งตอบโจทย์นี้มากกว่าการขายปลีก
      - ถนัดด้านเว็บไซต์ WordPress & Google Marketing ฉะนั้นการทำธุรกิจแบบขายส่ง จะอาศัยเว็บไซต์และการตลาดในกูเกิลที่ได้ผล ลูกค้าตรงกลุ่มมากกว่าใน Social Media
ด้วยเหตุผลหลักๆ 3 ข้อด้านบน ที่วิเคราะห์แล้วว่าพอสู้ได้ จึงเข้าสู่ขั้นตอนถัดไป

มองเห็นภาพรวมก่อนเริ่มต้นขายของ


ก่อนเริ่มขายของออนไลน์ต้องมี
1. สินค้าหรือบริการ
2. หน้าเว็บหน้าร้าน ช่องทางการขาย
3. การตลาดออนไลน์ เช่น SEM,SEO,SMM เป็นต้น

หลังจากเห็นภาพรวมการทำธุรกิจค้าขายออนไลน์แล้ว ก็เข้าสู่การทดสอบเบื้องต้นก่อน เช่นทำเว็บไซต์พอใช้งานได้ เปิดแฟนเพจ เปิด Line@ เปิด Youtube ให้พอใช้งานได้ แล้วเริ่มพาคนเข้าเว็บเข้าเฟสด้วยการยิง Ads เช่น Google Ads, Facebook Ads

ใช้เงินโฆษณาเพียงเล็กน้อย แล้วทดสอบว่ามีคนซื้อสินค้าจริงหรือไม่ ดูค่า ROAS ว่าคุ้มค่าเป็นตัวเลขที่รับเราได้ไหม เพราะถ้าทำการตลาดแล้วไม่มีคนซื้อเลย จะได้กลับมารีเช็คสินค้า บริการ หรือหน้าเว็บไซต์ ว่าตรงจุดไหนที่มีปัญหา เช่น สินค้าราคาสูงไป หน้าเว็บไม่น่าเชื่อถือ ขาดคอนเทนต์อะไรไป จะได้มาปรับมาแก้กันให้ถูกจุด

ดูคู่แข่งเพื่อเรียนรู้ ดูตัวเองเพื่อหาจุดขาย
พยายามดูคู่แข่งที่ทำธุรกิจนี้มาก่อนเรา ดูว่าเขาทำอย่างไรแล้วขายได้ เขาขายยังไง ขายช่องทางไหน ทำคอนเทนต์แบบไหน และขายอะไรบ้าง แทบจะดูทุกอย่างเลยก็ว่าได้ เพื่อเรียนรู้จากผลลัพธ์ของเขา

จากนั้นเรียนรู้ดูตัวเอง ดูสินค้าและบริการตัวเอง ดูแนวทางการตลาดของตัวเองเพื่อหาจุดขาย นำมาพัฒนาให้ดีและทำการตลาดให้คนรู้จัก

มีสิ่งที่ดีกว่าหรือสิ่งที่แตกต่างที่ลูกค้าต้องการก็ขายได้
ลูกค้าจะซื้อของที่ดีกว่าเดิม หรือ แตกต่างกว่าเดิมในแบบที่เขาต้องการ ฉะนั้นเวลาเราขายของและทำการตลาด ก็ทำให้ดีกว่าคู่แข่งหรือแตกต่างกว่าคู่แข่งในแบบที่ลูกค้าต้องการด้วย เป็นหลักคิดทั่วไปที่ไม่ควรมองข้าม

ถ้าคู่แข่งทำการตลาดช่องทาง Search Engine หรือ Social Media อยู่แล้ว แต่เราทำได้ดีกว่า หรือ ถ้าคู่แข่งไม่มีสินค้านี้ เรามีดีกว่าคู่แข่ง ลูกค้าก็ซื้อของเรา

รู้เส้นทางลูกค้า (Customer Path) ก่อนจะทำการตลาด
เส้นทางลูกค้าแบ่งเป็น 5 Step ดังนี้
      1. เห็น : ทำให้ลูกค้าเห็นได้มาก ต้องใช้ SEM, SEO, SMM
      2. สนใจ : ทำให้ลูกค้าสนใจด้วยคอนเทนต์
      3. สอบถาม : ช่องทางติดต่อสะดวก มีข้อมูลติดต่อเห็นตลอด เช่น Tel, Chat, Inbox
      4. สั่งซื้อ : มีปุ่มสั่งซื้อ วิธีสั่งซื้อง่าย สะดวก ชำระเงินง่าย
      5. บอกต่อ สนับสนุน ซื้อซ้ำ : ถ้าสินค้าและบริการดีจะเกิดการบอกต่อ สนับสนุน ซื้อซ่ำ

เตรียมตัวทดสอบขายของออนไลน์ก่อนลุยเต็มที่
1) สินค้าหรือบริการ
ที่สามารถสู้กับคู่แข่งเดิมในตลาดได้ ทั้งคุณภาพและราคา หลังจากนั้นจึงเข้าสู่การเตรียมสร้างแบรนด์อย่างง่ายๆและเตรียมทีมงาน

2) รูปสินค้า สวยพอกับๆกับคู่แข่งเดิมในตลาด หรือทำให้ดีกว่า อีกทั้งเตรียมข้อมูลรายละเอียดสินค้าเพื่อรออับเดทในเว็บไซต์
วิธีค้นหาไอเดียเพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการให้ได้มาตรฐาน คือ การเสิร์ชเว็บต่างๆในต่างประเทศเพื่อดูแนวทางการถ่ายรูป และ เตรียมข้อมูลให้เยอะที่สุด เพื่อรออับเดทในเว็บไซต์

เครื่องมือแก้ไขรูป
         - กล้องถ่ายรูปมือใหม่ : กล้องมือความละเอียดคมชัด ราคาช่วง 5,000 บาท ขึ้นไป
         - กล้องถ่ายรูปสำหรับมืออาชีพ : กล้อง DSLR ราคาตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป
         - ฉากถ่ายรูปสินค้า
         - โปรแกรมตกแต่งภาพสำหรับมือใหม่ : Photoscape , Canva , Pixlr, Crello
         - โปรแกรมตกแต่งภาพสำหรับมืออาชีพ : Photoshop, Lightroom

3) เว็บไซต์ ที่ได้มาตรฐานระดับพรีเมี่ยม ปรับแต่งได้มากมายและรองรับมือถือ รองรับทำการตลาดใน Google และ Facebook ได้เป็นอย่างดี หลังจากนั้นจึงนำข้อมูลทั้งหมดขึ้นเว็บไซต์ที่นักรบเลือกใช้คือ WordPress

4) โฆษณา Google Ads ด้วยเงินจำนวนหนึ่ง นักรบใช้เพียง 1,500-3,000 บาท/เดือน เพื่อทดสอบว่ามีการติดต่อจากลูกค้า หรือมีการสั่งซื้อสินค้าหรือไม่ ถ้ามียอดขายดี ให้เพิ่มงบโฆษณาตามกำลัง

5) วัดผล หากยอดขายไม่คุ้มค่า ให้รีบประหยัดรายจ่ายส่วนที่ไม่จำเป็น และเช็คให้แน่ใจว่าข้อมูลในเว็บไซต์ทั้งภาพสินค้า ราคา เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับลูกค้าแล้วหรือยัง ? หากยอดขายดี ควรเพิ่มงบการลงโฆษณาและอับเดทผลงานลูกค้าสม่ำเสมอๆ

วัดผลคนเข้าเว็บด้วยเครื่องมือ Google Analytic

6) ธุรกิจเติบโต หรือมียอดขายแล้ว ควรเร่งเติมความแข็งแรงให้ธุรกิจ เพื่อทิ้งห่างคู่แข่งทั้งในปัจจุบันและอนาคต เช่น การทำธุรกิจที่ 2 เพิ่ม โดยเกื้อหนุนธุรกิจแรก, การเพิ่มเนื้อหาชนิดวีดีโอเพื่อสร้างแบรนด์ดิ้ง, การเพิ่มชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง, การออกสื่อสิ่งพิมพ์, วิทยุ, โทรทัศน์, หรือ การทำ SEO ให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกมากขึ้น เป็นต้น

ขั้นตอนเตรียม Website & Social Media
1. เลือกสินค้าที่ขายส่งได้ และเน้นทำการตลาดขายส่ง เพราะเท่าที่ศึกษามา คนทำยอดขายมากๆ มาจากขายส่งแทบทั้งนั้น
2. จดโดเมน 400 ฿/1y : เลือกชื่อโดเมนที่มีชื่อสินค้าไปด้วย จะได้ทำ SEO ได้ด้วย
3. ออกแบบโลโก้
4. Hosting 1,000  ฿/1y : เลือก  HostAtom เพราะรองรับ WordPress ดี
5. Facebook Fanpage : เปิดแฟนเพจ และออกแบบหน้าปกกับรูปโปรไฟล์
6. Line@ : จ่ายค่า Premium ID 200 ฿/1y
7. เบอร์โทร, Email , เลขที่บัญชีธนาคาร
8. YouTube Chanel : ไว้ลง Video ในเว็บและไว้ทำ SEO
9. ค้นหาเว็บไว้อ้างอิง สำหรับคุยกับทีมงานให้ดีไซน์เว็บไปในแนวทางเรียบหรูดูแพง

เตรียมเว็บไซต์ WordPress
1. ติดตั้ง Theme Flatsome
2. ใส่ Logo
3. ใส่ข้อมูลติดต่อ Email , เบอร์โทร , ไลน์
4. ติดแฟนเพจในเว็บ
5. ติด Line@

ทีมงานทำการตลาดออนไลน์
ทีมงานทั้งหมดอย่างน้อย 4 คน
        - ฝ่ายขาย 1 คน สำหรับติดต่อลูกค้าและปิดการขาย
        - ฝ่ายอัพเดทเนื้อหาภายในเว็บ 1 คน
        - ผ่ายการตลาดออนไลน์ 1 คน
        - ฝ่ายเว็บไซต์ 1 คน

ขายของออนไลน์อะไรดี
แนะนำให้เลือกสินค้าขายที่เราได้เปรียบทางธุรกิจและการตลาด เช่น
        - ได้เปรียบทรัพยากรการผลิต
        - ได้เปรียบคอนเนคชั่น
        - ได้เปรียบทางภาษา
        - ได้เรียบเรื่องคนที่มีทักษะเฉพาะด้าน เช่น การตลาด การผลิต การขาย
        - ได้เปรียบการเข้าถึงแหล่งเงินทุน
        - อื่นๆอีกหลายข้อที่ทำให้แน่ใจว่าจะสู้กับคู่แข่งเดิมในท้องตลาดและคู่แข่งใหม่ในอนาคตได้

Mindset ก่อนเริ่มต้นธุรกิจขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์ จะลงทุนมากกว่างานบริการมาก และใช้คนทำงานเยอะกว่า โดยนักรบมี Mindset ง่ายๆ คือ
ธุรกิจขายของออนไลน์ : ใช้ทีมงานอย่างน้อย 2 คน แบ่งหน้าที่กัน
        - คนที่ 1 ดูแลสินค้า เช่น ถ่ายรูป, รีทัชรูป, โพสลงเว็บไซต์, ใส่รายละเอียดสินค้า, ใส่วิธีการสั่งซื้อ รวมทั้งข้อมูลต่างๆที่สำคัญภายในเว็บไซต์
        - คนที่ 2 ดูแลการตลาด เช่น Facebook Marketing , Google Marketing (SEO & AdWords) และ Content Marketing พวกบทความและวีดีโอ
มีทักษะความชำนาญด้าน Digital Marketing มาก ก็มีโอกาสสร้างยอดขายได้มาก

คำถามที่พบบ่อย
❓ จำเป็นไหมที่ทำธุรกิจขายของออนไลน์ ต้องลงทุนสูงขนาดหลักแสน
ไม่จำเป็นครับ เริ่มต้นขายของออนไลน์ลงทุนหลักร้อยหลักพันก็มี แต่ถ้าอยากทำยอดขายสูงมากๆถึงหลักล้าน ควรลงทุนอุปกรณ์เพิ่ม เช่น
        - กล้องถ่ายรูป DSLR ราคาประมาณ 15,000 บาท
        - ชุดไฟถ่ายรูป 8,000 บาท
        - ฉากหลัง 2,300 บาท
        - คอมพิวเตอร์ 20,000 บาท

วิธีหาสินค้าขายส่งจากโรงงาน
จริงแล้วเราไม่จำเป็นต้องรู้ทุกวิธีของการค้นหาสินค้าเพื่อขายของออนไลน์ก็ได้ครับ รู้เพียงไม่กี่วิธีก็พอ แต่ขอให้เลือกสินค้าที่เราได้เปรียบทางการค้าหรือการตลาด

วิธีค้นหาสินค้า
1. อ่านบทความต่างประเทศเพื่อได้ไอเดียการค้นหาสินค้า โดย Search คำว่า : Google Search : How to find niche products
2. ไล่เช็ครายการสินค้าใน Lazada แล้วมองหาโรงานที่ผลิตสินค้านั้นๆ แต่ยังไม่ได้ทำการตลาดขายส่งออนไลน์มากนัก หรือทำได้ไม่ดีพอ (เอาง่ายๆ คือเราทำได้ดีกว่า)
3. ค้นหาโรงงานที่อยู่ใกล้เคียงกับระแวกบ้านเรา จะได้สะดวกเดินทางและติดต่อเจรจา
4. ร่วมทำธุรกิจกับเพื่อนที่เป็นเจ้าของโรงงาน

หลักๆคือเท่านี้ หลังจากได้ Supplier แล้วก็เข้าสู่ขั้นตอนต่อไป คือ เตรียมเว็บไซต์, เตรียมสินค้าลงเว็บ และเตรียมทำการตลาดออนไลน์ครับ ส่วนนักรบเลือกขายส่งออนไลน์กับสินค้าอะไรนั้น นักรบจะมาบอกหลังจากเตรียมเว็บไซต์และทำการตลาดไปสักพักเสร็จแล้วครับ

5 ปัจจัยพื้นฐาน ที่ทำให้ขายของออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ได้
ก่อนสร้างเว็บไซต์ควร Search หาข้อมูลเว็บที่สวย มีมาตรฐานการสร้างคอนเทนต์ และการจัดวางคอนเทนต์ได้อย่างสวยงาม ช่วยฝ่ายขายปิดการขายได้ดี ซึ่งนักรบแนะนำให้ค้นหาเว็บไซต์จากต่างประเทศทั่วโลกเป็นหลัก ไม่ควรดูเพียงเว็บไซต์ในประเทศไทย หลังจากนั้นควรคำนึงปัจจัยต่างๆเหล่านี้
1. Website ระดับมาตรฐานมืออาชีพ ซึ่งนักรบเลือกสร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress + WooCommerce โดยซื้อธีมที่ https://themeforest.net/
2. มีตัวอย่างเว็บไซต์ต่างประเทศอ้างอิง เพื่อพัฒนาเนื้อหาในเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย สวยและดูดีได้มาตรฐานในระดับเดียวกับคู่แข่งหรือมากกว่า
3. อัพเดทผลงานลูกค้า และสินค้าใหม่ๆเสมอๆในเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย
4. ทำการตลาดให้เหมาะกับสินค้าหรือบริการนั้นใน Google & Social Media เช่น Search Engine Marketing (SEM,SEO), Social Media Marketing (SMM), Video Marketing (Video, Live)
5. พัฒนาทีมงานฝ่ายการตลาดสม่ำเสมอ

อ่านเพิ่มเติมคลิกที่ลิ้งค์ได้เลยครับ   https://warrior.in.th/jobs/ecommerce/

wm5398


วิธีสร้าง seo agency team
แชร์ประสบการณ์นักรบที่ทำได้แล้ว เพื่อให้คนรุ่นหลังได้หยิบบางส่วนไปใช้ต่อยอดในสายอาชีพตัวเอง และอย่าลืมที่จะแบ่งปันความรู้ให้กับคนรุ่นถัดๆไปนะครับ

วิธีคิดเริ่มต้นสร้าง SEO Agency Team
เหตุผลในการสร้างทีมเล็กๆในการรับทำ SEO ให้บริษัทต่างๆ(Small SEO Agency Team) เพื่อต่อยอดความสำเร็จจากการเป็น Freelancer SEO Specialistและ การขายของออนไลน์ด้วย WordPress & SEO ในปีที่ผ่านมา เพื่อก้าวสู่ขั้นตอนที่ยากขึ้นจากการทำงานเป็นทีมที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน SEO โดยเฉพาะ

วิธีคิดในการทำงานและการสร้าง Small SEO Agency Team ของนักรบ มีความเฉพาะตัวสูงและอาจขัดกับความคิดของใครหลายๆคนแน่นอน ฉะนั้นถ้ามีสิ่งไหนที่ไม่เห็นด้วย ขอให้ข้ามไปและหยิบเฉพาะส่วนที่มีประโยชน์ไปปรับใช้ตามสภาพแวดล้อมและกาลเวลาที่เหมาะสมของแต่ละคน

SEO Agency คือ ตัวแทนในการรับผิดชอบการทำ SEO ทั้งหมดให้บริษัทหรือองค์กรต่างๆ โดยลูกค้าที่พอจะมีงบจ้าง SEO Agency ได้ จะต้องมีขนาดของธุรกิจที่ใหญ่พอสมควร โดยนักรบจะรับทำ SEO ให้บริษัทขนาดกลางขึ้นไป ซึ่งจากสถิติธุรกิจขนาดกลางในประเทศไทยมีมากกว่า 4หมื่นธุรกิจเลยทีเดียว

สำหรับธุรกิจขนาดเล็กแนะนำให้เรียนรู้การทำ SEO ด้วยตัวเองแทนไปก่อนครับ หรืออาจจ้างเป็น SEO Audit 1 ครั้งต่อระยะเวลา 3-6 เดือนแทน จะช่วยลดต้นทุนได้

จำนวนทีมงานเริ่มต้น Small SEO Agency
การจะสร้างทีมรับทำ SEO ที่ครอบคลุมทุกภาคส่วนของการทำ SEO ได้ จะต้องประกอบด้วยทีมงานที่มีทักษะหลากหลายอาชีพ โดยเน้นที่อาชีพเหล่านี้
         - Website Developer นักพัฒนาเว็บไซต์ โดยนักรบจะเน้นที่ WordPress เป็นหลัก
         - SEO Content Writer/Creatorนักสร้างคอนเทนต์ทีมีพื้นฐาน SEO Content
         - Technical SEO Specialist นักทำเอสอีโอ ทั้ง Onpage & Offpage SEO
         - Facebook & Google Advertising Marketer นักลงโฆษณาเฟสบุ๊คและกูเกิล

ในทางปฎิบัติ นักรบใช้ทีมหลักเริ่มต้นที่ 4 คน ประกอบด้วย WordPress Developer 1 คน, SEO Content 1 คน, นักการตลาดดิจทัล 1 คน และผู้ช่วย 1 คนเป็นทีมหลักในการรับทำ SEO โดยจะมีจ้างฟรีแลนซ์เพิ่มบ้างในส่วนของการเขียนบทความตามกำลังงบของลูกค้า

สำหรับโปรเจคใหญ่จะใช้ 4 คน/โปรเจค สำหรับโปรเจคปรกติจะใช้ 2 คน/โปรเจค และมีจ้าง Freelance Writer อย่างน้อย 1 คน/โปรเจคเสมอๆ

ทำไมธุรกิจขนาดกลางต้องจ้าง Small SEO Agency
จริงๆแล้ว ทุกธุรกิจขนาดกลาง ไม่จำเป็นต้องจ้าง SEO Agency หากบริษัทเหล่านั้นมี In-house team ที่สามารถพัฒนาและดูแลการทำ SEO ได้ แต่มีอีกหลายๆธุรกิจที่ไม่มีความพร้อมในการก้าวสู่การสร้างเว็บไซต์ WordPress และทำการตลาด SEO ฉะนั้นการจ้าง SEO Agency จึงเป็นทางเลือกที่เร็วที่สุดในการกระโดดเข้าไปแข่งขันในสนาม E-Commerce นี้

จ้าง SEO Agency 30,000 ต่อเดือน มีความเสี่ยงน้อยกว่าการจ้างพนักงานประจำ 30,000 ต่อเดือน เหตุผลเพราะหากจ้าง Agency แล้วไม่ได้ผล จะสามารถยกเลิกและปรับเปลี่ยนได้ง่ายกว่าในการจ้างพนักงานประจำ และการจ้าง SEO Agency จะได้มือาชีพมาทำงานให้เลย ถึงกระนั้นการจ้างทั้งพนักงานประจำและ SEO Agency ก็ต้องดูผลงานประกอบการตัดสินใจในการจ้างเหมือนกัน

การทำ SEO ที่ได้ผลเต็มที่ ต้องใช้ทีมงานอย่างน้อย 2 คน คือ SEO Content Writer/Creator และ Technical SEO Specialist ถึงจะมั่นใจได้ว่าเอาอยู่ในการทำ SEO

แต่ปรกติทั่วไป ธุรกิจมักจะมีทีมงานทำ SEO เพียงคนเดียวและบางครั้งก็รับผิดชอบในตำแหน่งด้าน Digital Marketing อื่นๆด้วย ส่งผลให้อันดับเว็บไซต์ไม่ดีเท่าที่ควร ถ้าจะจ้างพนักงานถึง 2 คน อาจต้องจ้างในงบประมาณ 2 คน รวมกันที่ 25,000- 40.000 บาท/เดือน ฉะนั้นการจ้าง Small SEO Agency ในงบประมาณ 25-30,000 บาท/เดือน จึงเป็นราคาที่ธุรกิจขนาดกลางน่าจะจ่ายไหว

ธุรกิจขนาดเล็กไม่นิยมจ้าง SEO Agency เพราะมีต้นทุนที่สูง ส่วนใหญ่จะนิยมจ้างฟรีแลนซ์หรือลองทำเอสอีโอเองมากกว่า

ประสบการณ์ 2 ล้าน/ปี กับการทำ SEO 4 โปรเจค
ประสบการณ์ปี 62 ที่ผ่านมาเป็นปีแรกของการรับทำ SEO เต็มตัว ในบริมาณที่ทีมเล็กๆ 4 คนเอาอยู่ จากประสบการณ์ที่ทำพบว่า การเป็นหัวหน้าดูทุกโปรเจคในแต่ละวันโดยไม่หนักเกินไป น่าจะอยู่ที่ 4 โปรเจค/วัน จะกำลังดี ในการวิเคราะห์และวางแผนการทำงานให้ทีมงานต่างๆ

หากมีมากกว่านี้ อาจดูแลแต่ละวันไม่ทั่วถึงหากดูแล 10 โปรเจค อาจกลายเป็นว่า 2-3 วันดูครั้งรู้สึกว่าดูแลไม่ทั่วถึง ส่งผลต่อความมั่นใจในการทำ SEO ได้

ผลลัพธ์การทำ SEO นั้นสำคัญ เพราะจะเป็นชื่อเสียงและผลงานเราในอนาคต ฉะนั้นก่อนรับทำ SEO ควรเช็คให้แน่ใจว่าสามารถทำให้เวบมีอันดับที่ดีในกูเกิลตามงบประมาณและความคาดหวังของเจ้าของกิจการได้

ที่สำคัญ ควรเลือกทำงานกับเว็บลูกค้า ที่สามารถนำมาเป็นผลงานการทำ SEO บอกเล่าและแชร์ได้ในเว็บไซต์ตัวเองและแฟนเพจเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้แบรนด์เราได้

ปัญหาในการสร้าง Small SEO Agency Team
ปัญหาหลักๆในการสร้าง SEO Agency Team คือ จำนวนทีมงานที่มีฝีมือในการทำ SEO

เมื่อก่อนตอนเป็น Freelance SEO Specialist นั้นสามารถทำงานคนเดียวแล้วจ้าง freelance ช่วยงานต่อได้ แต่กรณีของการมีทีม SEO Agency จะต้องให้เวลาในการฝึกทีมประจำที่ไม่ใช่การจ้างฟรีแลนซ์มาช่วยเพียงอย่างเดียว

เพราะการทำ SEO จะอาศัยส่วนของ Technical & Content เป็นตัวหลักๆในการขับเคลื่อน ฉะนั้นควรมี SEO Content Writer/Creator ในทีมที่มีฝีมืออยู่ด้วย

ระยะเวลาในการฝึก SEO Content Writer/Creator นั้นใช้เวลานาน อาจกินเวลาอย่างน้อย 6 เดือน-1 ปี โดยให้เขาได้ทดลองทำงานกับเว็บไซต์ตัวเองก่อน เพื่อฝึกฝีมือให้แน่นอนก่อนจะรับทำงานให้ลูกค้า ถ้าลองสังเกตุให้ดีการสร้างทีมจะมีเรื่องการบริหารทีมและการพัฒนาทีมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

การสร้างทีม บริหารทีม และพัฒนาทีมงาน เป็นทักษะใหม่ที่ไม่เน้นมากในช่วงของการเป็น Freelance ฉะนั้นฟรีแลนซ์หลายๆคนอาจไม่กระโดดมาทำงานเป็นทีมเพราะอาจพอใจในการทำงานคนเดียวก็เป็นได้

คำถามที่อาจอยู่ในใจผู้อ่าน
Q : ทำไมไม่รับทำ SEO ให้บริษัทหรือหน่วยงานขนาดใหญ่ และไม่พูดถึงในบทความนี้
A : การทำงานกับบริษัทขนาดใหญ่ มักจะไม่ได้คุยตรงกับผู้มีอำนาจสูงสูด หรือเจ้าของกิจการเหมือนบริษัทขนาดกลาง-เล็ก การทำเอสอีโอแบบนักรบ จะเน้นทำงานกับผู้มีอำนาจการตัดสินใจโดยตรงทั้งเรื่องงบประมาณและการลงทุน รวมถึงได้มองเห็นวิสัยทัศน์ของคู่ค้าด้วยครับ เกม SEO เป็นเกมที่ปรับตัวเสมอๆ ฉะนั้นการปรับเปลี่ยนได้เร็ว ตัดสินใจได้เร็วนั้นสำคัญ ซึ่งมันจะง่ายขึ้นถ้าเราได้คุยกับคนที่ตัดสินใจได้ครับ

แนะนำอ่านเส้นทางอาชีพ Digital Marketing Freelancer
แชร์ประสบการณ์การสร้างอาชีพเกี่ยวกับ SEO & Digital Marketing แบบนักรบ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นจริงว่าความรู้ที่สอนนี้ใช้ได้ผลจริงกับนักรบ แต่ผู้เรียนควรนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับธุรกิจตัวเองครับ เช่น รับทำเว็บไซต์ WordPress, วิทยากรสร้างคอร์สออนไลน์, ขายของออนไลน์ด้วยเว็บไซต์, รับทำ SEO แบบฟรีแลนซ์ และ Small SEO Agency
https://warrior.in.th/jobs/small-seo-agency/

wm5398


แชร์เส้นทางการเป็น Freelance SEO Specialist เพื่อเป็นแนวทางให้กับรุ่นน้อง ได้อ่านกรณีศึกษาสัก 1 กรณี ที่แชร์เนื้อหากว่าจะเป็นฟรีแลนซ์ได้ต้องเจออุปสรรคอะไรบ้าง จะได้เป็นฟรีแลนซ์ได้ง่ายขึ้นและเร็วขึ้นครับ

คำแนะนำ : Best Practice และ Case Study นี้ อยู่บนพื้นฐานสิ่งแวดล้อมของนักรบ เนื่องจากแต่ละคนไม่เหมือนกัน ฉะนั้นหยิบไปปรับใช้ที่เหมาะกับตัวเองนะครับ / นักรบ

อาชีพ Freelance SEO SPecialist เหมาะกับใคร
จากที่บอกตอนต้น นี้เป็น Case Study ฉะนั้นจะอิงลักษณะที่นักรบคิดว่าเหมาะสำหรับอาชีพนี้นะครับ โดยลักษณะนิสัยที่ช่วยทำงาน SEO Freelance ได้ดีมีประมาณนี้ครับ
1. เป็นคนช่างสังเกตุ จดบันทึกและติดตามข่าว Google's algorithms สม่ำเสมอ เพื่อปรับเปลี่ยนได้ทัน โดยแนะนำให้จดใน Note ต่างๆในโปรแกรมที่ใช้ทำ SEO ครับ
2. ชอบเรียนรู้วิธีทำ SEO จากทีมงาน Google Search Console โดยตรง จากเว็บ Developers.google.com/search/blog
3. ชอบเรียนรู้การทำ SEO จากคนชำนาญระดับโลกก่อนเป็นหลัก เช่น Brian dean, Ahefs Blog, SEMrush Blog
4. ชอบเรียนรู้การทำ SEO จาก Blog คนไทย (Thai Freelance SEO Specialist Blog) ที่ทำเอสอีโอเองและได้ผลดี โดยเน้นที่ Best practice และย้ำว่าต้องเป็นแนวทางปฏิบัติจริงจากผลงานจริงครับ
5. ชอบทดสอบ จดบันทึก วัดผลการทำ SEO และสนุกกับการไต่อันดับของคีย์เวิร์ดในกูเกิลเสิร์ชครับ
6. มีทัศนะคติที่ดีกับคู่แข่ง โดยเฉพาะคู่แข่งการทำเอสอีโอในกลุ่มคียเวิร์ดเดียวกัน มองว่าเป็นการพัฒนาร่วมกันในอุตสาหกรรมนี้
เท่าที่นึกได้และจำเป็น น่าจะประมาณด้านบนนั้นครับ เป็นข้อมูลจากประสบการณ์นักรบเอง

พื้นฐานและทักษะของ Freelance SEO Specialist ที่ดี
พื้นฐานนี้อิงตามประสบการณ์นักรบล้วนๆ เพราะอย่างที่บอกนี้คือ My best practice & case study ครับ
        - มีพื้นฐานการสร้างเว็บไซต์ต่างๆ เช่น Domain, Hosting, DNS, Security, Backup, CMS, Blog
        - มีพื้นฐาน HTML, CSS จะช่วยเรื่องการทำ Technical SEO ได้ดีขึ้นครับ
        - มีพื้นฐานการสร้างและผลิตคอนเทนต์ จะช่วยเรื่อง Content SEO ได้ดีขึ้นครับ
        - มีพื้นฐานในการประสานงานกับทีม Dev, writer, advertiser เพราะบ่อยครั้งต้องทำงานร่วมกันครับ
        - ศึกษาจากแหล่งความรู้ที่น่าเชื่อถืออยู่เสมอ ทั้งจาก Google Central blog, คนเก่งระดับต่างประเทศและในประเทศครับ
        - มีพื้นฐานด้าน Business เพื่อเข้าใจมุมมองของนักลงทุนและการตลาดด้านอื่นๆ โดยเฉพาะ Digital Marketing สาขาอื่นๆครับ
        - มีพื้นฐาน Google Ads, Facebook Ads, Remaketing, และการสร้าง Social Media Channel
        - เป็นนักสังเกตุ จดบันทึก ทดลองและวัดผลครับ เพราะใช้บ่อยกับอาชีพนี้เพื่อปรับ และหาสาเหตุต่างๆในการทำ SEO ครับ
        - เตรียม SEO Report และวิเคราะห์ Data ได้ครับ
        - มีความรู้ด้านการเงิน และการทำการตลาดให้ตัวเองเป็นที่รู้จักครับ
หลักๆน่าจะประมาณนี้ ที่เป็นพื้นฐานและทักษะที่สำคัญในการเริ่มต้นเป็น Freelance SEO Specialist ครับ โดยอาชีพนี้ทำคู่งานประจำก่อน เพื่อวางรากฐานกิจการให้มั่นคงก่อนคิดเรื่องทำเต็มตัวครับ

Freelance SEO Specialist Fulltime ดีอย่างไร
หลังจากทำ Freelance-Partime มาได้สักพัก การตลาดและฝีมือเริ่มอยู่ตัว พอจะออกมาทำเต็มเวลาได้ เพราะมี Blog ที่ช่วยเพิ่มทราฟฟิคอยู่เสมอ ทำให้มีลูกค้าแวะเวียนมาสอบถามอยู่ประจำ จึงตัดสินใจทำเต็มตัว เพราะคิดว่าจะทำได้เต็มที่กว่า

ข้อดีของการทำแบบเต็มเวลาคือ มีเวลาเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าและได้เลือกทำงานกับลูกค้าที่เข้ากับเราได้ดี ส่งผลให้งานออกมาดี และนั้นคือจุดเริ่มต้นของคำว่า " ผลงานดี จะทำการตลาดบอกต่อให้เราเอง"

สิ่งที่ขาดไม่ได้หลังจากเป็น Freelance Fulltime คือ การหมั่นทำการตลาดให้ตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องการทำ SEO Blog คือ แนวทางที่เรียบง่าย มีประสิทธิภาพมาก เพราะใช้เวลาน้อยและตรงกลุ่มเป้าหมาย อย่าลืมว่าเราเริ่มต้นคนเดียว ฉะนั้นต้องบาลานซ์เวลาระหว่างทำ SEO ให้เว็บลูกค้าและทำ SEO ให้เวบตัวเองครับ

รับทำ SEO เน้นลูกค้าบริษัทขนาดกลางขึ้นไป
เหตุผลที่เน้นรับทำ SEO กับบริษัทขนาดกลาง เพราะเขามีกำลังจ่ายครับ กลุ่มบริษัทขนาดกลาง จะมียอดขายหลายร้อยล้านต่อปี การจ้างฟรีแลนซ์รับทำ SEO ในราคา 6 หลักต่อปี ไม่ได้แพงเกินไปกว่าจะที่จะรับไหว ถ้าได้มืออาชีพมาทำ SEO ให้เลย จะคุ้มค่าการลงทุนและประหยัดเวลาได้มาก เรามีหน้าที่ทำให้ตัวเองมีความน่าเชื่อถือด้วยผลงานครับ

ส่วนบริษัทขนาดเล็ก เช่น Micro-sme, Small business นั้น ส่วนใหญ่นักรบจะแนะนำให้เรียนรู้การทำ SEO เองและทยอยจ้างเอาท์ซอสบ้างส่วนช่วยทำ SEO จะประหยัดเงินและมีความเสี่ยงในการลงทุนน้อยลงครับ

กิจการขนาดกลางมี 44,290 กิจการ มีมากเกินพอสำหรับ Freelance SEO Pro ในปัจจุบัน

รายได้เพิ่ม 4 เท่าจากงานประจำ หลังทำฟรีแลนซ์

รายได้ปี 2561 อิงจากงบส่งสรรพากร กระจายรายได้เป็น 2 ทาง แล้วแต่ลูกค้าจะสะดวกชำระผ่านช่องทางไหนครับ

รายได้เพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่า จากงานประจำ 336,000 บ/ปี เป็น 1,212,564 บาท/ปี ซึ่งมากกว่าตอนรับเงินเดือนหลายเท่า เหตุผลการเป็นฟรีแลนซ์ได้เปิดโอกาสในการทำงานกับลูกค้าที่มากขึ้น และใช้ศักยภาพได้เต็มที่มากขึ้นด้วยครับ

ฟรีแลนซ์ควรทำการตลาดสร้างแบรนด์ตัวเอง
ฟรีแลนซ์มีความต่างกับพนักงานประจำ ตรงต้องแบ่งเวลาทำการตลาดให้แบรนด์ตัวเอง แต่ไม่ลงทุนหนักเท่ากับเจ้าของกิจการ นักรบใช้เครื่องทุ่นแรงในการทำการตลาด เช่น การทำ SEO Blog ให้ติด Google เพื่อให้มีคนมาเยี่ยมเยียนเว็บไซต์ได้บ่อยๆ , การผลิตและอับโหลดวีดีโอขึ้น YouTube และการแชร์ความรู้ต่างๆใน Facebook จนปัจจุบันมี Content ที่สร้างผู้ชมใหม่ๆได้ตลอด 24 ชม. จนเกิดเป็นคอนเทนต์ที่ดีที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเราได้ดังนี้
ณ ปัจจุบันค่อยๆสะสมมาเรื่อยจนมีประมาณ
Blog ในเว็บไซต์มีกว่า 100 บทความ
วีดีโอใน YouTube กว่า 200 วีดีโอ
คนติดตามใน Facebook Fanpage 30,000 like

เคล็ดลับนักรบ
การสร้างรายได้ที่ยั่งยืน นั้นมาจากพื้นฐานการสร้างความน่าเชื่อถือ, การเปิดเผยตรงไปตรงมาในเนื้องานทีทำ และการสร้างผลลัพธ์ที่ได้ผลจริง เลยสรุปเป็นทฤษฎีไว้ตามด้านล่างนี้ครับ

สรุปเป็นทฤษฎี เคล็ดลับสร้างลูกค้า และสร้างลักษณะนิสัย
สร้างความน่าเชื่อถือ ความไว้วางใจและความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นในตัวลูกค้า ด้วยการแชร์ประสบการณ์ตรง ผลลัพธ์การลงมือทำจริงจากนักรบ
1. สร้างความเชื่อถือ (Respect) ด้วยเว็บไซต์, ภาพการทำงานจริง, ข้อความที่สื่อถึงวิธีคิดในการทำงานดี, ใบรับประกัน อื่นๆ
2. เปิดเผย ตรงไปตรงมา (Reveal) ในเนื้องานที่ทำ ขั้นตอนการทำงาน ความคืบหน้าต่างๆ
3. สร้างผลลัพธ์ (Result) ผลงานมีพลังกว่าคำพูด ผลลัพธ์ที่ทำได้จริง จะก่อเกิดความเชื่อมั่นในตัวของลูกค้า


สร้างลักษณะนิสัย 5 ข้อ
ลักษณะนิสัยที่ดีจะทำให้ตัวเองพัฒนา วางแผนแก้ไขหรือรับมือปัญหาได้ล่วงหน้า ท้าชนลุยแก้ปัญหา และสนุกกับมันเหมือนเป็นเกม โดยจะวิเคราะห์ลักษณะนิสัยได้ใน 5 เรื่องนี้
1. Time – แบ่งเวลาชัดเจน และมากพอที่จะทำให้เกิดผลงาน
2. Vision – มีวิสัยทัศน์ในสายงานของตัวเอง ติดตาม Blog ผู้นำด้าน SEO เช่น Ahrefs, Backlinko รวมทั้งทิศทางด้าน Digital Marketing
3. Power – สร้างพลังจากภายในตัวเองได้ มีเวลาส่วนตัว จุดไฟในตัวได้เอง
4. Fast – ลงมือทำให้เร็ว สร้างผลงานให้ได้เร็ว แล้วปรับปรุงไปทำไปจนได้ผลระดับหนึ่ง
5. Tools – ใช้เครื่องทุนแรง หัดใช้ Data Tools เช่น Keyword Planner, Backlink Checker, SEO Analysis

พัฒนาตัวเองใน 4 ด้าน
1. Knowledge set : เรียนรู้จากคนเก่งระดับโลก เพื่อสู้กับคู่แข่งระดับในประเทศ
2. Tools Set : เรียนรู้ Digital Marketing Tools เพื่อประหยัดเวลา ลดขั้นตอนการทำงานและวางแผนเป็นระบบ
3. Skill Set : ฝึกฝนจนเกินความชำนาญ สร้างผลงานและคุณค่าออกสู่ตลาด
4. Mind Set : ฝึกฝนเกลาความคิดและจิตใจด้วยการเขียน Blog และลงมือทำจะได้ผลลัพธ์

วิธีเริ่มต้น Freelance SEO Specialist
การเริ่มต้นอาชีพนี้ ให้เน้นที่การพัฒนาตัวเองและสร้างผลงานเผยแพร่ใน Blog & Social Media ก่อนเป็นสำคัญเพื่อฝึกฝีมือและสร้าง Personal Brading ให้ตัวเองครับ

ในช่วงเริ่มต้น อย่าเน้นที่ตัวเงินหรือรายได้มากเกินไป จนละเลยซึ่งความมุ่งมั่นและพยายามลงมือทำต่อเนื่อง
ควรเข้าใจก่อนว่า SEO Freelancer ที่เก่งและมีชื่อเสียง จะมีคอนเนคชั่นมากมายจากผลงาน รวมทั้งได้ทำงานกับบริษัทใหญ่ที่จ่ายผลตอบแทนดีครับ

อาชีพนี้ต้องใช้ทักษะความสามารถที่หลากหลาย เน้น SEO เป็นหลักและมี Digital Marketing ด้านอื่นๆเป็นส่วนเสริม เช่น พื้นฐานการสร้างเว็บไซต์, ความรู้พื้นฐานด้าน HTML CSS, การเขียนบทความ, การลงโฆษณา Google Ads, Facebook Ads, Line@, YouTube และผลงานการทำ SEO ที่ได้ผล ฉะนั้นควรสนุกกับการพัฒนาตัวเองและสร้างผลงานครับ

ตัวอย่างระยะเวลาที่ใช้เรียนรู้ทักษะ
ตัวอย่างการประเมิณเวลาในการเรียนรู้ด้าน SEO และทักษะ Digital Marketing อื่นๆเสริมครับ
         - ทักษะสร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress เรียนรู้ 6 เดือน – 1 ปี
         - ทักษะ HTML, CSS พื้นฐาน เรียนรู้ 1-3 เดือน
         - ทักษะการเขียนบทความ เรียนรู้ผ่านการเขียนมากกว่า 30 บทความขึ้นไป
         - ทักษะการลงโฆษณา Google Ads เรียนรู้ 6 เดือน – 1 ปี
         - ทักษะการลงโฆษณา Facebook Ads ขั้นพื้นฐาน-กลาง เรียนรู้ 6 เดือน – 1ปี
         - ทักษะการใช้งาน Line@, YouTube ขั้นพื้นฐาน-กลาง เรียนรู้ 3 – 6 เดือน
         - ทักษะการทำ SEO และสร้างผลงาน เรียนรู้และสร้างผลงาน 1-3 ปี
แต่ละคนจะใช้เวลาเรียนรู้แตกต่างกัน ด้านบนเป็นตัวอย่าง คร่าวๆที่นักรบประเมิณใช้ลงมือทำงานจริงครับ ส่วนแหล่งเรียนรู้หาได้จากกูเกิลหรือหนังสือได้เลย เริ่มต้นจากฟรี ราคาประหยัดก่อน แล้วค่อยลงทุนใช้เครื่องมือที่ราคาสูงขึ้นเพื่อนำมาประกอบการวิเคราะห์ SEO โดย SEO Tools ที่นักรบใช้จะมีตามรายละเอียดด้านล่างนี้ครับ

แหล่งเรียนรู้ SEO ระดับโลก ที่นักรบติดตาม
         - Google Guidelines แหล่งเรียนรู้การทำ SEO จาก Google เป็นพื้นฐานที่ดีที่สุดในการศึกษา White hat SEO การทำเอสอีโอสายขาวที่ถูกหลักตามคำแนะนำของกูเกิลครับ
         - Backlinko.com "Brian Dean is one of the world's most sought-after SEO experts" บล็อกสอนการทำ SEO ระดับ Top ของโลก
         - Ahrefs.com/blog/ Blog & Backlink Tools Checker ที่ดีที่สุดครับ

ติดตามอ่านเพิ่มเติมคลิกลิ้งค์นี้ครับ  https://warrior.in.th/jobs/freelance-seo-specialist/

wm5398

สร้างคอร์สออนไลน์ รายได้ Passive Income

มนุษย์เงินเดือน ใช้ความชำนาญในงานประจำ 7 ชั่วโมง/วัน , 140 ชั่วโมง/เดือน เป็นต้นทุนทำธุรกิจส่วนตัว ทำอาชีพเสริม ลงทุนให้น้อย ใช้จุดเด่นจากงานประจำ เอาทักษะมาเป็นต้นทุนให้ความรู้ และขายความรู้ออนไลน์ ทำธุรกิจ(Info Business) ได้ จะมีกี่ธุรกิจ ธุรกิจน่าสนใจ ที่ทำเสริมคู่งานประจำ ลงทุนน้อย ไม่ต้องลงทุนสินค้า, ไม่มีหน้าร้าน, ไม่ต้องเช่าที่, ไม่ต้องจ้างคนงานให้ปวดหัว แต่ให้เราลองผิดลองถูกจนเก่งก่อน แล้วถ้าได้ดิบได้ดี จนตั้งบริษัทเล็กๆได้


ทำให้ ธุรกิจน่าสนใจ และยั่งยืนด้วยการสร้างแฟน
สร้างแฟนก่อนใน Facebook Fanpage รวมคนที่ชอบเหมือนกัน ชีวิตเหมือนกันมาอยู่ในแฟนเพจ  ใช้แฟนเพจแบ่งปันประสบการณ์ดีๆ เรื่องราวดีๆ มอบให้เขา จะได้เอาไปใช้แล้วดีกับชีวิตเขามากยิ่งขึ้น มันจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ (trust), ความไว้วางใจ, ทำให้คนรู้จักความสามารถของตัวเรา สินค้าของเราคือความรู้ (Info Products) ที่ช่วยให้เขามีความรู้ เราแบ่งปันเรื่องราวดีๆ ทั้งปัญหา, วิธีแก้ไข , หนทางในการสร้างโอกาส และ สร้าง Connection หากคนนำไปใช้ก็มีโอกาสมากยิ่งขี้นที่จะประสบความสำเร็จดังที่หวัง

ในช่วงแรก นักรบมีสมาชิกแฟนเพจเพียง 5,000 คน ก็สามารถสร้างรายได้ และเติบโตขึ้นได้ ขอเพียงแบ่งปันความรู้ และมอบสิ่งเป็นประโยชน์ให้เสมอๆ

ธุรกิจส่วนตัวเล็กๆ ของนักรบเมื่อ 3 ปีก่อนเป็นอย่างไร ?
นักรบทำธุรกิจเล็กๆ ธุรกิจออนไลน์ มาแล้ว 7 อย่างใน3ปี เจ๊งแล้วเจ๊งอีก เจ๊งจนชิน ทุกครั้งที่เจ๊งมันได้ประสบการณ์มาอย่างน้อย 1 ข้อ ทำไป 7 ตัว ได้มาอย่างน้อย 7 ข้อที่ไม่ควรทำ หรือถ้าแก้ไขมันได้ ธุรกิจก็รอด อยากรู้ว่าก่อนหน้านี้ นักรบทำธุรกิจอะไรบ้าง อ่านได้ที่ ประวัตินักรบ จนพบธุรกิจสุดท้าย ธุรกิจขายและให้ความรู้เป็นธุรกิจที่ดีที่สุดในชีวิต ธุรกิจเล็กๆรายได้ดี จนเก็บเงินมาตั้งบริษัทเล็กๆ และออกมาทำเต็มตัวได้

อยากทําธุรกิจเล็กๆ ทำธุรกิจออนไลน์, IT ต้องได้ App ต้องเป็น
อยากมีธุรกิจเล็กๆเป็นของตัวเอง แนะนำ Online Tools ที่ดี เหมาะกับการ เริ่มต้นธุรกิจเล็กๆเป็นของตัวเอง ใช้ทำธุรกิจได้อีกนาน คือ Google Docs, Sheets, Slides, Forms เป็นเครื่องมือฟรี
      - Google Docs สำหรับพิมงานเอกสาร เหมือนกับ Words
      - Google Sheets สำหรับทำงานตารางคำนวน เหมือนกับ Excel
      - Google Slides สำหรับการนำเสนอข้อมูลและการ Present เหมือนกับ Power Point
      - Google Forms สำหรับการสร้าง Forms รับข้อมูล

นักรบสร้างเอกสารออนไลน์ Google Docs และแชร์กับเพื่อนร่วมงาน ทำงานที่ไหนก็ได้แม้ผ่านมือถือ

ธุรกิจน่าสนใจ ธุรกิจเล็กๆที่น่าลงทุน ที่เหมาะมนุษย์เงินเดือน
มนุษย์เงินเดือน มีความเชี่ยวชาญในงานประจำ 7 hr/วัน หรือ 140 hr/เดือน จะได้เปรียบหากเอาเอาจุดเด่นนี้ มาต่อยอดเพื่อเปิดธุรกิจให้ และขายความรู้ (Info Business) ธุรกิจให้และขายความรู้ (Info Business) เป็นธุรกิจส่วนตัว รายได้ดี ต้นทุนต่ำมากๆ หรือแทบจะเรียกได้ว่าไม่มีทุนทางวัตถุได้เลย แต่ใช้ต้นทุนทางความรู้ ความสามารถที่สูงแทน เหมาะกับการทำควบคู่งานประจํา เริ่มต้นได้ง่ายมาก ทำหลังงานประจำได้

นักรบ ทำธุรกิจให้และขายความรู้ (Infopreneur) สมัยเริ่มทำแรกๆ ทำควบคู่งานประจำไปก่อน ขายความรู้ผ่าน Video DVD เป็นหลัก ทำได้ 1 ปี ทำให้มีเงินเก็บมากพอและมีคนรู้จักระดับหนึง จนตัดสินใจออกมาทำเต็มตัว เปิดบริษัทเล็กๆของตัวเองได้

Note : Infopreneur เป็นอาชีพมาแรงในยุคนี้ เพราะข้อมูลความรู้ที่มีมากใน Internet สามารถเปลี่ยนคนธรรมดากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญ และสร้างธุรกิจได้ อีกทั้งกำไรจากอาชีพ Infopreneur จะมีมากถึง 2,000 เท่าเลยทีเดียว ถ้าเทียบกับราคาต้นทุนทางวัตถุ

นักธุรกิจความรู้ (Infopreneur) คือ อะไร ?
นักธุรกิจความรู้ Infopreneur คือ อาชีพหนึง ที่ให้ความรู้และขายความรู้เป็นหลัก ในแต่ละวันจะสร้างเนื้อหาที่ดีให้คนอืนผ่าน Fanpage และ Website อีกทั้งยังจำหน่ายสินค้าเป็นความรู้ใน Package ต่างๆ เช่น DVD, คอร์สออนไลน์, สัมมนา, หนังสือ, eBook
นักรบเริ่มต้นให้ความรู้ฟรีบ่อยๆ  และจำหน่ายความรู้ในแบบ Video DVD

จุดเด่นของอาชีพ Infopreneur
ใช้ความเชี่ยวชาญที่ได้จากงานประจำเป็นต้นทุนหลัก 140 hr/เดือน คือเวลาที่มีค่ามาก ประสบการณ์ตรงส่วนนี้สามารถนำมาเผยแพร่ และให้ความรู้ผ่านช่องทางเหล่านี้ได้
        - Facebook Fanpage
        - Website
ยิ่งให้ความรู้ ยิ่งเพิ่มพูนความสามารถ ต่อยอดสู่รายได้เป็นธุรกิจส่วนตัวได้ – นักรบ

ความรู้ที่ให้ไป จะมี 2 ประเภทใหญ่
1. ความรู้ แบบฟรี ความรู้ทั่วไป เนื้อหากว้าง มีประเด็นสั้นๆและ 1 ใจความที่ดี
2. ความรู้ แบบเสียเงิน เช่น หนังสือ, eBook, Video DVD, Audio CD, คอร์สออนไลน์, สัมมนา, คลาสเรียน, หรือ ที่ปรึกษา

นักรบเริ่มต้นให้ความรู้ฟรีผ่าน เว็บไซต์ และ Youtube โดยแจกฟรีเกือบทุกวัน ผ่านไป 1 เดือน จะมีเนื้อหาที่ให้ความรู้ฟรี 20 วีดีโอ และมากขึ้นเป็น 50 วีดีโอใน 3 เดือน ส่งผลให้ Video DVD ขายดีและมีคนสั่งซื้อ จนมีรายได้ประมาณ 200,000 บาท ในปีแรกที่ทำ

อีกหนึ่งสิ่งทีสำคัญกว่า ที่มาพร้อมกับรายได้ คือ มีคนรู้จักนักรบมากยิ่งขึ้น ได้ถูกเชิญเป็นวิทยากร 4 ครั้งใน 1 ปี และเว็บไซต์มีคนเข้าสม่ำเสมอ 4,000 – 5,000 คนทุกเดือน (ปี 2557)

คนเข้าเว็บน้อย 1000 คน/เดือน แต่สินค้าดี ความรู้ดีก็ขายได้
ช่วงเริ่มต้น มีคนเข้าเว็บไซต์เพียง 1,000 – 2,000 คน/เดือน แต่เนื้องจากนักรบให้ความรู้เยอะเพียงพอ ก็ช่วยให้คนอ่านความรู้ฟรีของเรา ตัดสินใจซื้อสินค้า อาจจะสัปดาห์ล่ะ 2-3 คน แต่พอครบ 1 เดือน ก็สามารถทำยอดได้ 20,000-30,000 หมื่นบาทได้

ทำไมธุรกิจขายความรู้จึงเป็น ธุรกิจน่าสนใจ
ธุรกิจให้และขายความรู้ (Info Business) เป็นธุรกิจส่วนตัว ทําที่บ้านที่น่าสนใจตัวหนึง เพราะใช้ความรู้ในงานประจำที่ทำเป็นหลัก ไม่ต้องเข้า Office มีเวลาดูแลครอบครัว ใช้ชีวิตได้ยืดหยุ่นมากขึ้น และสามารถจัดเวลาตัวเอง วางแผนตัวเองได้อย่างมีอิสระได้

อาชีพ นักธุรกิจความรู้ ( Infopreneur )เริ่มต้นอย่างไร ?

เริ่มต้นธุรกิจได้จากการสร้าง Fanpage ของตัวเองก่อน แล้วเขียนบทความ + ภาพประกอบดีๆ โพสลง Fanpage ให้ได้เกือบทุกวัน โดยควรทำโฆษณา Fanpage ด้วย เพื่อสร้างฐานลูกค้าในกลุ่มที่เราสนใจ เพื่อจะเปลี่ยนคนอ่านให้เป็นลูกค้าในอนาคตได้
1. สร้างแฟนเพจ : โดยตั้งชื่อให้สอดคล้องกับสิ่งที่จะขาย
2. ให้ความรู้บ่อยๆ : ทำ PartTime 2-3 ครั้ง/week , ทำ Full Time  4-6 ครั้ง/week
3. นำความรู้ลงเว็บไซต์ : นักรบแนะนำระบบเว็บไซต์ แนว Blog & Magazine ดีที่สุดกับ SEO ด้วย Content ดี

ทำไมต้องให้ความรู้บ่อยๆ
1. ความรู้บน Fanpage จะช่วยรวมกลุ่มคนในแฟนเพจที่ชอบ และมีนิสัยเหมือนๆกัน
2. ความรู้บน Website จะนำคนเข้าเว็บไซต์ผ่าน Google
3,. ความรู้ จะสร้าง Personal Brand ต่อยอดสู่ธุรกิจส่วนตัว ทั้ง วิทยากร, ที่ปรึกษา, เขียนหนังสือ,จัดคอร์สสัมมนา, ขายของออนไลน์ และอื่นๆตามมา
การให้ความรู้ฟรี คือการทำการตลาด พร้อมๆกับสร้าง Personal Brand  – นักรบ

ทักษะของ Infopreneur
ทักษะพื้นฐาน
1. การใช้งานโปรแกรมพื้นฐาน เช่น Word, Excel
2. การสร้าง Fanpage และการจัดการ Fanpage
3. การเขียนบทความ (Content Writer)
4. ทำโฆษณาผ่าน Facebook Ads
5. การตลาดผ่าน Google SEO

ทักษะระดับกลาง
1. อ่านเนื้อหาจากต่างประเทศ และเรียนรู้เพิ่มเติมได้
2. มีเว็บไซต์ รองรับ SEO และ Social Media ได้ดี
3. ใช้การตลาดผ่านเนื้อหา Content Marketing + Google SEO

ทักษะระดับสูง
1. เขียนหนังสือ, eBook, จัดสัมมนา หรือ สร้างคอร์สออนไลน์ ให้เข้าใจและเรียนรู้ง่าย
2. พัฒนาบุคลิคภาพ และการพูดต่อหน้าคน เพื่อฝึกเป็นวิทยากร
3. กลยุทธ์การตลาด : โปรโมทตัวเอง สร้าง Personal Brand และ Connection ผ่านสื่อต่างๆ

สร้างธุรกิจนานแค่ไหน ?
มนุษย์เงินเดือน สามารถทำธุรกิจนี้ควบคู่งานประจำได้ โดยใช้เวลา 3 ชั่งโมงหลังเลิกงาน และทำธุรกิจให้มั่นคงโดยใช้เวลาทดสอบรายได้ที่สม่ำเสมอตลอดระยะเวลา 6 เดือน เป็นอย่างน้อย

ธุรกิจเริ่มมีรายได้เมื่อไหร่ ?

จะเริ่มมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ เมื่อนักธุรกิจความรู้ (Infopreneur) สร้าง Personal Brand เสร็จแล้ว และออกคอร์สออนไลน์, eBook, จัดสัมมนา อย่างใดอย่างหนึงจำหน่ายเรียบร้อยแล้ว

ทำไมต้องสร้างเว็บ (Blog) ให้ความรู้
เว็บไซต์ที่ติดอันดับการค้นหา Google หน้าแรก จะดึงคนอ่านเว็บไซต์ใหม่ๆทุกวัน และมีโอกาสเปลี่ยนเป็นลูกค้าในอนาคต

เว็บไซต์ติดอันดับ Google แล้วส่งผลดีอย่างไร ? ผู้อ่านใหม่ๆ เข้าเว็บไซต์ทุกๆวัน ตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่น/เดือน โดยไม่ต้องใช้เงินจ่ายค่าโฆษณาเลย อีกทั้งยังสร้างความน่าเชื่อถือในระยะยาว

กรณีศึกษาจาก Pantip " นักธุรกิจขายความรู้ Infopreneur "


แชร์ประสบการณ์ การทำธุรกิจ 7 ธุรกิจ ภายใน 3 ปี จนพบธุรกิจการสอนที่เหมาะกับตัวภายในแนวคิดทีว่า "คนจะยอมซื้อสินค้า หรือ บริการก็ต่อเมื่อเป็นประโยช์นกับเขาจริงๆ" และนี้คือ จุดเริ่มต้นของนักธุรกิจขายความรู้ (Infopreneur)

แนะนำอ่านเส้นทางอาชีพ Digital Marketing Freelancer
แชร์ประสบการณ์การสร้างอาชีพเกี่ยวกับ SEO & Digital Marketing แบบนักรบ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นจริงว่าความรู้ที่สอนนี้ใช้ได้ผลจริงกับนักรบ แต่ผู้เรียนควรนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับธุรกิจตัวเองครับ เช่น รับทำเว็บไซต์ WordPress, วิทยากรสร้างคอร์สออนไลน์, ขายของออนไลน์ด้วยเว็บไซต์, รับทำ SEO แบบฟรีแลนซ์ และ Small SEO Agency
https://warrior.in.th/jobs/infopreneur/

wm5398


เปลี่ยนชีวิตจาก Webmaster ใน Office สู่ Freelance Digital Marketer (SEO,SEM,WordPress)

สวัสดีครับ นี้เป็นบทความที่เขียนขึ้นจากประสบการณ์ของนักรบ เพื่อเป็นความรู้ให้กับคนรุ่นหลังที่สนใจอาชีพ " รับทำเว็บไซต์ด้วย WordPress " ดูแนวทางนักรบไปปรับใช้กับตัวเองครับ

สามารถสร้างรายได้หลังเลิกงาน จะทำแบบ Fulltime/Partime เป็นธุรกิจส่วนตัวเล็กๆ ไว้เก็บเงินหลักแสนได้ในเวลาไม่นานนัก อีกทั้งยังลงทุนไม่สูงมากด้วยครับ

ฟรีแลนซ์เริ่มต้น รับทําเว็บไซต์ด้วย WordPress  8,000-15,000 ฿

ช่วงเริ่มต้นถ้ายังใช้ WordPress ไม่คล่อง ให้ทำเว็บไซต์ให้คนรู้จักเพื่อฝึกฝีมือและรับทำเว็บไซต์ในราคาเพื่อนๆกัน ที่ 8,000-15,000 บาทก่อน เพื่อฝึกรับมือกับ Requirement ที่สามารถต่อรองได้ และควรเป็นเว็บไซต์ที่นำเสนอข้อมูลง่ายๆไม่มีระบบอะไรซับซ้อนครับ

ตัวอย่างผลงานด้านบนเป็นเว็บไซต์ที่สร้างด้วย WordPress ใช้เวลาทำงานประมาณ 15-20 วัน ต่อ 1 เว็บไซต์ โดยคิดราคาช่วงเริ่มต้น อยู่ในช่วง 8,000-15,000 ต่อเว็บไซต์ โดยผู้ที่จะสามารถทำได้ ควรรู้พื้นฐานของ WordPress ทั้งหมด และฝึกการใช้งาน Theme WordPress อีก 40-60 ชั่วโมง   โดยประมาณครับ

ฟรีแลนซ์มืออาชีพ รับทําเว็บไซต์ด้วย WordPress 25,000 – 50,000+ ฿
เมื่อเข้าใจและใช้ WordPress ได้อย่างคล่องแคล่ว ก็จะสามารถรับงานระดับมืออาชีพ ที่ราคา 25,000 – 50,000 บาทขั้นไปได้

ตัวอย่างนี้ใช้ Premium Theme ครับ โดยคนที่จะสามารถทำได้จะต้องมีพื้นฐานการใช้งาน WordPress ทั้งหมด รวมทั้งผ่านประสบการณ์การรับทำเว็บไซต์ด้วย WordPress แบบง่ายๆมาก่อน 2-3 เว็บ

รวมทั้งมีความสามารถในการจัดการ plugin ที่ตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าได้ โดยทักษะเหล่านี้ควรผ่านการทำงานจริงมาแล้ว มากกว่า 100+ ชั่วโมงครับ

Tips :  วิธีการทำการตลาดอาชีพรับทําเว็บไซต์ WordPress
อาชีพรับทำเว็บไซต์ด้วย WordPress สามารถหางานได้ง่าย หากมี Connection และมีผลงานสม่ำเสมอๆให้คนใกล้ๆชิด หรือคนรู้จักทราบในโลกออนไลน์ โดยวิธีการที่ดีที่สุด คือการให้ความรู้เกี่ยวกับเว็บไซต์ผ่าน Blog + Social Media นั้นเอง

อาชีพรับทำเว็บไซต์ จะต้องเจอกับคู่แข่งที่เป็นบริการ สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปซึ่งบริการเหล่านี้จะฟรี เรามาดูวิธีแก้ไขที่นักรบแนะนำครับ

คนทำรับทำเว็บไซต์หากต้องการความยั่งยืนและประสบความสำเร็จในระยะยาว ควรต่อยอดการรับทำเว็บไซต์แบบเฉพาะทาง  (Niche Market)

การรับทำเว็บไซต์แบบเฉพาะทาง  (Niche Market) เช่น รับทําเว็บไซต์ WordPress โรงแรมโดยเฉพาะ, รับทําเว็บไซต์ WordPress การขายของออนไลน์โดยเฉพาะ, รับทําเว็บไซต์ WordPress สำหรับนักเขียนโดยเฉพาะ เป็นต้นครับ

ซึ่งวิธีนี้จะช่วยเพิ่มทางเลือก และต่อกรกับผู้ให้บริการฟรีเว็บไซต์ได้ เพราะมีระบบเว็บที่เฉพาะกลุ่มลูกค้ามากกว่าครับ

ทําเว็บไซต์ WordPress ได้แล้ว ให้ต่อยอดเรียนรู้เรื่องการตลาดออนไลน์ด้วยล่ะ
เมื่อทำเว็บไซต์เป็นแล้ว ก็อย่าอยู่กับที่ ไม่พัฒนาฝีมือตามยุคตามสมัยล่ะ ก็เพราะเดี๊ยวนี้ เว็บมันทำง่ายขึ้น ระบบเปิดเว็บไซต์ฟรีก็มีมากมาย หากไม่ปรับตัวกัน มีหรือคนทำเว็บไซต์จะอยู่รอด ก็คงไม่พ้นหนีไปทำอาชีพอื่นอยู่ดี

แล้วจะมานั่งบ่นๆเรื่อยๆ ว่าอาชีพนี้ไม่ดีอย่างโง้น อย่างงี้ จริงๆ มันก็เป็นทุกอาชีพนะเหละครับ มันต้องปรับตัวและพัฒนากันทั้งนั้น ถ้าไม่พัฒนาตัวเอง มันก็เหมือนถอยหลังลงคลอง รายได้หดหาย ไม่ใช่เพราะอาชีพไม่ดี แต่ลืมดูตัวเองไป ว่าไม่พัฒนาเองขึ้นเลย ฉะนั้นควรพัฒนาตัวเองด้าน Digital Marketing เพื่อทำการตลาดให้ธุรกิจของตัวเอง หรือจะทำการตลาดให้ลูกค้าก็ยังได้ครับ

สอนสร้างเว็บไซต์ WordPress

วีดีโอสอนพื้นฐาน WordPress แบบจดโดเมนและเช่า Hosting เอง
       - ทำไมต้องใช้ WordPress สร้างเว็บไซต์
       - จดโดเมน & เช่า Hosting
       - ติดตั้ง WordPress ผ่าน Cpanel
       - ติดตั้ง Free Theme สำหรับ Web Blog
       - การตั้งค่า WordPress Setting
       - การตั้งค่าหน้าแรกของเว็บไซต์ และ หน้า Blog
       - สร้างเรื่อง (Post)
       - สร้างหน้า และเมนู (Page & Menu
       - ปรับแต่ง Theme WordPress
       - วิธีติดตั้ง Plugin & ตัวอย่างการติดตั้ง Facebook Fanpage Widget
       - ตัวอย่างเว็บไซต์ ที่ใส่ข้อมูลเรียบร้อยแล้ว

FAQ : คำถามที่พบบ่อย
อาชีพรับทำเว็บไซต์ เป็นธุรกิจที่ทำเสริมนอกเวลางานประจำได้ ไม่ต้องลงทุนสูงมาก ใช้เพียง Computer, อินเตอร์เนต และความรู้ที่สามารถเรียนได้จากโลกออนไลน์ หรือหนังสือ โดยคนที่ทำได้ต้องมีใจรักในงานนี้ด้วย ก็จะฟั่นฝ่าอุปสรรคไปได้ครับ

1. รับทำเว็บไซต์ด้วย WordPress เป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้เสริมที่ทําที่บ้าน ไม่ต้องลงทุนสูงได้อย่างไร ?
อาชีพรับทำเว็บไซต์ เป็นธุรกิจที่ทำเสริมนอกเวลางานประจำได้ ไม่ต้องลงทุนสูงมาก ใช้เพียง Computer, อินเตอร์เนต และความรู้ที่สามารถเรียนได้จากโลกออนไลน์ หรือหนังสือ โดยคนที่ทำได้ต้องมีใจรักในงานนี้ด้วย ก็จะฟั่นฝ่าอุปสรรคไปได้ครับ

2. ทําไงให้มีเงิน จากอาชีพรับทําเว็บไซต์ ?
รับทำเว็บไซต์ด้วย WordPress สิ ทำได้ง่ายหนังสือและคอร์สเรียนสอนฟรี มีเยอะมาก แต่พอทำได้แล้ว ต้องสร้าง Brand ให้ตัวเองผ่าน Blog ด้วยนะ จะได้มีลูกค้าใหม่แวะเวียนมาเสมอ มี Connection ใหม่ๆ ตลอด จะได้มีรายได้เรื่อยๆทุกเดือน

อาชีพรับทำเว็บไซต์ เป็น " อาชีพอิสระ (freelance) ได้ แต่จะต้องเก่งและมีวิธีการทำการตลาดออนไลน์ให้ตัวเองจริงๆ ถึงจะทำได้ โดยมีประสบการณ์ และมี Connection ที่มาจาก Blog และเว็บไซต์ได้นั้นเอง

คนเพิ่งเริ่มทำเว็บไซต์ หากไม่มี Blog ไว้โปรโมทผลงานตัวเองที่ใช้หลัก SEO ด้วย อย่าออกไปทำ Freelance เร็วเกินไป เพราะจะหางานไม่ได้นะ

3. ทำช่วงแรกไม่มีงานทำ อยากมีงานทําเว็บไซต์ ทําไงดี ?
เริ่มแรกจากคนรู้จักก่อน โปรโมทตัวเอง Social Media ของตัวเองก่อน เวลาโปรโมทก็ทำให้ดูมืออาชีพนิดหนึง แนบผลงานสวยๆ ราคาและรายละเอียดเบื้องต้นให้ครบ อ๋ออย่างลืมข้อมูลติดต่อกลับด้วยล่ะ ทำเสร็จก็โพสใน Status Facebook ส่วนตัวให้คนรู้จักเห็น นี้เป็นวีธีง่ายๆในการโปรโมทตัวเองเลยนะ อีกวิธีหนึง ก็แวะเวียนไปตามกลุ่ม Facebook หรือ Webboard ที่มีลูกค้าเราอยู่บ้าง ไปอ่านไปตอบไปแชร์ความรู้ให้เขา เวลาแชร์ก็อย่าทำง่ายๆ แค่พิม Comment แต่ให้แชร์เป็น Blog เป็นบทความที่เราเขียนขึ้น หรือวีดีโอที่ทำขึ้นเลยดีกว่า มันเข้าใจง่ายกว่าเยอะ และเป็นการโปรโมทตัวเองไปในตัวด้วย ดีไหมล่ะ ^_^

4. รับทําเว็บไซต์ WordPress ทำนอกเวลางานประจำได้ไหม ?
รับทำเว็บไซต์สามารถนอกเวลางานประจำได้ เพราะติดต่อออนไลน์เป็นหลัก ทั้งรับงาน ส่งงาน อาจจะมีบ้างที่ต้องโทรศัพท์คุยรายละเอียด แต่คุยหลังเลิกงานได้นะ ถ้ารับทำเว็บไซต์งบไม่มาก ไม่ต้องไปพบคนว่าจ้างก็ได้ แต่ถ้าจ้างสูง มีถ่ายรูปสินค้าหน้าร้าน ก็อาจมีนัดคุยรายละเอียดกันไปตามเหมาะสม ตรงนี้ก็อยู่ที่ประสบการณ์ของแต่ละคนแล้วล่ะ ว่าจะจัดสรรเวลาอย่างไร แต่มั่นใจได้ระดับหนึงว่าทำงานเป็นธุรกิจเสริม นอกเหนืองานประจำได้นะ

5. วิธีสร้างรายได้จากการรับทําเว็บไซต์ WordPress นั้นทำอย่างไร ?
มันมีหลายขั้นตอนเหมือนหลายๆอาชีพนั้นเหละ ก่อนจะไปรับงานก็ต้องเล่น Theme WordPress ให้เก่งๆก่อน แนะนำ Theme ที่ Themeforest.net นะ เลือก Theme ดีๆหน่อย มีคนพัฒนาดีๆ และ Support ดีๆบ่อยๆ  พอเล่นคล่องแล้ว ค่อยหางาน และพูดคุยเกี่ยวกับการรับงานต่อไป มันหลายขั้นตอนหน่อย แต่ถ้าทำบ่อยมันจะเป็นอัตโนมัติ
          1. หางานให้ได้ก่อน ตรงนี้สำคัญ ถึงบอกว่าให้เขียน Blog หรือ ทำวีดีโอ แบ่งปันความรู้บ้าง จะได้ดึงดูดลูกค้ามาให้รู้จักเราสม่ำเสมอ
          2. พอมีลูกค้า ก็พูดคุยเนื้องานเว็บไซต์ ตรงนี้ก็สำคัญนะ ถ้าตรงไหนทำได้ก็บอกลูกค้าไปตรงๆ ตรงไหนทำไม่ได้ ก็บอก และให้ลูกค้าจ่ายเงินเฉพาะส่วนที่ทำได้ก็พอ ที่เหลือเก็บไว้พัฒนาต่อได้ ภายหลังจากที่มี Plugin ดีๆมาแล้ว
          3. คุยเสร็จ ต้องมัดจำเงินล่วงหน้าด้วยนะ ถ้าคนกันเอง หรือรับงานครั้งแรก ยังไม่กล้า ก็รับเงินหลังจากส่งงานครั้งแรกก็ได้ แต่ถ้าทำไปสักพัก เก่งแล้ว ก็รับล่วงหน้า 30% ก็ได้จ้า
          4. จบงานให้ได้ตามเนื้อหาที่คุยกับลูกค้าไว้ ตรงไหนทำไม่ได้ก็บอกตรงๆ ส่วนใหญ่เวลาจบงาน ถ้า Theme ที่เลือกมัน Support ความต้องการลูกค้าแล้วมันจะง่าย มันจะจบงานเร็ว แนะนำให้หา Theme ดีๆ มาเล่นก่อน ให้เวลากับมันนิด พอคล่องมันช่วยได้เยอะเวลาทำงาน
          5. เรื่องดูแลบริการหลังการขาย หรือการทำการตลาดออนไลน์ ก็ต้องมีนะ โดยคิดเป็นค่าดูแลรายปีหรือรายเดือนก็ได้ แล้วแต่ตกลง


6. ปัญหาอาชีพรับทําเว็บไซต์ด้วย WordPress นี้มีไหม ?
มันก็มีปัญหากันทุกอาชีพเหละ มีอาชีพไหนบ้างไม่มีปัญหา ถ้าทำแล้วหาเงินงานไม่ได้ ก็ทำ Blog หรือ ทำวีดีโอโปรโมทผลงาน หรือ แบ่งปันความรู้สิ ต่างประเทศทำกันตั้งนานแล้ว ถ้าทำงานแล้วจบงานไม่ได้ ก็ดูสิว่าเพราะอะไร คุยเนื้องานไม่ละเอียดหรือปล่าว เราไปรับงานที่ทำไม่ได้หรือปล่าว ถ้าเอาแบบแนะนำง่ายๆ สำหรับมือใหม่เลยนะ ก็เล่นธีมเวิร์ดเพรสให้คล่องก่อน เลือกธีมดีๆแล้วไปรับงาน อย่าไปรับงานที่มีฟังชั่นเยอะๆอะไรมากมายนัก เอาแค่โชว์ข้อมูลที่ theme ทำได้ก่อน

7. ปัญหาของมืออาชีพ คือ มีงานมากเกินไป
คนที่รับทำเว็บไซต์เก่งๆจะมีงานล้นมือ และรับงานมากเกินไปจนทำไม่ได้ วิธีแก้ไขคือ รู้ลิมิตตัวเองว่า 1 เดือนทำได้กี่เว็บ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วง 1-3 เว็บไซต์/เดือนเท่านั้น
ฉะนั้นถ้ามีงานเข้ามา ก็ให้แจ้งลูกค้าทันทีว่าจะเริ่มงานได้เดือนไหน ถ้าลูกค้ารอได้ก็ดีเลย อย่ารับงานซ้อนกันเพราะจะทำไม่ทันครับ (หรือบางคนอาจส่งงานต่อให้คนรู้จักและเก็บค่าหัวคิว แต่วิธีการนี้ไม่แนะนำเพราะอาจควบคุมคุณภาพไม่ได้ อีกอย่างลูกค้าอยากให้คุณทำเว็บ ไม่ได้อยากให้คนอื่นทำให้ครับ)

สรุป
เอาละครับถึงตรงนี้ก็พอจะได้ความรู้เกี่ยวกับอาชีพรับทำเว็บไซต์ด้วย WordPress ไปไม่มากก็น้อย หวังว่าบทความนี้จะช่วยเพิ่มมุมมองอะไรใหม่ๆ และพัฒนาความคิดให้คนรุ่นใหม่ได้ก้าวสู่เส้นทางนี้ได้ดีขึ้นนะครับ
นักรบ – ลุย !!!
https://warrior.in.th/jobs/wordpress/

wm5398

รับทำ SEO จากประสบการณ์เจ้าของกิจการ
บริษัทรับทำ SEO
รับทำ White Hat SEO  ให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกกูเกิล เพิ่มคนเข้าเว็บไซต์ด้วยเทคนิคการทำ SEO จากประสบการณ์เจ้าของธุรกิจ เน้นปรับแต่งทั้ง Onpage และ Offpage เช่น Keyword research, keyword placement, site structure, page optimize, image optimize, internal Link optimize, technical audit, content audit, backlink building ให้เจ้าของธุรกิจ เพิ่ม Web traffic ประหยัดเงินซื้อ Ads

ทำ SEO เวบขายของออนไลน์
ประสบการณ์ทำ SEO ให้เวบไซต์ตัวเอง ส่งเสริมการขายของออนไลน์ ยอดขายเกินล้านใน 6 เดือนแรก โดยใช้เงินลงทุน Google Ads และ Facebook Ads เพียง 3,000 บาท/เดือน ลูกค้าส่วนใหญ่กว่า 60 % มาจากช่องทาง Organic Search ที่ทำ SEO ไว้

ทำ SEO เว็บขายของของตัวเอง
ทำ SEO ให้เวบไซต์ตัวเอง ส่งเสริมการขายของออนไลน์ สร้างยอดขาย โดยใช้เงินลงทุน Google Ads และ Facebook Ads เพียง 3,000 บาทต่อเดือน เป็นตัวอย่างให้กับธุรกิจขนาดเล็ก

SEO Agency Team ให้กับบริษัทขนาดใหญ่
รับทำ SEO ให้บริษัทขนาดใหญ่ ดูแลครบวงจรในส่วนของ Search Marketing เช่น สร้างเว็บไซต์ Shopping Cart, Website Development, Content Marketing, Social Media , SEO, PPC และอื่นๆ

รับทำ SEO กับบริษัทนักรบ ดีอย่างไร ?
บริษัทรับทำ SEO ส่วนใหญ่กว่า 99% จะไม่สอนเจ้าของธุรกิจให้ดูแลต่อได้ ทำให้เจ้าของธุรกิจต้องจ่ายเงินค่าทำการตลาดตลอดไป ซึ่งต่างจากบริษัทนักรบ ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลกรในบริษัทของท่าน เพื่อที่จะดูแลการทำ SEO ได้เอง และสร้าง Content ที่รองรับการทำเอสอีโอได้ดี มีความมั่นคงในระยะยาว

บริษัทรับทำ SEO แบบนักรบ มีทีมที่ผ่านการฝึกฝนการทำ SEO มาเป็นอย่างดี ผลงานเว็บ E-Commerce กว่า 90% ล้วนมาจากกูเกิลเสิร์ช จึงมั่นใจได้ว่า ทีมเราคือผู้ช่วยที่มีประสิทธิภาพจริง

ผลลัพธ์การรับทำ SEO ให้ลูกค้า

11 ขั้นตอนการรับทำ SEO อย่างเป็นระบบและเป็นมืออาชีพ
ทำ SEO ครบทุกปัจจัย ทำให้การทำ SEO ของเรานั้นแตกต่างกว่าคู่แข่งในราคาที่คุ้มค่ากว่าได้

11 ขั้นตอนการรับทำ SEO
        1. Website Analysis
        2. Keyword Research
        3. Competitors Analysis
        4. Website Optimization
        5. Social Media Integration
        6. Blog Submission
        7. Press Release
        8. Article Submission
        9. Directory Submission
       10. Quality Link Building
       11. Action Report

สนใจทำ SEO ขอคำปรึกษา  https://warrior.in.th/seo-services/

wm5398

SEO Agency vs In-House SEO Team แบบไหนดีกว่ากัน
สำหรับการทำธุรกิจในปัจจุบัน การทำตามตัวอย่างที่ได้ผลแล้ว มีส่วนช่วยเพิ่มความสำเร็จเป็นอย่างมาก เช่น การปรับแต่งเว็บไซต์เพื่อได้รับอันดับที่ดีในกูเกิลเสิร์ช การมีคีย์เวิร์ดสำคัญๆที่ติดหน้าแรกกูเกิล ส่งผลต่อจำนวนทราพฟิคที่เพิ่มมากขึ้น และทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นด้วย แต่ใครล่ะจะเป็นคนทำ SEO ได้ดี ระหว่างการสร้าง SEO In-house Team หรือจ้าง SEO agency มาช่วย

ในบทความนี้จะพูดถึงเรื่อง...
        - In-house SEO และ SEO Agency คือ อะไร ?
        - ความแตกต่างระหว่างทั้งสองและข้อดีข้อเสียต่างๆ
        - แบบไหนที่เหมาะกับเรา

SEO In-house Team คือ...
SEO in-house team คือ การสร้างทีมการตลาดเอสอีโอขึ้นมาเองภายในหน่วยงาน อาจจะคัดคนที่น่าสนใจ มีพื้นฐาน หรือมีหน่วยก้านดีพอที่จะฝึกฝนและพัฒนาต่อไปเป็นตำแหน่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
สมาชิกในทีม In-house SEO จะมีตำแหน่งเรียกเช่น
        - SEO Specialist
        - SEO Manager
        - SEO Director
จำนวนสมาชิกในทีมและชื่อเรียกตำแหน่ง จะขึ้นอยู่กับขนาดของบริษัทที่จัดตั้งทีม

SEO agency คือ...
SEO Agency คือ ทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน Search engine optimization ซึ่งมีความแตกต่างจากหน่วยงานอื่นๆ เอเจนซี่จะทำงานร่วมกับลูกค้าในการทำ SEO Audits และอาจรวมถึงการวางกลยุทธ์และแก้ไขปัญหาทางเทคนิคให้อีกด้วยทั้งในส่วนของ Technical SEO , Onpage SEO, Offpage SEO, Keyword Research และส่วนสำคัญอื่นๆอีกมากมาย

ความแตกต่างระหว่าง In-house SEO และ SEO Agency
ความแตกต่างสามารถมองได้หลายแบบ เช่น ความรวดเร็วในการทำงาน ทักษะความถนัดในสายงาน ราคา และความคุ้มค่าการลงทุน
โดยทั่วไปแล้ว การจ้างทำจะได้มืออาชีพมาทำงาน ปรับเปลี่ยนเอเจนซี่หลังหมดสัญญาได้ง่ายกว่าการสร้างทีมเอง และเริ่มต้นทำงานได้เร็วกกว่าสร้างทีมเอง
ถึงจุดนี้คุณอาจจะเลือกไม่ถูกว่าจะสร้างทีมเองหรือจ้างเอเจนซี่ดี ลองมาดูข้อดีและข้อเสียของแต่ละแบบด้านล่างนี้ ไว้ประกอบการตัดสินใจครับ

ข้อดี-ข้อเสียของการสร้าง In-house SEO Team
ข้อดี :
        - สามารถมองเห็นเนื้องานที่คืบหน้าได้ชัดเจนกว่า และสามารถปรับเปลี่ยนได้เร็วกว่า
        - ทีมงานรับผิดชอบเกี่ยวกับเว็บไซต์ของบริษัทตัวเองเท่านั้น
        - ทีมงานภายในบริษัท มีความเข้าใจวัฒนธรรม คุณค่าและภาพรวมของกิจการได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว
        - ทีมงานจะประสานงานกับทีมอื่นได้ เพราะมีความคุ้นเคยกับทีมงานอื่นๆ เช่น ทีม PR, ทีม Web Dev, ทีมขาย และทีมโซเชียลมีเดีย
ข้อเสีย :
        - ใช้เวลาฝึกฝนทีมงานนาน เพราะอาจจะต้องเริ่มสอนตั้งแต่พื้นฐาน
        - แบกรับค่าใช้จ่ายของทีมงานประจำทั้งทีม และค่าชดเชยต่างๆกรณีให้ออกจากงาน
        - ทีมงานอาจไม่มีเวลาจัดการทำเอสอีโอเต็มที่ เพราะอาจมีงานเดิมที่ดูแลอยู่แล้ว
        - เนื้องานและผลงานการทำเอสอีโออาจช้าหรือน้อยเกินไป เพราะไม่สามารถจัดลำดับความสำคัญของงานได้ เนื่องจากขาดประสบการณ์

ข้อดี-ข้อเสียของการจ้าง SEO Agency
ข้อดี :
        - การจ้าง SEO Agency จะสามารถมีคนทำงานที่มีประสบการณ์พร้อมทำงานได้เลย เร่ิมต้นได้เร็วกว่า
        - การปรับเปลี่ยนเอเจนซี่หลังหมดสัญญาได้ง่ายกว่าการเปลี่ยนทีมภายหน่วยงาน
        - โดยส่วนใหญ่ Agency จะมีการติดตามและอับเดทความรู้ในแวดวงเอสอีโอได้ดีกว่าทีมงานภายในหน่วยงาน
ข้อเสีย :
        - เอเจนซี่อาจรับงานมากเกินไป ทำให้ดูแลลูกค้าไม่เต็มที่
        - การติดต่อประสานงานกัน จะทำได้ช้ากว่า
        - การค้นหาเอเจซี่ที่เหมาะกับกิจการของตัวเองทำได้ยาก และต้องใช้เวลา
        - มีราคาสูงกว่าเพราะต้องจ่าย 2 ต่อ ให้กับทีมงานและส่วนต่างกำไรของเอเจนซี่

เลือกแบบไหนดี
การเลือก SEO Agency หรือ In-house team อยู่บนพื้นฐานของหลายปัจจัยที่แตกต่างกัน และปัจจัยหลักที่มีผลมาก คือขนาดของกิจการและการแข่งขัน

หากคุณเป็นเจ้าของกิจการเล็กๆ การเลือกตัวเองหรือหุ้นส่วนหลัก ดูแลการตลาดดิจิทัลก่อนเป็นเรื่องดีที่ และสามารถต่อยอดไปยังการสร้างทีม หรือจะประสานงานกับเอเจนซี่ก็สามารถทำได้ เพราะมีประสบการณ์อยู่บ้าง จะช่วยประหยัดและลดความเสี่ยงได้อย่างหลายด้าน

หากคุณเป็นเจ้าของกิจการขนาดกลาง-ใหญ่ การเลือกจ้างเอเจนซี่จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมมากกว่า เพราะการทำงานของมืออาชีพจะช่วยขัดเกลาทีมงานภายในองค์กรไปพร้อมๆกัน และเริ่มทำการตลาดได้ทันที หลังจากนั้นทีมภายในหน่วยงานได้เรียนรู้จากเอเจนซี่ ก็สามารถสร้างทีมภายในขึ้นมาทีหลังได้
https://warrior.in.th/entrepreneur/seo-agency-vs-inhouse-seo-team/

wm5398

รวมนักทำ SEO ฟรีแลนซ์คนไทย (Thai Freelance Specialist)


รวม Blog ของฟรีแลน์เอสอีโอชาวไทย (Thai Freelance Specialist) ที่นักรบอ่านผ่านตามาแล้วบ้าง และยอมรับว่าควรแนะนำบอกต่อ ** นักรบดูแต่ส่วนของ Free Knowledge นะครับ ฉะนั้นหากผู้อ่านสนใจ Paid Service ต่างๆของผู้สอนแต่ละท่าน ควรรีเช็คให้แน่ใจว่าเหมาะกับตัวเองไหม และสอบถามไปกับผู้สอนโดยตรงครับ

Thai Freelance SEO Specialist Blog ที่น่าติดตาม
นักรบรวมแต่ฟรีแลนซ์นะครับ เพราะส่วนตัวจะชอบอ่านบทความที่มีคาแรคเตอร์ชัดเจนในการทำเอสอีโอของฟรีแลนซ์ครับ
       - Padveewebschool.com สอนการทำ SEO & WordPress ฉบับพัดวี
       - Chalakornberg.com สอนการทำ SEO สไตล์โบ๊ะบ๊ะ ฉบับคุณเม
       - Funnel.in.th สอนการทำ SEO เน้นกลุ่ม Business ฉบับคุณเจ
       - Rungwat.com สอนการทำ SEO เป็นภาษากันเองเข้าใจง่าย ฉบับคุณนิว
       - Papayiw.com สอนการทำ SEO ประสบการณ์ Agency ต่างประเทศ ฉบับคุณยิว
       - Thewhitemarketing.com สอนการทำ SEO และ Digital Marketing ด้านอื่นๆ

หากไม่มีเวบอื่นในนี้ แปลว่าผมยังไม่เห็นผลงานที่นานเพียงพอครับ ขอให้ทำสอนฟรีไปเรื่อยๆจนกว่าผมจะเห็นครับ
https://warrior.in.th/freelance-seo/thai-freelance-specialist/

wm5398

Google Algorithm Update : Product Reviews วันที่ 8 เมษายน 2564


กูเกิล เสิร์ช มักจะแสดงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้อยู่เสมอๆผ่านการทดสอบ, ทดลองและกระบวนการทบทวนต่างๆ จากขั้นตอนเหล่านั้นทำให้เรารู้ว่าคนชื่นชอบรีวิวสินค้าที่ละเอียด หาข้อมูลเชิงลึก มากกว่าสรุปเนื้อสั้นๆในกลุ่มสินค้านั้นๆ นี้คือเหตุผลว่า ทำไมพวกเราถึงแชร์การปรับปรุง Ranking systems ที่เรียกกว่า Product review update มันถูกออกแบบมาเพื่อให้รางวัลกับคอนเทนต์ที่ดีเหล่านั้น

การอัพเดทครั้งนี้ได้ถูกใช้งานกับภาษาอังกฤษก่อนเท่านั้น พวกเราเชื่อว่านี้จะช่วยส่งเสริมให้การผลิตคอนเทนต์รีวิวสินค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น

ถึงแม้ว่าการอัพเดทครั้งนี้จะแยกออกจาก Core update เราก็มีคำแนะนำในการผลิตคอนเทนต์ดีๆที่เกี่ยวข้องนี้ ให้โฟกัสไปที่ภาพรวมของการนำเสนอคอนเทนต์เชิงลึก มีการค้นหาและวิเคราะห์ข้อมูลเป็นอย่างดีกับผู้อ่าน และเนื้อหาต่างๆนั้นถูกเขียนโดยผู้ที่ชำนาญหรือผู้ที่ชื่นชอบประเด็นนี้อย่างดี

สำหรับการผลิตคอนเทนต์เหล่านั้น นี้เป็นคำถามเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์เพื่อพิจารณาในแบบของการรีวิวสินค้า
        - แสดงความรู้อย่างผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสินค้าอย่างเหมาะสมไหม ?
        - แสดงลักษณภายนอกสินค้า หรือวิธีใช้งาน มีคอนเทนต์ที่โดดเด่นไม่ซ้ำหรือมากว่าเนื้อหาเดิมที่จัดเตรียมจากผู้ผลิตไหม ?
        - นำเสนอการวัดเชิงปริมาณ เช่น ความกว้าง ยาว สูง น้ำหนัก เกี่ยวกับสินค้าในรูปแบบที่มีประสิทธิภาพไหม ?
        - อธิบายได้ว่าจุดเด่นของสินค้าที่แตกต่างจากคู่แข่งคืออะไร ?
        - การแสดงข้อมูลเปรียบเทียบสินค้า หรืออธิบายว่าสินค้าไหน อาจจะดีที่สุดกับผู้ใช้หรือตามแต่สถาณการณ์ไหม ?
        - แสดงความคิดเห็นในข้อดีและข้อเสียของสินค้า โดยมีพื้นฐานจากข้อมูลที่ค้นหามาแล้วไหม ?
        - อธิบายได้ว่าสินค้านี้เกี่ยวข้องกับสินค้าเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้อย่างไร หรือเปิดเผยข้อมูลในการปรับปรุงประเด็นสำคัญ เพื่อส่งเสริมการตัดสินใจซื้อไหม ?
        - ระบุปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจสำหรับหมวดหมู่สินค้าต่างๆเหล่านั้น ตัวอย่างเช่น การรีวิวรถ ควรบอกอัตาการกินน้ำมัน, ความปลอดภัย, การควบคุมรถ เหล่านี้เป็นประเด็นสำคัญในการตัดสินใจในกลุ่มสินค้านี้ไหม ?
        - อธิบายถึงทางเลือกที่สำคัญในการออกแบบผลิตภัณฑ์และผลกระทบต่อผู้ใช้นอกเหนือจากที่ผู้ผลิตกล่าวไว้ไหม ?

พวกเราหวังว่าการนำเสนอข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์นะครับ
แปลและเรียบเรียงโดยนักรบ
ที่มา https://developers.google.com/search/blog/2021/04/product-reviews-update

https://warrior.in.th/freelance-seo/job/google-algorithm-update/search-algorithm-product-reviews/

wm5398

ข้อคิดตกผลึกชีวิตฟรีแลนซ์ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน


อัตลักษณ์แบบนักรบ อธิบายถึงวิธิคิด สิ่งแวดล้อม ทั้งการงาน การเงิน ต้นทุนชีวิต ทักษะอาชีพและเป้าหมายต่างๆ เพื่อให้ผู้ที่จะเรียนรู้เข้าใจและนำไปปรับใช้กับตัวผู้เรียนได้

ต้นทุนชีวิตไม่ได้ร่ำรวย เป็นลูกคนที่ 2 ที่เกิดในครอบครัวยากจน พ่อแม่ทำงานก่อสร้างตั้งแต่ยังเด็ก แต่ส่งเสียให้เรียนจบปริญญาตรี สาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ได้ ฉะนั้นสิ่งที่เป็นต้นทุนเพียงอย่างเดียว คือ ความรู้ความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ ที่ใช้ต่อยอดอาชีพและธุรกิจในปัจจุบัน

สิ่งที่ตกผลึกจากที่ผ่านมา หลอมรวมเป็นอัตลักษณ์
         - เวลา คือ ต้นทุนวัตถุดิบแลกเงินตรา ในโลกของ Freelance ค่าจ้างเวลาทำงาน Man-hour ของแต่ละคนไม่ได้เท่ากัน คิดอยู่เสมอว่า จะเพิ่มราคาจ้างต่อชั่วโมงได้อย่างไร คำตอบ คือ ต้องเก่งและเป็นที่รู้จักในสายที่ตลาดต้องการ
ความล้มเหลวในการแข่งขันต่างๆ ในช่วงวัยเรียนย่ำเตือนได้ดี ว่าต้องมุ่งมั่นทำจริงถึงจะไม่เสียดายเวลาในอดีตที่ล้มเหลว ปัจจุบันยังระลึกถึงเพื่อปรับใช้กับการทำงาน
         - หนังสือพัฒนาความคิดและการพูด ช่วงเริ่มต้นสร้างตัว อ่านหนังสือพัฒนาตัวเองทุกวัน โดยเฉพาะจิตวิทยาเพื่อความสำเร็จ นิสัยรักการอ่านช่วยเรื่องการทำการตลาดได้มาก เพราะจะสามารถสื่อสารที่มัดใจลูกค้าได้ง่ายขึ้น อีกท้งยังใช้เป็นทักษะการพูดในตอนเป็นวิทยากรการตลาด SEO ได้อีกด้วย
         - พี่เลี้ยงดี พัฒนาไว ได้หัวหน้างานดี สอนให้เราเก่งได้ไว
         - คิดเพื่อแข่งขันกับคู่แข่งที่เก่ง รางวัลมีสำหรับคนเก่งที่อยู่บนยอดพีระมิดเสมอๆ ทุกการทำงานจะจินตนาการถึงคู่ต่อสู้ที่เก่งในสายงาน
         - ค้นหาจุดเด่น เพื่อสร้างจุดยืนในใจลูกค้า เมื่อทะเลการแข่งขันแดงเดือด การสร้างจุดแตกต่างด้วยจุดเด่นที่มีตลาดรองรับเป็นเรื่องที่ต้องทำในเวลาที่หมาะสม
         - คนเก่งเจอกัน จะชนะกันที่ความแข็งแรงของทีม ต่อให้เก่งแค่ไหน ก็มี 2 มือและ 24 ชม. เหมือนกัน ถ้าฝีมือเฉือนกันไม่มาก จะชนะกันที่ความเก่งของคนในทีมแทน
         - เปลี่ยนคู่แข่งเป็นมิตร เป็นคู่แข่งกับทุกคนมันเหนื่อย ควรสร้างมิตรบ้างเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ สุดท้ายเรา คือมนุษย์ที่ควรช่วยเหลือกันในสังคมอยู่ดี
         - ความสำเร็จไม่เพียงพอ คนไม่ฟัง ในการเขียน Blog ถ้าไม่มีผลงานรองรับ แล้วเปอร์เซ็นต์ที่คนจะเชื่อจะลดต่ำลง ฉะนั้นเลย จึงต้องสร้างผลงานด้วย เช่น เก็บเงินจากการรับทำเว็บไซต์ด้วย WordPress, สร้างยอดขายหลัก 1.2 ล้าน/ปีด้วยอาชีพ SEO Freelance, ทำเว็บขายของออนไลน์ส่งเสริมยอดขาย 15 ล้าน/ปี, สร้าง Small SEO Agency ยอดขาย 2 ล้าน/ปี แบบนี้ถึงจะมีหลักฐานพิสูจน์ได้ว่าได้ผลจริง
         - เห็นแก่เงิน อาจเดินทางผิด ถ้าเห็นแต่เงินอย่างเดียว อาจผันตัวไปทำ SEO & Digital Marketing ให้ธุรกิจพนันได้ เพราะวงการณ์นี้เงินหมุนเวียนเยอะ แต่ผิดกฎหมาย ทำลายชีวิตคนอื่น ฉะนั้นจึงไม่สอนและสนับสนุนการทำเอสอีโอให้ธุรกิจการพนันทุกชนิด
         - รักษาระดับผลงาน รักษาความเป็นมืออาชีพ เมื่อถึงจุดจุดหนึงจะพบว่าการรักษาระดับผลงานแบบมืออาชีพ จะสร้างความมั่นคงให้อาชีพนี้ได้ และควรระวังเรื่อง Comfort zone ที่เหนี่ยวรั้งหยุดเราพัฒนา
         - มีเป้าหมายเพื่อพัฒนา เพื่อประสบความสำเร็จระดับหนึง การมีเป้าหมายต่อไป จะช่วยกระตุ้นตัวเองได้ดี

สิ่งต่างๆเหล่านี้เขียนไว้เพื่อเป็นแรงบรรดาลใจ เอาไปปรับใช้กับผู้เรียนที่จะศึกษาการพัฒนาตัวเองครับ วู้ๆ!!!
https://warrior.in.th/warrior-life/identity/

wm5398

ฟรีแลนซ์ ซื้อรถในนามบริษัทดีอย่างไร ?


ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า Digital Marketing Freelance เป็นอาชีพที่ไม่มั่นคงในสายตาของธนาคาร ฉะนั้นการขอสินเชื่อจะทำได้ยากกว่า ถ้ามีรายได้ 30k ต่อเดือน อาจโดนธนาคารตีรายได้แค่ 40% ของสามหมื่นแทน อีกทั่งการซื้อรถในนามบุคคลธรรมดาไม่ได้ช่วยเรื่องประหยัดภาษีเลย

จริงๆแล้วเป็นเรื่องดี ที่ธนาคารตีรายได้ของฟรีแลนซ์ต่ำกว่ายอดรับจริง เพราะมันจะช่วยทำให้เราผลักดันตัวเองให้มี Statement ที่ดีขึ้นในอนาคต และไม่สร้างหนี้เร็วเกินไป

วิธีนำมาเป็นค่าใช้จ่าย คือ ต้องจดบริษัทและซื้อรถในนามบริษัทแทน จึงนำค่าบำรุงรักษารถ ค่าน้ำมัน ค่าเสื่อมราคา มาเป็นค่าใช้จ่ายบริษัทแทนได้ แต่นักรบไม่แนะนำให้ฟรีแลนซ์จดบริษัทเร็วเกินไป เพราะจะมีเนื้องานด้านเอกสารและค่าปิดบัญชีเพิ่มอีกประมาณ 15-20k/ปี (ฟรีแลนซ์ควรมองเรื่องการจดบริษัทหลังจากมีรายได้เกิน 800k/ปี)

ค่าเสื่อมราคารถได้ 200k/ปี และค่าบำรุงรักษา ค่าน้ำมันมาเป็นค่าใช้จ่ายบริษัทฟรีแลนซ์ได้หมด ซึ่งเป็นข้อดีมากๆ ทำให้เราประหยัดภาษีได้อีกด้วย

มีอีกวิธีหนึงที่อ่านมา แต่ยังไม่มีประสบการณ์คือ ในกรณีที่ไม่ได้ซื้อรถในนามบริษัทแล้วอยากเอาค่าน้ำมันมาเป็นค่าใช้จ่ายบริษัท ต้องทำเรื่องให้บริษัทยืมรถใช้งานอีก ซึ่งค่อนข้างยุ่งยากหน่อย หากใครสนใจหาข้อมูลเพิ่มเติมดูครับ

แชร์ประสบการณ์ฟรีแลนซ์ด้านการเงิน โดยนักรบ
ฟรีแลนซ์รับทำ SEO
https://warrior.in.th/freelance-seo/income/freelance-buy-car/

wm5398

ผลลัพธ์ SEO 50 Keyword ติดหน้า 1 ชนะ Lazada, Shopee ใน 10 เดือน


ผลลัพธ์ SEO ทำ SEO ให้เว็บขายของออนไลน์ เป้าหมายหลักคือ ทำอันดับให้แซง Lazada , Shopee และอยู่อันดับ 1-5 ในหน้าแรกกูเกิล ผลลัพธ์SEO

ผลลัพธ์และข้อมูลน่าสนใจ
      - ใช้เวลา 10 เดือน ทำ SEO 50 Keyword ติดหน้า 1
      - Keyword ทั้งหมดอยู่อันดับ 1-5
      - อันดับชนะ Lazada, Shopee เป็นส่วนใหญ่กว่า 70%     

ที่ทำได้เพราะนักรบพยายามควบคุมปัจจัยที่สำคัญเกี่ยวกับการทำ SEO 2 ข้อใหญ่ๆ คือ
       1. Content โดย นักรบมีทีมที่ทำ Content เองเพื่อให้แน่ใจว่าสู้คู่แข่งได้ สร้างทีมงานผลิตคอนเทนต์ พัฒนาฝีมือได้ด้วยการทำงานจริง หากยังไม่มีทีมให้ลองสร้างเตรียมไว้ครับ
        2. Technical SEO โดยนักรบดูแลส่วนนี้เป็นหลัก

รายละเอียดอื่นๆเกี่ยวกับการทำเว็บและคอนเทนต์ขายของออนไลน์ เขียนไว้แล้ว ขายของออนไลน์ ด้วย Website, SEO & Digital Marketing

การทำ SEO ต้องมองหลายด้านประกอบกัน และพยายามควบคุมปัจจัยที่ส่งผลต่อการทำ SEO ให้ได้มากที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถทำได้

โดยนักรบจะฝึกทีมงานเพื่อทำ Content และ มี Web Programmer Support ด้าน Coding อีกด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถชนกับทีมงานคู่แข่งที่เก่งๆได้

ถึงแม้ว่ายังมีอีกหลายส่วนที่ต้องพัฒนาต่อ สำหรับผลลัพธ์ด้านการทำ SEO ณ ตอนนี้ ถือว่าโอเคเลย

ประวัตินักรบ
อดีตพนักงานประจำทำเว็บไซต์ ผันตัวมาทำธุรกิจค้าขายออนไลน์ (E-Commerce) และรับทำ Digital Marketing อ่านต่อ ประวัติวิทยากร SEO & Digital Marketing

อุดมการณ์นักรบ
นักรบมีวันนี้ได้ เพราะการพัฒนาตัวเองและมีครูบาอาจารย์สอนด้านการทำธุรกิจ และ Digital Marketing จึงมีความมุ่งมั่นที่จะสอนและแชร์ประสบการณ์ให้คนรุ่นหลังที่มีพื้นฐานคล้ายๆกัน ได้มีโอกาสของชีวิตที่มากขึ้นครับ รายได้จากการขายคอร์สจะกลับมาลงทุนเพื่อทดสอบเทคนิคใหม่ๆ  อัปเดตความรู้ให้ผู้เรียนเก่าผ่านวีดีโอคอร์สออนไลน์ฟรี
https://warrior.in.th/seo-goal/seo-result-50keywords/

wm5398

5 บทความแลก 1 วีดีโอคอร์สออนไลน์


แคมเปญ นี้เป็นกิจกรรมที่นักรบตั้งใจไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ว่าอยากสนับสนุนคนตั้งใจ ด้วยการใช้ความสามารถในการเขียน 5 บทความที่เกี่ยวข้องกับ Digital marketing ในเรื่องใดก็ได้ นำมาแลกเป็นคอร์สออนไลไน์คอร์สใดก็ได้ในเว็บไซต์ https://course.warrior.in.th/

5 บทความที่เข้าเงื่อนไขการแลกคอร์สเรียน 1 คอร์สเรียนใดก็ได้
        - จำนวน 5 บทความ
        - บทความเขียนจากประสบการณ์หรือจากค้นคว้าจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ (มีอ้างอิงแหล่งข้อมูล) ในหัวข้อเกี่ยวกับ Digital Marketing
        - บทความมีความยาวเกิน 800 คำและมีภาพประกอบอย่างน้อย 1 ภาพ
        - ส่งผลงานและสอบถามเพิ่มเติมผ่าน Line@: @warrior.in.th

บทความของท่านจะนำมาเผยแพร่ในสื่อของ Warrior เพื่อให้ความรู้กับคนทั่วไปและให้เครดิตผู้เขียน หากมีคำถามเพิ่มเติมสอบถามผ่าน Line@: @warrior.in.th ได้ครับ
ลุย!!!
https://warrior.in.th/declare/article-exchange-courses/

wm5398


ขั้นตอนการทำงานหนึง ที่สำคัญที่ต้องทำสม่ำเสมอของการเป็น Freelance ที่ส่งผลต่อจำนวนงานในแต่ละเดือน และจำนวนงานในอนาคต คือ การวางแผนการทำงานเป็นรายเดือนล่วงหน้า

ลง Calendar ไว้เลย ผมใช้ Google Calendar มันจะเห็นภาพรวมว่า เดือนหน้างานพร่องน้อยลงแล้วนะ ให้รีบทำการตลาด หางานเพิ่ม หรือใช้เวลาช่วงนี้เรียนรู้อะไรเพิ่ม หรือพักผ่อน

จำไว้เสมอว่า การเป็น Freelance ทั้ง Part-time หรือ Full-Time นั้นเปรียบเสมือนเป็นนายตัวเอง ท่านต้องเป็นผู้นำตัวเอง สร้างงานและวางแผนงานตัวเองได้ ไม่มีใครมากำหนดหรือวางแผนให้ได้เหมือนสมัยทำงานประจำ ฉะนั้นการแก้ไขปัญหาด้วยการลง Calendar ล่วงหน้าจึงช่วยได้

บาลานซ์ชีวิตการทำงาน ทั้งตอนเร่งทำงาน ตอนพักผ่อน ตอนเรียนรู้ ให้ลงตัว ด้วยการลงตารางการทำงานล่วงหน้า ถ้าไม่ลงตาราง Calendar ล่วงหน้า รับรองว่ารายได้หดในอนาคตแน่นอน หรือ ไม่ได้เรียนรู้ ไม่ได้ผลงาน เพราะเอาแต่ชิวๆไปวันๆนั้นไม่ไหวนะ

การเป็นนายตัวเอง ต้องเป็นผู้นำตัวเอง นำตัวเองไปสู่เป้าหมาย ถ้านำตัวเอง กระตุ้นตัวเอง ถึงจะทำ Freelance ได้ ถ้าให้แรงบันดาลใจตัวเองไม่ได้ อย่าออกมาทำ Freelance เด็ดขาด

ทำงาน Freelance ทั้ง Partime, Fulltime มันเป็นงานท้าทายชีวิตอย่างหนึง เพราะถ้าเราไม่วางแผนตารางงานในแต่ละวัน ก็จะไม่มีผลงานที่หล่อเลี้ยงบริษัทฟรีแลนซ์ได้ เมื่อทำฟรีแลนซ์ นักรบรู้สึกได้ก้าวหน้าเร็วกว่าปกติ

ทำงานประจำ เงินเดือนขึ้นปีล่ะ 3-8% อนาคตรู้เลยว่าเงินเดือนเท่าไหร่ ถ้าอยากโตเร็วขึ้น เลยทำ Freelance Partime คู่งานประจำไปก้อได้ ผมไม่สนับสนุนให้ทำ Freelance เต็มตัวทันที

เราควรยอมรับอย่างหนึ่งว่า ยุคนี้บริษัทเล็กใหญ่โดดเข้าออนไลน์กันเยอะแล้ว บุคคลทั่วไปจะมาทำ E-Commerce เต็มตัว ควรวางแผนดีๆ ทำคู่งานประจำไปก่อน เพราะมันมีแต่มืออาชีพมาลงเล่นนะ

สรุป หลักการทำงานของฟรีแลนซ์ SEO
การลงตารางการทำงานล่วงหน้า ทำให้เรารู้ตัวล่วงหน้าว่างานจะหมด ให้รีบทำการตลาดหางานเพิ่มได้ จะได้มีกินมีใช้ตลอดทั้งปี และอย่าลืมเอาเงินเหลือมาลงทุนเน้อ ^___^
ลุย
https://warrior.in.th/freelance-seo/job/work-principle/

wm5398

ผลลัพธ์การทำ SEO & Digital Marketing ปี 2562

เล่าประสบการณ์ทำ SEO & Digital Marketing ให้เว็บไซต์ของนักรบ ทั้งต้นทุน สถิติ และยอดขาย เพื่อเป็นแนวทางให้นักการตลาดดิจิทัลหรือนักธุรกิจนำไปปรับใช้ครับ

ผลงานการทำ SEO ปี 2562
เว็บไซต์นักรบ
สถิติคนเข้าชม 36,782 คน/ปี

ธุรกิจรับทำ SEO & Digital Marketing ใช้เงินลงทุนการตลาดออนไลน์หลักพัน เพิ่มคนเข้าเว็บ ธุรกิจมั่นคง ค้าขายมีกำไร
        - เข้าชมผ่านการทำ SEO 14,019 คน/ปี
        - เข้าชมโดยตรง 13,920 คน/ปี
        - เข้าชมผ่าน Social 3,499 คน/ปี
        - เข้าชมผ่านการเว็บไซต์อื่น  3,696 คน/ปี
        - เข้าชมผ่านการลงโฆษณา Google Ads 511 คน/ปี
เงินต้นทุนและยอดขาย
        - เงินลงทุน Digital Marketing  10,000 บ./ด.
        - ยอดขาย 1-2 ล้าน/ปี

เว็บไซต์ธุรกิจอาหาร
สถิติคนเข้าชม 107,437 คน/ปี

เชฟหมวย สอนทำสลัด ธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร ใช้เงินลงทุนการตลาดออนไลน์หลักพัน เพิ่มคนเข้าเว็บไซต์ ธุรกิจมั่นคง ค้าขายมีกำไร
        - เข้าชมผ่านการทำ SEO 86,866 คน/ปี
        - เข้าชมผ่านการลงโฆษณา Google Ads 11,469 คน/ปี
        - เข้าชมโดยตรง 8,565 คน/ปี
        - เข้าชมผ่าน Social 1,932 คน/ปี
        - เข้าชมผ่านเว็บไซต์อื่น 377 คน/ปี
เงินทุนและยอดขาย
        - เงินลงทุน Digital Marketing  1,500 บ./ด.
        - ยอดขาย 3-5 แสนบาท/ปี
ข้อสังเกต :
        - จำนวนคนเข้าเว็บจากการทำ SEO สูงถึง 79.54%

เว็บไซต์ขายของออนไลน์
สถิติคนเข้าชม 73,060 คน/ปี

เซียนร่ม โรงงานผลิตร่ม ธุรกิจขายของออนไลน์ ใช้เงินลงทุนการตลาดออนไลน์ 15,000 บ./ด. เพิ่มคนเข้าเว็บไซต์ ธุรกิจมั่นคง ค้าขายมีกำไร
        - เข้าชมผ่านการทำ SEO 50,061 คน/ปี
        - เข้าชมโดยตรง 18,383 คน/ปี
        - เข้าชมผ่านการลงโฆษณา Google Ads 3,144 คน/ปี
        - เข้าชมผ่าน Social 1,726 คน/ปี
เงินลงทุนและยอดขาย
        - เงินลงทุน Digital Marketing  15k บ./ด.
        - ยอดขายมากกว่า 10 ล้าน/ปี
ข้อสังเกต :
        - จำนวนคนเข้าเว็บจากการทำ SEO สูงถึง 67.62%

แชร์สถิติ การใช้เงินโฆษณา 3,000 บาท/เดือน เพิ่มลูกค้า Add Line@ 300 คน/เดือน
แชร์สถิติการใช้เงินโฆษณา 3,000 บาท/เดือน เพิ่มลูกค้า Add Line@ 300 คน/เดือน (เพราะตอนเริ่มต้นมีงบเท่านี้)

ไม่ได้หมายความว่า เอาเงินโฆษณามาหาคนเพิ่ม Add Line โดยตรง แต่ใช้เงินโฆษณา Google Ads + Facebook เพื่อพาคนเข้าเว็บก่อน แล้วลูกค้าก็ Add Line@ ด้วยตัวเอง เพือคุยกับฝ่ายขาย

สถิติจากเว็บไซต์ขายของออนไลน์ เป็นเว็บขายส่ง/ปลีก/ผลิต (ไม่มีระบบตระกร้า ปิดการขายใน line@ อย่างเดียว)

งบโฆษณา 3,000 บาท/เดือน ถูกใช้กับอะไรบ้าง ?
        - แบ่งใช้ Google Ads 80%
        - แบ่งใช้ Facebook Ads 20%
        - เน้นทำ Facebook Ads พาคนเข้าเว็บ
        - เน้นทำ SEO หวังผลใน 6 เดือน – 1 ปี (ช่วงแรกหวังยอดขายจาก Ads)
        - เน้น Update และเพิ่ม Content ทุกวัน ทั้งสินค้า บทความ และวีดีโอ

ผลลัพธ์
การใช้เงินโฆษณา 3,000 บาท/เดือน เพื่อทำ Digital Marketing โดยเน้น Google Ads ,, Facebook Ads และ Content Marketing ด้วยบทความและวีดีโอเป็นหลัก
        - คน Add Line@ ล่าสุดเดือนละ 300 คน/ เดือน
        - ปัจุบัน Addline@ 5186 คน (ไม่เคยบรอดแคสแต่มี block ถึง 913 คน)
        - อัตราคน Add Lin ต่อจำนวนคนเข้าเว็บ คือ 5% คือ คนเข้า 100 คน Add 5 คน
        - คุยใน Line@ วันล่ะ 10-20 คน โดยเฉลี่ย

นักรบสรุป
สถิตินี้เป็นประสบการณ์ของนักรบ สำหรับเว็บไซต์ขายของออนไลน์ ปลีก/ส่ง/ผลิต ฉะนั้นไม่สามารถใช้อ้างอิงกับทุกธุรกิจที่แตกต่างกันออกไปได้ครับ คนอ่านต้องปรับประยุกต์กับธุรกิจตัวเองครับ
https://warrior.in.th/seo-goal/seo-result/

wm5398

การเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจด้วยเว็ปไซต์ Web Traffic โต 39.02% ยอดขายโต 30กว่า% แปรผันตรงตามกัน


การเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจด้วยเว็บไซต์นั้นทำได้ง่าย โดยการเพิ่มจำนวนคนเข้าเว็บ (Web Traffic) จาก Keyword ที่กลุ่มเป้าหมายเราค้นหา
สถิติจากเว็บไซต์ล่าสุดโตขึ้น 39.02% ส่งผลให้ยอดขายโตขึ้น 30กว่า% แปรผันตรงตามกัน ยิ่งคนเข้าเยอะยอดขายก็โตตามกัน ขอเพียงจำนวนคนเข้าเว็บนั้นมาจาก Keyword ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของเราด้วย (ไม่ควรเพิ่มคนเข้าเว็บไซต์เพียงอย่างเดียวโดยไม่สนใจกลุ่มเป้าหมาย)

ตัวอย่างเว็บไซต์ Hongthaipackaging โรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์กระดาษ มีคนเข้าเว็บไซต์โตขึ้น 39.02% ในเดือน ก.ค. 62 ส่งผลให้ยอดขายโตขึ้นตาม

3 วิธีเพิ่มคนเข้าเว็บไซต์ ที่นักรบใช้กับเว็บนี้
         1. เพิ่มคนเข้าเว็บด้วย Google Ads (PPC) เทคนิคการประหยัดเงินคือ ทำคะแนนคุณภาพ keyword ให้มากกว่า 7 เต็ม 10
         2. เพิ่มคนเข้าด้วย Social ซึ่งนิยมผ่าน Facebook Ads, Organic Reach
         3. เพิ่มคนเข้าด้วย SEO ใช้เวลา 6 เดือนถึง 1 ปี

ในกรณีที่ใช้งบโฆษณาใน Google และ Facebook เต็มวงเงินแล้ว นักรบเหลือทางเดียวที่จะช่วยเพิ่มคนเข้า คือ เร่งการทำ SEO ให้ติดหน้าแรกเร็วๆ เพื่อเพิ่มคนเข้าให้เยอะขึ้นนั้นเอง

แชร์ประสบการณ์การทำ SEO โดยนักรบ
ลุย!!!
https://warrior.in.th/seo-goal/web-traffic-growth-income-increase/

wm5398

เปลี่ยนชีวิตจาก Webmaster ใน Office สู่ Freelance Digital Marketer (SEO,SEM,WordPress)


ตลอดระยะเวลา 8 ปี ในเส้นทางการเป็นลูกจ้างมืออาชีพทำเว็บไซต์ในบริษัท 3 แห่ง นักรบมีคำถามกับตัวเองบ่อยๆเสมอ 2 ข้อ

ข้อแรก – ทำอย่างไรให้มีเงินเดือนเยอะขึ้นเรื่อยๆ
พบคำตอบว่า ต้องเก่งภาษา ทำงานกับบริษัทใหญ่ และ มีฝีมือทำผลงานออกมาต่อเนื่อง อีกทั้งพรีเซ้นผลงานเป็น ย้ายงานเพื่ออัพเงินเดือนพร้อมหาประสบการณ์ใหม่ๆบ้าง นั่นคือคำตอบคร่าวๆที่เจอมากับตัวและหาอ่านจากพันทิป ถ้าอยู่ที่เดิม อย่างเก่งเงินเดือนเพิ่มปีล่ะ 1-2 พัน ย้ายงานที มีสิทธ์เพิ่ม 5 พันอัพ ++ ได้ หรือโดนดึงตัว โดนรั้งตัวอยู่ที่เดิม ก็เสนอเงินเดือนได้ แต่การมีรายได้ทางเดียวจากงานประจำ มันเหมือนเข็มฝังใจ ค่อยทิ่มแทงใจให้ไม่กล้าเสี่ยง หรือกล้าชน กล้าลุยมาก เพราะจะกระทบกับหน้าทีการงาน จากการเมืองในบริษัท

ข้อสอง – ทำไมเรามีรายได้ทางเดียวจากบริษัทที่เดียว ในขณะที่เจ้าของบริษัทมีรายได้หลายทางและจากหลายคน
มันเลยทำให้เราฉุกคิด และเริ่มทำงาน Freelance หลังเลิกงาน เพื่อสร้างรายได้ที่ 2 และมันทำให้เราเก่งขึ้น พอเริ่มทำ Freelance หลักเลิกงาน สร้างรายได้ที่ 2 เลยทำให้มั่นใจ กล้าลุยมากขึ้น แม้โดนไล่ออกจากงานประจำ ก็ยังมีรายได้อีกทางรองรับ ณ ปัจจุบัน รายได้ที่ 2 จากการทำ Freelance หลังเลิกงาน มันกลายเป็นรายได้หลักไปแล้ว และเลือกทำงานที่บ้าน หรือ Co-Working Space & Coffee ทั่วประเทศได้ ปัจุบันเป็นนักการตลาดดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งด้าน SEM,SEO เป็นหลักครับ หากสนใจสร้างอาชีพให้ตัวเองเกี่ยวกับนักการตลาดดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งด้าน SEO,SEM,WordPress ขอให้ติดตามนักรบได้ครับ ขอบคุณภาพประกอบจาก Credit Image https://www.facebook.com/blackmonstercafe/
https://warrior.in.th/freelance-seo/job/office-webmaster-to-freelance-digital-marketer/

wm5398

5 ปี กับการเป็น SEO & Digital Marketing Freelance นักรบได้อะไรบ้าง ?


แชร์ประสบการณ์การเป็นฟรีแลนซ์ในกลุ่ม Digital Marketing ให้ครับ ถ้าได้ลองเสิร์ชหาข้อมูลต่างๆในอินเตอร์เนต คุณจะพบบทความมากมายที่พูดถึงเรื่องนี้ แน่นอนผมก็อ่านมันมาบ้างเหมือนกัน มันมีทั้งแง่มุมที่เป็นด้านลบ ด้านบวก หรือด้านจูงใจเรา ให้อยากก้าวสู่อาชีพฟรีแลนซ์ ซึ่งมันก็เหมือนๆกันทุกอาชีพ มีข้อดีและข้อเสียปะปนกัน

ฟรีแลนซ์ คือ อาชีพรับจ้างอิสระ ที่ไม่ขึ้นตรงต่อหน่วยงาน หรือองค์กร หรือบริษัทใด ๆ จะต้องจัดตารางเวลาการทำงานของตนเอง การรับเงินจากนายจ้าง ก็จะเป็นลักษณะใดก็แล้วแต่ตกลงกัน ซึ่งอยู่บนพื้นฐานความพึงพอใจของทั้งฝ่ายนายจ้าง และฝ่ายลูกจ้าง (อ้างอิงจาก https://th.wikipedia.org/wiki/ฟรีแลนซ์ )

ข้อดีของฟรีแลนซ์ และสิ่งหนึ่งที่ผุดขึ้นในใจ คือ
อยากพัฒนาตัวเองในสิ่งที่ตัวเองอยากพัฒนา สามารถกำหนดเรื่องที่อยากเรียนรู้ได้ เราอยากเก่งเรื่องไหน อยากรู้เรื่องอะไรก็ทำได้เลย ขอเพียงว่าเรื่องนั้นมันเกี่ยวกับงานที่ทำอยู่ด้วย ตรงกันข้ามกับการทำงานประจำที่เราอาจไม่ได้กำหนดเองทั้งหมด อยากมีเวลาที่ยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้เองอิสระ ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน มันจะดีกว่าถ้าเรามีเวลาให้กับคนที่เรารักได้มากขึ้น ได้อยู่บ้านกับพ่อแม่และครอบครัว จริงๆแล้ว มันมีข้อดีอีกมากที่ผุดขึ้นในใจ หลังจากที่ได้เป็นฟรีแลนซ์ไปแล้วสักระยะ แต่นั้นก็ไม่ได้สำคัญอะไรมากมายที่จะเอ๋ยถึง ผมมีเรื่องอื่นที่อยากเอ๋ยถึงมากกว่า

ฟรีแลนซ์ มีข้อเสียเหมือนกับอาชีพอื่นๆ
นี้คือเรื่องจริงว่าฟรีแลนซ์มีข้อเสียเหมือนกัน แต่นั้นไม่สำคัญสำหรับผมเลย เพราะว่าข้อดีเพียงไม่กี่ข้อในอาชีพนี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้เรากล้าที่จะวางแผนและลงมือทำ ผลักตัวเองสู่ฟรีแลนซ์เต็มตัวอย่างมั่นคงในระดับหนึงได้ ส่วนข้อเสียผมแก้ไขยังไง เดี๊ยวจะบอกครับ

วิธีแก้ไขข้อเสียของการเป็นฟรีแลนซ์ แบบนักรบ
เอ๋ยถึงข้อเสียใหญ่ๆของอาชีพนี้ ที่ผมพบเจอกับตัวเองมานะครับ ส่วนข้อเสียอื่นๆก็ไปเจอกันเองกับตัวเองเวลาลงมือทำละกัน ทำไปแก้ไขไปเดี๊ยวก็ทำเป็น เอาล่ะมาดูวิธีแก้ไขข้อเสียหลักๆกันเลย
         - แก้ไขการกดราคา การตัดราคา บอกก่อนว่าเรื่องนี้มีทุกอาชีพ มันเป็นปัญหาพื้นฐานมากๆ ผมไม่ได้คิดราคาไว้สูงหรือต่ำเกินไปตั้งแต่แรกอยู่แล้ว และเป็นราคากลางๆที่ผมรับได้ ฉะนั้นที่เหลือ คือ พัฒนาตัวเราให้ดีกว่าราคาที่ตั้งไว้ก็พอ
         - แก้ไขปัญหาไม่มีลูกค้า ไม่มีลูกค้า เพราะทำการตลาดให้ตัวเองไม่เป็น การเป็นฟรีแลนซ์นั้นต้องมีส่วนผสมของนักการตลาดในตัว สามารถพรีเซนต์ผลงานให้ลูกค้าเห็นได้ ลองอ่านหนังสือชื่อ " Show Your Work มีของดีต้องให้คนอื่นขโมย " ดูสิ หรืออย่างน้อยๆคุณควรเขียน Blog หรืออัพเดทผลงาน Portfolio สม่ำเสมอๆ
         - แก้ไขเรื่องที่ว่า "คนจ่ายเงิน มีอำนาจเสมอ " บ่อยครั้งที่คนจ่ายเงิน จะแสดงความมีอำนาจเหนือฟรีแลนซ์มากเกินไป ไม่รับฟังความคิดเห็นใดๆจากฟรีแลนซ์เลย ทำให้เกิดการแก้ไขงานบ่อยครั้ง ทำให้งานนั้นไม่สนุกและส่งผลต่อความสุขในการทำงานของฟรีแลนซ์อีกด้วย ปัญหานี้แก้ไขด้วยการกำหนดจำนวนครั้งในการแก้ไขงาน เช่น 2 ครั้งเท่านั้น ถ้าเกินกว่านี้จะมีค่าบริการแก้ไขเพิ่มเติม เป็นต้นครับ ^__^

บางครั้งข้อเสียที่เกิดขึ้น นั้นมาจากตัวเราเอง เราควรมองตัวเอง ควรแบ่งเวลาเพื่อพัฒนาตัวเองขึ้นไปเรื่อยๆด้วยนะครับ

ต้นทุนของฟรีแลนซ์ แบบนักรบ
ทุกอาชีพมีต้นทุน ฉะนั้นก่อนที่จะคุณจะโลดแล่นในยุทธภพของฟรีแลนซ์สายงาน Digital Marketing คุณควรมีสิ่งสำคัญๆตามหัวข้อนี้ก่อนครับ
         - ทักษะความชำนาญเฉพาะด้านการงาน ที่เป็นที่ต้องการของตลาด ส่วนใหญ่ฟรีแลนซ์จะอยู่ในสายงานการตลาดครับ ฉะนั้นก่อนเป็นฟรีแลนซ์คุณควรฝึกทักษะเฉพาะด้านในงานประจำก่อน และควรทดสอบรับงานฟรีแลนซ์เพิ่ม เพื่อเช็คตัวเองว่ามีความพร้อมในด้านนี้แล้วหรือยังครับ ซึ่งผมเคยเป็นพนักงานประจำเกือบ 10 ปี ก่อนออกมาทำฟรีแลนซ์ครับ
         - ทักษะความชำนาญที่หลากหลาย ส่งเสริมกัน ถ้าคุณเป็นฟรีแลนซ์ในสายงาน Digital Marketing คุณควรมองทักษะต่างๆเหล่านี้และเรียนรู้มาใช้ประกอบกัน อย่างน้อยๆคุณควรได้มากกว่าครึ่งหนึงที่ผมเขียนไว้ ในหัวข้อเหล่านี้
                     - ถ่ายภาพและรีทัชได้
                     - เขียนบทความได้ ที่เหมาะกับ Social Media และใน Website
                     - ออกแบบได้
                     - ถ่ายวีดีโอและตัดต่อวีดีโอได้
                     - ลงโฆษณาได้ทั้ง Social Media และ Search Engine
                     - วิเคราะห์ ประสานงาน วางแผนการตลาดและติดตามผลได้ การมีทักษะที่หลากหลายจะช่วยเพิ่มโอกาสได้งานมากขึ้น ในช่วงเริ่มต้นการเป็นฟรีแลนซ์ครับ
         - ทักษะความชำนาญด้านการตลาดให้ตัวเอง ควรมีเวลาอย่างน้อย 1-2 ชม./วัน ในการทำการตลาดให้ตัวเอง อย่างน้อยๆควรเขียน Blog หรือ อัพเดท Portfolio ครับ
         - ทักษะการบริหารเวลาและบริหารเงิน เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ แต่เนื่องจากผมไม่ได้เก่งมันมากพอที่จะแนะนำ และมีคนสอนการเงินและการบริหารเวลาได้เก่งกว่าผม คุณลองเสิร์ชหาความรู้เพิ่ม ผมบอกได้เพียงว่า คุณควรใช้เวลาไปกับการพัฒนาตัวเองก่อนการหาเงินเสมอ เมื่อคุณเก่งมากพอและทำการตลาดให้ตัวเองมากพอ เมื่อนั้นงานที่มีราคาจะวิ่งมาหาคุณ จนคุณเลือกที่จะปฏิเสธบางงานได้

ในช่วงเริ่มต้นการเป็นฟรีแลนซ์ คุณควรมีเงินเก็บมากเพียงพอใช้จ่ายสำหรับ 1 ปี และมีหนี้ให้น้อยที่สุด คุณอาจไม่มีรายได้มากนักในช่วงแรก คุณควรมีเวลาในการปรับตัวและมีเงินใช้จ่ายมากพอโดยไม่ขัดสน ซึ่งถ้าให้ดี ผมขอแนะนำให้คุณทำฟรีแลนซ์พร้อมๆกับการทำงานประจำไปก่อน และหมั่นอัพเดทเว็บไซต์ทำการตลาดให้ตัวเองเสมอๆ

Timeline 5 ปีของนักรบ
         - ปี 57 : นักรบเป็น Webmaster ทำประจำเงินเดือนเดือนล่ะ 28k/m และทำงานเสริมมาแล้ว 7 ตัว คู่งานประจำ
         - ปี 58: จดบริษัทนักรบ และเรียนรู้การสร้างบริษัทฟรีแลนซ์
         - ปี 59: สอน WordPress จากประสบการณ์ในงานรับทำ WordPress
         - ปี 60: สอน SEO & Google Ads จากการเรียนรู้และลงมือทำ
         - ปี 61: จดโดเมนทำเว็บไซต์ ขายของออนไลน์ร่วมกับนักขาย ส่งเสริมให้มียอดขาย 15 ล้าน/ปี โดยทีมนักรบ ใช้งบ Google Ads เพียง 1,500-3,000 บาท/เดือนเท่านั้น และใช้ SEO & Content Marketing เป็นส่วนใหญ่
แนะนำให้คนอื่น ทำธุรกิจค้าขายออนไลน์แบบ B2B ขายส่ง/ปลีกจากผู้ผลิตหรือโรงงาน เพราะยังมีโอกาสอยู่ ในช่วงที่สินค้าจีนไม่ได้เข้ามาเยอะแล้วขนาดนี้ และมองเห็นโอกาสนั้นจากประสบการณ์ส่วนตัว
         - ปี 62-63 : ทีมนักรบ รับทำ SEO & Digital Marketing โดยเน้น Website, SEO & Web Content Marketing เป็นหลัก ให้บริษัททุนจดทะเบียนกว่า 100,000,000 บาท เพื่อท้าทายตัวเองว่าจะรับงาน Scale ใหญ่ขึ้นได้ไหม

กำไรของการเป็นฟรีแลนซ์
กำไรที่ได้รับมากที่สุดคือ การมีอิสระในการเลือกที่จะพัฒนาในสิ่งที่เราสนใจ โฟกัสในสิ่งที่เราชอบและสอดคล้องกับงานด้าน Digital Marketing อันเป็นที่ต้องการของตลาด พอเราเก่งและมีความสามารถมากพอจนเป็นที่รู้จัก จะสร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจให้เกิดขึ้นในตัวของลูกค้าของเรา ลูกค้ามักจะเลือกทำงานกับมืออาชีพเสมอๆ ฉะนั้นจงเรียนรู้ที่จะเป็นมืออาชีพในสายงานที่ถนัดครับ

นักรบเคยเป็นฟรีแลนซ์ด้านไหนบ้าง ?
ผมมีประสบการณ์การเป็นฟรีแลนซ์อยู่ 2 ด้านหลักๆ คือ ฟรีแลนซ์รับทำเว็บไซต์และรับทำ SEO ดังนี้ครับ
         - ฟรีแลนซ์รับทำเว็บไซต์ด้วย WordPress เคยแชร์ประสบการณ์ไว้นานแล้วที่ " ฟรีแลนซ์รับทำเว็บไซต์ WordPress เก็บเงินแสนใน 1 ปี " ประสบการณ์รับทำเว็บในราคาช่วง 10,000 – 50,000 บาท/เว็บ
         - รับทำ SEO ทำให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกกูเกิลเสิร์ช ให้กับผู้เรียนของนักรบ

ฝากถึงคนอยากเป็นฟรีแลนซ์
ทุกอาชีพมีข้อดี-ข้อเสียด้วยกันทั้งหมด เราไม่สามารถหาอาชีพที่มีแต่ข้อดีเพียงอย่างเดียวได้ ฟรีแลนซ์ก็เช่นกัน ฉะนั้นจงศึกษาในแต่ละอาชีพที่สนใจ และลองวางแผนเพื่อลงมือทำอย่างรวดเร็วที่สุด ค้นหาว่ามันคือสิ่งที่เหมาะกับตัวเองหรือไม่ เราจะได้คำตอบก็ต่อเมื่อเราได้ลงมือทำจริงๆแล้วเท่านั้นครับ

" เป็นกำลังใจให้ทุกคน ที่กำลังค้นหาอาชีพที่ตัวเองชอบครับ "

เป็นยังไงบ้างครับ หวังว่าประสบการณ์นักรบจะมีประโยชน์กับคนอ่านบ้าง ถ้ามีอะไรสงสัยเพิ่มเติมฝากคำถามไว้ได้ ถ้าสนใจติดตามเรื่องราวการทำธุรกิจแบบนักรบ สามารถติดตามได้ทาง Social Media และ Website นักรบได้ครับ
https://warrior.in.th/freelance-seo/job/freelance-warrior/

wm5398

วิธีจัดอันดับเว็บไซต์ และการทำงานของ Google Search


นักธุรกิจที่มีเว็บไซต์ไว้เพื่อจำหน่ายสินค้าและบริการ  ก็เปรียบเสมือนการมีร้านค้าของตนเองอยู่บนโลกออนไลน์  และสิ่งหนึ่งที่คนมีร้านค้าออนไลน์หรือมีเว็บไซต์ต้องการ ก็คือ การทำให้เว็บไซต์ติดอยู่หน้าแรกๆในการค้นหา (Google Search) เพื่อให้ลูกค้าสามารถค้นพบสินค้าและบริการได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น แต่การจะทำให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกๆของ Google ได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และยังต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ "How Google Works" กูเกิลทำงานอย่างไร?   หากหาคำตอบหรือทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีจัดอันดับเว็บไซต์ และการทำงานของ Google Search ได้อย่างถูกต้อง กระบวนการทำงานตามหลัก SEO ( Search Engine Optimization) หรือการทำให้เว็บไซต์นั้นติดอันดับจากการค้นหาด้วยคีย์เวิร์ด ก็ไม่ใช่เรื่องยาก

วิธีการทำงานของ Google Search
Google มีกระบวนการทำงาน 3 ขั้นตอนพื้นฐาน ในการสร้างผลการค้นหาจากหน้าเว็บ ได้แก่ การรวบรวมข้อมูล การบันทึกไว้ในดัชนี และแสดงผลในผลการค้นหา (จัดอันดับเว็บไซต์) ซึ่งแต่ละขั้นตอนมีรายละเอียดและหลักเกณฑ์ในการแสดงผลลัพธ์ ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 การรวบรวมข้อมูล การรวบรวมข้อมูล ก็คือขั้นตอนการค้นหาซึ่ง Google จะทำการค้นหาหน้าเว็บใหม่ๆอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรวบรวมข้อมูลที่ได้มาเพิ่มลงในรายการหน้าเว็บที่เคยรวบรวมไว้แล้ว ซึ่งหน้าเว็บไซต์บางส่วน Google จะค้นพบโดยการตามลิงก์จากหน้าเว็บที่รู้จักไปยังหน้าเว็บใหม่ ส่วนหน้าเว็บอื่นๆ จะค้นพบเมื่อมีการสร้างเว็บใหม่และมีการอัปเดทข้อมูล ดังนั้นเพื่อให้ Google รู้จักและค้นพบเว็บไซต์ได้เร็วขึ้น จะต้องมีลิงก์จากเว็บไซต์อื่นซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่มีอยู่ในข้อมูลแล้ว  และเมื่อ Google ตามลิงก์ดังกล่าว เว็บไซต์ก็จะได้รับการรวมรวมและบันทึกข้อมูลไว้  หลังจากนั้นเว็บก็จะปรากฏในผลการค้นหาของ Google

ขั้นตอนที่ 2 การบันทึกไว้ในดัชนี หลังจากพบหน้าเว็บแล้ว Google จะพยายามทำความเข้าใจเนื้อหาของหน้าเว็บ กระบวนการนี้เรียกว่าการจัดทำดัชนี จากนั้น Google จะทำการวิเคราะห์เนื้อหาของหน้าเว็บ  เพื่อกำหนดว่าจะแสดงหน้าใดในลำดับใดวิธีการทำงานของกระบวนการนี้เป็นความลับ ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าปัจจัยใดที่กำหนดลำดับของผลการค้นหา

ขั้นตอนที่ 3 แสดงผลในผลการค้นหา หลังจากที่ผู้ค้นหาพิมพ์สิ่งที่ต้องการหาในช่อง search ของ Google ระบบก็จะเริ่มหาข้อมูลและกรองเว็บต่างๆเพื่อแสดงผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในหน้าค้นหา โดยหาจากสิ่งต่างๆของเว็บเช่น ข้อความในเว็บไซต์ ความใหม่และคุณภาพของเนื้อหา ซึ่ง กระบวนการของ Google ในการกำหนดลำดับผลการค้นหา จะไม่คงที่แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างสม่ำเสมอ สำหรับหน้าผลการค้นหาของ Google แสดงลิงก์ประมาณ 7 ถึง 10 ลิงก์ เว็บที่แสดงผลอยู่ในหน้าแรก ให้ผลลัพธ์ในการค้นหาได้ดีที่สุด หากคลิกไปที่หน้าสองของหน้าผลการค้นหาจะแสดงผลลัพธ์ลดลง โอกาสที่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจะพบหรือเข้าถึงเว็บไซต์ก็ลดน้อยลงด้วย

SEO และ Google
นักธุรกิจที่มีเว็บไซต์หรือมีร้านค้าออนไลน์เป็นของตนเอง  การศึกษาวิธีจัดอันดับเว็บไซต์ และการทำงานของ Google Search อย่างเข้าใจ ก็จะรู้ว่าการจัดอันดับผลการค้นหาของ Google ทำให้เว็บไซต์ติดอยู่หน้าแรกๆ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น เสนอเนื้อหาที่เป็นประโยชน์  และอัปเดตข้อมูลเนื้อหาอยู่เสมอ  ซึ่งวิธีเหล่านี้ไม่มีค่าใช่จ่ายใดๆ แต่อาจได้ผลลัพธ์ช้า

นักรบขอแนะนำให้เรียนรู้เรื่อง : ปัจจัยการทำเอสอีโอ  SEO Factors เพิ่มครับ การทำ SEO (Search Engine Optimization) คือการเพิ่มประสิทธิภาพทำให้กับเว็บไซต์ ปรากฏอยู่ในอันดับสูงในผลการค้นหาทั่วไป  เมื่อเว็บไซต์ติดอันดับการค้นหาสูงๆ และอยู่ในหน้าแรกของการค้นหา ก็จะเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างมาก นอกจากสามารถเพิ่มจำนวนลูกค้าและยอดขายให้กับแบรนด์  ยังสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์อีกด้วย
https://warrior.in.th/freelance-seo/job/technical-seo/how-to-rank-websites-and-google-search-functionality/

wm5398

SEO & Digital Marketing Freelance ขึ้นปีที่ 5 แล้ว ก่อนจะมาถึงวันนี้ ผ่านอะไรมาบ้าง ?



ใครอยากทำ SEO & Digital Marketing Freelance แบบนักรบให้ติดตามอ่านครับ...

เมื่อ 4-5 ปีก่อน เป็น Webmaster เงินเดือน 2 หมื่นกว่า แต่อยากมีเงินมากกว่านี้ เลยเอาของจากเกาหลีมาขาย พวกชุดเดรสผู้หญิง และเอาของจากตลาดโรงเกลือมาขาย ทำได้สักพักก็ไม่ไหว กำไรน้อยเหลือเกิน หรือว่าเราทำไม่เป็นก็ไม่รู้ คิดไปคิดมา เราทำเว็บได้ เลยสอนคนทำเว็บด้วย WordPress ดีกว่า จนเป็นจุดเริ่มต้นทำเว็บสอน Warriiior.com ตอนนั้นยังใช้ iii 3 ตัวอยู่ในโดเมนอยู่เลย


ปีที่ 1 และ 2 เป็นอย่างไรบ้าง
ปีที่ 1-2 ทำเว็บสอน WordPress ได้ปีกว่า กำไรดีกว่าขายของออนไลน์ซะอีก ในใจคิดอย่างงั้น เลยว่าจะทำสอนไปเรื่อยๆ (เอาจริงๆ ขายของออนไลน์ ได้เยอะกว่านะ แต่ต้องลงทุนหนักๆเยอะๆหน่อย บวกกับตอนนั้นทำไม่เป็น) ทำเว็บสอน WordPress มาได้ปีกว่า ออกมาได้ 3-4 คอร์ส รายได้เริ่มเยอะขึ้น เคลียหนี้หมด มีเงินเก็บแค่ 1 แสน ก็ออกจากงานมาทำเว็บสอนเต็มตัว ตอนนั้นก็เขียนบทความแชร์ประสบการณ์ไว้ – ฟรีแลนซ์รับทําเว็บไซต์ WordPress สร้างรายได้เก็บเงินแสนใน 1 ปี

ปีที่ 2 และ 3 เป็นอย่างไรบ้าง
ขึ้นปีที่ 2-3 หลังจากออกมาสอนเต็มตัว เวลามีเยอะขึ้น เริ่มรับงาน – วิทยากรการตลาดออนไลน์ ไปโน่นไปนี้มากขึ้น เริ่มทำวีดีโอเยอะมากขึ้น และเริ่มทำคอร์สสอนในห้องเรียนได้ประมาณ 1-2 ปี สรุปหลังจากออกมาทำเต็มเวลา ก็ใช้เวลา 1-2 ปี กับการคลุกกับการสอนในห้องเรียน ซึ่งเน้นสอนการลงโฆษณา Ads & SEO เป็นหลัก จนสามารถทำ SEO ติดหน้าแรกใน Keyword เกี่ยวกับการเริ่มต้นธุรกิจได้ และตอนนั้นก็เริ่มออก – คอร์สสอน SEO

ปีที่ 3 และ 4 เป็นอย่างไรบ้าง
ขึ้นปีที่ 3-4 ก็เริ่มชวนแฟนออกมาทำธุรกิจของตัวเอง โดยมีเงินเก็บประมาณ 1 แสนเหมือนกัน ล้มลุกคลุกคลานเหมือนกัน ช่วงแรกๆเงินร่อยหรอ เพราะต้องสร้าง Brand สัก 6 เดือน แล้วก็ค่อยมีเงินเก็บมากขึ้นตอน Brand เริ่มติดตลาดบ้างแล้ว ราวๆปีที่ 3-4 จะเริ่มมียอดขายเกิน 1 แสน/เดือนได้แล้ว – แชร์ประสบการณ์... เก็บเงิน 5 แสนได้จากธุรกิจออนไลน์

ปีที่ 5 เป็นอย่างไร
ขึ้นปีที่ 5 เริ่มกลับมาทำธุรกิจขายของออนไลน์ E-Commerce เพราะได้สินค้าและหุ้นส่วนที่รู้เรื่องการขายดี ทำให้มีครบ 3 องค์กอบสำคัญคือ 1. สินค้า 2. หน้าร้านออนไลน์ 3. การตลาดออนไลน์ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าวิธีทำเว็บและการตลาดแบบนักรบนั้นได้ผลนะ จนสร้างยอดขายเกินล้าน/เดือนได้ภายใน 4 เดือนแรกๆได้แชร์ไว้แล้วที่บทความ – ขายของออนไลน์ ยอดขายหลักล้านใน 4 เดือน

ปีนี้กำลัง
เปิดบริษัทรับทำ SEO ครับ ถ้ามีอะไรคืบหน้าจะมาเล่านะ
https://warrior.in.th/freelance-seo/income/5-years-history/

wm5398

3 อาชีพฟรีแลนซ์ ที่นักรบทำได้มาแล้ว

อาชีพยุคดิจิทัล เปลี่ยนแปลงชีวิตนักรบไปมาก ให้ทั้งเวลา โอกาส วิถีชีวิตในแบบที่เลือกจะพัฒนาตัวเองขึ้นไปเรื่อยๆ ได้ทำธุรกิจและการตลาดในเส้นทางที่อยากทำ โดยไม่ต้องมีใครมากำหนดให้เรา ถ้าคุณชอบเส้นทางและอยากเรียนรู้วิธีทำการตลาดแบบนักรบ ลองศึกษาดูครับ

นักการตลาดดิจิทัลฝึกหัด JUNIOR DIGITAL MARKETER

นักการตลาดดิจิทัลฝึกหัด
ความรู้ทั่วไปของอาชีพนี้คือ พื้นฐานการสร้างและบริหารช่องทางการทำตลาดทุกช่องทาง เช่น Facebook, Line@, Email, Website, E-marketplace รวมถึงการอับเดทเนื้อต่างๆในช่องทางดังกล่าวด้วยครับ ข้อมูลจากประสบการณ์
         - Junior เงินเดือน 12,000 – 20,000 บาท บาท/เดือน
         - Senior เงินเดือน 30,000 – 45,000 ++ บาท/เดือน ** ถ้าสื่อสารภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่นๆได้ จะมีโอกาสได้สูงกว่านี้
         - ถ้าเป็น Project Manager จะได้มากกว่านี้
         - ระยะเวลา 1-3 ปี จากเริ่มต้นสู่มืออาชีพด้านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง

พื้นฐานที่ควรรู้
         - เรียนคอร์สออนไลน์จาก https://www.smesgoonline.com/

นักธุรกิจอีคอมเมิร์ซรายย่อย Small E-Business Owner

นักธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
มีสินค้าหรือบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดี และมีทักษะดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง หรือบริหารคนด้านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งที่สอดคล้องกับช่องทางการทำการตลาดออนไลน์ที่เหมาะกับธุรกิจตัวเองได้ ข้อมูลจากประสบการณ์
         - ยอดขายธุรกิจขนาดเล็กประมาณ 0 – 1,000,000 บาท / เดือน (ช่วงยอดขายกว้างมาก แล้วแต่รูปแบบการทำธุรกิจ)
         - ระยะเวลา  3-5 ปี จากเริ่มต้นสู่มืออาชีพ

แชร์... ประสบการณ์
วิธีการขายของออนไลน์ E-Commerce แตะยอดขายหลักล้านใน 4 เดือน

นักการตลาดด้านเสิร์ชเอ็นจิ้น SEM & SEO MARKETER

นักการตลาดเฉพาะด้านเสิร์ชเอ็นจิ้น
ชำนาญด้านการลงโฆษณากับกูเกิลเอ็ดเวิร์ด (Google AdWords) และการทำเอสอีโอช่วยทำให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกกูเกิลเสิร์ช (SEO) ข้อมูลจากประสบการณ์
          - เงินเดือน 20,000 – 55,000 บาท/เดือน ** ถ้าสื่อสารภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่นๆได้ จะมีโอกาสได้สูงกว่านี้
          - ระยะเวลา 2-3 ปี จากเริ่มต้นสู่มืออาชีพ
          - มีผลงานเว็บไซต์ที่ติดหน้าแรกกูเกิลเสิร์ช

พื้นฐานที่ควรรู้
          - SEO คือ อะไร ?
https://warrior.in.th/freelance-seo/income/goal/

wm5398

วิทยากรออนไลน์ สอนสร้างเว็บไซต์ และ การตลาดออนไลน์ Google Marketing
เรียบเรียงถ้อยคำใหม่จากวีดีโอ (โปรดชม Version เต็มได้ผ่านทางวีดีโอด้านบนครับ)

การให้สัมภาษณ์ช่อง Amarin TV ในรายการ BizBox เป็นรายการที่เปิดกล่องความคิดและไอเดียใหม่ๆในการทำธุรกิจที่น่าสนใจ

นาทีที่ 0:01 – 02:35 ปัจจุบันการค้นหาความรู้เป็นเรื่องที่ง่ายดาย เพียงแค่คุณมีคอมพิวเตอร์กับอินเตอร์เน็ต ก็สามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆได้มากมาย เทคโนโลยีเหล่านี้จึงทำให้เกิดอาชีพใหม่ขึ้นมาเรียกว่า " Infopreneur " ซึ่งจะทำให้ท่านมีรายได้จากความเชี่ยวชาญของท่าน โดยแทบไม่ต้องลงทุนอะไร ในรายการ BizBox วันนี้ขอนำเสนอเรื่อง "หนึ่งอาชีพเสริมสำหรับคนที่มีความรู้ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างจริงๆจังๆ ก็สามารถที่เปลียนความรู้นั้นให้กลายเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาของคนอื่น ซึ่งถ้าคุณกลายเป็นกูรูในเรื่องนั้นๆแล้ว การออกผลิตภัณฑ์ของตัวเอง การผันตัวเองเป็นอาชีพที่เรียกว่า Infopreneur ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป" ในรายการ จึงพาไปพบกับ คุณนักรบ เจ้าของผู้ทำอาชีพที่เรียกว่า Infopreneur และเป็นวิทยากรออนไลน์ อาชีพใหม่ในโลกไซเบอร์


คุณกิ๊ฟ Bizbox : ช่วยนิยมอาชีพ Infopreneur ว่าคืออะไรค่ะ ?
นักรบ : Infopreneur คือ อาชีพที่เปลี่ยนความรู้เป็นเงิน หากตัดคำว่า Infopreneur ออกไป เราจะคุ้นกับอาชีพ วิทยากร ครูสอน คนที่ให้ความรู้ต่างๆ ผู้คนในอาชีพเหล่านี้ก็จะเปลี่ยนความรู้เป็นเงินเช่นกัน เพียงแค่ว่า Infopreneur ดังในโลกของอินเตอร์เน็ต เพราะคนที่ทำอาชีพนี้ เอาความรู้ที่มีมาอยู่ในรูปแบบของ e-book,VDO,DVD หรือคอร์สออนไลน์ สินค้าเหล่านี้ทำครั้งเดียว ต้นทุนต่ำ แต่สามารถขายซ้ำได้ ถ้าคุณมีความตั้งใจทำไปเรื่อยๆ เผยแพร่ความรู้ ผู้คนจะซื้อของคุณ เพราะคุณจะเก่งขึ้นเรื่อยๆ
นาทีที่ 02:36 – 06:10


คุณกิ๊ฟ Bizbox : อะไรที่ทำให้สามารถทำอาชีพ Infopreneur ได้
นักรบ : อาชีพ Infopreneur จะเกิดขึ้นได้ โดยเริ่มจาก เวลาที่เราจะเป็น Infopreneur ได้  คุณต้องเคยมีการแก้ปัญหา มีความชำนาญหรือชอบอะไรซักอย่าง แล้วคุณสามารถที่จะสอนหรือแบ่งปันคนอื่นได้ คนส่วนใหญ่มีปัญหาเล็กไปจนถึงปัญหาใหญ่ หากคุณมีสินค้าหรือบริการที่สามารถช่วยแก้ปัญหาให้คนอื่นได้ คนจะซื้อสินค้าหรือบริการของคุณ เพราะสิ่งเหล่านี้ช่วยแก้ปัญหาในชีวิตของพวกเขาได้ การสอน การให้และแบ่งปันความรู้ที่ดีจริงๆ คุณก็สามารถทำอาชีพ infoprenuer ได้ เพราะว่า คนมีปัญหาเยอะมาก คุณอาจจะออก e-book หนึ่งเล่ม เช่น การจัดบ้าน การเลี้ยงสุนัข ที่สามารถแก้ปัญหาให้กับพวกเขา 

คุณกิ๊ฟ Bizbox : ในโลกออนไลน์มีข้อมูลฟรีๆเยอะมาก เราจะทำอย่างไรให้พวกเขามาซื้อของๆเรา
นักรบ : เรื่องแรก ที่ผมแนะนำสำหรับคนอยากเป็น Infopreneur ถ้าหากคุณเป็นแค่คนธรรมดาคุณต้องให้ความรู้ฟรีๆก่อน เพื่อทำให้คนรู้จักว่า คุณเก่งเรื่องนี้ และจะทำให้เราพัฒนาเรื่องที่เราเก่งไปเรื่อยๆอัตโนมัติ และจะมี feedback กลับมาจากคนที่อ่านว่า เขาชอบในเรื่องนี้หรือไม่ เรื่องที่สอง เมื่อมีคนสนใจ เราจะศึกษาความรู้ที่ลึกมากขึ้น โดยเริ่มศึกษาความรู้จากต่างประเทศหรือในตัวเองจากการลงมือทำ

คุณกิ๊ฟ Bizbox : ในประเทศไทยความรู้นอกเหนือจากเรื่องการลงทุน การเงิน หรือเรื่องแรงบันดาลใจ ยังมีจุดไหนหรือเนื้อหาที่ยังขาดอยู่
นักรบ : ในประเทศไทย มีปัญหาเยอะมากแต่เพียงแค่ว่าเราไม่ได้สังเกต วิธีง่ายๆในการค้นหาว่า มีโอกาสไหนที่เหมาะกับเราบ้าง แค่เราปล่อยความรู้ในโลกของอินเตอร์เน็ต หรือค้นหาคนที่มีความรู้และชำนาญด้านนี้ ถ้าไม่มี คุณอาจจะเป็นคนแรกที่ทำเรื่องนี้ อย่างเช่น กูรูด้านการเดินทาง กูรูด้านการทำอาหาร กูรูด้านการดูแลเด็ก กูรูด้านการจัดบ้าน กูรูด้านการเสริมสวย เหล่านี้คุณสามารถเป็น Infopreneur ได้ 

คุณกิ๊ฟ Bizbox : หากเรามีความตั้งใจจริง ทุกคนก็สามารถเป็น Infopreneur ได้ใช่ไหมคะ
นักรบ: มีความตั้งใจจริง หมั่นพัฒนาตัวเอง และอยากช่วยเหลือคน ทำช่วงแรก คุณอย่าพึ่งหวังเรื่องเงินทอง เพราะอาชีพนี้เป็นอาชีพที่คุณต้องให้และแบ่งปันก่อน ถ้าคุณหวังเงินทอง คุณจะทำได้ไม่นาน ช่วงแรก คุณต้องสร้างชื่อเสียง ให้คนรู้จักคุณก่อนครับ
https://warrior.in.th/seo-goal/online-instructor/