กายภาพบำบัดขาอ่อนแรง เสริมสร้างร่างกายให้มั่นคง

[Pangnap]

เพื่อให้ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความมั่นใจและเป็นไปได้อย่างมั่นคง สำหรับผู้ที่มีอาการบ่งบอกว่าเป็นกล้ามเนื้อขาอ่อนแรง หรือรู้สึกว่าแขนหรือขาอ่อนแรง ควรทำการบริหารร่างกายหรือเข้ารับการรักษา ซึ่งการทำกายภาพบำบัดขาอ่อนแรง เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับสำหรับผู้ที่มีภาวะขาอ่อนแรง รู้สึกยืนหรือก้าวเดินลำบาก

กล้ามเนื้อขาอ่อนแรง คืออะไร

[attach=1]

กล้ามเนื้อขาอ่อนแรง เป็นอาการที่ส่งผลทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถลุกขึ้นเดินได้อย่างปกติ โดยมีสาเหตุต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ภาวะหลอดเลือดสมอง หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องนอนติดเตียงเป็นระยะเวลานาน รวมถึงผู้สูงอายุและผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย มีการขยับเขยื้อนร่างกายน้อยมาก หรือแทบไม่ขยับร่างกายเลย

อาการขาอ่อนแรง เป็นอาการที่หลาย ๆ คนไม่ค่อยให้ความสำคัญเท่าไหร่ เพราะคิดว่าอาจจะเหนื่อยจากการทำกิจกรรมต่าง ๆ แต่ที่จริงแล้วขาอ่อนแรงเป็นอาการเบื้องต้นที่เป็นสัญญาณของโรคร้ายอื่น ๆ ตามมา โดยอาการขาอ่อนแรงสามารถแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ

1. อาการขาอ่อนแรงเกิดจากระบบประสาท
ในส่วนของระบบประสาท มักเป็นอาการที่มีสาเหตุมาจากโรคต่างๆที่มีความเกี่ยวข้องกับเส้นประสาท หรือเซลล์ประสาทมีความผิดปกติ เซลล์ประสาทจึงไม่สามารถสั่งการกล้ามเนื้อได้ ทำให้เกิดอาการขาอ่อนแรง รวมถึงหน้าเบี้ยว แขนขาชา หายใจไม่สะดวก

2. อาการขาอ่อนแรงที่เกิดจากระบบกล้ามเนื้อ
เป็นอาการที่เกิดจากกล้ามเนื้อขาโดยตรง มักจะเกิดกับผู้ที่ไม่ค่อยมีการออกกำลังกายหรือผู้ที่ไม่ค่อยเคลื่อนไหวร่างกาย ทำให้กล้ามเนื้อลีบลง ทำให้เกิดอาการขาอ่อนแรง

ใครที่สมควรทำกายบริการกล้ามเนื้อขาอ่อนแรงบ้าง?

กายภาพบำบัดขาอ่อนแรง เหมาะสำหรับ...

ผู้สูงอายุที่ไม่ค่อยมีแรงขา

ผู้ป่วยติดเตียง

ผู้ที่ประอุบัติเหตุหรือได้รับการผ่าตัดบริเวณสะโพก กระดูกเชิงกราน กระดูกขา ข้อเข่าและข้อเท้า

ผู้ที่มีอาการความผิดปกติทางเส้นประสาท ทำให้ร่างกายไม่สามารถสั่งการกล้ามเนื้อได้ เช่น หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

เส้นเลือดสมองแตก

ผู้ที่มีอาการกระดูกเสื่อม

ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง 

ผู้คนทุกวัยที่ไม่ออกกำลังกาย และมีความเสี่ยงกล้ามเนื้อขาอ่อนแรง

10 ท่าบริการร่างกายสำหรับอาการกล้ามเนื้อขาอ่อนแรง

ท่าที่ 1
นอนหงาย วางมือไว้ข้างลำตัว แล้วค่อย ๆ ยกขาทีละข้างขึ้นสูง และค่อย ๆ ผ่อนขาลง ทำสลับกัน 10 ครั้งต่อเซต ทำซ้ำ 3 เชต

ท่าที่ 2
นอนหงาย งอขาขี้นลงทีละข้าง โดยค่อย ๆ งอขาให้สูงและค่อย ๆ เหยียดขาออก วางขาไว้บนเตียง ทำสลับกัน 10 ครั้งต่อเชต ทำซ้ำ 3 เชต

ท่าที่ 3
นอนหงาย ค่อย ๆ กระดกข้อเท้าขึ้นสุดกระดกข้อเท้าลงสุด ทำข้างละ 10 ครั้ง ต่อเชต ทำซ้ำ 3 เชต

ท่าที่ 4
นอนหงาย ชันเข่าขึ้นทั้งสองข้าง ค่อย ๆ บิดสะโพกไปทางด้านข้างลำตัวข้างซ้าย แล้วค่อยๆบิดสะโพกไปทางด้านขวา ทำข้างละ 10 ครั้งต่อเชต ทำ 3 เชต

ท่าที่ 5
นอนหงาย ชันขาทั้งสองข้าง ยกสะโพกขึ้นเกร็งค้างไว้ 10 วินาที จากนั้นค่อย ๆ ผ่อนสะโพกลงจนถึงพื้น ทำซ้ำ 10 ครั้งต่อเชต ทำซ้ำ 3 เชต

ท่าที่ 6
นอนหงาย ค่อย ๆ กางขาออกทีละข้างให้สุด และค่อย ๆ หุบขาเข้า ทำซ้ำ 10 ครั้งต่อเชต ทำซ้ำ 3 เชต

ท่าที่ 7
นอนหงาย ชันเข่าขึ้นลงทีละข้าง โดยค่อย ๆ งอเข่าให้เท้าชิดกับสะโพกให้มากที่สุดและค่อย ๆ เหยียดเข่าออก ทำสลับกัน 10 ครั้งต่อเชต ทำซ้ำ 3 เชต

ท่าที่ 8
นั่งหลังตรง ค่อย ๆ เหยียดขาข้างหนึ่งไปข้างหน้า 90 องศา และค่อย ๆ วางขาลงกับพื้นและสลับข้าง ทำข้างละ 10 ครั้งต่อเชต ทำซ้ำ 3 เชต

ท่าที่ 9
ยืนตัวตรง นำมือจับสิ่งของที่สามารถจับเพื่อหยุงตัวได้ทั้งสองข้าง เช่น ขอบโต๊ะ ขอบราว ขอบเตียง เป็นต้น แล้วค่อยๆ ย่อเข่าลงทั้งสองข้างทำมุม 90 องศา และค่อยๆ ยืดเข่าตรงกลับเป็นท่ายืน ทำ 10 ครั้งต่อเชต ทำซ้ำ 3 เชต

ท่าที่ 10
ยืนตัวตรง เหยียดแขนทั้งสองข้างไปข้างหน้า แล้วค่อยๆ ย่อเข่าลงทั้งสองข้างทำมุม 90 องศา และค่อยๆ ยืดเข่าตรงกลับเป็นท่ายืน ทำ 10 ครั้งต่อเชต ทำซ้ำ 3 เชต

สรุปการทำกายภาพบำบัดขาอ่อนแรง

[attach=2]

การทำกายภาพบำบัดขาอ่อนแรง จะช่วยส่งเสริมกล้ามเนื้อขาและเข่า ทำให้สามารถลุกขึ้นและเดินได้อย่างมีความคล่องตัว ดังนั้นเพื่อให้กล้ามเนื้อขาของเรามีความแข็งแรง จึงควรหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่ในกรณีที่พบความผิดปกติของขา เช่น ขาไม่มีแรงอย่างไม่มีสาเหตุ หรือมีอาการอื่น ๆ ตามมา ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายและเข้ารับการรักษา