แนะนำคอลลาเจนแบบฉีด Sculptra สำหรับคนที่อยากฟื้นฟูความงามให้ดีเลิศโดนใจ

[landdonmoon]

โดยทั่วไปแล้วเมื่อพูดถึงเรื่องของการเลือกความสวยงามด้วยทางลัดอย่าง '' ศัลยกรรมความงาม '' ซึ่งเป็นกระแสนิยม
สำหรับคนที่มีปัญหาผิวพรรณสะสมมาเนิ่นนานไม่ว่าจะ ผิวคล้ำเเห้งเสีย หน้าหม่องคล้ำมีริ้วรอยเต็มใบหน้า ก็สามารถฟื้นฟู
ผิวพรรณให้กลับคืนมาได้ โดยเฉพาะการกษาด้วยวิธีฉีดคอลลาเจน Sculptra ซึ่งเป็นเทคนิคการรักษาความงาม
ด้วยวิธีฉีดคอลลาเจนลงในใต้ชั้นผิวหนังเรา ฟื้นฟูยกกระชับผิวได้อย่างดีเลย

เลือกรักษาด้วยคอลลาเจนแบบฉีด Sculptra มั่นใจให้ทุกหน้าอ่อนกว่าวัยเป็นไปได้

โปรแกรมการรักษาความงามด้วยคอลลาเจนแบบฉีด Sculptra นับเป็นการรักษาผิวพรรณแบบยกกระชับครั้งใหญ่ โดยใช้วิธีรักษาด้วยการฉีดคอลลาเจนธรรมชาติเกรดพรีเมี่ยมด้วย Original Collagen Biostimulator หรือ สารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนโดยธรรมชาติ ด้วยอนุภาคขนาดเล็กของสาร Poly-L-Lactic Acid (PLLA) ของคอลลาเจน Sculptra ซึ่งมีคุณสมบัติเข้ากับเนื้อเยื่อผิวได้ ไม่เกิดอาการแพ้หรือร่างกายต่อต้านย่อยสลายได้ในร่างกายโดยไม่ตกค้าง เเละเมื่อฉีดเข้าสู่ผิวหนังของเราเเล้วจะไปช่วยเรียกเม็ดเลือดขาวให้มาล้อมรอบอนุภาค PLLA ไว้และเม็ดเลือดขาวเหล่านี้จะปล่อยสาร TGF-beta และ PDGF ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวให้เพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่องค่อยเป็นค่อยไป ช่วยให้ผิวดูอิ่มสดใสขึ้น ยกกระชับผิวหน้าได้ในระยะยาวด้วยนั่นเอง โดยหลังจากการฉีดคอลลาเจนแบบฉีด Sculptra สามารถคงอยู่สภาพในร่างกายได้นานสูงสุดถึง 2 ปี เหมาะสมกับคนที่มีปัญหาผิวพรรณเยอะหลายอย่าง-หน้าแก่ก่อนวัย ก็สามารถใช้วิธีการรักษาด้วยคอลลาเจนแบบฉีดเพื่อเคลียร์ปัญหาผิวให้ลุล่วงในที่สุด 

คอลลาเจนแบบฉีด Sculptra VS ฉีดฟิลเลอร์ แบบไหนเหมาะสมกับเรามากกว่า

สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยเข้าไปปรึกษาปัญหาผิวพรรณที่คลินิกความงาม หลายคนก็รู้สึกสงสัยใช่ไหมว่า Sculptra กับ ฉีดฟิลเลอร์ ทั้งสองวิธีนี้มีข้อแตกต่างอย่างไรบ้าง เรื่องนี้มีคำตอบสรุปมาฝาก

1.คอลลาเจนแบบฉีด Sculptra มีขั้นตอนการรักษาที่แทบไม่มีความเสี่ยงเลย ขั้นตอนรักษาไม่ยุ่งยาก เมื่อเทียบกับฉีดฟิลเลอร์
2.การฉีดฟิลเลอร์ ( ทุกส่วนของร่างกาย ) สามารถเห็นผลลัพท์ครั้งแรกได้เร็วกว่าคอลลาเจนแบบฉีด
3.ความเสี่ยงจากอาการแพ้ยา ฉีดฟิลเลอร์มีความเสี่ยงมากกว่าชัดเจน คนไข้บางคนที่มีปัญหาสุขภาพมากก็ไม่เหมาะแก่ฉีดฟิลเลอร์
4.คงสภาพเห็นผลลัพท์นานราว 2 ปี คอลลาเจนแบบฉีด Sculptra สามารถคงสภาพผลลัพท์อยู่นานกว่า
5.ราคาค่ารักษา โดยรวมแล้วคอลลาเจนแบบฉีดจะมีราคาที่สูงกว่าการฉีดฟิลเลอร์ เนื่องจากฟิลเลอร์มีหลายเกรด หลายยี่ห้อ
แต่ทั้งสองวิธีรักษาความงามนี้ควรทำกับคุณหมอผู้เชี่ยวชาญที่คลินิกศัลยกรรมความงามเท่านั้น
6.ข้อจำกัดการรักษาของคนไข้ คอลลาเจนแบบฉีด Sculptra แทบไม่มีข้อจำกัดเลย ใครๆก็รักษาได้ แตกต่างจากฉีดฟิลเลอร์
ถ้าเป็นคนไข้ที่เคยมีอาการแพ้ยาหรือมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับมะเร็ง-หัวใจ-หลอดเลือด ก็ไม่สามารถฉีดฟิลเลอร์ได้เเล้ว

โดยสรุปแล้วคอลลาเจนแบบฉีด Sculptra มีข้อดีที่รักษาได้ง่ายกว่าเเละแทบไม่มีความเสี่ยงเลยเมื่อเทียบกับฉีดฟิลเลอร์
ที่มีความเสี่ยงมากกว่า เเต่ถึงอย่างนั้นเเล้วก่อนจะรักษาทั้งสองวิธีนั้นควรไปที่คลินิกศัลยกรรมความงามก่อนเท่านั้น คนไข้จะได้มั่นใจ
ว่ารักษาความงามได้ปลอดภัยทุกขั้นตอนครับ

แนะนำการรักษาคอลลาเจนแบบฉีด Sculptra ที่คลินิกชั้นนำ MASTERWORK CLINIC

มาสเตอร์เวิร์คคลินิก MASTERWORK CLINIC ซึ่งเป็นคลินิกศัลยกรรมความงามชั้นนำในกรุงเทพ ย่านอโศก โดยที่คลินิกแห่งนี้ได้รับอนุญาตถูกต้องจากกระทรวงสาธารณะสุข เเละมีใบรับรองคุณภาพคลินิกความงามจากประเทศเกาหลีใต้ เรามีคุณหมอผู้เชี่ยวชาญมีประสบการณ์นับสิบปี ที่พร้อมดูแลคนไข้ที่มีปัญหาผิวพรรณทุกประเภท อยากฟื้นฟูความสวยงามให้กลับคืนมาของเราได้ ทั้งนี้สำหรับ
คนไข้ที่ต้องการฉีดคอลลาเจน Sculptra เริ่มต้นได้ไม่ยากเพียงเข้ามาปรึกษากับคุณหมอที่คลินิกเราก่อน หลังจากนั้นคุณหมอจะทำการเช็คสภาพผิวเเละประเมินสุขภาพของคนไข้ว่ามีปัญหาตรงไหนไหม ถ้าราบรื่นดีคนไข้จะได้รับคำแนะนำของการฉีดคอลลาเจน Sculptra โดยคุณหมอจะนำผลิตภัณฑ์มาให้คนไข้ดูต่อหน้า แล้วให้คนไข้ตัดสินใจว่าพร้อมทำตอนไหน เมื่อคนไข้พร้อมทางคลินิกก็จะนัดฉีดคอลลาเจนในอีก 2 สัปดาห์ ในวันรักษาคนไข้ต้องมีสุขภาพเเข็งแรงไม่เจ็บป่วยเท่านั้น ขั้นตอนฉีดคอลลาเจน Sculptra ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็เสร็จเเล้ว หลังจากนั้นให้คนไข้กลับไปพักผ่อนที่บ้าน พักผ่อนเพียงวันเดียวก็หายดีเป็นปกติเเล้ว ก่อนที่คุณหมอจะนัดคนไข้ให้มาเช็คสภาพผิวหลังฉีดคอลลาเจน Sculptra เป็นลำดับต่อไป

สนใจรักษาความงามฉีดคอลลาเจน Sculptra เลือกที่ มาสเตอร์เวิร์คคลินิก คุณหมอความงามใจดีดูแลคนไข้ที่เข้ามารักษาที่คลินิกเป็นอย่างดี หมดห่วงทุกขั้นตอนรักษาปลอดภัยชัวร์ครับ