ชื่นชมอาสาจราจรหาดใหญ่ช่วยเหลืองานตำรวจโดยไม่หวังผลตอบแทน

[hotel9]

ชื่นชมผู้มีจิตใจอาสาทุกท่านครับ ผมเคยเจอหลายคนที่ทุ่มเทในการออกมาบริการสังคมมากกว่าคนที่ได้รับเงินเดือนและมีหน้าที่โดยตรงซะด้วยซ้ำไป

แต่ไม่เห็นด้วยตามนี้ครับ

1.เครื่องแบบ รายละเอีบดเกี่ยวกับการแต่งกายนั้นหากเจาะลึกในข้อบังคับและระเบียบแล้วก็เหมือนที่หลายท่านได้กล่าวไว้ข้างต้นคือมีข้อบังคับไว้ตามกฎหมายอยู่แล้วครับ การแต่งกายที่เหมือนเจ้าหน้าที่ตำรวจหมู่งานจราจรนั้น อาจสร้างความสับสนให้แก่ผู้พบเห็น เหมือนที่บางท่านแยกตำรวจจริงกับตำรวจอาสาที่แถบสะท้อนแสงนั่นหล่ะครับ ซึ่งในการแยกแยะอย่างถูกต้องนั้นหาใช่การดูที่แถบสะท้อนแสงครับ แต่ดูที่ชั้นยศ ตำรวจจริงสามารถติดชั้นยศได้ แต่ตำรวจอาสาจะไม่ติดครับ

2.อาวุธปืน เนื่องจากตำรวจอาสาต่างจากตำรวจจริงในแง่ของกฎหมายอยู่มาก ดังจะเห็นได้จากข่าวนี้ว่าแม้แต่ใบสั่งให้เสียค่าปรับก็ต้องรอทางตำรวจมาเป็นผู้ออกใบสั่งให้ ตำรวจอาสาด้วยกฎหมายไม่สามารถออกใบสั่งได้ด้วยตัวเอง ส่วนที่หลายท่านตั้งข้อสงสัยว่าหากมีเหตุจะให้ตำรวจอาสาระงับเหตุด้วยอาวุธใดนั้น ต้องมาทำความเข้าใจเรื่องกฎหมายเสียก่อน การที่ตำรวจอาสาหยิบจับหรือชักปืนออกมานั้นในทางกฎหมายถือว่าได้กระทำการอันผิดต่อกฎหมายแล้ว ด้วยปัจจัยที่ว่าแม้เป็นตำรวจอาสาก็ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ที่กฎหมายมอบอำนาจให้โดยตรง การชี้ปืนเล็งไปทางใครคนใดคนหนึ่งถือว่าเป็นพยายามฆ่า การยิงใครซักคนก็จะเป็นฆ่าคนตาย ส่วนมูลเหตุและแรงจูงใจนั้นต้องไปพิสูจน์กันในศาล ดังนั้นถ้าถามผม เดินหนี วิ่งหนี ร้องให้คนช่วยดูว่าจะเหมาะสมกว่าในทุกกรณีของการทำงานของตำรวจอาสาครับ การจดจำและบันทึกรายละเอียดในสิ่งที่พบเห็นก็สามารถแจ้งเหตุนำไปสู่การจับกุมตัวคนร้ายได้เช่นกันครับ

พี่ครับเรื่องนี้พีถึงสว.จรโดยตรงดีหวากะเขาทำกันมาพันนี้นานแล้วขอโทษจริงๆนะพี่ด้วยความเคารพพี่ แต่การจัดการสังคมนั้นแลแค่ตัวหนังสือในกฏหมายไม่ได้มันต้องใช้กฏทางสังคมร่วมด้วย กฏหมายเองกะมีการเปลี่ยนแปลงได้ในวันหนึ่ง แล้วกฎสังคมล่ะพี่วันเปลี่ยนสักสิบหนได้มั้ง สังคมหาดใหญ่กะว่าอย่างนึง สังคมปัตตานีก็ว่าอย่าง สังคมกรุงเทพก็ว่าอย่าง แต่อยู่บนบันทัดฐานเดียวกันว่า"ห้ามฆ่า ห้ามละเมิด ห้ามแย่งชิง"บันนี้บันทัดฐานทั่วโลก แล้วอิเอากฏหมายกฏสังคมมาใช้เหมือนกันเหม็ดได้พรือ...ด้วยความเคารพ

[วสันตฤดู :)]

เป็นกำลังใจให้ท่านที่ทำดีเพื่อสังคมอยู่แล้วครับ แต่..

ประเด็นตอนนี้หลักๆ คนทั่วไปคงห่วงแค่
เรื่อง อส.จร. ที่ไม่ใช่ จนท.ตำรวจ แต่สามารถพกปืนได้
ทราบนะครับ ว่าทุกหน่วยงานมันมีทั้งคนดี คนไม่ดีปนๆกันไป
แต่ต้องรอให้คนไม่ดีทำเรื่องก่อนเหรอครับถึงจะหาทางป้องกัน
เรื่องปืนผาหน้าไม้ มันไม่เข้าใครออกใครนะครับ

ส่วนเรื่องการแต่งตัว
ผมว่าถ้าเหมือนไปมันก็จะไม่ดี
เพราะมันจะเป็นช่องทางให้พวกที่คิดไม่ดี
เอาเครื่องแบบไปใช้นอกอำนาจหน้าที่ หาประโยชน์เข้าตัวได้
เพราะคนทั่วไปอาจไม่ทราบเรื่องนี้ ซึ่งผมคิดว่ามีเยอะมาก ที่ยังไม่รู้ว่ามี อส.จร.

ใครที่พอจะมีอำนาจ หรือ ช่องทางพอที่จะติดต่อกับผู้ดูแลเรื่องนี้ได้โดยตรง
ผมอยากให้ลองพิจารณาเรื่องพวกนี้ดูอีกซักนิด เพื่อความอุ่นใจมากขึ้นของชาวหาดใหญ่นะครับ 

ปล.ผมอาจไม่ใช่คนที่เสียสละตัวเองเพื่อสังคม แต่ผมก็ไม่เคยสร้างปัญหา และไม่อยากให้ปัญหาเกิดกับตัวผมเองและคนอื่นเช่นกันครับ ^ ^

[สมๆๆๆๆ]

วันนี้ ไปที่ ถนน เพชรเกษม ช่วงหน้า ญว. เจอเหตุหารณืที่ น่าเอามาเตือนกัน
คือ 1. รถที่ออกมาจากซอยข้าง เซเว่นตรงข้าม ญว. เเละ ซอยเล็กๆ อีก 1 ซอย ก่อนถึง อีซุซุ จะเลี้ยวขวาเพื่อกลับรถ คราวละ 2 เเถว
ซึ่งบางครั้ง รถ เลนนอก ( ซึ่งมาทางโค้ง) เเต่ จะไปตรงทางสยามนครินทร์ เเต่ รถเลนใน ( ชิดเกาะกลาง ) จะเลี้ยวเพื่อเข้าซอย ระหว่าง สำนักงาน สปสช. เเละ ญว.
ทำให้ รถ 2 คันมาขวางลำกันกลางถนน เพชรเกษม
ผมเสนอว่า ที่ ตรงนี้ น่าจะทาทีเป็นเส้นทะเเยงเหลือง  ( ตอนนี้ ถนนเพิ่งลาดยาง ยังตีเส้นไม่เรียบร้อย )

2.มีซอยที่อยู่ระหว่าง ญว.กับเเบ็งชาติ ที่มีรถออกมา เเละมีรถบางคันที่ต้องการ จะกลับรถที่สี่เเยก ก็ต้องวิ่งตัดช่องจราจรมา 3 เลน เพื่อเข้าช่องขวาสุดชิดเกาะกลาง
เดิมที่ตรงนี้ มีการตีเส้นเหลืองทะเเยง เอาไว้เเล้ว เเต่ ตอนนี้ มการลาดยางใหม่
ทำให้วันนี้ อาสาจราจร มาเป็นคนโบกรถทางตรงให้หยุด เพื่อให้รถออกจากซอย ออกมาได้

ซึ่งผมคิดว่า ที่ตรงนี้ เสี่ยงอย่างมากที่จะทำให้เกิด อุบัติเหตุเพราะ

2.1 ที่ตรงนี้ จะเป็นที่เงาของสะพานลอยทอดลงมา ในเวลาบ่ายๆ ที่ ญว.เลิกเรียนพอดี  ทำให้ ทัศนวิสัยในการมองของคนขับรถ จะมองไม่เห็น คนที่ใส่เสื้อสีมืดๆ ( อาสาจราจร ก็เช่นกัน )

2.2 ก่อนถึง ที่ตรงนี้ จะมี รถสองเเถว จอดที่ป้าย รอรับ นร.  2 เลน ยิ่งบัง อส.ไปอีก

2.3รถบางคันที่ ไม่รู้ว่า ซอยนี้ ห้ามเข้า ระหว่างเวลา 7-9 น. เเละ 15-18 น. ก็ พยายามเลี้ยวซ้ายผ่านหน้า รถสองเเถวเพื่อจะเข้าซอย

ผมเสนอว่า ที่ ตรงนี้ น่าจะทาทีเป็นเส้นทะเเยงเหลือง  ( ตอนนี้ ถนนเพิ่งลาดยาง ยังตีเส้นไม่เรียบร้อย )

เเละถ้า อาสาจราจร จะมาทำหน้าที่ ควร ถือ กระบองไฟกระพริบ หรือ ไม้พลองลูกเสือที่ ติดธงสีเเดง
จะปลอดภัยกว่าที่มาเป่านกหวีด เเต่ เสี่ยงอันตราย หรือไม่ก็  สละเวลามาช่วยตีเส้นจราจร ก็น่าจะดี นะครับ

[Ovaltine]

น้องเราต้องเดินไปเรียนพิเศษที่ต้องข้ามถนนทุกวัน  ก็ได้อาสาเหล่านี้แหละช่วยพาข้ามถนน ไม่งั้นคงลำบากไปรับ ส่ง ทุก1ชั่วโมงเป็นแน่   แต่ที่สังเกต เขาก็ไม่ได้พกปืนซักคนเลยนะ  ส่วนชุดเรามองว่า คล้ายคนทำถนนตอนเวลากลางคืนซะมากกว่า

[ขุนศึก]

พี่ครับเรื่องนี้พีถึงสว.จรโดยตรงดีหวากะเขาทำกันมาพันนี้นานแล้วขอโทษจริงๆนะพี่ด้วยความเคารพพี่ แต่การจัดการสังคมนั้นแลแค่ตัวหนังสือในกฏหมายไม่ได้มันต้องใช้กฏทางสังคมร่วมด้วย กฏหมายเองกะมีการเปลี่ยนแปลงได้ในวันหนึ่ง แล้วกฎสังคมล่ะพี่วันเปลี่ยนสักสิบหนได้มั้ง สังคมหาดใหญ่กะว่าอย่างนึง สังคมปัตตานีก็ว่าอย่าง สังคมกรุงเทพก็ว่าอย่าง แต่อยู่บนบันทัดฐานเดียวกันว่า"ห้ามฆ่า ห้ามละเมิด ห้ามแย่งชิง"บันนี้บันทัดฐานทั่วโลก แล้วอิเอากฏหมายกฏสังคมมาใช้เหมือนกันเหม็ดได้พรือ...ด้วยความเคารพ

ด้วยความเคารพเช่นกันครับ

ท่านได้ข้อมูลมาจากไหนครับว่าอาสาจราจรเค้าให้พกปืนกันแบบนี้มานานแล้ว เท่าที่ทราบเพิ่งมายุคหลังนี่เองนะครับ ยุคแรกเริ่มเดิมทีเค้าไม่ให้พกครับ

ส่วนเรื่องกฎสังคมใดๆที่ท่านว่ามานั้น มันต้องอยู่บนพื้นฐานของกฎหมายครับ อะไรที่ไม่ขัดต่อกฎหมายท่านจะตั้งขึ้นมาเป็นกฎสังคมหรือกฎหมู่ก็สามารถทำได้ จะเปลี่ยนจะปรับวันละสิบหนยี่สิบหนก็ทำได้ แต่เกฎหมู่กฎสังคมที่ท่านเรียกนั้นจะต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย เจตนาของกฎหมายที่ออกมาเพื่อล้วนให้ทุกคนในสังคมอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข การที่ใครบางคนจะทึกทักเอาเองว่าที่นี่ท้องถิ่นฉัน ฉันจะตั้งกฎแบบนี้ มันง่ายมันเหมาะสมกับที่นี่ แต่ถ้ามันขัดกับกฎหมายก็แปลว่ามันไม่ถูกกฎหมายครับ

เรื่องการพกพาอาวุธปืนนั้น ผมเองไม่เห็นในความจำเป็นที่จะต้องไปแจ้งสารวัตรจราจรตามท่านว่าเลยแม้แต่น้อย เนื่องด้วยผมเชื่อว่าท่านผู้รักษากฎหมายย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่าสิ่งใดผิดหรือไม่ผิดกฎหมาย ไม่เช่นนั้นท่านคงให้อาสาจราจรสามารถเขียนใบสั่งพร้อมลงลายมือชื่อได้ด้วยตัวเองไปแล้ว แต่ที่เค้าไม่อนุญาตนั้นเพราะท่านทราบด้วยกฎหมายว่าอาสาจราจรไม่ใช่เจ้าพนักงานตามกฎหมาย

แต่ที่มาพูดคุยกันในกระทู้นี้เพื่อต้องการบอกกล่าวเตือนสติท่านผู้ช่วยเจ้าพนักงานซะมากกว่า ว่าอย่าได้หลงเข้าใจผิดไปตามลมปากหรือค่านิยมที่ผิด วันใดพลาดพลั้งคราวเคราะห์คราวซวยมาเยือนผู้ที่บอกท่านว่าพกพาได้จะยอมขึ้นให้การในศาลเป็นพยานบุคคลให้ท่านหรือไม่ ผู้ที่บอกท่านส่งเสริมท่านจะสามารถทำให้ท่านพ้นผิดตามกฎหมายได้หรือไม่ นี่ต่างหากที่น่าสนใจ

ทำไมต้องกันไว้เป็นพยานบุคคล เพราะเอกสารคำสั่งอนุญาตให้ท่านพกพาอาวุธปืนท่านไม่มี ตามระเบียบของอาสาจราจรก็ไม่ได้ระบุเรื่องอาวุธปืนเอาไว้ ที่จะผ่อนหนักให้เป็นเบาได้คงจะมีแต่ตัวบุคคลระดับผู้บังคับบัญชาเท่านั้น และจะสามารถผ่อนหนักให้เป็นเบาได้หรือไม่นั้นก็ยังคงอยู่ในดุลพินิจของศาลเท่านั้น สุดท้ายท่านหรือใครยังจะเสี่ยงพกพาก็คงต้องสุดแล้วแต่ท่าน ผมเองมาให้ข้อมูล ส่วนการตัดสินใจเป็นสิทธิ์ของทุกคน

ขอฝากข้อคิดจากโคลงโลกนิติ สักบทครับ

นาคีมีพิษเพี้ยง     สุริโย
เลื้อยบ่ทำเดโช     แช่มช้า
พิษน้อยหยิ่งโยโส     แมงป่อง
ชูแต่หางเองอ้า     อวดอ้าง ฤทธี

[swat]

กฎหมายมีไว้ปฎิบัติ มิใช่ให้ยกเว้นแก่ผู้หนึ่งผู้ใดที่อ้างว่าทำเพื่อชาติ คนเราถ้าไม่จักอ่านหนังสือ ค้นคว้าหาความรู้ ก็จะคิดว่าตัวกูถูก  ในความเห็นที่ไม่เห็นด้วย มิได้ไปว่าผู้ที่เสียสละ  แต่ไม่เข่้าใจว่าผู้รักษากฎหมายจึงไม่ไปบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามความถูกต้อง อาสาจราจรซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่เทศกิจ หรือ อส.  ก็สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เช่นกัน ไปดูได้ที่หน้าที่ว่าการอำเภอ หรือ ประตู 109 ถนนปุณณกันท์ ก็ได้ มิจำเป็นต้องแต่งกายเลียนแบบตำรวจ พกปืน ถือวิทยุ

[สมๆๆๆๆ]

เช้านี้ ผ่านที่หน้า ร.เทศบาล วัดคอหงส์ ที่ทางม้ล้ายทั้งสองฝั่งของถนนเพชรเกษม
มี อาสา จราจร  เเละ นร. ยืนที่ทางม้าลบาย เอาไม้พลองลูกเสือ ผูกผ้าเเดง ฝั่งละ 2 คน คอยกั้นให้รถยนต์หยุด
ผมว่า ปลอดภัย ต่อทั้ง นร.เเละ อสาสา ที่ จะได้ ทำหน้าที่อย่างถูกต้อง ครับ

[นายไข่นุ้ย]

เช้านี้ ผ่านที่หน้า ร.เทศบาล วัดคอหงส์ ที่ทางม้ล้ายทั้งสองฝั่งของถนนเพชรเกษม
มี อาสา จราจร  เเละ นร. ยืนที่ทางม้าลบาย เอาไม้พลองลูกเสือ ผูกผ้าเเดง ฝั่งละ 2 คน คอยกั้นให้รถยนต์หยุด
ผมว่า ปลอดภัย ต่อทั้ง นร.เเละ อสาสา ที่ จะได้ ทำหน้าที่อย่างถูกต้อง ครับ

[hotel9]

ด้วยความเคารพเช่นกันครับ

ท่านได้ข้อมูลมาจากไหนครับว่าอาสาจราจรเค้าให้พกปืนกันแบบนี้มานานแล้ว เท่าที่ทราบเพิ่งมายุคหลังนี่เองนะครับ ยุคแรกเริ่มเดิมทีเค้าไม่ให้พกครับ

ส่วนเรื่องกฎสังคมใดๆที่ท่านว่ามานั้น มันต้องอยู่บนพื้นฐานของกฎหมายครับ อะไรที่ไม่ขัดต่อกฎหมายท่านจะตั้งขึ้นมาเป็นกฎสังคมหรือกฎหมู่ก็สามารถทำได้ จะเปลี่ยนจะปรับวันละสิบหนยี่สิบหนก็ทำได้ แต่เกฎหมู่กฎสังคมที่ท่านเรียกนั้นจะต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย เจตนาของกฎหมายที่ออกมาเพื่อล้วนให้ทุกคนในสังคมอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข การที่ใครบางคนจะทึกทักเอาเองว่าที่นี่ท้องถิ่นฉัน ฉันจะตั้งกฎแบบนี้ มันง่ายมันเหมาะสมกับที่นี่ แต่ถ้ามันขัดกับกฎหมายก็แปลว่ามันไม่ถูกกฎหมายครับ

เรื่องการพกพาอาวุธปืนนั้น ผมเองไม่เห็นในความจำเป็นที่จะต้องไปแจ้งสารวัตรจราจรตามท่านว่าเลยแม้แต่น้อย เนื่องด้วยผมเชื่อว่าท่านผู้รักษากฎหมายย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่าสิ่งใดผิดหรือไม่ผิดกฎหมาย ไม่เช่นนั้นท่านคงให้อาสาจราจรสามารถเขียนใบสั่งพร้อมลงลายมือชื่อได้ด้วยตัวเองไปแล้ว แต่ที่เค้าไม่อนุญาตนั้นเพราะท่านทราบด้วยกฎหมายว่าอาสาจราจรไม่ใช่เจ้าพนักงานตามกฎหมาย

แต่ที่มาพูดคุยกันในกระทู้นี้เพื่อต้องการบอกกล่าวเตือนสติท่านผู้ช่วยเจ้าพนักงานซะมากกว่า ว่าอย่าได้หลงเข้าใจผิดไปตามลมปากหรือค่านิยมที่ผิด วันใดพลาดพลั้งคราวเคราะห์คราวซวยมาเยือนผู้ที่บอกท่านว่าพกพาได้จะยอมขึ้นให้การในศาลเป็นพยานบุคคลให้ท่านหรือไม่ ผู้ที่บอกท่านส่งเสริมท่านจะสามารถทำให้ท่านพ้นผิดตามกฎหมายได้หรือไม่ นี่ต่างหากที่น่าสนใจ

ทำไมต้องกันไว้เป็นพยานบุคคล เพราะเอกสารคำสั่งอนุญาตให้ท่านพกพาอาวุธปืนท่านไม่มี ตามระเบียบของอาสาจราจรก็ไม่ได้ระบุเรื่องอาวุธปืนเอาไว้ ที่จะผ่อนหนักให้เป็นเบาได้คงจะมีแต่ตัวบุคคลระดับผู้บังคับบัญชาเท่านั้น และจะสามารถผ่อนหนักให้เป็นเบาได้หรือไม่นั้นก็ยังคงอยู่ในดุลพินิจของศาลเท่านั้น สุดท้ายท่านหรือใครยังจะเสี่ยงพกพาก็คงต้องสุดแล้วแต่ท่าน ผมเองมาให้ข้อมูล ส่วนการตัดสินใจเป็นสิทธิ์ของทุกคน

ขอฝากข้อคิดจากโคลงโลกนิติ สักบทครับ

นาคีมีพิษเพี้ยง     สุริโย
เลื้อยบ่ทำเดโช     แช่มช้า
พิษน้อยหยิ่งโยโส     แมงป่อง
ชูแต่หางเองอ้า     อวดอ้าง ฤทธี

เฮ้อเหม็ดกำลังใจเลิกแล้วงานอาสาสมัครทำไปกะเพื่อนว่าอยู๋ดีอยู่บ้านเฉยๆคอยแลเพื่อนพอใครทำไหรผิดแล้วเราไปตำหนิแหลงให้สวยๆแลมีความรู้สักหิดมันแลดูเป็นคนดีหวามาอดหลับอดนอนดูแลความสงบในเมืองให้ชาวบ้านลุย
ปล.คือผมว่าพี่ๆข้องใจการทำงานของอส.จรในหาดใหญ่ให้พี่รวมกลุ่มไปคุยกับผู้ที่รับผิดชอบโดยตรงคือสารวัติจราจรเลยดีหวามาแหลงกันในนี้เรื่องมันไม่จบเสียความรู้สึกกันปล่าวๆ
นาคีมีพิษเพี้ยง     สุริโย
เลื้อยบ่ทำเดโช     แช่มช้า
พิษน้อยหยิ่งโยโส     แมงป่อง
ชูแต่หางเองอ้า     อวดอ้าง ฤทธี
................................
อาสาไม่มีพิษเพี้ยง ใดใด
ทำงานเพื่อหาดใหญ่ ไม่ช้า
ผิดน้อยโดนด่ามาก เศร้าใจ
หมดกำลังทำไป ใครเห็นความดี

[ขุนศึก]

เฮ้อเหม็ดกำลังใจเลิกแล้วงานอาสาสมัครทำไปกะเพื่อนว่าอยู๋ดีอยู่บ้านเฉยๆคอยแลเพื่อนพอใครทำไหรผิดแล้วเราไปตำหนิแหลงให้สวยๆแลมีความรู้สักหิดมันแลดูเป็นคนดีหวามาอดหลับอดนอนดูแลความสงบในเมืองให้ชาวบ้านลุย
ปล.คือผมว่าพี่ๆข้องใจการทำงานของอส.จรในหาดใหญ่ให้พี่รวมกลุ่มไปคุยกับผู้ที่รับผิดชอบโดยตรงคือสารวัติจราจรเลยดีหวามาแหลงกันในนี้เรื่องมันไม่จบเสียความรู้สึกกันปล่าวๆ
นาคีมีพิษเพี้ยง     สุริโย
เลื้อยบ่ทำเดโช     แช่มช้า
พิษน้อยหยิ่งโยโส     แมงป่อง
ชูแต่หางเองอ้า     อวดอ้าง ฤทธี
................................
อาสาไม่มีพิษเพี้ยง ใดใด
ทำงานเพื่อหาดใหญ่ ไม่ช้า
ผิดน้อยโดนด่ามาก เศร้าใจ
หมดกำลังทำไป ใครเห็นความดี

ค่อยๆอ่านค่อยๆจับประเด็นดูสิครับ ผมและหลายๆท่านไม่ได้ติติงการทำงานของอาสาจราจรเลยแม้แต่น้อย แถมยังกล่าวชื่นชมในการเสียสละซะด้วยซ้ำไป แต่ในส่วนที่ผิดหรือในส่วนที่ไม่เหมาะสมนั้นก็วิจารณ์แสดงความคิดเห็นกันด้วยข้อเท็จจริง หากข้อเท็จจริงเหล่านี้ถึงขั้นจะต้องให้ท่านถึงกับถอดใจผมเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกันครับ

เรื่องรวมกลุ่มไปคุยกับสารวัตรจราจรนั้น ผมชี้ให้เห็นสาระอีกนิดละกันนะครับ ท่านจะได้ไม่ต้องโยนลูก เรื่องการพกปืนสารวัตรจราจรได้เป็นคนบอกหรือไม่ครับว่า ถ้าวันนี้จะมปฎิบัติหน้าที่าเป็นอาสาจราจรต้องเอาปืนพกออกมาด้วย ถ้าท่านยืนยันว่าสารวัตรเป็นผู้บอกอย่างนั้นเดี๋ยวผมจะไปคุยกับสารวัตรจราจรให้ครับ แต่ถ้าไม่ใช่ก็อย่างที่บอกไปล่ะครับคุยกับท่านสารวัตรไปก็ไม่มีประโยชน์ครับ ท่านหยิบปืนใส่ซองพกติดเอวออกจากบ้านท่านด้วยตัวเอง ไม่ใช่ว่าใครคนใดบังคับว่าท่านต้องพกจริงไหมครับท่่าน แล้วจะให้ไปคุยกับสารวัตรจราจรเพื่ออะไรครับ

"เฮ้อเหม็ดกำลังใจเลิกแล้วงานอาสาสมัคร" ตามข้อความของท่านข้างต้นนั้นสรุปว่าท่านเป็นอาสาจราจรหรือครับ เพราะผมคิดว่าไม่น่าจะใช่นะครับ เนื่องจากในความเห็นที่ 32.ที่ท่านได้ให้ไว้ ท่านแยกเพื่อนท่านไม่ออกซะด้วยซ้ำไปว่าไหนตำรวจจริงไหนอาสาจราจร ที่สำคัญผมว่าอาสาสมัครตัวจริงเค้าไม่ท้อกับข้อเท็จจริงแค่นี้หรอกครับ

สุดท้าย ผมขอชื่นชมเพิ่มเติมหน่อยละกัน ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่เทศกิจ ที่มาทำหน้าที่อาสาจราจร อยู่หน้าโรงเรียนธิดาด้วยนะครับ พอดีเมื่อเช้าได้มีโอกาสไปส่งลูกสาว ได้เห็นการทำหน้าที่ของท่านไม่ว่าเรื่องการแต่งกายที่ใส่เสื้อสะท้อนแสงระบุ"เทศกิจอาสาจราจร" หรือการพกนกหวีดแทนการพกปืน ตลอดจนการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และการอำนวยความสะดวกให้เด็กนักเรียน ขอชื่นชมจากใจครับ

[แดงเทียม]

  เฮ้อ   คุณ  hotel9 เอ๋ย
   มีใครเขาต่อว่าต่อขาน มีใครเขากล่าวร้ายอาสาสมัครที่เขาทำงานด้วยความเสียสละ ด้วยหัวใจจริงๆหรือเปล่าครับ
    เพียงแต่เขาเห็นกันว่าการอาสาสมัครมาช่วยงานจราจร หรืองานอื่นในตัวเมืองหาดใหญ่ ไม่มีความจำเป็นแต่อย่างไรที่ท่าน
จะต้องพกพาอาวุธปืน   ปืนให้พวกตำรวจ(จริงๆ)ที่มีหน้าที่  ทหารที่มีหน้าที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่อยู่ระหว่างการปฎิบัติหน้าที่ สมาชิกกองอาสาของกรมการปกครองที่อยู่ระหว่างปฎิบัติหน้าที่เขาพกพากันไปเถอะ   ประดาเจ้าพนักงานตามกฎหมายเหล่านี้จะพกพาอาวุธปืนได้ก็ต้องอยู่ระหว่างปฎิบัติหน้าที่ทั้งนั้น  ต้องมีคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา  ไม่งั้นถ้ามีเรื่องไปยิงชาวบ้าน ก็งานเข้าตัวใครตัวมัน
ราชการไม่เกี่ยวแก้คดีกันไปเองเหอะ
 
    แล้วท่านอยากจะพกปืนกันไปทำไมกันครับ ?  ถ้าไม่ได้พกปืนจะเสียกำลังใจท้อแท้กันหรือครับ  โดยเฉพาะงานอาสาจราจร
    ผมว่าไม่น่าจะมีความจำเป็นอะไรต้องพกปืน  ท่านจะไปยิงสู้กับใครครับ  เผื่อเจอโจรหรือครับ  โจรส่วนใหญ่มันก็มีอาวุธมีปืน
    เอาละ  ท่านยิงสู้กับโจรมัน โจรตาย ท่านก็ต้องมีเรื่องเดือดร้อนอยู่ดี  ถ้ากระสุนหลงไปถูกชาวบ้านหรือไทยมุง บาดเจ็บล้มตาย ท่านเดือดร้อนอย่างหนักแน่งานนี้   หรือว่าท่านบาดเจ็บ ครอบครัวท่านก็เดือดร้อนวุ่นวายอยู่ดี
   ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าท่านจะทำอะไรไม่ได้เวลาเจอโจรถ้าไม่มีปืน   ท่านช่วยได้เยอะ ท่านมีวิทยุ   วิทยุบอกตำรวจ บอกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  บอกรายละเอียดรูปพรรณสัณฐาณของคนร้าย  ไปเป็นพยานให้ผู้เสียหาย  ท่านช่วยได้มาก โดยไม่จำเป็นต้องใช้ปืนเลย
    การกำราบอาชญากรนั้น วิธีที่ดีคือเจ้าหน้าที่มีหูมีตามาก มีคนคอยช่วยแจ้งข่าวสารแก่เจ้าหน้าที่มาก พวกท่านก็คือหูตาของตำรวจนั่นเอง โดยที่พวกท่านไม่ต้องเข้าต่อสู้ปะทะกับอาชญากรเอง  ขอให้เข้าใจ

[hotel9]

พรบ.จราจรทางบก ลักษณะที่ 18
อำนาจของเจ้าพนักงานจราจร และพนักงานเจ้าหน้าที่

มาตรา 135 เพื่อความปลอดภัยหรือความสะดวกในการจราจรเจ้าพนักงานจราจรมีอำนาจกำหนดให้บริเวณหรือ พื้นที่ใดที่เจ้าของที่ดินได้เปิดให้ประชาชนใช้ในการจราจรเป็นทางตามพระราชบัญญัตินี้

มาตรา 136 ให้อธิบดีมีอำนาจแต่งตั้งผู้ซึ่งมีคุณสมบัติตามที่จะกำหนดและผ่านการอบรมตามหลักสูตรอาสาจราจร เพื่อให้ทำหน้าที่ช่วยเหลือการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่
คุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับการอบรม รายละเอียดเกี่ยวกับการฝึกอบรมหลักสูตรอาสาจราจรและหน้าที่ของอาสา จราจร ตลอดจนเครื่องแบบ เครื่องหมาย ให้เป็นไปตามที่อธิบดีกำหนด

มาตรา 137 ในการปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายของอาสาจราจรตามพระราชบัญญัตินี้ ให้อาสาจราจรเป็นเจ้า พนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา

มาตรา 138 ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุเกิดขึ้น ทำให้ไม่ปลอดภัย หรือไม่สะดวกในการจราจรในอาณา บริเวณใด เจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจดำเนินการได้ตามที่เห็นสมควรและจำเป็นเกี่ยว
กับการจราจร ในอาณาบริเวณนั้นเพื่อให้เกิดความปลอดภัยหรือความสะดวกในการจราจรดังต่อไปนี้
(1) ห้ามรถทุกชนิดหรือบางชนิดหรือคนเดินเท้าเดินในทางสายใดหรือเฉพาะทางตอนใด
(2) ห้ามหยุดหรือจอดรถในทางสายใดหรือเฉพาะทางตอนใด
(3) ห้ามเลี้ยวรถ กลับรถ หรือถอยหลังรถ ในทางสายใดหรือเฉพาะทางตอนใด
(4) กำหนดทางสายใดหรือเฉพาะทางตอนใดให้รถเดินได้ทางเดียว ทั้งนี้ ชั่วระยะเวลาเท่าที่จำเป็น

มาตรา 139 ในทางสายใดหรือเฉพาะทางตอนใดที่เจ้าพนักงานจราจรเห็นว่าถ้าได้ออกประกาศข้อบังคับหรือ ระเบียบเกี่ยวกับการจราจรแล้วจะเป็นการปลอดภัย และสะดวกในการจราจร ให้เจ้าพนักงานจราจรมีอำนาจ
ออกประกาศข้อบังคับ หรือระเบียบดังต่อไปนี้

(1) ห้ามรถทุกชนิดหรือบางชนิดเดิน
(2) ห้ามหยุดหรือจอด
(3) ห้ามเลี้ยวรถ กลับรถ หรือถอยหลังรถ
(4) กำหนดให้รถเดินได้ทางเดียว
(5) กำหนดระยะเวลาจอดรถในทางแคบหรือที่คับขัน
(6) กำหนดอัตราความเร็วของรถในทางภายในอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง
(7) กำหนดช่องหรือแนวทางเดินรถขึ้นและล่อง
(8) กำหนดทางเดินรถทางเอกและทางเดินรถทางโท
(9) กำหนดการจอดรถหรือที่จอดพักรถ
(10) กำหนดระเบียบการใช้ทางหรือช่องเดินรถสำหรับรถบางประเภท
(11) กำหนดระเบียบเกี่ยวกับการใช้รถโรงเรียน
(12) กำหนดระเบียบเกี่ยวกับการบรรทุกคนโดยสารสำหรับรถจักรยาน
(13) ควบคุมขบวนแห่หรือการชุมนุมสาธารณะ
(14) ควบคุมหรือห้ามเลี้ยวรถในทางร่วมทางแยก
(15) ขีดเส้นหรือทำเครื่องหมายจราจรบนผิวทาง หรือติดตั้งสัญญาณจราจร หรือเครื่องหมายจราจร
(16) กำหนดระยะทางตอนใดให้ขับรถล้ำเข้าไปในเส้นกึ่งกลางของทางที่เจ้าพนักงานจราจรกำหนดไว้ได้
(17) กำหนดระเบียบเกี่ยวกับการจอดรถที่ชำรุด หักพัง ตลอดจนรถที่ซ่อมแซมในทาง
(18) กำหนดระเบียบการข้ามทางของคนเดินเท้าบนทางที่ไม่มีทางข้าม
(19) กำหนดการใช้โคมไฟ
(20) กำหนดการใช้เสียงสัญญาณ
(21) กำหนดระเบียบการอนุญาตและการใช้รถที่มีล้อหรือส่วนที่สัมผัสกับผิวทางไม่ใช่ยาง

มาตรา 140(1) เมื่อเจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่พบว่าผู้ขับขี่ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามบทแห่ง พระราชบัญญัตินี้ หรือกฎหมายอันเกี่ยวกับรถนั้น ๆ จะว่ากล่าว ตักเตือนผู้ขับขี่ หรือออกใบสั่งให้ผู้ขับขี่ชำระค่า ปรับตามที่เปรียบเทียบก็ได้ ในกรณีที่ไม่พบตัวผู้ขับขี่ก็ให้ติดหรือผูกใบสั่งไว้ที่รถที่ผู้ขับขี่เห็นได้ง่าย สำหรับความผิดที่กำหนดไว้ในมาตรา 157 ทวิ มาตรา 159 มาตรา 160 และมาตรา 160 ทวิ ห้ามมิให้ว่ากล่าวตัก เตือนหรือทำการเปรียบเทียบ ในการออกใบสั่งให้ผู้ขับขี่ชำระค่าปรับตามที่เปรียบเทียบตามวรรคหนึ่งเจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้า หน้าที่จะเรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่ไว้เป็นการชั่วคราวก็ได้ แต่ต้องออกใบรับแทนใบอนุญาตขับขี่ให้แก่ผู้ขับขี่ไว้ และเจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ต้องรีบนำใบอนุญาตขับขี่ที่เรียกเก็บไว้ไปส่งมอบพนักงานสอบสวน ภายในแปดชั่วโมง นับแต่เวลาที่ออกใบสั่ง
ใบรับแทนใบอนุญาตขับขี่ที่ออกให้ตามวรรคสามให้ใช้แทนใบอนุญาตขับขี่ได้เป็นการชั่วคราวไม่เกินเจ็ดวัน เมื่อ เจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือพนักงานสอบสวนได้ว่ากล่าวตักเตือนหรือทำการเปรียบเทียบปรับ และผู้ขับขี่ได้ชำระค่าปรับตามที่เปรียบเทียบแล้ว ให้คืนใบอนุญาตขับขี่ทันที ในกรณีเจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ออกใบสั่งแต่ไม่พบตัวผู้ขับขี่ ให้สันนิษฐานว่าเจ้าของรถหรือผู้ ครอบครองรถเป็นผู้กระทำผิดดังกล่าวเว้นแต่สามารถพิสูจน์ได้ว่าผู้อื่นเป็นผู้ขับขี่
การกำหนดจำนวนค่าปรับตามที่เปรียบเทียบ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่อธิบดีกำหนด ใบสั่งและใบรับแทนใบอนุญาตขับขี่ ให้ทำตามแบบที่เจ้าพนักงานจราจรกำหนด

[hotel9]

1. เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา คือใคร
คือ เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีกฎหมายกำหนดอำนาจหน้าที่ไว้
2..คำว่า "เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา" หมายความว่าอย่างไร
หมายว่าบุคคลนั้น มีฐานะเป็นเจ้าพนักงาน ตามที่เอ่ยถึงในประมวลกฎหมายอาญา

ผมน่ะไม่ได้เกี่ยวไหรกะ อส.จร แต่เห็นมีแต่คนว่าพันนั้นพันนี้ในฐานะคนอาสาสมัครคนนึงก็ขอแสดงความเห็นมั่ง
แหลงไม่เพราะกะขอโทษกันผมคนบ้านๆ

[แดงเทียม]

 
  เรียน ท่าน hotel9
   ขอให้ท่านไปลองอ่านกฎหมายต่างๆดู ก็จะพบว่ามีการให้เจ้าหน้าที่ตามกฎหมายต่างๆเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
ทั้งนั้น  แต่ทั้งนี้มิได้หมายความว่าจะทำให้ท่านมีภูมิคุ้มกันใดๆที่จะพกพาอาวุธปืน หรือใช้อาวุธปืนได้อย่างเสรี
  เวลามีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล ท่านจะรู้เองว่าอะไรมันเป็นอะไร
  ผมมีความรู้สึกว่าท่านคงต้องการพกปืนอย่างแน่นอน และหลายๆท่านในที่นี้ก็คงรู้สึกเช่นเดียวกับผม เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว
มันก็แล้วแต่ท่าน คนในบอร์ดแห่งนี้ไม่มีอำนาจและหน้าที่อะไรจะไปคัดค้านท่าน อะไรที่ท่าน hotel9 และพรรคพวกของท่าน
ทำ ท่านและกลุ่มท่านก็ต้องรับผิดชอบเอง 
      สวัสดียามดึกครับ   
 

[hotel9]

 ความหมายของคำว่า "เจ้าพนักงาน"
บุคคลที่เป็นเจ้าพนักงาน มีฐานะนอกเหนือจากบุคคลธรรมดาบางประการ เนื่องจากผลของอำนาจหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติมีทั้งผลในทางคุ้มครอง และผลในทางควบคุมบุคคลผู้เป็นเจ้าพนักงานนั้น ผลทั้งปวงที่ว่านี้จะมีก็ต่อเมื่อเป็นกรณีเกี่ยวเนื่องจากหน้าที่การงานของบุคคลนั้นๆ ฉะนั้นในการตีความคำว่า เจ้าพนักงาน จึงต้องระลึกถึงเหตุผลดังกล่าวไว้ด้วยว่าเจ้าพนักงานมีทั้งคุณ และโทษที่ได้รับจากบทบัญญัติของกฎหมายโดยนัยเช่นเดียวกับการที่มีทั้งอำนาจ และหน้าที่ด้วยในเวลาเดียวกัน กฎหมายมิได้มีบทนิยามคำว่า "เจ้าพนักงาน" ไว้ สมัยก่อนกฎหมายเคยถือว่าราษฎรปฏิบัติกิจการอันเป็นของรัฐ เช่น ราษฎรจับผู้ร้ายโดยกำนันผู้ใหญ่บ้านร้องขอ แม้กฎหมายไม่ได้บัญญัติคุ้มครองถึงผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ศาลก็ลงโทษผู้ที่ฆ่าราษฎรที่ช่วยกำนันผู้ใหญ่บ้านจับผู้ร้ายฐานฆ่าเจ้าพนักงาน แต่ต่อมาศาลมิได้ถือเช่นนั้น แสดงว่าศาลตีความคำว่า "เจ้าพนักงาน" เคร่งครัดขึ้น ไม่ตีความอย่างกว้างขวางเหมือนแต่ก่อน เคยมีคำพิพากษาฎีกาที่มีข้อวินิจฉัยพอถือเป็นบทนิยาม คำว่า "เจ้าพนักงาน" เช่น ฎีกา ที่ 700/2490 ว่า "คำว่า เจ้าพนักงาน ตามความหมายของกฎหมาลักษณะอาญานั้น ย่อมมีความหมายถึงผู้ที่ได้รับแต่งตั้ง โดยทางการของรัฐไทย ให้ปฏิบัติราชการของรัฐไทย" ตามคำวินิจฉัยดังกล่าวมีหลักเกณฑ์สำคัญ 2 ประการ คือ
1) จะต้องมีการแต่งตั้งเป็นเจ้าพนักงาน
2) การแต่งตั้ง ต้องแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ราชการ หมายความว่า ถ้าไม่มีการแต่งตั้งแม้จะได้ปฏิบัติราชการ ก็ไม่เป็นเจ้าพนักงาน
นอกจากหลัก 2 ประการนี้แล้ว บุคคลนั้นจะได้ประโยชน์ตอบแทนจากรัฐ หรือแม้จะมีหน้าที่การงานประจำหรือชั่วคราวหรือไม่ก็ตาม ล้วนไม่สำคัญทั้งสิ้น ความสำคัญก็คือ เ้จ้าพนักงาน หมายความถึงปฏิบัติหน้าที่ราชการ โดยได้รับการแต่งตั้งตามกฎหมาย
3. การแต่งตั้งเจ้าพนักงาน
เจ้าพนักงาน ต้องเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งตามกฎหมาย คือ ต้องมีกฎหมายระบุถึงวิธีการแต่งตั้งไว้ และได้มีการแต่งตั้งถูกต้องตามที่กฎหมายระบุไว้ ซึ่งอาจเป็นกฎหมายเฉพาะหรือกฎหมายทั่วไปก็ได้ จึงอาจแบ่งเจ้าพนักงานออกได้เป็น 2 ประเภท คือ
3.1 ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งโดยกฎหมายระบุเฉพาะ
กฎหมายที่ระบุการแต่งตั้งเจ้าพนักงานโดยเฉพาะ อาจระบุถึงตัวผู้ได้รับการแต่งตั้ง หรือระบุองค์การ และให้ผู้ที่สังกัดอยู่เป็นเจ้าพนักงานเช่นพรบ.จราจรทางบก ลักษณะที่ 18
อำนาจของเจ้าพนักงานจราจร และพนักงานเจ้าหน้าที่ มาตรา 137 ในการปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายของอาสาจราจรตามพระราชบัญญัตินี้ ให้อาสาจราจรเป็นเจ้า พนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา  และพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชน และครอบครัว และวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2534 มาตรา 27 บัญญัติให้ "ผู้พิพากษาสมทบเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งตุลาการ"

[hotel9]

  เรียน ท่าน hotel9
   ขอให้ท่านไปลองอ่านกฎหมายต่างๆดู ก็จะพบว่ามีการให้เจ้าหน้าที่ตามกฎหมายต่างๆเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
ทั้งนั้น  แต่ทั้งนี้มิได้หมายความว่าจะทำให้ท่านมีภูมิคุ้มกันใดๆที่จะพกพาอาวุธปืน หรือใช้อาวุธปืนได้อย่างเสรี
  เวลามีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล ท่านจะรู้เองว่าอะไรมันเป็นอะไร
  ผมมีความรู้สึกว่าท่านคงต้องการพกปืนอย่างแน่นอน และหลายๆท่านในที่นี้ก็คงรู้สึกเช่นเดียวกับผม เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว
มันก็แล้วแต่ท่าน คนในบอร์ดแห่งนี้ไม่มีอำนาจและหน้าที่อะไรจะไปคัดค้านท่าน อะไรที่ท่าน hotel9 และพรรคพวกของท่าน
ทำ ท่านและกลุ่มท่านก็ต้องรับผิดชอบเอง 
      สวัสดียามดึกครับ   
 

เฮ่ลูกพี่รู้มากเกินผมนีเออะอยากพกปืนไม่มีในความคิดไม่ชอบด้วยเขาว่าพกได้ซื้อได้กะไม่เอาคร้านทำอาสาไม่เห็นต้องพาปืน
พี่แหลงเปรตพันนี้ผมเสียหาย ผมแค่หาข้อมาแย้งเรื่องที่อส.จร เขาพกปืนในเครื่องแบบระหว่างปฎิบัติหน้าที่แล้วคนที่นี่ว่าไม่ถูกไม่ต้อง คนเขามาเป็นอส.จรเขากะคัดมาแหละมีวิจารณญาณเพียงพอมีการฝึกอบรมผ่านการตรวจสอบแล้วปืนก็ถูกกฎหมายพกก็แค่ตอนปฏิบัติงาน ไม่ใช่ว่าเที่ยวบ้าไปวิ่งยิงเพื่อนทีเล่า ไม่ได้ใช้ปืนอย่างเสรีอย่างลูกพี่แหลง มองโลกด้านบวกมั่งตะ สาว่าเก็บกดม่าย

[hotel9]

  เฮ้อ   คุณ  hotel9 เอ๋ย
   มีใครเขาต่อว่าต่อขาน มีใครเขากล่าวร้ายอาสาสมัครที่เขาทำงานด้วยความเสียสละ ด้วยหัวใจจริงๆหรือเปล่าครับ
    เพียงแต่เขาเห็นกันว่าการอาสาสมัครมาช่วยงานจราจร หรืองานอื่นในตัวเมืองหาดใหญ่ ไม่มีความจำเป็นแต่อย่างไรที่ท่าน
จะต้องพกพาอาวุธปืน   ปืนให้พวกตำรวจ(จริงๆ)ที่มีหน้าที่  ทหารที่มีหน้าที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่อยู่ระหว่างการปฎิบัติหน้าที่ สมาชิกกองอาสาของกรมการปกครองที่อยู่ระหว่างปฎิบัติหน้าที่เขาพกพากันไปเถอะ   ประดาเจ้าพนักงานตามกฎหมายเหล่านี้จะพกพาอาวุธปืนได้ก็ต้องอยู่ระหว่างปฎิบัติหน้าที่ทั้งนั้น  ต้องมีคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา  ไม่งั้นถ้ามีเรื่องไปยิงชาวบ้าน ก็งานเข้าตัวใครตัวมัน
ราชการไม่เกี่ยวแก้คดีกันไปเองเหอะ
 
    แล้วท่านอยากจะพกปืนกันไปทำไมกันครับ ?  ถ้าไม่ได้พกปืนจะเสียกำลังใจท้อแท้กันหรือครับ  โดยเฉพาะงานอาสาจราจร
    ผมว่าไม่น่าจะมีความจำเป็นอะไรต้องพกปืน  ท่านจะไปยิงสู้กับใครครับ  เผื่อเจอโจรหรือครับ  โจรส่วนใหญ่มันก็มีอาวุธมีปืน
    เอาละ  ท่านยิงสู้กับโจรมัน โจรตาย ท่านก็ต้องมีเรื่องเดือดร้อนอยู่ดี  ถ้ากระสุนหลงไปถูกชาวบ้านหรือไทยมุง บาดเจ็บล้มตาย ท่านเดือดร้อนอย่างหนักแน่งานนี้   หรือว่าท่านบาดเจ็บ ครอบครัวท่านก็เดือดร้อนวุ่นวายอยู่ดี
   ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าท่านจะทำอะไรไม่ได้เวลาเจอโจรถ้าไม่มีปืน   ท่านช่วยได้เยอะ ท่านมีวิทยุ   วิทยุบอกตำรวจ บอกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  บอกรายละเอียดรูปพรรณสัณฐาณของคนร้าย  ไปเป็นพยานให้ผู้เสียหาย  ท่านช่วยได้มาก โดยไม่จำเป็นต้องใช้ปืนเลย
    การกำราบอาชญากรนั้น วิธีที่ดีคือเจ้าหน้าที่มีหูมีตามาก มีคนคอยช่วยแจ้งข่าวสารแก่เจ้าหน้าที่มาก พวกท่านก็คือหูตาของตำรวจนั่นเอง โดยที่พวกท่านไม่ต้องเข้าต่อสู้ปะทะกับอาชญากรเอง  ขอให้เข้าใจ

ผมไม่เกี่ยวไม่ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้พี่ไม่เห็นด้วยก็แล้วไปแต่ผมเห็นว่าพวกอส.ตรพกปืนก็ไม่เห็นเป็นไอไหรบางทีเขาพกแค่ป้องปรามคนที่คิดก่อเหตุก็ได้ปืนใส่ลูกม่ายกะไม่รู้แล้วเขาพกอยู่บนถนนนี่ไม่ใช่เรียกในการปฏิบัตรหน้าที่เออะถ้าเจอโจรจริงกะไม่ใช่ว่าเขาอิยิงแลกชีวิตกับโจรทีถึงเขาตายผมว่าเขากะไม่ยิงแล้วถ้าเขาตายพี่ๆที่นี่กะไม่ไปงานเขาทีใช่ม้าย เรื่องบางเรื่องไม่เห็น ไม่แหลง ไม่แล เสียมั่งก็ดี เอาแต่ความคิดตัวเองเป็นหลัก ผมนั้นแหลงไม่เพราะแต่เจตนาดี ผมว่าคนที่เห็นเหมือนผมที่ว่าให้อส.จรพกปืนตอนทำหน้าที่ได้(ไม่ผิดด้วย)กะยังลุยแหละแต่เขาขี้คร้านมาแหลง

[hotel9]

ผมท้อใจไม่ใช่ว่าพกปืนไม่ได้ผมไม่เอาอยู่แล้วปืนนั้นแต่ท้อที่ว่า คนมองพวกอาสาในแง่ลบแต่แรกตั้งธงใว้เลยว่าอาสานิสัยไม่ดีเถื่อนบ้าอยากพกปืนสารพัดว่าชั่วทำไหรไม่ดีเพจริงม้าย ทำดีไปคนเขากะเฉยๆพอพลาดมั่งกะว่าแลตะโบกูภัยโบอาสามันเป็นพันนั้นพันนี้ จริงม้าย คนส่วนใหญ่เขามองอาสาพันนี้จริงม้าย ชอบถามจริงเป็นแล้วได้ไหรได้เบี้ยม่ายไม่ได้แล้วไปทำทำไหรโบ่ อ๋อมันทำเพราะอยากพกปืนมั้ง(ถ้าใครคิดพันนั้นแสดงว่ามันแหละอยากพกปืน) ผมเป็นอาสาตอนช่วงว่างจากงานประจำ งานดีใช้ได้แหละการศึกษากะจบมาพอหมาไม่ขบ(ตรี2ใบ)เป็ฯอาสาด้วยอยากช่วยสังคมช่วยในส่วนที่คนในสังคมไม่อยากทำเจ้าหน้าที่รับผิดชอบกะงานล้นมือกวาดถนนเก็บขยะตามทางกะเคยทำ น้ำท่วมกะลุยน้ำแจกของ ระเบิดห้างกะไปกวาดพื้นรอบๆห้างช่วยไหรได้ทำทั้งเพตามใจสังคมหาดใหญ่ให้ช่วยไหรทำได้เพเบี้ยไม่เคยเอาเสียเองตลอดแค่ได้ช่วยนิเห็นสังคมมีความสุขกะบายใจเรากะมีความสุขด้วย แต่มันท้อตรงนี้แหละพอผมเห็นต่างเรื่อง อส.จร กะหาว่าผมมีผลประโยชน์อยากพกปืนเอง เหนื่อยทำดีก็เท่านั้นแหลงไปกะเท่านั้นคนเรานิสัยพันนี้กระดาษขาวแผ่นใหญ่มีจุดดำอยู่หิดเดียวกะมองแต่จุดดำนั้นแหละวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่สวยไม่ดีควรเอาออก ถอยหลังมาสักหิดแลพื้นสีขาวที่ดีๆมั่งไม่มีไอไหรสมบูรณ์แบบ100เปอร์เซ็น....จริงม้าย

[แดงเทียม]

เรียน ท่าน hotel9
  ในกรณีที่ท่านน้อยใจเสียใจเรื่องที่ท่านคิดว่าผมกล่าวหาว่าท่านอยากพกปืน และท่านบอกว่าจริงๆแล้วท่านมิได้มีความคิดพกพาอาวุธ
ปืนแต่ประการใด  ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ผมคงต้องขอโทษและขออภัยท่านจริงๆ
สำหรับความเห็นต่างๆ สังคมย่อมมองได้หลากหลาย นี่คือข้อดีของสังคมประชาธิปไตยเรา ที่ย่อมจะเห็นต่างกันได้ตามแต่มุมมอง
และภูมิหลังของแต่ละคน ผมก็ไม่ได้เก็บกดอย่างที่ท่านว่านะครับ    ส่วนที่ท่านบอกว่าให้มองในแง่บวก
ก็เห็นด้วยครับ แต่ท่านต้องอย่าลืมว่ากิจการใดที่เป็นเรื่องของส่วนรวม เราจะต้องมองให้ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งด้านดีและด้านร้าย
ครับ
เอาเป็นว่าแล้วแต่มุมมองนะครับ  ในเมื่อสุดท้ายแล้วเราต่างก็หวังดีต่อสังคมเมืองหาดใหญ่ แต่อาจเห็นต่างกันบ้างซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดา และขอย้ำอีกทีว่าถ้าผมทำให้ท่านไม่พอใจ รู้สึกไม่ดี ผมก็ต้องขออภัยอีกครั้ง
อีกทีครับ(จริงๆ)

[hotel9]

ค่อยๆอ่านค่อยๆจับประเด็นดูสิครับ ผมและหลายๆท่านไม่ได้ติติงการทำงานของอาสาจราจรเลยแม้แต่น้อย แถมยังกล่าวชื่นชมในการเสียสละซะด้วยซ้ำไป แต่ในส่วนที่ผิดหรือในส่วนที่ไม่เหมาะสมนั้นก็วิจารณ์แสดงความคิดเห็นกันด้วยข้อเท็จจริง หากข้อเท็จจริงเหล่านี้ถึงขั้นจะต้องให้ท่านถึงกับถอดใจผมเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกันครับ

เรื่องรวมกลุ่มไปคุยกับสารวัตรจราจรนั้น ผมชี้ให้เห็นสาระอีกนิดละกันนะครับ ท่านจะได้ไม่ต้องโยนลูก เรื่องการพกปืนสารวัตรจราจรได้เป็นคนบอกหรือไม่ครับว่า ถ้าวันนี้จะมปฎิบัติหน้าที่าเป็นอาสาจราจรต้องเอาปืนพกออกมาด้วย ถ้าท่านยืนยันว่าสารวัตรเป็นผู้บอกอย่างนั้นเดี๋ยวผมจะไปคุยกับสารวัตรจราจรให้ครับ แต่ถ้าไม่ใช่ก็อย่างที่บอกไปล่ะครับคุยกับท่านสารวัตรไปก็ไม่มีประโยชน์ครับ ท่านหยิบปืนใส่ซองพกติดเอวออกจากบ้านท่านด้วยตัวเอง ไม่ใช่ว่าใครคนใดบังคับว่าท่านต้องพกจริงไหมครับท่่าน แล้วจะให้ไปคุยกับสารวัตรจราจรเพื่ออะไรครับ

"เฮ้อเหม็ดกำลังใจเลิกแล้วงานอาสาสมัคร" ตามข้อความของท่านข้างต้นนั้นสรุปว่าท่านเป็นอาสาจราจรหรือครับ เพราะผมคิดว่าไม่น่าจะใช่นะครับ เนื่องจากในความเห็นที่ 32.ที่ท่านได้ให้ไว้ ท่านแยกเพื่อนท่านไม่ออกซะด้วยซ้ำไปว่าไหนตำรวจจริงไหนอาสาจราจร ที่สำคัญผมว่าอาสาสมัครตัวจริงเค้าไม่ท้อกับข้อเท็จจริงแค่นี้หรอกครับ

สุดท้าย ผมขอชื่นชมเพิ่มเติมหน่อยละกัน ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่เทศกิจ ที่มาทำหน้าที่อาสาจราจร อยู่หน้าโรงเรียนธิดาด้วยนะครับ พอดีเมื่อเช้าได้มีโอกาสไปส่งลูกสาว ได้เห็นการทำหน้าที่ของท่านไม่ว่าเรื่องการแต่งกายที่ใส่เสื้อสะท้อนแสงระบุ"เทศกิจอาสาจราจร" หรือการพกนกหวีดแทนการพกปืน ตลอดจนการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และการอำนวยความสะดวกให้เด็กนักเรียน ขอชื่นชมจากใจครับ

ผมไม่ใช่ อส.จร เพียงเสนอว่าประเด็นหลักที่พี่ว่าจะผิดหรือถูก เหมาะสมหรือไม่เหมาะสมประการใด เราเถียงกันไปก็ได้คำตอบไม่แน่ชัด เลยเสนอให้ไปสอบถามผู้รับผิดชอบ อส.จร โดยตรงคือท่านสารวัตรงานจราจร เราก็จะได้ฟังท่านชี้แจงข้อที่หลายคนเป็นกังวลหลายๆเรื่อง มิใช่เป็นการโยนลูกอย่างที่พี่ว่าพี่คงมองว่าผมคงเป็นอส.จรกร่างเบ่งใครมีปัญหาถามลูกพี่กูเลย ซึ่งไม่ใช่ครับ ลักษณะพี่เป็นผู้ใหญ่มีความรู้คงเข้าใจ สารวัตรผมก็ไม่รู้จัก อส.จร ผมก็ไม่ได้เป็นแต่ผมชอบยุ่งเรื่องเพื่อนถูกก็ว่าถูกผิดก็ว่าผิดมาแย้งกันได้มีประเด็นให้เถียงกันบ้างถือเป็นการพัฒนาสมองพูดรุนแรงไปก็ขอโทษไว้ด้วยครับ

[hotel9]

เรียน ท่าน hotel9
  ในกรณีที่ท่านน้อยใจเสียใจเรื่องที่ท่านคิดว่าผมกล่าวหาว่าท่านอยากพกปืน และท่านบอกว่าจริงๆแล้วท่านมิได้มีความคิดพกพาอาวุธ
ปืนแต่ประการใด  ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ผมคงต้องขอโทษและขออภัยท่านจริงๆ
สำหรับความเห็นต่างๆ สังคมย่อมมองได้หลากหลาย นี่คือข้อดีของสังคมประชาธิปไตยเรา ที่ย่อมจะเห็นต่างกันได้ตามแต่มุมมอง
และภูมิหลังของแต่ละคน ผมก็ไม่ได้เก็บกดอย่างที่ท่านว่านะครับ    ส่วนที่ท่านบอกว่าให้มองในแง่บวก
ก็เห็นด้วยครับ แต่ท่านต้องอย่าลืมว่ากิจการใดที่เป็นเรื่องของส่วนรวม เราจะต้องมองให้ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งด้านดีและด้านร้าย
ครับ
เอาเป็นว่าแล้วแต่มุมมองนะครับ  ในเมื่อสุดท้ายแล้วเราต่างก็หวังดีต่อสังคมเมืองหาดใหญ่ แต่อาจเห็นต่างกันบ้างซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดา และขอย้ำอีกทีว่าถ้าผมทำให้ท่านไม่พอใจ รู้สึกไม่ดี ผมก็ต้องขออภัยอีกครั้ง
อีกทีครับ(จริงๆ)

ท่านแดงเทียมผมก็ขอโทษด้วยครับที่เถียงด้วยท่าทีรุนแรงเราต่างก็หวังดีต่อหาดใหญ่ด้วยกันทั้งนั้นผิดพลาดพลั้งไปให้อภัยกันได้ครับ เถียงกันพอหนุกๆได้(มั้ง)กิมหยงเค้าให้โอกาศต้องขอขอบคุณ(ผมว่าผมคงโดนหลายๆคนคงเพ่งเล็งแล้วล่ะ) สุดท้ายกิจการใดที่เป็นเรื่องของส่วนรวม เราจะต้องมองให้ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งด้านดีและด้านร้าย แต่ถ้ามองด้านดีมากหน่อยโลกนี้จะสวยขึ้นเป็นกองเลยครับราตรีสวัสทุกคน

[ขุนศึก]

ย้ำกันอีกครั้ง หากท่านยังจะหลงประเด็น ในกระทู้นี้ผมไม่ได้ตั้งแง่ว่าเป็นอาสาสมัครเพราะอยากพกปืน

ไม่ได้ว่าท่านอยากพกปืนครับ แต่บอกว่าการพกปืนตามระเบียบของอาสาสมัครบางประเภทนั้นไม่มีระบุเอาไว้ครับ

ไม่ได้ตั้งแง่ว่าอาสาสมัครไม่ดี แต่ชี้แจงว่าการกระทำใดๆที่ขัดต่อกฎหมาย มันก็แปลว่าผิดกฎหมายแค่ในส่วนการกระทำนั้นๆ

ไม่ได้บอกว่าพกปืนไม่ได้ แต่บอกว่ากฎหมายไม่คุ้มครองในกรณีของอาสาสมัครบางประเภท ถ้าถึงคราวเคราะห์นายจะช่วยเราหรือไม่ หรือคนในครอบครัวจะต้องมาลำบากช่วยเรา

เรื่องดีๆน่าชื่นชมที่เหล่าอาสาสมัครได้กระทำให้ส่วนรวมเราก็ต้องชื่นชม แต่ในส่วนที่ยังทำผิดหรือทำไม่ถูกต้องเราก็ต้องบอกต้องกล่าวกันตามความจริง หากเปิดใจมองในแง่ดีก็คือการเตือนด้วยความหวังดี แต่สุดท้ายก็คงสุดแล้วแต่บุคคลจะกระทำ การจะให้คนนอกปิดตาซักข้างมองแต่ข้อดีมันก็ทำได้อยู่ แต่ทำไปแล้วจะได้อะไร มันจะสะท้อนภาพได้กว้างกว่าเปิดตาทั้งสองข้างมองหรือไม่