ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

รถโพธิ์ทอง

เริ่มโดย เณรเทือง, 08:45 น. 18 พ.ค 55

เณรเทือง

รถโพธิืทองสมัยก่อนวิ่งระหว่างหาดใหญ่สะเดา ใครเกิดทันบ้าง
รถสายหาดใหญ่-ปาดัง สมัยก่อนวิ่งแค่หาดใหญ่-สะเดา เดิมเป็นบริษัทที่วิ่งระหว่างหาดใหญ่-สงขลา (จึงใช้ชื่อสงขลาขนส่ง)
และมาแลกเปลี่ยนเส้นทางวิ่งกะรถโพธิ์ทองที่ย้ายไปวิ่งสงขลา
นี่คือเรื่องราวสมัยแต่แรกนะครับ อิอิ

dj cop

          ค่อย ๆ หายไป ทีละสาย  รถเมล์ที่วิ่งออกจากตัวเมือง ไม่ว่าหาดใหญ่ หรือสงขลา   หลังจาก การเข้ามาแทนที่โดยรถตู้ปรับอากาศ  โชคดีเราได้เคยนั่งมาแล้วทุก ๆ สาย   ใครยังไม่เคยนั่งรีบ ๆ  ไปนั่งล่ะกัน ! ส.โบยบิน ส.โบยบิน ส.โบยบิน ส.โบยบิน



puiey

ผมก็เคยนั่งแล้วกัน ไม่เชยแล้วเรา
โกธรกับแฟน ขึ้นสเตตัส "โสด" ถ้าวันนึง แม่มึงโกธร มึงไม่ขึ้นสเตตัส "กำพร้า" เลยเหรอ

ปาดัง

สมัยก่อนจากสะเดาไปปาดังจะมีสองแถวคันใหญ่ ๆ  และสมัยนั้นคนขับสองแถวที่ดัง ๆ แกชื่อ "แป๊ะหว่อง" ใครเกิดทันบ้าง

เณรเทือง

ใช่ครับใช่รถสองแถวคันใหญ่ๆ เป็นตัวถังไม้ทั้งคัน ผนังรถด้านนอกปิดทับด้วยแผ่นโลหะสีเงิน ผมไม่ค่อยได้เดินทางสายนี้เลยไม่รู้จักแปะหว่อง แต่ผมรู้จัก "น้าไล้" ขับรถเมล์สายหาดใหญ-สะเดา เบอร์ 52 (1872-1873) ท่านขับรถช้ามากกกกก
ผมจำได้ว่าผู้โดยสารทุกคนเรียกท่านว่า "น้าไล้"

ปาดัง

อ้างจาก: เณรเทือง เมื่อ 08:46 น.  26 ก.ค 55
ใช่ครับใช่รถสองแถวคันใหญ่ๆ เป็นตัวถังไม้ทั้งคัน ผนังรถด้านนอกปิดทับด้วยแผ่นโลหะสีเงิน ผมไม่ค่อยได้เดินทางสายนี้เลยไม่รู้จักแปะหว่อง แต่ผมรู้จัก "น้าไล้" ขับรถเมล์สายหาดใหญ-สะเดา เบอร์ 52 (1872-1873) ท่านขับรถช้ามากกกกก
ผมจำได้ว่าผู้โดยสารทุกคนเรียกท่านว่า "น้าไล้"

"แป๊ะหว่อง" ก็ขับช้าเหมือนกัน เวลาถึงคิวแกไม่มีใครยอมขึ้นกัน แกก็อารมณ์เสีย (แต่ไม่ได้โมโห มานึกอีกทีพวกเราทำไปได้)
เวลาขึ้นโคก แกเร่งเครื่องเสียงเครื่องยนต์จะดังคล้องกับชื่อคือ หว่อง หว่อง หว่อง คิวรถจะอยู่แถวหัวมุมร้านน้ำชา เลยหอนาฬิกา
ไปหน่อย (หอนาฬิกาน่าจะไม่มีนานแล้ว) ประมาณห้าโมงกว่าหกโมงเย็นคิวรถก็เลิกแล้ว เลิกเรียนหลังจากนันต้องโบกรถเอา หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ พัฒนาเป็นรถสองแถวกะบะดัดแปลง แล้วเป็นรถโพธิ์ทองจากหาดใหญ่ถึงปาดัง (ซึ่งความรู้สึกในตอนนั้นรู้สึกตื่นเต้นที่มีรถโพธิ์ทองวิ่งระหว่างหาดใหญ่ถึงปาดัง) อดีตวันวานที่อยากหวนคืน

sirichot

สมัยก่อนผมพอที่จะจำได้ รถโพธิ์ทองมี 2 แบบ คือ
รถด่วน จะสีเขียวแก่ จอดเฉพาะจุดใหญ่ๆ
รถธรรมดาจะสีเขียวอ่อนแบบที่เห็นในปัจจุบัน จะหวานเย็นจอดเรื่อยเปลื่อย
สมัยนั้นรถไฟยังวิ่งอยู่ แต่เป็นช่วงปลายๆจะเลิกแล้วครับ

สนใจน่ะ

สมัย ปี พ.ศ. ลืมล่ะ  น่าจะ 30 ปีมาเเล้วน่ะ  ตอนนั้น รถโพธิ์ทอง  มีรถปรับอากาศด้วย ตัวรถสีเขียวเข้ม
หรูสุดๆ ในยุคนั้น พศ.นั้น  เเอร์เย็นสบาย รถยาวมาก  พอๆ กับรถทัวร์หรุๆ สมัยนี้เลย

buaart

ตอนนี้รถโพธิ์ทองหาดใหญ่-สงขลา เลิกให้บริการไปแล้วเหรอคะ
พอดีก็ไม่ได้ใช้บริการนานแล้วค่ะ  ส.บ๊ายบาย
http://www.sapesapa.net
ร้านสะเปะสะปะ - จำหน่ายและรับสั่งซื้อสินค้ามิสทิน,ฟรายเดย์จ้า

ฟอ

รถโพธิ์ทองคงต้องเลิกแระครับ สู้รถตู้ หรือสองแถวไม่ได้ เด่วนี้โดยเฉพาะรถตู้เยอะมาก ส่วนรถโพธิ์ทองเพื่อนที่ขับอยู่บอกจะขายก็ยังไม่มีใครซื้อเรยครับ

เด็กป้อมหก(ไม่6)

ผมไม่ได้เกิดหาดใหญ่เลยมาไม่ทันรถโพธิ์ทองวิ่งสายสะเดา-ปาดัง น่าเสียดายครับ แต่ก็มาทันตอนที่คิวรถอยู่ที่ตลาดใหม่(ข้างๆร้านหนานหยวน)และก็ยังทันเห็นเหตุการณ์ต่างๆพอสมควร ผมสอบติดเทคนิคภาคใต้รอบบ่ายตอนนั้นราคารถธรรมดาจากหาดใหญ่ไปสงขลาคนละ 3บาท คิวรถอยู่หน้าหอนาฬิกาจอดฝั่งตรงข้ามประตูทีโอที ข้างๆคิวจะมีร้านเล็กๆขายหนังสือและของกินกระจุกกระจิก เจ้าของร้านปัจจุบันเป็นร้านหนังสือใหญ่โตคือ"มนูสาส์น"หน้าจุตินั่นแหละครับ
ต่อมามีรถโพธิ์ทองแอร์ ใหม่ๆก็เห่อแย่งกันขึ้น ขนาดวันหยุดไม่มีเรียนก็ยังหาเรื่องไปนั่งรถแอร์เล่น ครั้งหนึ่งผมจัดทัศนาจรไปปินัง เช่ารถโพธิ์ทองเลือกคันที่ใหม่ที่สุดพร้อมเลือกคนขับชื่อ"พี่แดง"แกเป็นมือ1ของโพธิ์ทอง และเป็นตัวเลือกอันดับแรกๆที่ถูกจองตัวถ้ามีการเดินทางไกล แต่พอถึงวันจริงรถที่เลือกไว้เอกสารไม่พร้อม ต้องไปเอารถสายสะเดาสีแดงมาใช้แทน ช่วงนั้นมาเลเซียยังไม่ห้ามรถบัสไทยเข้าประเทศ ต่อมารถบัสไทยไปสร้างปัญหาไว้สารพัด เช่นเอารถสภาพไม่เรียบร้อยไปวิ่ง คนขับเกเร และอีกหลายเรื่อง ทางการมาเลเซียเลยห้ามรถใหญ่ๆทั้งหมด ให้เข้าได้เฉพาะรถมอเตอร์ไซค์ รถเก๋ง รถกะบะไม่มีหลังคาและใหญ่สุดไม่เกินรถตู้ จนถึงปัจจุบันนี้(เขาไม่ดี หรือว่าเราแย่เองก็ไม่รู้)
เจ้าของบริษัทโพธิ์ทองคือตระกูล"เลขะกุล"มีกิจการโรงพิมพ์ใหญ่ที่สุดในหาดใหญ่สมัยนั้น ปัจจุบันคือเจ้าของโรงแรมใกล้หัวสะพานลอยนั่นเอง และทุกวันนี้บริษัทโพธิ์ทองได้แตกไลน์ขยายงานขนส่งแบบเหนือชั้น คือขายรถโพธิ์ทองทั้งหมดให้เอกชนทั่วไปซื้อแล้วเอาไปวิ่ง ส่วนรถตู้รถ2แถวใช้วิธีขายสัมปทาน โพธิ์ทองคอยรับเงินค่าหัวคิวอย่างเดียว ไม่ต้องจ้างคนขับ ไม่ต้องเสียค่าซ่อมรถ ไม่ต้องปวดหัวเรื่องรถไปชนไปเฉี่ยว และขจัดปัญหาถูกรถวิ่งทับเส้นทาง
ปิดตำนานรถโพธิ์ทองสีเขียวคันใหญ่ๆที่มีมายาวนานหลายสิบปี

Bush

อ้างจาก: เด็กป้อมหก(ไม่6) เมื่อ 13:10 น.  04 ก.พ 58
ผมไม่ได้เกิดหาดใหญ่เลยมาไม่ทันรถโพธิ์ทองวิ่งสายสะเดา-ปาดัง น่าเสียดายครับ แต่ก็มาทันตอนที่คิวรถอยู่ที่ตลาดใหม่(ข้างๆร้านหนานหยวน)และก็ยังทันเห็นเหตุการณ์ต่างๆพอสมควร ผมสอบติดเทคนิคภาคใต้รอบบ่ายตอนนั้นราคารถธรรมดาจากหาดใหญ่ไปสงขลาคนละ 3บาท คิวรถอยู่หน้าหอนาฬิกาจอดฝั่งตรงข้ามประตูทีโอที ข้างๆคิวจะมีร้านเล็กๆขายหนังสือและของกินกระจุกกระจิก เจ้าของร้านปัจจุบันเป็นร้านหนังสือใหญ่โตคือ"มนูสาส์น"หน้าจุตินั่นแหละครับ
ต่อมามีรถโพธิ์ทองแอร์ ใหม่ๆก็เห่อแย่งกันขึ้น ขนาดวันหยุดไม่มีเรียนก็ยังหาเรื่องไปนั่งรถแอร์เล่น ครั้งหนึ่งผมจัดทัศนาจรไปปินัง เช่ารถโพธิ์ทองเลือกคันที่ใหม่ที่สุดพร้อมเลือกคนขับชื่อ"พี่แดง"แกเป็นมือ1ของโพธิ์ทอง และเป็นตัวเลือกอันดับแรกๆที่ถูกจองตัวถ้ามีการเดินทางไกล แต่พอถึงวันจริงรถที่เลือกไว้เอกสารไม่พร้อม ต้องไปเอารถสายสะเดาสีแดงมาใช้แทน ช่วงนั้นมาเลเซียยังไม่ห้ามรถบัสไทยเข้าประเทศ ต่อมารถบัสไทยไปสร้างปัญหาไว้สารพัด เช่นเอารถสภาพไม่เรียบร้อยไปวิ่ง คนขับเกเร และอีกหลายเรื่อง ทางการมาเลเซียเลยห้ามรถใหญ่ๆทั้งหมด ให้เข้าได้เฉพาะรถมอเตอร์ไซค์ รถเก๋ง รถกะบะไม่มีหลังคาและใหญ่สุดไม่เกินรถตู้ จนถึงปัจจุบันนี้(เขาไม่ดี หรือว่าเราแย่เองก็ไม่รู้)
เจ้าของบริษัทโพธิ์ทองคือตระกูล"เลขะกุล"มีกิจการโรงพิมพ์ใหญ่ที่สุดในหาดใหญ่สมัยนั้น ปัจจุบันคือเจ้าของโรงแรมใกล้หัวสะพานลอยนั่นเอง และทุกวันนี้บริษัทโพธิ์ทองได้แตกไลน์ขยายงานขนส่งแบบเหนือชั้น คือขายรถโพธิ์ทองทั้งหมดให้เอกชนทั่วไปซื้อแล้วเอาไปวิ่ง ส่วนรถตู้รถ2แถวใช้วิธีขายสัมปทาน โพธิ์ทองคอยรับเงินค่าหัวคิวอย่างเดียว ไม่ต้องจ้างคนขับ ไม่ต้องเสียค่าซ่อมรถ ไม่ต้องปวดหัวเรื่องรถไปชนไปเฉี่ยว และขจัดปัญหาถูกรถวิ่งทับเส้นทาง
ปิดตำนานรถโพธิ์ทองสีเขียวคันใหญ่ๆที่มีมายาวนานหลายสิบปี





                               เข้ามาดู  คนแก่ รำพึง  รำพัน    ส.มองลอดแว่น

                                   ถูกของท่านแหละ    ส.ยกน้ิวให้

แค่ผ่านมาทักค่ะ

ปัจจุบันรถเมล์สาย ปาดังฯ - หาดใหญ่ ก็เริ่มเหลือน้อยแล้วค่ะ ทราบมาว่า ตอนนี้ประมาณ 2 ชม./คัน  ส.โขกกำแพง

เด็กวัดดอนแย้

ผมใช้บริการประจำเมื่อ 2535 - 2537 ขึ้นหน้าโรงบาลสงขลาเก่า(ในเมือง) ลงหน้าเทคนิคหาดใหญ่เที่ยวละ 5 บาท ตอนนั้นค่ารถไป-กลับ 10 บาท (แต่งชุดนักศึกษา) เมื่อก่อนเด็กผู้ชายบ้านนอกครอบครัวยากจน ไม่มีญาติอยู่ในเมือง มาเรียนหนังสือในเมือง ก็อยู่วัดอย่างเดียว สมัยก่อน วัดดอนแย้ วัดกลาง วัดเลียบ วัดดอนรัก วัดชัยมงคล แต่ล่ะวัดมีเด็กวัดที่มาจากชนบทเข้ามาพักเพื่อเรียนหนังสือ วัดหนึ่งๆ ไม่ต่ำกว่า 10 คน โดยเฉพาะวัดดอนแย้ที่ผมอยู่ตอนนั้นไม่ต่ำกว่า 20 คน

วัฒน์ come back

อ้างจาก: เด็กวัดดอนแย้ เมื่อ 13:45 น.  06 ก.พ 58
ผมใช้บริการประจำเมื่อ 2535 - 2537 ขึ้นหน้าโรงบาลสงขลาเก่า(ในเมือง) ลงหน้าเทคนิคหาดใหญ่เที่ยวละ 5 บาท ตอนนั้นค่ารถไป-กลับ 10 บาท (แต่งชุดนักศึกษา) เมื่อก่อนเด็กผู้ชายบ้านนอกครอบครัวยากจน ไม่มีญาติอยู่ในเมือง มาเรียนหนังสือในเมือง ก็อยู่วัดอย่างเดียว สมัยก่อน วัดดอนแย้ วัดกลาง วัดเลียบ วัดดอนรัก วัดชัยมงคล แต่ล่ะวัดมีเด็กวัดที่มาจากชนบทเข้ามาพักเพื่อเรียนหนังสือ วัดหนึ่งๆ ไม่ต่ำกว่า 10 คน โดยเฉพาะวัดดอนแย้ที่ผมอยู่ตอนนั้นไม่ต่ำกว่า 20 คน


ถ้าผมจำไม่ผิดหากจะขึ้น-ลงรถตรงนั้นจะมีสองจุด คือ หน้าป่าไม้ หรือ หน้ารพ. ผมก็เด็กเทคนิคเก่า ค่ารถ 4 บาท (นักศึกษา) ผมก็ขึ้นหน้าป่าไม้เป็นประจำ ปี 29-32 (คงเช็คอายุได้) บ้านผมอยู่หนนนครนอก..  ส.ยกน้ิวให้

สนใจน่ะ

อ่านกระทู้คุณวัฒน์แล้วยังนึกขำๆ  ไม่รู้ยังทันจำกันได้รึเปล่าว่า
สมัยนั้นหน้าเทคนิคหาดใหญ่  ยังมีร้านขายของชำเล็กๆ ชื่อร้านลุงนำ  จะว่าไปล่ะ เป้นแหล่งรวมตัวของขาโจ๋
เลยเชียวล่ะยามเลิกเรียน

สมัยนั้นรถเมล์น่าจะหมดราวๆ 2 ทุ่ม  บางวันเลิกเรียนทุ่มกว่าๆ กว่าจะเรียบร้อยออกมาไม่ทันรถล่ะ
โบกกันสนุกสนานในวัยนั้น  คันไหนใจดีจอดรับล่ะ  วิ่งกรูกันออกมาจากสวนยางหน้าเทคนิดจนบางครั้ง
คนขับรถตกใจ  5555....

โบก 2 คน พอจอด มาอีกเป้น 10

กีต้าร์555

นั่งฟรีบ่อยมากๆ  บ้านอยู่ตลาดใหม่ ใกล้คิวโพธิ์ทอง
ตอนไปเรียนเกษตรรัตภูมิ  ต้องมาขึ้นรถหน้าหอ
(รถสายพัทลุง ตรัง หรือ ควนเนียง)
นั่งจากคิวตลาดใหม่ มาลงหน้าหอ กระเป๋าจะยังไม่เก็บตังค์
จะเก็บตังค์จากหน้าหอไปแล้วเท่านั้น  ขากลับจากเรียน
นั่งรถมาลงหน้าหอ   แล้วจากหน้าหอกลับบ้านก็อาศับโพฺธิ์ทองฟรี
กลับคิว   กระเป๋าไม่เก็บตังค์จากหน้าหอกลับคิว

เด็กวัดดอนแย้

ปัจจุบันนี้ผมก็กลับมาทำงานในเมืองสงขลา หลังจากเคยใช้บริการรถโพธิ์ทองช่วงเรียนเทคนิคหาดใหญ่ ช่วงปี 35-37 (อยู่วัดดอนแย้) ไม่เห็นรถโพธิ์ทอง (รถบัส) วิ่งให้บริการ หรือว่าเลิกไปแล้วเห็นยังแต่รถตู้กับสองแถว ตอนสมัยนั้นอิจฉาลูกน้องรถโพธิ์อย่างแรง ได้แฟนเป็นนักศึกษาเพนิ เราแต่งชุดเทคนิคหิ้วชั้นตามพ่อหลวงไปบิณฑบาตตอนหัวเช้าก่อนไปเรียน สาวนักศึกษาไม่แลเลยนิ แต่ทุกวันนี้ได้เป็นคนดีทำมาหากินสุจริตไม่เป็นภาระให้สังคมก็เพราะข้าวก้นบาตรนี้แหละ

ลุงสวัสดี

ลุงจำได้ว่าในราว พ.ศ.2507 ลุงประจำการอยู่ที่สงขลา รถเมล์โพธิ์ทอง ใช้สีเหลือง (แล้วมาเปลี่ยนเป็นสีเขียวในภายหลัง เปลี่ยนเมื่อใดไม่ทราบ) และจำไม่ได้ว่าจะวิ่งไปสะเดาด้วยหรือไม่ แต่จำได้ว่มีวิ่งไปสตูล ตรังด้วย (ใช้รถตู้ขนาดใหญ่หรือ large mini bus) ยี่ห้อเบนซ์ บรรทุกผู้โดยสารได้ประมาณ 30 คน ไม่ติดแอร์ ใช้สีเหลืองเช่นกัน

เท่าที่เห็นในตอนนั้นรถที่วิ่งไปสงขลา มี 2 บริษัท คือ บ.โพธิ์ทอง กับอีกบริษัทหนึ่งคือ บ.สงขลาขนส่ง บ.สงขลาขนส่งนี่ใช้สีส้มหรือสีแดง ประมาณนี้

ก่อนหน้านั้นไม่ทราบว่าค่าโดยสารระหว่างหาดใหญ่กับสงขลาจะเป็นเท่าไหร่ แต่มีผู้รู้เล่าว่า 2 บริษัทนี้เกิดไม่กินเส้นกันขึ้น เลยแข่งลดค่าโดยสารลงมาเหลือ 2 บาทตลาดสาย และ 2 บาททุก ๆ ป้าย และไม่นานคงเหลือแต่ บ.โพธิ์ทองบริษัทเดียว นัยว่าสัมปทานได้ บ.สงขลาจึงต้องหยุดไป
จำได้ว่า บ.โพธิ์ทองนี่ขยายกิจการนำรถไปวิ่งที่เมืองนครและพัทลุงด้วย คือวิ่งประจำเฉพาะแแต่ในเขตเทศบาลเท่านั้นไม่ใช่สายยาว แต่ไม่นานก็เลิกไป (ในขณะนั้นในภาคใต้มีเฉพาะที่ จ.สงขลาเท่านั้นที่มีรถเมล์)

ว่ากันว่าเจ้าของบริษัทโพธิ์ทอง นี่ตอนหลังไปเป็นนักการเมือง เป็นส.ส.ทางภาคอีสาณและเป็นรัฐมนตรีด้วย

เล่าจากความจำและรับฟังมาบ้าง ผิดพลาดอย่างไรอภัยด้วย