ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ทัพเรือภาคที่ 2 จัดพิธีวางพวงมาลาเนื่องในวันอาภากร

เริ่มโดย ฅนสองเล, 11:19 น. 21 พ.ค 55

ฅนสองเล

ทัพเรือภาคที่ 2  จัดพิธีวางพวงมาลาเนื่องในวันอาภากร เพื่อน้อมรำลึกในพระกรุณาธิคุณ องค์บิดาของทหารเรือไทย

[attach=1]

( 19 พ.ค.55) ที่บริเวณพระอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ แหลมสนอ่อน อ.เมือง จ.สงขลา  พล .ร.ท.ทวีป สุขพินิจ  ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 เป็นประธานวางพวงมาลา เนื่องในวันอาภากร เพื่อน้อมรำลึกพระกรุณาธิคุณพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์  โดยมีส่วนราชการในจังหวัดสงขลา ข้าราชการทหาร ตำรวจ เหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา  รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ร่วมวางพวงมาลา ในวันนี้
           
พล.ร.ท.ทวีป สุขพินิจ  ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ได้ประกาศเกียรติคุณ พรเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ "องค์บิดาของทหารเรือไทย" ซึ่งวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2466 เป็นสิ้นพระชนม์ของพรเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 28 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเจ้าจอมมารดาโหมด พระองค์ทรงเป็นที่เคารพสักการะของปวงชนชาวไทย โยเฉพาะทหารเรือ ซึ่งเทิดทูนยกย่อง และขนานพระนามว่า องค์พระบิดาของทหารเรือไทย ทั้งนี้ด้วยกรุณาคุณจากการวางรากฐานการทหารเรือไทยให้มีความก้าวหน้ามั่นคงและแข็งแรง หลังจากที่ทรงสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายเรืออังกฤษ และเดินทางกลับสู่สยาม เมื่อพ.ศ. 2443

ตลอดระยะเวลาที่ทรงรับราชการในกระทรวงทหารเรือ พระองค์ทรงตั้งพระทัยแน่วแน่ที่จะพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ราชนาวีไทยในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะทรงปลูกฝังวิชาทหารเรือ เพื่อให้คนไทยมีความรู้ความสามารถในการทหารเรือ โดยไม่ต้องพึ่งพาชาวต่างชาติเหมือนที่เป็นมาในอดีต พระองค์ทรงนำเรือหลวงมกุฎราชกุมาร เดินทางไปอวดธงสยามในน่านน้ำต่างประเทศ ด้วยกำลังพลที่เป็นคนไทยล้วน ๆ เป็นครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. 2450 อันแสดงให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถในด้านการทหารเรือของพระองค์อย่างแท้จริง

นอกจากนี้ยังทรงมีพระปรีชาสามารถในด้านการแพทย์แผนโบราณ ที่ได้ทรงพระกรุณาช่วยเหลือรักษาผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่เลือกชั้นวรรณะจนเป็นที่เลื่องลือนับถือกันโดยทั่วไปในนามพระนามว่า "หมอพร"  ในระหว่างที่ทรงลาออกจากระทรวงทหารเรือชั่วระยะหนึ่ง พระองค์ทรงกลับมารับราชการอีกครั้งหนึ่งเมื่อ 2460 ในตำแหน่งเสนาเจรทหารเรือ พระองค์ได้ทรงแสดงให้เห็นถึงความเป็นนักยุทธศาสตร์ด้วยทรงขอพระราชทานพื้นที่สัตหีบ ซึ่งมีชัยภูมิเหมาะสมเป็นที่ตั้งฐานทัพเรือและยังคงดำรงอยู่มาถึงปัจจุบัน

ในวาระที่วันอาภาภรได้เวียนมาบรรจบอีกครั้งในวันนี้กองทัพเรือขอน้อมรำลึกถึงกรุณาคุณอันนิ่งใหญ่และขอเทิดทูนพระเกียรติคุณอันเกริกไกรให้แผ่ไพศาล  ขอให้พรองค์ทรงสถิติเป็นมิ่งขวัญแก่กำลังพลของกองทัพเรือ ด้วยการปฏิบัติหน้าที่ทหารเรืออย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ให้ดำรงคงอยู่ตลอดไป