แบงค์ชาติห่วง เงินเฟ้อ ของแพง ปัจจัยฉุดเศรษฐกิจปี 54

[ทีมงานบ้านเรา]

ศูนย์ข่าวบ้านเรา.-แบงค์ชาติ ภาคใต้ แถลงภาวะเศรษฐกิจปี 53 เผยภาพรวมดีขึ้นมาก ปัจจัยเกษตร ท่องเที่ยวหนุน ส่วนปี 54 คาดเติบโตลดลง ห่วงภาวะเงินเฟ้อ สินค้าราคาแพง ค่าแรงสูง กระทบการเติบโตทางเศรษฐกิจ

[attach=1]
วันนี้ (2 ก.พ.54) นายปราณีต โชติกีรติเวช ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักงานภาคใต้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงข่าวภาวะเศรษฐกิจภาคใต้ ปี 2553 และแนวโน้มปี 2554 โดยชี้ภาพรวมเศรษฐกิจปี 53 ขยายตัวตามราคาสินค้าเกษตรที่สำคัญทั้งยาง ปาล์ม ที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งภาคการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมก็ขยายตัวขึ้นด้วย

โดยภาคการเกษตรถือว่าเป็นพระเอกของเศรษฐกิจภาคใต้ รายได้ภาคการเกษตรขยายตัวถึง 59.8% โดยมีปัจจัยสำคัญจาการเพิ่มขึ้นของราคายางพาราและปาล์มน้ำมัน ซึ่งผลผลิตมีไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด โดยราคายางเฉลี่ยอยู่ที่ 106 บาท/กิโลกรัม ส่วนราคาปาล์มน้ำมันอยู่ที่ 4.6 บาท/กิโลกรัม  ส่วนราคาสินค้ากลุ่มสัตว์น้ำก็ราคาสูงขึ้น ทั้งนี้เพราะภาคการประมงประสบปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ จับปลาได้น้อยลง เช่นเดียวกับการผลิตกุ้งขาวที่หลายประเทศเผชิญกับปัญหาโรคระบาดจึงทำให้ราคากุ้งดีขึ้นเฉลี่ยกิโลกรัมละ 112 บาท

[attach=2]
ภาคอุตสาหกรรม มีการขยายตัว 4.5% แตกต่างจากปี 52  ที่ติดลบ 9.9% จากอุตสาหรรมเกี่ยวเนื่องยางพาราและปาล์มน้ำมัน ซึ่งตลาดมีความต้องการสูงจนเกิดการขาดแคลน ส่วนไม้ยางแปรรูป ถุงมือ อาหารทะเลยังขยายตัวในระดับที่ดี ส่วนภาคการท่องเที่ยวก็ขยายตัวดีมาก โดยในปี 53 มีนักท่องเที่ยวต้างชาติเดินทางมาภาคใต้ผ่านด่านต่างๆ กว่า 4.7 ล้านคน ขยายตัวถึง 36.2% โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวเอเชีย ออสเตรเลียเป็นสำคัญซึ่งเข้ามาแทนที่กลุ่มยุโรป อเมริกา ที่ประสบปัญหาเศรษฐกิจในปีที่ผ่านมา

ทางด้านการอุปโภคบริโภคเอกชน ขยายตัวถึง 5.1% โดยเฉพาะการซื้อรถยนต์ จักรยานยนต์ที่มีมากขึ้นจากปัจจัยราคาผลผลิตการเกษตรราคาดี การลงทุนภาคเอกชนขยายตัว 15.1% ภาคการค้าต่างประเทศยังคงขยายตัวต่อเนื่อง โดยการส่งออกมีมูลค่า 14,955 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นถึง 47.7% ภาคการนำเข้า 8,010 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 34.8% การใช้จ่ายเงินส่วนราชการลดลง 10% ส่วนการจัดเก็บรายได้ภาษีเพิ่มขึ้น 15%

[attach=3]
ส่วนภาวะการเงิน จากเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่อเนื่องทำให้เงินฝากและการให้สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ณ สิ้นเดือน ธ.ค.53 เงินฝากเพิ่มขึ้น 9.0 % สินเชื่อเพิ่มขึ้น 10.8% โดยเพิ่มขึ้นทั้งสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อส่วนบุคคล ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไป ดชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเพิ่มขึ้น 3.6% ตามราคาสินค้ากลุ่มพลังงานและอาหารที่เพิ่มสูงขึ้น กลุ่มหาหารเพิ่ม 6% โดยเฉพาะกลุ่มผักและผลไม้ ที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 26% ซึ่งหมายถึงราคาสินค้าเกษตรที่พุ่งสูงขึ้นจากปัจจัยภาคการผลิตที่ลดลงอันเนื่องมาจากฝนแล้งต้นปี และน้ำท่วมช่วงปลายปี ซึ่งจะเป็นผลกระทบต่อเนื่องมาถึงปีนี้

ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจปี 54 คาดว่าจะขยายตัวแต่อยู่ในอัตราชะลอลง โดยมีการลงทุนภาคเอกชนเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ โดยปัจจัยสนับสนุนได้แก่ ราคาสินค้าเกษตรที่ยังสูงอยู่ การท่องเที่ยวยังดี อัตราค่าแรงขั้นต่ำสูงขึ้น การเพิ่มเงินเดือนข้าราชการ รวมทั้งสินเชื่อภาคครัวเรือนที่ขยายตัวต่อเนื่อง  การส่งออกยังอยู่ในระดับดีตามการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า

สำหรับอัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน และพืชผล รวมทั้งต้นทุนค่าจ้างที่สูงขึ้นส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมได้ โดยจากการพูดคุยกับนักธุรกิจ นักลงทุนส่วนใหญ่มีความเป็นห่วงเรื่องค่าแรงขั้นต่ำที่สูงขึ้น อัตราเงินเฟ้อ ค่าเงินบาท รวมทั้งความผันผวนทางการเมืองด้วย 

[attach=4]