ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

จริงหรือไม่จริง!!!นมที่เรากินกันก็มีโทษน่ะ !?.

เริ่มโดย ฟานดี้, 13:18 น. 19 พ.ย 53

ฟานดี้

เพราะ เป็นเครื่องดื่มที่กินง่าย มีคุณค่าทางอาหารสูง
แต่โทษของนมก็มีเหมือนกันน่ะ โดยอธิบายได้ข้อ ๆ ดังต่อไปนี้


1. นมเพิ่มความเสี่ยงต่อภูมิแพ้ - ไซนัสอักเสบ - หอบหืด
นมเพิ่มความเสี่ยงต่อภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ และหอบหืดในคนไทยด้วย เพราะว่าพันธุกรรมของคนไทยนั้นมักจะแพ้ต่อนมวัว เคยมีการวิจัยในอาสาสมัครคนไทยที่ให้ดื่มนมแล้วนำมาส่องดูเยื่อบุโพรงจมูกและเยื่อบุลำไส้ พบว่าคนเหล่านี้มีอาการบวมของเยื่อบุโพรงจมูกและลำไส้ถึง 100%(ย้ำ 100 เปอ)

2. ดื่มนมเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี
เนื่องจากนมเป็นสาเหตุที่สำคัญของไขมันในเลือดสูง ดังนั้นนมจึงมีส่วนเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคนิ่วในถุงน้ำดีได้ด้วย ทั้งนี้นิ่วในถุงน้ำดีบางส่วนเกิดจากการที่มีสมดุลของน้ำดีและไขมันผิดปกติ ทำให้น้ำดีตกตะกอนเป็นนิ่วได้

3. ดื่มนม...มะเร็งอาจถามหา
นับตั้งแต่ปี ค.ศ.1950-1975 หลังญี่ปุ่นแพ้สงคราม นักวิจัยชาวญี่ปุ่นพบว่าคนญี่ปุ่นดื่มนมเพิ่มขึ้น 15 เท่า กินเนื้อสัตว์เพิ่ม 7.5 เท่า ผลก็คือในช่วงเวลาดังกล่าว ผู้หญิงญี่ปุ่นป่วยเป็นโรคมะเร็งปอด มะเร็งเต้านม และมะเร็งลำไส้มากกว่าเดิม 300% ซึ่งตรงกับงานวิจัยของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติอเมริกาที่ว่า อาหารไขมันอิ่มตัวสูงเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งเต้านม

4. เสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน
ยิ่งค้นคว้าวิจัยกันก็พบว่าโรคกระดูกพรุนนั้น กลับเกิดกับคนในกลุ่มที่บริโภคนมและผลิตภัณฑ์จากนมวัวมาก เพราะปัญหาไม่ได้เกิดจากแคลเซียมในนม แต่เกิดจากกการทานโปรตีนมากเกินไปจนล้นต่างหาก ทำให้ร่างกายต้องปรับสภาพให้สมดุลโดยการไปดึงเอาแคลเซียมในกระดูกและฟันครับ


5. กินนมเสี่ยงต่อโรคอ้วน
ทั้งที่ในนม มีไขมัน โปรตีน และแคลเซียม ไขมันในนมเป็นไขมันจากสัตว์ ซึ่งอุดมไปด้วยโคเลสเตอรอล เป็นไขมันอิ่มตัว เราอุตส่าห์หนีน้ำมันหมู แล้วยังมากินนมเอาโคเลสเตอรอลเข้าไปอีกหรือ

6. เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
เพราะนมมันมีไขมันที่ไปอุดตันเส้นเลือดหัวใจ โรคหัวใจเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของคนอเมริกัน การค้นพบความสัมพันธ์ของการดื่มนมที่เกี่ยวเนื่องกับเส้นเลือดหัวใจตีบตันมีมานานกว่าสามสิบปีแล้ว


บุคคลที่ มีอายุตั้งแต่แรกเกิด จน ถึงอายุประมาณ 18 ปี การดื่มนม จะไม่มีผลเสียต่อร่างกายตามข้อมูลที่กล่าวข้างตน

ใครที่อายุชราภาพแล้ว การดื่มนมก็ควรระวัง ผลเสียที่จะตามมาด้วยน่ะครับ

มีข้อมูลเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
ใครที่เร่งรีบที่จะไปทำงาน ไปมหาลัย แหละชอบดื่มนมตอนเช้าขอให้งดการดื่มนมตอนเช้าน่ะครับ เพราะการดื่มนมตอนเช้า ในกระเพาะเราจะมีกรดอยู่ถ้ากรดตัวนั้นไปรวมกับนม นมจะทำปฏิกิริยาจนนมเป็นก้อน ๆ ทำให้ขับถ่ายยาก ท่านอาจจะท้องผูกได้ครับ

บางคน ชอบดื่มนมเพราะอยากตัวสูง แต่ความจริงเชื่อหรือไหมครับในบ้านเราก็ มีกินแล้วตัวสูงเหมือนกันเช่น กุ้งแห้ง กะปิ ปลากรอบ เต้าหู้ งาดำคั่ว เพราะมีนักวิจัยพิสูจน์มาแล้วครับ

ผมไม่ได้ให้พวกท่านเลิกดื่มนมน่ะครับ เพราะนมเป็นเครื่องดื่มอย่างหนึ่งที่มีคุณค่าทางอาหารสูง

สรุปคือ จริงครับ นมก็มีโทษต่อร่างกายเหมือนกัน


กูนิเณร

จขทตกไปข้อนึง ผู้ชายที่ชอบดื่มนมนอกบ้านระวังเป็นโรคหูยานและหัวแตกใด้ง่ายนะครับ  ถ้าเจ้าของนมที่บ้านจับใด้ 55555

Aluglass 2004

ลำบากจริงๆเราหมันคนชอบกินนมเสียด้วย...เฮ้อ
กระจกที่ว่าคม ยังแพ้คารม คนเลีย

Kungd4d

 :D ;D แล้วถ้าเราดื่มนมแบบนี้มีโอกาสจะเกิดอันตรายไหมหน้อ  ;D :D

   


ลุงแกลบ

มาดูคนที่หาข้อมูลมาค้านในพันธ์ทิพย์ สังคมอุดมด้วยดราม่าดีกว่า

======================================================

มาแล้วครับ กลัวที่ไม่พอ เริ่มจับผิดกัน ณ บัดนี้

>>>ปัจจุบันหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ มาเลเซีย สิงคโปร์
>>>รณรงค์ให้คนเลิกดื่มนมอย่างจริงจัง การวิจัยพบว่านมทำให้เกิดโรคภูมิแพ้
>>>โรคเบาหวาน กระดูกผุ สมาธิสั้น เด็กปวดท้อง เด็กหูอักเสบ หอบหืด ฉี่รดที่นอน
>>>เลือดกำเดา ปวดหัว ไซนัสอักเสบ ฯลฯ
เท่าที่ทราบขณะนี้ไม่มีประเทศไหนรณรงค์ให้คนเลิกดื่มนมนะครับ
และการวิจัยที่พบว่านมก่อให้เกิดโรคน่ะ ยังไม่มีข้อสรุปขนาดนั้นนะครับ
ถ้าสองกรณีนี้เป็นจริงต้องเป็นข่าวใหญ่แน่ๆ ขณะนี้ไม่เคยได้ยินข่าวนี้เลยครับ

>>>นม ทำให้ร่างกายสูงใหญ่จริง แต่ไม่ได้เป็นเพราะ แคลเซียม
>>>สิ่งที่ทำให้ร่างกายสูงใหญ่คือ Growth Hormone
>>>ของสัตว์หรือฮอร์โมนที่เกิดจากการกระตุ้นการเจริญเติบโตของวัว
ที่ร่างกายสูงใหญ่เนื่องจากได้รับสารอาหารพอเพียง ตามที่ร่างกายต้องการ
(บวกกับการพักผ่อน และออกกำลังกาย) ก็จะทำให้สูงได้เท่าที่ยีนส์กำหนด
ไม่เกี่ยวกับนมนะครับ ถ้าสารอาหารพอเพียง นมหรือไม่นม ก็สูงใหญ่เหมือนกัน
ไม่เกี่ยวกับโกรทฮอร์โมนจากสัตว์นะ โกรทฮอร์โมนไม่ขับออกทางน้ำนม
และไม่ดูดซึมโดยการรับประทาน เรื่องนี้จึงไม่จริงครับ
ดังนั้นเรื่องของโกรทฮอร์โมนทั้งหมดในเรื่องนี้ ตัดทิ้งไปเลยครับ

>>>ผลคือเด็กมีโครงสร้างที่ผิดปกติไปจากที่เด็กควรจะเป็น
คนไทยนิยมดื่มนมในช่วง 20 ปีหลังมากนะครับ ไม่นับว่าในต่างประเทศหลายประเทศ
ก็ดื่มนมกันเยอะๆ มาเป็นร้อยปีแล้ว ไม่เคยเห็นมีรายงานว่าเด็กคนไหนมีโครงสร้างผิดปกติ
เพราะการดื่มนมเลย

>>>อันตรายจากนมที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ ออทิสติก หรือโรคสมาธิสั้น
ออทิสติก กับสมาธิสั้นนี่คนละเรื่องนะครับ ทั้งสองโรคยังไม่ทราบสาเหตุอย่างชัดเจน
จะไปโทษนมโดยไม่มีหลักฐานก็ออกจะเกินไปหน่อย

>>>เด็กจะไม่อยู่เฉย
>>>เพราะถูกกระตุ้นในตื่นตัวเสมอจากสารกระตุ้นที่มีอยู่ในนมวัว
>>>เพราะลูกวัวนั้นโดยธรรมชาติแล้ว คลอดออกมามันจะต้องวิ่งได้
>>>เพื่อที่จะวิ่งหนีศัตรู เช่น หมาป่า เสือ สิงโต
>>>ฉะนั้นในนมวัวจึงมีสารที่จะทำให้ลูกวัวตื่นตัวตลอดเวลา
>>>เด็กที่ดื่มนมวัวจึงมีอาการตื่นตัว อยู่เฉยไม่ได้ เหมือนอยู่ในป่า
>>>การถูกกระตุ้นเกินกว่าเหตุเป็นอันตรายต่อสมองและพัฒนาการของเด็กและผู้ใหญ่
ดังนั้นประโยคที่ตามมาก็ไม่จริงครับ ในน้ำนมไม่มีสารกระตุ้นใดๆ ทั้งสิ้น
ตรงกันข้ามการดื่มนมจะยิ่งทำให้หลับง่ายขึ้นด้วยจากน้ำตาล และวิตามินในนม
อีกอย่างหนึ่งโรคสมาธิสั้นนี่ไม่ได้เกิดจากสมองถูกกระตุ้นมากเกินไปนะครับ
แต่เกิดจากสมองส่วนควบคุมพฤติกรรมทำงานน้อยเกินไปต่างหาก
เวลารักษาเลยต้องให้ยาเพื่อกระตุ้นสมอง ข้อมูลส่วนนี้ฝากคุณหมอมาตอบนะครับ

>>>ความจริงที่ควรทราบก็คือโปรตีนจากสัตว์เป็นอันตรายต่อร่างกายมาก
อันนี้ไม่จริงครับ ไม่มีข้อพิสูจน์ใดๆ ว่าโปรตีนจากสัตว์เป็นอันตรายมากกว่าโปรตีนจาพืช

>>>ปัจจุบันพบว่าสาเหตุของโรคภูมิแพ้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่คือนมวัว
>>>สาเหตุของโรคกระดูกผุ เวียนศีรษะในผู้สูงอายุ คือนมวัว
กล่าวอ้างโดยไม่มีหลักฐานครับ
(ประสบการณ์ส่วนตัวคือลุงหนอนดื่มนมมากๆ แล้วมักจะมีอาการภูมิแพ้กำเริบในวันรุ่งขึ้น)

>>>แพทย์พบว่าคนไข้ที่มีอาการดังกล่าว ถ้ามีประวัติดื่มนมอย่างต่อเนื่อง
>>>หลังจากให้หยุดดื่มนมแล้ว อาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ต้องถามต่อว่า แล้วคนที่ไม่มีประวัติดื่มนมอย่างต่อเนื่องล่ะ
คุณยายของลุงหนอนก็ไม่ดื่มนม แต่ก็มีอาการเวียนศรีษะเหมือนกันนะ

>>>สำหรับผู้หญิงนั้น นมถั่วเหลือง เหมาะที่สุด
จริงครับ ใช่แล้ว

>>>เพราะในนมถั่วเหลืองนอกจากจะได้โปรตีนจากพืชซึ่งเป็นโปรตีนที่ถูกต้องแล้ว
>>>ในนมถั่วเหลืองก็มีแคลเซียม และที่สำคัญมีฮอร์โมนเอสโตรเจน
>>>ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิง จะทำให้ผู้หญิงมีผิวพรรณดี
>>>โดยเฉพาะผู้หญิงวัยใกล้หมดประจำเดือน
>>>ซึ่งปริมาณเอสโตรเจนในร่างกายจะลดลงนั้น
>>>การดื่มนมถั่วเหลืองจะช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน
>>>ทำให้โอกาสที่จะเกิดอาการผิดปกติต่างๆ ในวัยใกล้หมดประจำเดือนลดน้อยลง
นี่ก็จริงครับ แต่ว่าอะไรคือโปรตีนที่ถูกต้องล่ะครับ

>>>ปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการดื่มนมถั่วเหลืองคือวันละหนึ่งแก้ว
แก้วขนาดไหนครับ? ข้นหรือใสแค่ไหน เอาเป็นว่าตามที่อยากดื่มละกัน

>>>และหากจะให้ได้ประโยชน์สูงสุดควรดื่มในเวลาที่ท้องว่าง คือก่อนหรือหลังอาหาร
>>>2 ชั่วโมง ควรดื่มในเวลาท้องว่าง
>>>เพราะในนมถั่วเหลือจะมีไฟเบอร์ชนิดหนึ่งที่แข็งแรงมากฉะนั้นถ้ากินพร้อมมื้ออาหาร
>>>จะทำให้การย่อยและการดูดซึมสารอาหารในมื้อนั้นๆตกลง
เรื่องไฟเบอร์อะไรนี่ไม่รู้แหละ รู้แต่ว่าอาหารโปรตีนไม่เหมาะกับการรับประทานตอนท้องว่างครับ
โปรตีนกระตุ้นการหลั่งกรด โอกาสเสี่ยงโรคกระเพาะสูงกว่ารับประทานพร้อมมื้ออาหารนะ

>>>อย่างไรก็ตามนมถั่วเหลืองอาจไม่เหมาะที่จะให้ผู้ชายดื่มทุกๆวัน
>>>เนื่องจะการเพิ่มฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิงให้กับผู้ชายในปริมาณมากเกินไป
>>>จะส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนเพศชายทำให้ผลิต สเปิร์มน้อยลงและมีลูกยาก
ไม่เป็นไรครับ ปริมาณเอสโตรเจนในถั่วเหลืองมีไม่มากเมื่อเทียบกับปริมาณในร่างกาย
(ร่างกายผู้ชายผลิตเอสโตรเจนได้เอง มากกว่าที่ได้จากถั่วเหลืองเยอะ)
ชาวจีน และญี่ปุ่นก็ได้รับฮอร์โมนจากถั่วเหลืองมาตั้งเยอะ ลูกหลานก็เต็มบ้านเต็มเมือง
ไม่มีวี่แววว่าจะสูญพันธุ์แต่อย่างใด

>>>ปล.ให้ระวังกันด้วยหล่ะเป็นห่วงทุกคนนะ..ช่วยส่งต่อด้วยละกันนะ
อันนี้แหละครับเด็ดสุด ถ้ามีประโยคนี้เมื่อไหร่ ให้มั่นใจได้เลยว่า ข้อมูลมั่วแน่นอน
----------------------

ฟานดี้

อ้างจาก: Kungd4d เมื่อ 22:14 น.  24 พ.ย 53
:D ;D แล้วถ้าเราดื่มนมแบบนี้มีโอกาสจะเกิดอันตรายไหมหน้อ  ;D :D

   


แหะๆๆ...อันนี้ดื่มมายดายย..ดม+ดัน..อย่างเดียว..ฮ่า.

กิมหยง

สร้าง & ฟื้นฟู