ให้กฏหมายเป็นเรื่องง่ายด้วย ilaw

[bepinfo1]

บทบาทของสำนักงานกฎหมายไทยในการสนับสนุนธุรกิจญี่ปุ่น

การมีสำนักงานกฎหมายที่เชี่ยวชาญในประเทศไทยเป็นกุญแจสำคัญสำหรับความสำเร็จของบริษัทญี่ปุ่น ด้วยสภาพแวดล้อมทางกฎหมายและธุรกิจที่แตกต่างจากญี่ปุ่นอย่างมาก การจ้างสำนักงานกฎหมายที่เหมาะสมจึงไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาเมื่อเกิดคดีความ แต่เป็นการลงทุนในการป้องกันความเสี่ยง (Risk Management) และการสร้างฐานรากที่มั่นคงให้แก่ธุรกิจ

lawfirm japanese speaking

1. ความเข้าใจเชิงลึกในกฎหมายและวัฒนธรรมท้องถิ่น
สำนักงานกฎหมายไทยที่มีประสบการณ์ในการทำงานกับบริษัทญี่ปุ่นจะสามารถให้คำแนะนำที่ถูกต้องตามกฎหมายไทย (เช่น พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว, กฎหมายแรงงาน, กฎหมายภาษีอากร) พร้อมทั้งเชื่อมช่องว่างทางวัฒนธรรมและธรรมเนียมปฏิบัติทางธุรกิจระหว่างสองประเทศ พวกเขามีความสามารถในการอธิบายข้อกฎหมายที่ซับซ้อนให้สำนักงานใหญ่ที่ญี่ปุ่นเข้าใจได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะประเด็นที่ละเอียดอ่อน เช่น การจัดการโครงสร้างการลงทุน (BOI, JV), การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ (Compliance) และข้อจำกัดด้านการถือหุ้นของคนต่างด้าว

2. การสนับสนุนด้านทรัพยากรบุคคลและแรงงาน
ปัญหาด้านแรงงานเป็นความท้าทายที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งสำหรับบริษัทญี่ปุ่นในไทย สำนักงานกฎหมายจะช่วยในการจัดทำสัญญาจ้างงาน, ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน, การจัดการข้อพิพาทแรงงาน, และการดำเนินการทางวินัย ให้เป็นไปตามกฎหมายแรงงานไทยอย่างเคร่งครัด รวมถึงการให้ความช่วยเหลือในการขอและต่ออายุวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ให้กับพนักงานชาวญี่ปุ่น เพื่อให้มั่นใจว่าการบริหารจัดการพนักงานถูกต้องตามกฎหมายและลดความเสี่ยงในการถูกฟ้องร้อง

3. การลดความเสี่ยงและเพิ่มความมั่นใจทางธุรกิจ
ตั้งแต่ขั้นตอนการเข้าสู่ตลาด เช่น การตรวจสอบสถานะกิจการ (Due Diligence) ในการทำ M&A การร่างและตรวจสอบสัญญาทางธุรกิจกับคู่ค้าชาวไทย ไปจนถึงการดำเนินการยุติกิจการ สำนักงานกฎหมายจะทำหน้าที่เสมือนเป็นแผนกกฎหมายประจำบริษัทในไทย (In-house Counsel) ที่สามารถปรึกษาได้ตลอดเวลา ช่วยให้ผู้บริหารชาวญี่ปุ่นสามารถตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและมั่นใจ โดยมีเกราะป้องกันทางกฎหมายที่แข็งแกร่งรองรับ ทำให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและยั่งยืนในระยะยาว