ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ใส่บาตรมั้ยโยม.... Hey c'mon! Welcome to Hatyai...

เริ่มโดย Mr.No, 15:48 น. 04 ก.ค 55

ใครชอบ ใส่บาป

ก็อ่านที่ พี่ปิ่น เขียนทั้งหมดน่ะ เราไม่ถือ พยายามจับใจความ เพราะเข้าใจว่าพี่ปิ่นเขียนมาด้วยความโกรธมาก อาจโดนเข้าตัว เพราะเข้าใจว่าตัวเองทำเพื่อศาสนาทุกเช้า เป็นคนธรรมโม ธรรมมะ  ขอให้เป็นอย่างนั้นก็แล้วกัน.นับถือพุทธคงเรียนรู้มา มาก ว่า พุทธบริสุทธิ์ สายท่านปัญญาเป็นอย่างไรน่ะ  คงไม่เป็นประเภทเห็นผ้าเหลืองแล้วจะขอเกาะขึ้นสรรค์ชาติหน้าเลย โดยไม่ปกป้องและไม่กันพระไม่ดีออกไป. อย่าเพียงแต่คิดว่าพี่ใส่บาตรทุกวันแล้วศาสนาพุทธจะไม่เสื่อมถอยลง แต่พี่อาจจะคิดได้แค่นี้ก็ได้  อันนี้ก็ต้องปล่อยให้พี่เป็นชาวพุทธแบบที่พี่เป็น ทบทวนเพิ่มอีกนิดก็ดีน่ะ ว่า นอกจากพี่ใส่บาตรทุกวัน ไปฟังพระเทศก์บ่อยแล้ว พี่ละเลยยินดีทำไม่รู้ไม่เห็นเรื่องที่พระทำไม่เหมาะสม ไม่ดี อีกกี่เรื่อง. ให้เกียรติเรียกพี่ เพราะเรียกเราว่าน้อง ถ้ามีภูมิพุทธะบ้างเราไม่ต้องบอกก็ได้น่ะ ว่าเรานับถือศาสนาอะไร ใครชอบ ใส่บาป หมายถึงคนที่สนับสนุนให้พระจริงและพระปลอม ทำไม่ดีอยู่ได้ในอาการอย่างนั้น ทำไม่ดีจนเป็นปกติ

Mr.No


เวลาผมเขียนอะไรในกระดานนี้ทีไร...ผมคิดถึง สหธรรมมิก นาม "คุณหลวง" ขึ้นมาทันใด...

ที่เขียนเรื่องนี้... เพราะเคยเขียนไว้ครั้งหนึ่งที่นี่ ซึ่งก็น่าจะนานพอสมควร....

เขียนเพราะมันมีประเด็นที่มองเห็นว่า  เมืองไทย..คนไทย เราเริ่มมีทัศนคติและมุมมองที่ผิดเพี้ยนกันมากขึ้นทุกที ๆ และที่สำคัญ มันยุ่งก็เพราะ "คนมีหน้าที่ต้องทำ...แต่ดันไม่ทำหน้าที่" มากขึ้นแบบนี้ สุดท้ายจะหวังอะไรกับ บ้าน..เมือง..ประเทศ และโลกใบนี้!

....เมื่อครั้งพระพุทธองค์ท่านทรงนำพระสาวกออกบิณฑบาตในกรุงกบิลพัศดุ์หลังตรัสรู้ครั้งแรกนั้น พระเจ้าสุทโธทนะท่านก็ทรงก็ดีใจที่พุทธองค์จะเสด็จมาบิณฑบาตรก็เลยเตรียมข้าวปลาอาหารไว้รองรับพุทธองค์และสาวกนับหมื่นรูป แต่การณ์กลับเป็นว่า เมื่อพุทธองค์ท่านทรงมาถึงเมืองแล้วก็มีคนเห็นว่า พระองค์พร้อมด้วยพระสาวก กลับเสด็จไปบิณฑบาตรขอข้าวตามบ้านเรือนของคนทั่วไป  ซึ่งพระเจ้าสุทโธทนะก็ทรงเห็นว่า พุทธองค์นั้นท่านทรงเป็นถึงพระราชวงศ์ แต่ยังเที่ยวเดินขอข้าวชาวบ้านแบบนั้นก็จะเสียชื่อราชวงศ์ตระกูล จึงคัดคานพุทธองค์เรื่องนี้

พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมแด่พระเจ้าสุทโธทนะว่า
" อุตฺติฏฺเฐ  นปฺปมชฺเชยย ธมฺมํ  สุจริตํ  จเร ธมฺมจารี  สุขํ  เสติ อสฺมึ  โลเก  ปรมฺหิ  จ  ฯ" แปลได้ว่า บรรพชิตไม่พึงประมาทในก้อนข้าวอันตนพึงลุกขึ้นรับ บุคคลพึงประพฤติธรรมให้สุจริต ผู้มีปกติประพฤติธรรม ย่อมอยู่เป็นสุข ในโลกนี้และโลกหน้า

มีครูบาอาจารย์ท่านบันทึกเรื่องนี้ไว้ว่า

"เพราะพุทธองค์ท่านทรงเตือนนักเตือนหนากับบรรดาภิกษุว่า ภิกษุที่ไม่สำรวม  ประพฤติทุศีล  กินข้าวชาวบ้าน    สู้กินก้อนเหล็กที่ร้อนด้วยไฟแดง ๆ  ดีกว่า  เพราะถือว่าเป็นผู้ทุศีล  ไม่สำรวมแล้ว  ไม่ใช่พระ      แล้วยังปฏิญาณตนว่าเป็นพระ  แล้วยังเอาเพศพระไปหากินหลอกลวงชาวบ้าน  ท่านบอกว่า         มันหนัก   เป็นเหมือนกับเจ้าพนักงานที่ทำความผิดในหน้าที่กินก้อนเหล็กที่ร้อนด้วยไฟแดง  ยังตายชาติเดียว  แต่ยังหลอกลวงชาวบ้านอยู่อีก        เป็นเรื่องที่ลำบาก  เพราะจะโดนหลายเท่า  หลายกระทง  เพราะฉะนั้น  อาหารบิณฑบาต ทำให้พระท่านบรรลุอรหันต์กันมาเยอะแล้ว  ด้วยการสอนตนเองว่า  เราฉันข้าวไม่ได้ฉัน   ด้วยความสุข  เราฉันหยาดเหงื่อแรงงานของชาวบ้าน  เราฉันเอาความทุกข์ของชาวบ้าน "


...จริง ๆ ตัวผมก็ไม่ได้ประสีประสาอะไรเกี่ยวกับเรื่องของพระปริยัติธรรมมากมายนัก ไม่ได้เก่งกาจเรื่องธรรมง..ธรรมะอะไรนักหนา เพราะตัวเองก็ยังจมจ่อมอยู่กับกิเลสกองย่อมๆ  อยู่ อย่างน้อยก็ศีลข้อห้าที่ยังหาหนทางเลี่ยงยากเต็มที ..เทศกาลเบียร์ทีไร เป็นต้นทุศีลเสียร่ำไป..

แต่เรื่องที่เล่าให้ฟังเกี่ยวกับแก๊งค์เหลืองแถว ๆ หน้าตลาดกิมหยงและที่ใกล้เคียงนี้ ไม่ใช่เพิ่งเกิด แต่มันเกิดมานับหลายสิบปี...เกิดตั้งแต่สมัยผมยังเป็นเด็กวัดเดินตามหลังหลวงพี่..หลวงน้า แล้วเห็นพระวินยาธิการท่านนำตำรวจมาไล่กวดจับพวกอลัชชีปลอมแถว ๆ ซอยกิ่งเพชร กรุงเทพฯ พระปลอมโดยหลวงพี่ของจริง ไล่กวดจับกันจีวรบาน..สบงปลิว สุดท้ายแก๊งค์เหลือบนั้นถูกจับ เพราะพระท่าน  "ทำหน้าที่เป็นผู้ปกป้องพระศาสนา"

   ที่กรุงเทพฯ แก๊งค์พวกนี้ร่ำรวยกันแยะ  เพราะ คนกรุงนั้นต่างกับคนต่างจังหวัด อาศัยความง่ายเข้าว่า ก็เล่นคว้าแบงค์ยี่สิบ,แบ๊งค์ร้อย ค่อย ๆ ยอง ๆ ชูตังค์ทูนไว้เหนือหัวอฐิษฐานแล้วใส่พรวดลงในบาตร แบบนี้ พระจริง ๆ ยังไม่ปฏิเสธ..มีหรือ ปลอมเป็นพระจะไม่โปรด!
   
   จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ ไวรัสผ้าเหลือง จะกระจายไปที่อื่น ๆ ..สุดท้ายก็จะกลายเป็นหัวเมืองใหญ่  ๆ และที่สำคัญ มีคนจีน..ที่นิยมใส่เงิน อย่างที่ "หาดใหญ่" กันนี่ไง


   อ้อ...มีสมาชิกท่าน "คนค้าแก้ว" ถามผมว่า แล้วจะให้ทำไง.. ผมก็จนใจ เพราะได้ทำหน้าที่ของพุทธชน อย่างเต็มกำลังแล้ว เพราะขนาด พระวินยาธิการท่านเองก็ยังไม่กล้าขยับ..ราวกับธุระไม่ใช่ แล้วคนหัวดำกิเลสเต็มกองอย่างผมมันจะทำอะไรได้แค่ไหน...

   ทีเวลาแถลงข่าวตักบาตรพัก หมื่นรูป แสนรูป ใต้ฐานจานบิน เห็นหลวงพี่พระเดชพระคุณท่านนั่งยิ้มแฉ่งแถลงข่าวกันพรึ่บ!
   
เอ้า... ถ้าไม่เชื่อว่า เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องของ พระ...ก็เชิญญาติโยม ลองโทรหรือติดต่อถามไปได้ที่

สำนักงานพระวินยาธิการคณะสงฆ์ภาค ๑๘

สำนักงานเจ้าคณะภาค ๑๘
วัดโคกสมานคุณ ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110 โทร.074-359-705
พระธรรมวงศาจารย์ เจ้าคณะภาค ๑๘ , พระครูอาทรวรคุณ เลขานุการเจ้าคณะภาค ๑๘

สำนักงานพระวินยาธิการคณะสงฆ์จังหวัดสงขลา
สำนักงานเจ้าคณะจังหวัดสงขลา
พระปริยัติกิตติคุณ เจ้าคณะจังหวัดสงขลา วัดมหัตตมังคลาราม 134 หมู่ 2 ซอย 26 เพชรเกษม ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110
พระปลัดกรวิทย์ กรวิทฺโธ ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดสงขลา

ส่วนคำตอบพระเดชพระคุณท่านพระคูร ฯลฯ จะเป็นอย่างไรนั้น....  ก็อยากไหว้วานฝาก กิมหยงดอทคอม ช่วยหาคำตอบมาเล่าสู่กันฟัง  ก็นับเป็น บุญและเป็นกุศลที่ได้ร่วมกันจรรโลงพระศาสนากัน ..
..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

ว้าว

อ่านรวมๆแล้ว ประมาณได้ว่ามีใครบางคน ร้อนตัวเพราะ อาจร่วมธุรกิจอยู่ในกลุ่มนี้ซะแล้ว ภาษา อาการ สำนวน มันบอกเหมือนเสียผลประโยชน์ แฮะ พัฒนาธุรกิจขึ้นเป็นขบวนการแล้วหรือนี่> ทีมงานครบ  เครื่องแบบพระ + รถรับ-ส่ง + จุกนัดพบ + จุดแลกอาเป็นเงิน + หน่วยดูต้นทาง + หน่วยคอยกันเขตครอบครอง. ว้าว

Mr.No

อ้างจาก: ว้าว เมื่อ 16:44 น.  09 ก.ค 55
อ่านรวมๆแล้ว ประมาณได้ว่ามีใครบางคน ร้อนตัวเพราะ อาจร่วมธุรกิจอยู่ในกลุ่มนี้ซะแล้ว ภาษา อาการ สำนวน มันบอกเหมือนเสียผลประโยชน์ แฮะ พัฒนาธุรกิจขึ้นเป็นขบวนการแล้วหรือนี่> ทีมงานครบ  เครื่องแบบพระ + รถรับ-ส่ง + จุกนัดพบ + จุดแลกอาเป็นเงิน + หน่วยดูต้นทาง + หน่วยคอยกันเขตครอบครอง. ว้าว

1. ไม่เข้าใจ..ช่วยอธิบายหน่อยว่า ภาษา อาการ สำนวนของใครที่ดูร้อนตัว
2. เครื่องแบบพระ + รถรับ-ส่ง + จุกนัดพบ + จุดแลกอาเป็นเงิน + หน่วยดูต้นทาง + หน่วยคอยกันเขตครอบครอง
    ทำไมถึงรู้ละเอียดจัง หรือคุณเป็นหนึ่งในทีมงานเหล่านั้น ถึงได้แยกหน้าที่+อธิบายเสียคล่องจัง

อาการหรือสำนวนตรงไหนครับที่อ่านแล้วหยั่งกะเสียผลประโยชน์?

ผมว่า...มนุษย์คนไหนที่เกิดเป็นคนไทย กล้าบอกคนอื่นว่าตนนับถือพุทธ ขืนกล้าเข้าร่วมก๊วน ร่วมทำลายศาสนาที่ บรรพบุรุษ พ่อแม่ปู่ย่าตัวเองเคารพมาแต่อ้อนแต่ออด อย่าว่าแต่ชาตินี้จะหาความสุขใส่ตัวและครอบครัวไม่ได้เลย... ถ้าถือเอาตามวิบากกรรม ก็ประมาณว่าชาติหน้าถ้าได้เกิดมาเป็นคนก็คง พิกลพิการอย่างน่าสังเวชละมัง!

ไม่น่าเชื่อนะว่า...คนที่เข้าไปร่วม..ไปทำกะเค้า หรือแม้แต่ พวกที่ร่วมมือกับแก๊งค์นี้ทำมาหากิน ทั้งหัวดำ หัวหงอก ไม่กลัวบาปกลัวกรรม หรือกลัวนรกกินจนเป็นมะเร็งกันบ้างเลยนะ...คุณว้าว ว่าเหมือนผมมั้ย?

..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

wareerant

          แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์    มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด            ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน

ว้าว.ๆๆ

" ไม่น่าเชื่อนะว่า...คนที่เข้าไปร่วม..ไปทำกะเค้า หรือแม้แต่ พวกที่ร่วมมือกับแก๊งค์นี้ทำมาหากิน ทั้งหัวดำ หัวหงอก ไม่กลัวบาปกลัวกรรม หรือกลัวนรกกินจนเป็นมะเร็งกันบ้างเลยนะ...คุณว้าว ว่าเหมือนผมมั้ย?"
คุณเป็น จขก. เอาเรื่อง และรูป มาลง เจตนาคุณไม่สนับสุนนให้มีเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นต่อชาวพุธ.ที่เราเขียนนั้นมันมีใจความถึงใครบางคนสนับสนุน อย่าให้ไปคัดค้าน ชัดเจนอยู่แล้ว   ต้องมั่นใจเรื่องที่เราทำคนที่เขาสนับสนุน ทำกินกับเรื่องแบบนี้ในวงจรอุบาทนั้นอยู่ไม่ไกลจากสถานที่นั้น แหละ  ไปแอบยืนดูซิ ถ่ายรูปมาลงเพิ่มจะเจ๋งมาก หรือว่าเราจะช่วยเป็น หน่วยใต้ดินให้พระตร. แต่ทั้งจนท.กรมศาสนา พระตร.ออ่นแอมากไม่เหมือนในศาสนาอื่นนักบวช ออกทะเลเมื่อไหร่ โทษรุนแรง
จะไม่มีเรี่ยราดในที่สาธารณะอย่างนี้.

ร่วมด้วยคน

ผมคนหนึ่งที่ไม่เคยใส่บาตรแบบที่ยืนรอกันอยู่ จะใส่เฉพาะพระที่เดินบินทบาตร ถ้าเราทุกคนทำแบบนี้และช่วยกันต่อต้านไม่นานก็ศูนย์พันธ์ ผมว่าถ้าศาสนาพุทธมีการออกมาชักชวนให้คนเข้าวัดศึกษาธรรมะแบบศาสนาคริตหรือพวกพระญีปุ่นนัมเมียว ผู้คนจะได้เข้าใจในพระพุทธศาสนาที่แท้ จะได้ทำในสิ่งที่ถูกที่ควร ไม่ไช่บอกว่าทำบุญ100ชาติหน้าจะได้คืนเป็น100000แบบวัดจานบิน ผมไม่ได้กล่าวหานะครับผมเจอกับตัวเองเลย หลานผมไปบวชสามเณรภาคฤดูร้อนแล้วพระพี่เลี้ยงโทรฯมาชวนผมเป็นประธานผ้าป่าแล้วพูดแบบข้างต้น

Mr.No

อ้างจาก: ว้าว.ๆๆ เมื่อ 20:36 น.  10 ก.ค 55
" ไม่น่าเชื่อนะว่า...คนที่เข้าไปร่วม..ไปทำกะเค้า หรือแม้แต่ พวกที่ร่วมมือกับแก๊งค์นี้ทำมาหากิน ทั้งหัวดำ หัวหงอก ไม่กลัวบาปกลัวกรรม หรือกลัวนรกกินจนเป็นมะเร็งกันบ้างเลยนะ...คุณว้าว ว่าเหมือนผมมั้ย?"
คุณเป็น จขก. เอาเรื่อง และรูป มาลง เจตนาคุณไม่สนับสุนนให้มีเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นต่อชาวพุธ.ที่เราเขียนนั้นมันมีใจความถึงใครบางคนสนับสนุน อย่าให้ไปคัดค้าน ชัดเจนอยู่แล้ว   ต้องมั่นใจเรื่องที่เราทำคนที่เขาสนับสนุน ทำกินกับเรื่องแบบนี้ในวงจรอุบาทนั้นอยู่ไม่ไกลจากสถานที่นั้น แหละ  ไปแอบยืนดูซิ ถ่ายรูปมาลงเพิ่มจะเจ๋งมาก หรือว่าเราจะช่วยเป็น หน่วยใต้ดินให้พระตร. แต่ทั้งจนท.กรมศาสนา พระตร.ออ่นแอมากไม่เหมือนในศาสนาอื่นนักบวช ออกทะเลเมื่อไหร่ โทษรุนแรง
จะไม่มีเรี่ยราดในที่สาธารณะอย่างนี้.

ด้วยความเคารพคณว้าว.... ผมอ่านการตอบกระทู้คุณแล้วยังไม่ค่อยเข้าใจนัก ..

อ่านการตอบกระทู้ของคุณในครั้งแรก ดูราวกับว่า ผมตั้งกระทู้นี้เพราะ "ภาษา,สำนวน" ดูหยั่งกะพวกเสียผลประโยชน์!  นั่นทำเอาผมต๊กกะใจว่า จู่ ๆ วันนี้ Mr.No.ไหง๋ต้องกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้เสียประโยชน์ไปซะงั้น!

พอเจอคำตอบนี้ ผมก็ยังคงงง..ว่า หรือหลายคนคงยังไม่เข้าใจว่า การตั้งกระทู้ของผมนั้น...ผมสื่ออะไร?



ประการแรก
  ที่ผมเลือกนำเสนอในกระดานลานบุญ เพื่อเจตนาให้ทุกคนที่เป็นพุทธศาสนิก จะได้แยกแยะความหมายที่ชัดเจนของ การทำบุญ โดยเฉพาะประเพณีของการใส่บาตรที่ถูกต้อง และไม่ผิดเพี๊ยน

โดยการนำเสนอรูปแบบของการบิณฑบาตรที่ สมณะไม่พึงกระทำ รวมทั้งพฤติกรรมของกล่มคนเหล่านี้ที่มีบางคน อาจเป็นเพียงผู้ปลอมตัวเข้ามาบวช และแสวงหาประโยชน์ที่นอกจากจะเป็นบ่อนทำลาย ศรัทธา และแนวทางพุทธอันงดงามแล้ว ยังเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอาญาอีกด้วย


ประการที่สอง
  ผมนำเสนอในรูปแบบของบทความเชิงเล่าสู่ ไม่ใช่มาร้องทุกข์ และผมคงไม่มีหน้าที่ในการต้องไปไล่จับหรือติดตามพฤติกรรมอันใดอีก เพียงแต่เมื่อนำบางส่วนซึ่งเป็นข้อเท็จจริงมาเสนอแล้วก็คิดว่า ถ้ามันจะไม่เกิดอะไรขึ้นกับคนกลุ่มนี้ หรือไม่มีหน่วยงานใดที่กล้าหาญเข้าไปดำเนินการอะไร..... มันก็ถือเป็นบทสะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอของสังคมไทย และการขาดสำนึกที่จะเป็นพุทธศาสนิกชนที่พึงต้องรักษาพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ไว้ แบบที่เราเคยได้ยินพุทธภาษิตเปรียบเปรยถึงขนาดว่า " บุคคลพึงสละทรัพย์เพื่อจะรักษาอวัยวะ พึงยอมสละอวัยวะเพื่อจะรักษาชีวิต และยอมสละทุกอย่างทั้งอวัยวะ ทรัพย์ และแม้ชีวิต เพื่อรักษาธรรม "

อยากให้อ่านเป็นข้อคิด... เวลาขับรถผ่านไป...เห็นก็บอกลูกบอกหลาน อธิบายให้ลูกฟังว่า ที่เห็นกันที่ตลาดนั่นน่ะ..มัน  "พุทธเพี๊ยน"  เลิกจีวรจนขนจั๊กแร้โผล่...มือหนึ่งคีบบุหรี่..อีกมือยก ขวดลิโพฯ กระดกอึกๆ  (หยั่งกะไปอดหลับอดนอนมาจากไหน)

เสียดายที่ไม่แน่ใจว่า  กิมหยงดอทคอม มีพระสงฆ์องคเจ้ารูปใด แวะมาอ่านพบบ้าง.... ถ้าเมตตา ก็โปรดช่วยอรรรถาเรื่องนี้ให้ญาติโยมตาสว่างกันหน่อยก็จะเป็นการดีไม่น้อย....

..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

wareerant

อ้างถึงอ่านรวมๆแล้ว ประมาณได้ว่ามีใครบางคน ร้อนตัวเพราะ อาจร่วมธุรกิจอยู่ในกลุ่มนี้ซะแล้ว ภาษา อาการ สำนวน มันบอกเหมือนเสียผลประโยชน์ แฮะ พัฒนาธุรกิจขึ้นเป็นขบวนการแล้วหรือนี่> ทีมงานครบ  เครื่องแบบพระ + รถรับ-ส่ง + จุกนัดพบ + จุดแลกอาเป็นเงิน + หน่วยดูต้นทาง + หน่วยคอยกันเขตครอบครอง. ว้าว

ทำไมต้องงง ประโยคนี้คุณ ว้าว เขาบอกว่า เท่าที่เขาอ่านมา มีบาง reply ออกมากระโดดโลดเต้นเพราะร้อนตัว สงสัยคนที่ออกอาการอยู่ไม่ติดนี้ คงเป็นผู้ร่วมกระบวนการด้วยกระมัง

ง่าย ๆ แค่นี้เอง

ผีดำ1

คนที่รู้เรื่องนี้แล้วทนไม่ได้รับไม่ได้ก็ร่วมกันอย่าไปซื้ออย่าไปใส่บาตรตรงนั้นน  และถ้าจะให้ดีอีกขั้นหนึ่งคือช่วยอธิบายและบอกต่อว่าควรไปใส่ที่ไหนเวลาไหน (ผมไปใส่หน้าวัดเกาะเสือซื้อกับข้าวสดใหม่แถวนั้นราคาถูกพระเดินมาแล้วเดินกลับรอบเดียวต่อองค์แต่มีหลายรูปค่อยทยอยออกมาจากวัดเวลาตั้งแต่05.45-06.30ที่เคยไปนะครับ)

ธรรมในใจ

คสามเห็นต่างแต่อย่าเผลอสติ  ต้องตั้งมั่นใคร่ครวญให้ถูกต้อง  เรามีทางเลือกในการที่จะทำบุญ  หากเราไม่ชอบใจในสิ่งนี้ก็ไม่ต้องทำ  ไปทำในที่ๆ เราสบายใจ  แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องก็ต้องแสดงบทบาท  ว่าพบเจอสิ่งที่ผิดก็ต้องดำเนินการไม่ให้มี  พอไม่เกิดเรื่องผู้เกี่ยวข้องก็เอาหูไปนา เอาตาไปไร่กันหมด  แทนที่จะป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำซาก  เฮ้อๆๆๆๆ  ประเทศไทย

Mr.No

อ้างจาก: wareerant เมื่อ 17:06 น.  11 ก.ค 55
ทำไมต้องงง ประโยคนี้คุณ ว้าว เขาบอกว่า เท่าที่เขาอ่านมา มีบาง reply ออกมากระโดดโลดเต้นเพราะร้อนตัว สงสัยคนที่ออกอาการอยู่ไม่ติดนี้ คงเป็นผู้ร่วมกระบวนการด้วยกระมัง

ง่าย ๆ แค่นี้เอง

reply ไหน?
..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

Mr.No



อ่านข่าวเกี่ยวกับ ศาสนา แล้วพาเศร้านะ....

หาดใหญ่ วัดควนลัง เจ้าอาวาสมีข่าวมั่วสีกา... ส.แย่จัง


หาดใหญ่... อลัชชีเต็มเมือง ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนา ระดับจังหวัด ไม่รู้ท่านเป็นเต่าในกระดอง จนลืมหน้าที่กันหมดแล้วหรือไร งั้นฝากนี่มาให้ เผื่อช่วยกระตุ้นต่อมหน้าที่

[attach=1]

[attach=2]
อันนีแถม.. ส.หยิบตาข้างเดียว
..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

เด็กใหญ่


เมื่อหลายสิบปีก่อนช่วงสมัยสงครามเวียตนาม หลวงพ่อชา สอนอะไรระหว่างเป็นภิกษุ ชาวต่างชาติจึงขอบวชเป็นศิษย์ และออกไปตั้งวัดในต่างประเทศมากมาย    http://youtu.be/F0FDcGn3gZc

แป็ป ๆ

ทำบุญต้องรู้จักเลือกเนื้อนาบุญ

--------------------------------------------------------------------------------

ถาม : ทำทานการศึกษากับมูลนิธิคนตาบอดอานิสงส์ต่างกันอย่างไร ?

ตอบ: ต่างกันจ้ะ อานิสงส์คือผลได้ ถ้าหากว่าเจตนาของเราบริสุทธิ์ วัตถุทานบริสุทธิ์ ผู้ให้คือตัวเรามีศีลบริสุทธิ์ ผู้รับมีศีลบริสุทธิ์ อันนั้นผลจะเต็ม ๑๐๐ ส่วน ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์เต็ม ถ้าส่วนไหนส่วนหนึ่งบกพร่องผลนั้นก็จะขาดไป

อังกุระเทพบุตรตั้งโรงทาน ๘๐ โรง ให้ทานคนทั้งกลางวันกลางคืน ๒๐,๐๐๐ ปี แต่ปรากฏว่าเป็นที่เทวดาที่ศักดานุภาพน้อยที่สุดของดาวดึงส์ เพราะว่าในชาตินั้นเป็นระยะที่โลกว่างจากพระศาสนา คนไม่มีศีลมีธรรม กลายเป็นว่าผู้รับไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์ เพราะฉะนั้นก็ดู ทำไปเถอะ อะไรก็ได้ถ้ามันเป็นความดี เราทำเพราะเราต้องการจะตัดความโลภในใจของเรา ให้เรารู้จักสละออก รู้จักเสียสละให้ปันช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น เพราะฉะนั้น ทำไปเถอะ ทำมันให้รอบตัวไปเลย อะไรจะเล็กน้อยขนาดไหน เห็นมีโอกาสทำได้ทำไป เพราะว่าอานิสงส์คือผลได้ จะเล็กน้อยขนาดไหนก็ตาม ถึงวาระถึงเวลามันส่งผล คนอื่นเกิดมาอาจจะรวยมากๆ แต่อย่างโบราณเขาบอกว่า เศรษฐียังขาดไฟได้ ของเขาเองอาจจะไม่ได้ทำในจุดเล็กจุดน้อยอย่างเรา ถึงเวลาอาจจะมีที่บกพร่องอยู่ แต่ของเรามีโอกาสทำนิดๆ หน่อยๆ เราก็ทำ ถึงเวลาก็เก็บมันให้หมดไปเลย ถ้าได้อะไรมันก็ได้ครบถ้วนสมบูรณ์กว่าเขา

ถาม : ไม่สามารถอธิบายเหตุผล

ตอบ: บอกเขาว่ามันต้องรู้จักเลือกเนื้อนา คำว่าเนื้อนา คือว่า ผู้ที่เราจะให้ ถ้าหากว่านาดี ผลตอบแทนก็สูง ต้องใช้คำว่าดี ทุกอย่างน่ะดี แต่มันยังมีดีกว่า ดีที่สุด (Good, Better, Best)



สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เดือนธันวาคม ๒๕๔๕(ต่อ)
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ

ลองนำมาให้เพื่อพิจารณาครับ

เบลอมัวเลือน

อ่าน มาถึงตรงนี้ ก็พอจะเข้าใจ

อยากให้ผู้มีความเห็น ในกระทู้นี้แนะนำ หรือ ชี้แนะ การทำบุญตักบาตร ที่เห็นควรได้ว่า ถูกต้อง ในหาดใหญ่ของเรานี้ สามารถกระทำ ที่ใดเวลาใด

ที่ถาม เพราะ ผมก็อาจเป็น หนึ่งในผู้ถือความสะดวกในสังคมเมือง ที่มีจิตใจบริสุทธิ์ ในการทำทาน เจตนา เพราะอยาก สืบสานพุทธศาสนา และคงปฏิเสธไม่ได้ว่า มีความปราถนา จะได้บุญ ในการกระทำดังกล่าวด้วย

ด้วยเจตนา และวัตถุทานที่บริสุทธิ์ บุคคล สถานที่ และเวลาใดเล่า ที่ควรแก่การให้ได้มาซึ่งผลของกิจ ที่สมควรจะเกืด ในเมืองหาดใหญ่ ของเรา

โปรดช่วยชี้แนะ เพราะผมก็เพิ่งจะอยู่ในเมืองแห่งนี้มาไม่นาน ยังเห็นอะไรไม่ครบถ้วน รอบด้าน ยังคงต้องมีผู้รู้ควรแก่การชี้แนะ ครับ

gklg;gb

อ้างจาก: เบลอมัวเลือน เมื่อ 01:05 น.  01 ส.ค 55
อ่าน มาถึงตรงนี้ ก็พอจะเข้าใจ

อยากให้ผู้มีความเห็น ในกระทู้นี้แนะนำ หรือ ชี้แนะ การทำบุญตักบาตร ที่เห็นควรได้ว่า ถูกต้อง ในหาดใหญ่ของเรานี้ สามารถกระทำ ที่ใดเวลาใด

ที่ถาม เพราะ ผมก็อาจเป็น หนึ่งในผู้ถือความสะดวกในสังคมเมือง ที่มีจิตใจบริสุทธิ์ ในการทำทาน เจตนา เพราะอยาก สืบสานพุทธศาสนา และคงปฏิเสธไม่ได้ว่า มีความปราถนา จะได้บุญ ในการกระทำดังกล่าวด้วย

ด้วยเจตนา และวัตถุทานที่บริสุทธิ์ บุคคล สถานที่ และเวลาใดเล่า ที่ควรแก่การให้ได้มาซึ่งผลของกิจ ที่สมควรจะเกืด ในเมืองหาดใหญ่ ของเรา

โปรดช่วยชี้แนะ เพราะผมก็เพิ่งจะอยู่ในเมืองแห่งนี้มาไม่นาน ยังเห็นอะไรไม่ครบถ้วน รอบด้าน ยังคงต้องมีผู้รู้ควรแก่การชี้แนะ ครับ
ถ้ามีเจตนาให้โดยไม่คิดอะไร วัตถุทานบริสุทธิยังไงก็ได้บุญอยู่แล้ว ถ้าจะให้บุญมากกว่าเดิมต้องทำกับเนื้อนาบุญแท้จริง ก็คัดกรองดูหน่อย พระชนบทที่ลำบาก พระนักปฏิบัติจะอยู่ป่าที่สงบยากเข้าถึง ไม่วุ่นวาย แต่อย่าถวายเงินและทองกับพระหรือตัวแทนพระ เพราะผิดธรรมวินัย ที่ง่ายที่สุดได้บุญเยอะคือ ถือศีลสวดมนต์ระลึกดีแผ่เมตตาบ่อยๆตามโอกาศแผ่เมตตาเสริมบารมีให้ตัวเองเจ้ากรรมนายเวรญาติพี่น้องที่ล่วงลับ นั่งสมาธิ ภาวนาทำสติปัตฐาน4ยืนเดินนั่งนอน ศึกษาอ่านพระไตรปิฎกเป็นกิจวัตร ฟังธรรมตามโอกาส ถ้าถวายเงินทอง ก็ถวายเข้าสินทรัพย์ส่วนพระองค์ บริจาคเงินกับมูลนิธิต่าง ทำบุญกับเงินทองได้ทุกที่ยกเว้นกับพระ ให้เงินสนับสนุนการศึกษาแก่เด็กขาดโอกาศยากไร้ ก็ไม่รู้อะไรมากนัก ก็แนะนำไปตามความเข้าใจตัวเองที่ศึกษามานิดหน่อย จะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่ 

เณรเทือง

  กำจัดอลัชชี           เป็นหน้าทีพุทธศา-
สนิกประชา             ช่วยรักษาพระวินัย
อย่าได้เอาหูตา         ไปไร่นาดั่งว่าไว้
สอดส่องร่วมกันให้     วัดหลักชัยชื่นชุมชน
มิให้มีกาฝาก           อันมักมากในลาภผล
แอบแฝงฝากปะปน     เปื้อนศรัทธามีราคี
ช่วยกันวันละนิด        ช่วยกันคิดถูกถิ่นที่
เถียงกันนั้นไม่ดี        โต้แย้งมีตำราแจง
หากยึดตำราหลััก       ก็มิพักจะเสแสร้ง
อวดปัญญ์อันแสดง     เหมือนกับแกล้งปิดหูตา
เมื่อผิดก็ว่าผิด          อย่าได้คิดเฉไฉนา
ช่วยกันหมั่นคอยว่า     ประจานมาประจานไป
เพื่อพวกอลัชชี         ได้หลบหนีไปไกลๆ
เหลือเมืองหาดใหญ่ไว้  ไม่อายใครในสากล
   
                              เณรเทือง