คณะแพทย์ศาสตร์ มอ. กรุณาเข้ามาชี้แจงด้วยคะ

[หาดใหญ่ชุมทาง]

ความคิดส่วนตัวนะครับ ทุกๆที่มีกฏระเบียบของที่นั้นๆ เราควรเคารพกฏของเขาครับ ไม่ใช่ว่าไม่พอใจกฏของเขาก็ไปโวยวาย ไม่ใช่ประเด็นแบ่งชนชั้น หรือคณะไหนเป็นเทวดาหรืออย่างไร กฏเขาตั้งเราก็ต้องทำตามยิ่งเป็นคนของที่อื่น จะไปใช้ที่ของเขา ไม่ทำตามกฏเขาแล้วสังคมจะเป็นอย่างไรละครับ

ถ้าคณะที่ลูกคุณเรียน มีเด็กคณะอื่นไปแย่งที่นั่งอ่านหนังสือ คุณก็คงจะออกมาโวยวายใช่ไหมครับ ขนาดตอนนี้ลูกคุณไปอื่นหนังสือในคณะอื่นแล้วโดนเขาไล่คุณก็โวยวายเหมือนกันนี่ มองกลับมาที่ตัวเองดีกว่าไหมครับว่า เคารพกฏ หรือเปล่า ไม่ใช่ไม่พอใจอะไรก็ออกมาร้องเรียนโวยวายไม่สนกฏที่เขาตั้ง คุณก็ทราบชัดเจนแล้วนี่ว่าคณะแพทย์เขามีกฏที่ตั้งไว้

คณะไหนๆก็มีสิทธิที่จะตั้งกฏเพื่อสงวนไว้แก่บุคลากร นักศึกษา ของเขาทั้งสิ้นนะครับ คุณไปโวยกับคณะที่ลูกคุณเรียนดีกว่าไหม ว่าทำไม ไม่จัดที่ให้นักศึกษาของคณะได้อ่านหนังสือเหมือนคณะอื่นเขา จะได้ไม่ต้องไปพึ่งที่ของที่อื่น ผมว่างร้องเรียนแบบนี้ยังดูดีกว่าเยอะ เพราะเป็นสิทธิของคุณและลูกโดยตรงที่จะโวยต่อคณะที่ตนเรียน ไม่ใช่ออกมาโวยคณะอื่นที่เขาตั้งกฏและสงวนสิทธิ์ไว้ให้คนของเขานะครับ

[แดงเทียม]

ตอนตีหนึ่งตีสองมานั่งอ่านหนังสือที่ห้องผมก็ได้คับ   

[►ELITE◄]

ผมขอทำความเข้าใจกับประเด็นหลักที่คุณแม่ต้องการก่อน
ประเด็นหลักที่ผมพอจับใจความได้จากข้อความที่คุณแม่เขียนคือ ทำไมตึกของคณะแพทย์ ถึงต้องมีการห้ามมิให้ให้บุคคลภายนอกคณะแพทย์เข้ามายุ่งเกี่ยว ทั้งที่เป็นนิสิตสถาบันเดียวกันใช่หรือไม่ครับ?
สำหรับผม ถ้าใช่ ก็น่าคิดตามที่คุณแม่ว่าจริงๆครับ ถามว่าแปลกไหมสำหรับนักศึกษา ในการอ่านหนังสือ ถึงตี 2- ตี3 สำหรับผมนั้นไม่ถือว่าแปลกครับ เพราะในรั้วมหาลัย เขาเป็นแบบนั้นจริงๆ ถ้าคิดในแง่ดีและให้กว้างกว่านั้น เป็นไปได้ไหมที่น้องเขาอาจจะคิดว่า ใต้ตึกคณะแพทย์นั้น เป็นพื้นที่สว่างและบริเวณตึกแพทย์ เป็นตึกที่มี รปภ.ดูแลจำนวนมาก ซึ้งมองแล้วปลอดภัยกว่า หากไปนั่งอ่านใต้ตึกอื่น ที่แทบจะไม่มี รปภ.เลย ถ้าเป็นผม ผมก็คงเลือกสถานที่ ที่น่าจะปลอดภัยและไว้วางใจมากที่สุด ไปทำกิจกรรม หรืออ่านหนังสือครับ
แต่การไล่ออกมานั้น ไม่ใช่จะใช้เหตุผลที่ว่า นี่คณะแพทย์ คณะอื่นออกไป!!!!!
ถ้าเป็นเหตุผลนี้บอกตรงๆครับ...รับไม่ได้
แต่ถ้าน้องคนนั้นส่งเสียงดังในยามวิกาล หรือกระทำตัวในสิ่งที่ไม่เหมาะสม ด้วยเหตุผลนี้ ก็สมควรแล้วครับ
...................................................................................
เท็จจริงเราไม่ทราบได้ครับว่าคืออะไร เพราะเราฟังแต่ทางคุณแม่แค่คนเดียว
แน่นอนว่า ถ้าน้องเขาอ่านหนังสือเงียบๆ แล้วโดนไล่ออกมา...คณะแพทย์ต้องพิจารณา ในเรื่องนี้ใหม่ เพราะชื่อเสียงเสียหายแน่นอน
แต่ถ้าเพราะ น้องเขาทำเสียงดัง หรือก่อกวนผู้อื่น จนถูกไล่ออกมา แล้วไปบอกคุณแม่แต่เล่าความจริงไม่หมด อันนี้คุณแม่ต้องพิจารณาบุตรของท่านหละครับ

[wareerant]

แก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แก้ยังงัยก็แก้ไม่ได้ คนเราจะไปเปลี่ยนคนอื่นนั้นยาก เปลี่ยนตัวเราเองง่ายกว่า

คนที่ผ่านโลกมาสามสิบสี่สิบปีแล้ว น่าจะคิดได้มากกว่าเด็ก ๆ

อ่านหนังสือสอบโต้รุ่ง ควรเลิกได้แล้วการอ่านแบบนี้ ให้คนสมัยก่อนดีกว่า อ่านสม่ำเสมอทั้งเทอมดีกว่า ไม่หักโหม ทำลายสุขภาพ

[บอลล์]

ผมขอทำความเข้าใจกับประเด็นหลักที่คุณแม่ต้องการก่อน
ประเด็นหลักที่ผมพอจับใจความได้จากข้อความที่คุณแม่เขียนคือ ทำไมตึกของคณะแพทย์ ถึงต้องมีการห้ามมิให้ให้บุคคลภายนอกคณะแพทย์เข้ามายุ่งเกี่ยว ทั้งที่เป็นนิสิตสถาบันเดียวกันใช่หรือไม่ครับ?
สำหรับผม ถ้าใช่ ก็น่าคิดตามที่คุณแม่ว่าจริงๆครับ ถามว่าแปลกไหมสำหรับนักศึกษา ในการอ่านหนังสือ ถึงตี 2- ตี3 สำหรับผมนั้นไม่ถือว่าแปลกครับ เพราะในรั้วมหาลัย เขาเป็นแบบนั้นจริงๆ ถ้าคิดในแง่ดีและให้กว้างกว่านั้น เป็นไปได้ไหมที่น้องเขาอาจจะคิดว่า ใต้ตึกคณะแพทย์นั้น เป็นพื้นที่สว่างและบริเวณตึกแพทย์ เป็นตึกที่มี รปภ.ดูแลจำนวนมาก ซึ้งมองแล้วปลอดภัยกว่า หากไปนั่งอ่านใต้ตึกอื่น ที่แทบจะไม่มี รปภ.เลย ถ้าเป็นผม ผมก็คงเลือกสถานที่ ที่น่าจะปลอดภัยและไว้วางใจมากที่สุด ไปทำกิจกรรม หรืออ่านหนังสือครับ
แต่การไล่ออกมานั้น ไม่ใช่จะใช้เหตุผลที่ว่า นี่คณะแพทย์ คณะอื่นออกไป!!!!!
ถ้าเป็นเหตุผลนี้บอกตรงๆครับ...รับไม่ได้
แต่ถ้าน้องคนนั้นส่งเสียงดังในยามวิกาล หรือกระทำตัวในสิ่งที่ไม่เหมาะสม ด้วยเหตุผลนี้ ก็สมควรแล้วครับ
...................................................................................
เท็จจริงเราไม่ทราบได้ครับว่าคืออะไร เพราะเราฟังแต่ทางคุณแม่แค่คนเดียว
แน่นอนว่า ถ้าน้องเขาอ่านหนังสือเงียบๆ แล้วโดนไล่ออกมา...คณะแพทย์ต้องพิจารณา ในเรื่องนี้ใหม่ เพราะชื่อเสียงเสียหายแน่นอน
แต่ถ้าเพราะ น้องเขาทำเสียงดัง หรือก่อกวนผู้อื่น จนถูกไล่ออกมา แล้วไปบอกคุณแม่แต่เล่าความจริงไม่หมด อันนี้คุณแม่ต้องพิจารณาบุตรของท่านหละครับ

เห็นด้วยครับทุกอย่างมีเหตุผลครับ

[นายไข่นุ้ย]

แก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แก้ยังงัยก็แก้ไม่ได้ คนเราจะไปเปลี่ยคนอื่นนั้นยาก เปลี่ยนตัวเราเองง่ายกว่า

คนที่ผ่านโลกมาสามสิบสี่สิบปีแล้ว น่าจะคิดได้มากกว่าเด็ก ๆ

อ่านหนังสือสอบโต้รุ่ง ควรเลิกได้แล้วการอ่านแบบนี้ ให้คนสมัยก่อนดีกว่า อ่านสม่ำเสมอทั้งเทอมดีกว่า ไม่หักโหม ทำลายสุขภาพ

[นักศึกษาจนๆไม่มีรถยนต์ขับ]

ปกติ รปภ.เค้าจะไม่มาถามจุกจิกนี่คะ  และไม่ได้สนใจด้วยว่าเป็นเด็กของคณะอะไร
เมื่อก่อนช่วงที่สอบก็อ่านโต้รุ่งอยู่แถวๆนั้นเหมือนกัน ไม่เห็นจะมีใครมาถามอะไรหรือไล่เลยค่ะ(ช่วงปีที่แล้ว)
หรือว่าเกิดความเข้าใจผิดอะไรกันขึ้นหรือเปล่าคะ

ตอบความเห็นอื่นๆนิดนึงนะคะ...เท่าที่เคยมานั่งโต้รุ่งอยู่พักนึง เด็กๆเค้าอ่านหนังสือกันเกือบสว่างค่ะ เป็นปกติที่เห็นได้ทั่วไปในม.อ.

[นายไข่นุ้ย]

ผมขอทำความเข้าใจกับประเด็นหลักที่คุณแม่ต้องการก่อน
ประเด็นหลักที่ผมพอจับใจความได้จากข้อความที่คุณแม่เขียนคือ ทำไมตึกของคณะแพทย์ ถึงต้องมีการห้ามมิให้ให้บุคคลภายนอกคณะแพทย์เข้ามายุ่งเกี่ยว ทั้งที่เป็นนิสิตสถาบันเดียวกันใช่หรือไม่ครับ?
สำหรับผม ถ้าใช่ ก็น่าคิดตามที่คุณแม่ว่าจริงๆครับ ถามว่าแปลกไหมสำหรับนักศึกษา ในการอ่านหนังสือ ถึงตี 2- ตี3 สำหรับผมนั้นไม่ถือว่าแปลกครับ เพราะในรั้วมหาลัย เขาเป็นแบบนั้นจริงๆ ถ้าคิดในแง่ดีและให้กว้างกว่านั้น เป็นไปได้ไหมที่น้องเขาอาจจะคิดว่า ใต้ตึกคณะแพทย์นั้น เป็นพื้นที่สว่างและบริเวณตึกแพทย์ เป็นตึกที่มี รปภ.ดูแลจำนวนมาก ซึ้งมองแล้วปลอดภัยกว่า หากไปนั่งอ่านใต้ตึกอื่น ที่แทบจะไม่มี รปภ.เลย ถ้าเป็นผม ผมก็คงเลือกสถานที่ ที่น่าจะปลอดภัยและไว้วางใจมากที่สุด ไปทำกิจกรรม หรืออ่านหนังสือครับ
แต่การไล่ออกมานั้น ไม่ใช่จะใช้เหตุผลที่ว่า นี่คณะแพทย์ คณะอื่นออกไป!!!!!
ถ้าเป็นเหตุผลนี้บอกตรงๆครับ...รับไม่ได้
แต่ถ้าน้องคนนั้นส่งเสียงดังในยามวิกาล หรือกระทำตัวในสิ่งที่ไม่เหมาะสม ด้วยเหตุผลนี้ ก็สมควรแล้วครับ
...................................................................................
เท็จจริงเราไม่ทราบได้ครับว่าคืออะไร เพราะเราฟังแต่ทางคุณแม่แค่คนเดียว
แน่นอนว่า ถ้าน้องเขาอ่านหนังสือเงียบๆ แล้วโดนไล่ออกมา...คณะแพทย์ต้องพิจารณา ในเรื่องนี้ใหม่ เพราะชื่อเสียงเสียหายแน่นอน
แต่ถ้าเพราะ น้องเขาทำเสียงดัง หรือก่อกวนผู้อื่น จนถูกไล่ออกมา แล้วไปบอกคุณแม่แต่เล่าความจริงไม่หมด อันนี้คุณแม่ต้องพิจารณาบุตรของท่านหละครับ

[เจอเหมือนกัน]

ผมขอทำความเข้าใจกับประเด็นหลักที่คุณแม่ต้องการก่อน
ประเด็นหลักที่ผมพอจับใจความได้จากข้อความที่คุณแม่เขียนคือ ทำไมตึกของคณะแพทย์ ถึงต้องมีการห้ามมิให้ให้บุคคลภายนอกคณะแพทย์เข้ามายุ่งเกี่ยว ทั้งที่เป็นนิสิตสถาบันเดียวกันใช่หรือไม่ครับ?
สำหรับผม ถ้าใช่ ก็น่าคิดตามที่คุณแม่ว่าจริงๆครับ ถามว่าแปลกไหมสำหรับนักศึกษา ในการอ่านหนังสือ ถึงตี 2- ตี3 สำหรับผมนั้นไม่ถือว่าแปลกครับ เพราะในรั้วมหาลัย เขาเป็นแบบนั้นจริงๆ ถ้าคิดในแง่ดีและให้กว้างกว่านั้น เป็นไปได้ไหมที่น้องเขาอาจจะคิดว่า ใต้ตึกคณะแพทย์นั้น เป็นพื้นที่สว่างและบริเวณตึกแพทย์ เป็นตึกที่มี รปภ.ดูแลจำนวนมาก ซึ้งมองแล้วปลอดภัยกว่า หากไปนั่งอ่านใต้ตึกอื่น ที่แทบจะไม่มี รปภ.เลย ถ้าเป็นผม ผมก็คงเลือกสถานที่ ที่น่าจะปลอดภัยและไว้วางใจมากที่สุด ไปทำกิจกรรม หรืออ่านหนังสือครับ
แต่การไล่ออกมานั้น ไม่ใช่จะใช้เหตุผลที่ว่า นี่คณะแพทย์ คณะอื่นออกไป!!!!!
ถ้าเป็นเหตุผลนี้บอกตรงๆครับ...รับไม่ได้
แต่ถ้าน้องคนนั้นส่งเสียงดังในยามวิกาล หรือกระทำตัวในสิ่งที่ไม่เหมาะสม ด้วยเหตุผลนี้ ก็สมควรแล้วครับ
...................................................................................
เท็จจริงเราไม่ทราบได้ครับว่าคืออะไร เพราะเราฟังแต่ทางคุณแม่แค่คนเดียว
แน่นอนว่า ถ้าน้องเขาอ่านหนังสือเงียบๆ แล้วโดนไล่ออกมา...คณะแพทย์ต้องพิจารณา ในเรื่องนี้ใหม่ เพราะชื่อเสียงเสียหายแน่นอน
แต่ถ้าเพราะ น้องเขาทำเสียงดัง หรือก่อกวนผู้อื่น จนถูกไล่ออกมา แล้วไปบอกคุณแม่แต่เล่าความจริงไม่หมด อันนี้คุณแม่ต้องพิจารณาบุตรของท่านหละครับ

อันนี้เห็นด้วยครับ แต่ผมเคยโดนในกรณีของผมตอนเป็นนักศึกษา นั่งอ่านอยู่ดีดีเงียบๆ แล้วยามก็มาขอดูบัตรนักศึกษาว่าเป็นคณะแพทย์ไหม ถ้าไม่ก็เชิญมูฟออกไปเลยครับ

[มหาลัย]

ยุ่งตาย ห. . .



http://www.facebook.com/photo.php?fbid=306253692804230&set=a.153641194732148.32632.153636644732603&type=1&theater

[freeman]

จากลองถามคนอื่นๆดูแล้ว เท่าที่ทราบมา

หากไม่ใช่นักศึกษาแพทย์ จะไม่มีสิทธิ์อ่านใต้ตึกแพทย์จริงค่ะ

[นักศึกษาจนๆไม่มีรถยนต์ขับ]

เมื่อกี้เดินไปดูสถานที่จริงให้แล้วค่ะ เสาทุกต้นบริเวณนั้นไม่มีการติดป้ายห้ามนักศึกษาคณะอื่นมานั่งอ่านหนังสือนะคะ

และยืนยันด้วยตัวเองอีกครั้งว่าเมื่อปีสองปีที่แล้วไม่มีใครมาห้ามนั่งตรงสถานที่ดังกล่าวค่ะ  เรายังเคยมานั่งอ่านอยู่หลายครั้ง(เราเป็นนักศึกษาคณะแพทย์คนนึงแต่ไม่เคยมีใครมาไต่ถามว่าเรียนอยู่คณะไหน)...หลานเราที่เพิ่งเรียนจบไปหมาดๆ(เรียนคณะทรัพยากรธรรมชาติ)ก็มานั่งอ่านใต้ตึกแดงอยู่บ่อยๆไปค่ะ

และได้สอบถามกับ รปภ.แล้ว รปภ.ท่านนั้นก็บอกว่าไม่ได้มีกฎระเบียบใดๆเกี่ยวกับการห้ามนักศึกษามานั่งอ่านหนังสือที่นี่ค่ะแต่รปภ.คนดังกล่าวบอกว่าท่านเข้าแต่เวรกลางวันไม่เคยเข้าเวรกลางคืนค่ะ  และคุยกันไปคุยกันมา เห็นว่าเรื่องที่กำลังเป็นประเด็นกันอยู่นี้าวทางผู้บริหารของคณะแพทย์รับทราบแล้ว

เท่าที่เห็นมีประกาศห้ามนักศึกษาคณะอื่นมาอ่านหนังสือก็มีที่เดียวคือใต้ตึกหอพักนักศึกษาแพทย์นะคะ(ตึกที่มีตู้ ATM) อยู่ที่ชั้นหนึ่งน่ะค่ะ  ส่วนพื้นที่อื่นๆไม่เห็นประกาศห้ามนะคะ

[Joke_EJ7]

เสริมนิดนึง อาจนอกประเด็น แต่เพื่อสนับสนุนความจริงว่า นศ.คณะนี้ เป็นอภิสิทธิ์ชน

1.นศ.คณะแพทย์ พักรวมกันทั้งชายและหญิง แค่แบ่งสลับชั้นกัน

2.นศ.คณะแพทย์ สามารถนำยานพาหนะส่วนตัวไปจอดได้ถึงใต้หอพัก ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ ซึ่ง นศ.คณะอื่นห้ามทำ

[petdanai nine]

ผมขอทำความเข้าใจกับประเด็นหลักที่คุณแม่ต้องการก่อน
ประเด็นหลักที่ผมพอจับใจความได้จากข้อความที่คุณแม่เขียนคือ ทำไมตึกของคณะแพทย์ ถึงต้องมีการห้ามมิให้ให้บุคคลภายนอกคณะแพทย์เข้ามายุ่งเกี่ยว ทั้งที่เป็นนิสิตสถาบันเดียวกันใช่หรือไม่ครับ?
สำหรับผม ถ้าใช่ ก็น่าคิดตามที่คุณแม่ว่าจริงๆครับ ถามว่าแปลกไหมสำหรับนักศึกษา ในการอ่านหนังสือ ถึงตี 2- ตี3 สำหรับผมนั้นไม่ถือว่าแปลกครับ เพราะในรั้วมหาลัย เขาเป็นแบบนั้นจริงๆ ถ้าคิดในแง่ดีและให้กว้างกว่านั้น เป็นไปได้ไหมที่น้องเขาอาจจะคิดว่า ใต้ตึกคณะแพทย์นั้น เป็นพื้นที่สว่างและบริเวณตึกแพทย์ เป็นตึกที่มี รปภ.ดูแลจำนวนมาก ซึ้งมองแล้วปลอดภัยกว่า หากไปนั่งอ่านใต้ตึกอื่น ที่แทบจะไม่มี รปภ.เลย ถ้าเป็นผม ผมก็คงเลือกสถานที่ ที่น่าจะปลอดภัยและไว้วางใจมากที่สุด ไปทำกิจกรรม หรืออ่านหนังสือครับ
แต่การไล่ออกมานั้น ไม่ใช่จะใช้เหตุผลที่ว่า นี่คณะแพทย์ คณะอื่นออกไป!!!!!
ถ้าเป็นเหตุผลนี้บอกตรงๆครับ...รับไม่ได้
แต่ถ้าน้องคนนั้นส่งเสียงดังในยามวิกาล หรือกระทำตัวในสิ่งที่ไม่เหมาะสม ด้วยเหตุผลนี้ ก็สมควรแล้วครับ
...................................................................................
เท็จจริงเราไม่ทราบได้ครับว่าคืออะไร เพราะเราฟังแต่ทางคุณแม่แค่คนเดียว
แน่นอนว่า ถ้าน้องเขาอ่านหนังสือเงียบๆ แล้วโดนไล่ออกมา...คณะแพทย์ต้องพิจารณา ในเรื่องนี้ใหม่ เพราะชื่อเสียงเสียหายแน่นอน
แต่ถ้าเพราะ น้องเขาทำเสียงดัง หรือก่อกวนผู้อื่น จนถูกไล่ออกมา แล้วไปบอกคุณแม่แต่เล่าความจริงไม่หมด อันนี้คุณแม่ต้องพิจารณาบุตรของท่านหละครับ

อ่านตั้งแต่ต้น ว่าจะเขียนให้ความเห็นเพื่อกระชับความเข้าใจ ก็มาเจอความเห็นนี้ ตรงกันพอดี  เพราะฉะนั้น ท่านอื่นๆ อย่าหลงประเด็นนะครับ
และที่หลายคนบอกให้ไปอ่านที่อื่นแทน มันคนละประเด็นครับ จริงๆแล้วไปอ่านที่อื่นก็ได้ที่ปลอดภัยและมีสมาธิ  แต่ จขกท ต้องการความกระจ่างนะครับ

[edward]

อ่านตั้งแต่ต้น ว่าจะเขียนให้ความเห็นเพื่อกระชับความเข้าใจ ก็มาเจอความเห็นนี้ ตรงกันพอดี  เพราะฉะนั้น ท่านอื่นๆ อย่าหลงประเด็นนะครับ
และที่หลายคนบอกให้ไปอ่านที่อื่นแทน มันคนละประเด็นครับ จริงๆแล้วไปอ่านที่อื่นก็ได้ที่ปลอดภัยและมีสมาธิ  แต่ จขกท ต้องการความกระจ่างนะครับ

ใครๆ ก็อยากได้ความกระจ่าง แต่ว่ามีปัญหากับคณะแพทย์แล้วมาตั้งกระทู้ในกิมหยงมันไม่ได้อะไรนอกจากความมันปากครับ

[dekmoror]

อ้างจาก: ►ELITE◄ ที่ วันนี้ เวลา 14:00
ผมขอทำความเข้าใจกับประเด็นหลักที่คุณแม่ต้องการก่อน
ประเด็นหลักที่ผมพอจับใจความได้จากข้อความที่คุณแม่เขียนคือ ทำไมตึกของคณะแพทย์ ถึงต้องมีการห้ามมิให้ให้บุคคลภายนอกคณะแพทย์เข้ามายุ่งเกี่ยว ทั้งที่เป็นนิสิตสถาบันเดียวกันใช่หรือไม่ครับ?
สำหรับผม ถ้าใช่ ก็น่าคิดตามที่คุณแม่ว่าจริงๆครับ ถามว่าแปลกไหมสำหรับนักศึกษา ในการอ่านหนังสือ ถึงตี 2- ตี3 สำหรับผมนั้นไม่ถือว่าแปลกครับ เพราะในรั้วมหาลัย เขาเป็นแบบนั้นจริงๆ ถ้าคิดในแง่ดีและให้กว้างกว่านั้น เป็นไปได้ไหมที่น้องเขาอาจจะคิดว่า ใต้ตึกคณะแพทย์นั้น เป็นพื้นที่สว่างและบริเวณตึกแพทย์ เป็นตึกที่มี รปภ.ดูแลจำนวนมาก ซึ้งมองแล้วปลอดภัยกว่า หากไปนั่งอ่านใต้ตึกอื่น ที่แทบจะไม่มี รปภ.เลย ถ้าเป็นผม ผมก็คงเลือกสถานที่ ที่น่าจะปลอดภัยและไว้วางใจมากที่สุด ไปทำกิจกรรม หรืออ่านหนังสือครับ
แต่การไล่ออกมานั้น ไม่ใช่จะใช้เหตุผลที่ว่า นี่คณะแพทย์ คณะอื่นออกไป!!!!!
ถ้าเป็นเหตุผลนี้บอกตรงๆครับ...รับไม่ได้
แต่ถ้าน้องคนนั้นส่งเสียงดังในยามวิกาล หรือกระทำตัวในสิ่งที่ไม่เหมาะสม ด้วยเหตุผลนี้ ก็สมควรแล้วครับ
...................................................................................
เท็จจริงเราไม่ทราบได้ครับว่าคืออะไร เพราะเราฟังแต่ทางคุณแม่แค่คนเดียว
แน่นอนว่า ถ้าน้องเขาอ่านหนังสือเงียบๆ แล้วโดนไล่ออกมา...คณะแพทย์ต้องพิจารณา ในเรื่องนี้ใหม่ เพราะชื่อเสียงเสียหายแน่นอน
แต่ถ้าเพราะ น้องเขาทำเสียงดัง หรือก่อกวนผู้อื่น จนถูกไล่ออกมา แล้วไปบอกคุณแม่แต่เล่าความจริงไม่หมด อันนี้คุณแม่ต้องพิจารณาบุตรของท่านหละครับ
   




เห็นด้วยอย่างยิ่งครับสำหรับความคิดนี้ อย่าหลงประเด็น คุณหาดใหญ่ชุมทางและหลายคนกำลังหลงประเด็น เราต้องแก้ปัญหาหาความกระจ่าง มิใช่ก้มหน้าก้มตา รับกรรมและบอกว่าเป็นเวรกรรม หรือ อย่าไปยุ่งซะ อะไรประมานนี้ นี่คือคนที่ไม่รู้จักการพัฒนา สำหรับคณะนี้ เด็กมอ.รู้ดี คณะนี้มีความโดเด่น แบ่งแยก ได้อภิสิทธิ์เยอากว่านศ.คณะอื่นจริงแต่ไม่ได้ต้องการมาเรียกร้องให้เขาต้องมา ยอมให้เหมือนคณะอื่น เข้าใจเพราะเขามีรายได้จากคณะและการรักษาของโรงพยาบาลจำนวนมหาศาล แต่เฉพาะเรื่องนี้ การอ่านหนังสือของน้องเป็นปัญหาที่หลายคนก็เคยเครงใจและมีความรู้สึกกับการกระทำเช่นนี้ (เ็นมานานแล้ว ย้ำคนในมอ.รู้กันดี ไม่เชื่อลองไปสืบกันดูสิครับ )

[wareerant]

ใครๆ ก็อยากได้ความกระจ่าง แต่ว่ามีปัญหากับคณะแพทย์แล้วมาตั้งกระทู้ในกิมหยงมันไม่ได้อะไรนอกจากความมันปากครับ

[คุณฉม]

ความคิดส่วนตัวนะครับ ทุกๆที่มีกฏระเบียบของที่นั้นๆ เราควรเคารพกฏของเขาครับ ไม่ใช่ว่าไม่พอใจกฏของเขาก็ไปโวยวาย ไม่ใช่ประเด็นแบ่งชนชั้น หรือคณะไหนเป็นเทวดาหรืออย่างไร กฏเขาตั้งเราก็ต้องทำตามยิ่งเป็นคนของที่อื่น จะไปใช้ที่ของเขา ไม่ทำตามกฏเขาแล้วสังคมจะเป็นอย่างไรละครับ

ถ้าคณะที่ลูกคุณเรียน มีเด็กคณะอื่นไปแย่งที่นั่งอ่านหนังสือ คุณก็คงจะออกมาโวยวายใช่ไหมครับ ขนาดตอนนี้ลูกคุณไปอื่นหนังสือในคณะอื่นแล้วโดนเขาไล่คุณก็โวยวายเหมือนกันนี่ มองกลับมาที่ตัวเองดีกว่าไหมครับว่า เคารพกฏ หรือเปล่า ไม่ใช่ไม่พอใจอะไรก็ออกมาร้องเรียนโวยวายไม่สนกฏที่เขาตั้ง คุณก็ทราบชัดเจนแล้วนี่ว่าคณะแพทย์เขามีกฏที่ตั้งไว้

คณะไหนๆก็มีสิทธิที่จะตั้งกฏเพื่อสงวนไว้แก่บุคลากร นักศึกษา ของเขาทั้งสิ้นนะครับ คุณไปโวยกับคณะที่ลูกคุณเรียนดีกว่าไหม ว่าทำไม ไม่จัดที่ให้นักศึกษาของคณะได้อ่านหนังสือเหมือนคณะอื่นเขา จะได้ไม่ต้องไปพึ่งที่ของที่อื่น ผมว่างร้องเรียนแบบนี้ยังดูดีกว่าเยอะ เพราะเป็นสิทธิของคุณและลูกโดยตรงที่จะโวยต่อคณะที่ตนเรียน ไม่ใช่ออกมาโวยคณะอื่นที่เขาตั้งกฏและสงวนสิทธิ์ไว้ให้คนของเขานะครับ

จริงๆด้วยค่ะ  จึงทำให้บ้านเมืองเป็นแบบนี้.

[ขุนศึก]

มอ.เป็นสถานที่ราชการ การออกกฎระเบียบในสถานที่ของตัวเองนั้นไม่ถือว่ามีความผิดใดๆ  ประเด็นหลักน่าจะอยู่ที่เรื่องดังกล่าวเป็นกฎระเบียบของทางคณะจริงหรือไม่ ถ้าเป็นตามนั้นก็ไม่ได้ถือว่าผิดอะไร แต่ถ้ายามแอบอ้างว่ามีกฎระเบียบนั่นก็อีกเรื่อง

และหากมีกฎระเบียบดังกล่าวจริงทางคณะก็คงมีเหตุผลในการออกประกาศกฎระเบียบนั้น และซึ่งมันก็คงมีอะไรมากกว่ากันสถานที่ไว้เพื่อความอภิสิทธิ์ของนักศึกษาคณะนี้ ไม่ผิดที่จะตั้งกระทู้ถามแต่อีกทางเลือกที่จะได้ความมากกว่าคือเข้าไปสอบถามที่คณะด้วยตัวเอง

[รวย8888]

มอ.เป็นสถานที่ราชการ การออกกฎระเบียบในสถานที่ของตัวเองนั้นไม่ถือว่ามีความผิดใดๆ  ประเด็นหลักน่าจะอยู่ที่เรื่องดังกล่าวเป็นกฎระเบียบของทางคณะจริงหรือไม่ ถ้าเป็นตามนั้นก็ไม่ได้ถือว่าผิดอะไร แต่ถ้ายามแอบอ้างว่ามีกฎระเบียบนั่นก็อีกเรื่อง

และหากมีกฎระเบียบดังกล่าวจริงทางคณะก็คงมีเหตุผลในการออกประกาศกฎระเบียบนั้น และซึ่งมันก็คงมีอะไรมากกว่ากันสถานที่ไว้เพื่อความอภิสิทธิ์ของนักศึกษาคณะนี้ ไม่ผิดที่จะตั้งกระทู้ถามแต่อีกทางเลือกที่จะได้ความมากกว่าคือเข้าไปสอบถามที่คณะด้วยตัวเอง

[PANDA]

ผมขอทำความเข้าใจกับประเด็นหลักที่คุณแม่ต้องการก่อน
ประเด็นหลักที่ผมพอจับใจความได้จากข้อความที่คุณแม่เขียนคือ ทำไมตึกของคณะแพทย์ ถึงต้องมีการห้ามมิให้ให้บุคคลภายนอกคณะแพทย์เข้ามายุ่งเกี่ยว ทั้งที่เป็นนิสิตสถาบันเดียวกันใช่หรือไม่ครับ?
สำหรับผม ถ้าใช่ ก็น่าคิดตามที่คุณแม่ว่าจริงๆครับ ถามว่าแปลกไหมสำหรับนักศึกษา ในการอ่านหนังสือ ถึงตี 2- ตี3 สำหรับผมนั้นไม่ถือว่าแปลกครับ เพราะในรั้วมหาลัย เขาเป็นแบบนั้นจริงๆ ถ้าคิดในแง่ดีและให้กว้างกว่านั้น เป็นไปได้ไหมที่น้องเขาอาจจะคิดว่า ใต้ตึกคณะแพทย์นั้น เป็นพื้นที่สว่างและบริเวณตึกแพทย์ เป็นตึกที่มี รปภ.ดูแลจำนวนมาก ซึ้งมองแล้วปลอดภัยกว่า หากไปนั่งอ่านใต้ตึกอื่น ที่แทบจะไม่มี รปภ.เลย ถ้าเป็นผม ผมก็คงเลือกสถานที่ ที่น่าจะปลอดภัยและไว้วางใจมากที่สุด ไปทำกิจกรรม หรืออ่านหนังสือครับ
แต่การไล่ออกมานั้น ไม่ใช่จะใช้เหตุผลที่ว่า นี่คณะแพทย์ คณะอื่นออกไป!!!!!
ถ้าเป็นเหตุผลนี้บอกตรงๆครับ...รับไม่ได้
แต่ถ้าน้องคนนั้นส่งเสียงดังในยามวิกาล หรือกระทำตัวในสิ่งที่ไม่เหมาะสม ด้วยเหตุผลนี้ ก็สมควรแล้วครับ
...................................................................................
เท็จจริงเราไม่ทราบได้ครับว่าคืออะไร เพราะเราฟังแต่ทางคุณแม่แค่คนเดียว
แน่นอนว่า ถ้าน้องเขาอ่านหนังสือเงียบๆ แล้วโดนไล่ออกมา...คณะแพทย์ต้องพิจารณา ในเรื่องนี้ใหม่ เพราะชื่อเสียงเสียหายแน่นอน
แต่ถ้าเพราะ น้องเขาทำเสียงดัง หรือก่อกวนผู้อื่น จนถูกไล่ออกมา แล้วไปบอกคุณแม่แต่เล่าความจริงไม่หมด อันนี้คุณแม่ต้องพิจารณาบุตรของท่านหละครับ

เห็นด้วยอย่างยิ่ง...
และที่อยากจะบอกเพิ่มว่า ที่เคยพบเจอคือ การจัดสถานที่เตรียมจัดประชุม ทั้งใต้แพทย์ศาสตร์และใต้ทองจันทร์ ตอนเช้ามา พบว่า เก้าอี้เอย โต๊ะเอย ถูกเคลื่อนย้ายระเกะระกะ ตัองมาจัดกันใหม่ เสียเวลามากๆ แถมช่วงกลางวัน ยังมานั่งกันแบบทองไม่รู้ร้อน
คนมาประชุมไม่มีที่นั่งทานอาหารก็ไม่สนใจ เห็นแล้วละเหี่ยใจมากๆ
และอยากจะบอก จขกท ว่า ใต้ตึกบางคณะ แจ้งไว้ชัดว่าปิดไฟ หลังเที่ยงคืน แต่แปลกนะ ยังไม่เห็นมีใครออกมาโวยวายเลย
หากบอกแบบเอาใจเขามาใส่ใจเรา เรื่องบางเรื่องมันก็แค่เส้นผมบังภูเขาเท่านั้นเอง ว่ามั้ย

[mix99]

มอ.เป็นสถานที่ราชการ การออกกฎระเบียบในสถานที่ของตัวเองนั้นไม่ถือว่ามีความผิดใดๆ  ประเด็นหลักน่าจะอยู่ที่เรื่องดังกล่าวเป็นกฎระเบียบของทางคณะจริงหรือไม่ ถ้าเป็นตามนั้นก็ไม่ได้ถือว่าผิดอะไร แต่ถ้ายามแอบอ้างว่ามีกฎระเบียบนั่นก็อีกเรื่อง

และหากมีกฎระเบียบดังกล่าวจริงทางคณะก็คงมีเหตุผลในการออกประกาศกฎระเบียบนั้น และซึ่งมันก็คงมีอะไรมากกว่ากันสถานที่ไว้เพื่อความอภิสิทธิ์ของนักศึกษาคณะนี้ ไม่ผิดที่จะตั้งกระทู้ถามแต่อีกทางเลือกที่จะได้ความมากกว่าคือเข้าไปสอบถามที่คณะด้วยตัวเอง

ถามว่าคณะแพทย์เป็นผู้ติดประกาศห้าม นศ.คณะอื่น  ใช่หรือไม่
    ถามว่า จริงหรือไม่ที่ใครติดบัตรบุคลากรคณะแพทย์แล้วจะได้รับส่วนลดเมื่อไปซื้อของที่โรงอาหาร ( เมื่อก่อนเห็นร้านขายขนมใข่ และหลายๆร้าน )ใครที่พยายามสร้าง อีโก้ตัวนี้
    ไม่ต้องพูดถึงค่าล่วงเวลา ค่า วิชาชีพ ค่าเทวดา มาเกิดบนพื้นแผ่นดิน ฯลฯ
    ที่ ม.พะเยา เขาเอาไม่ความห่วยๆของระบบแบบนี้ไปใช้ที่โน่น คณะแพทย์เขาเรียนรวมกับคณะอื่นเพื่อไม่ให้เกิดอาการ ตัวกูของกู
    ถ้า ห้ามจริงๆ เที่ยงคืนปิดไฟเหลือเท่าที่จำเป็น ไม่ใช่ นศ.แพทย์เท่านั้น มันทุเรศครับ จ้างยามมา มากมาย ใช้สมองในการทำงาน ไม่ว่าใครๆ ถ้าทำให้คนอื่นเดือดร้อนก็ไล่ออกไป ครับ